โชคชะตาพาปลายฟ้าผู้หวาดกลัวเรื่องบนเตียงให้มารับงานเขียนนิยายอิโรติกตามใบสั่งของแฟนเก่า แต่ฟ้าก็ใจดีส่งชายหนุ่มผู้มากประสบการณ์เซกส์มาให้ โดยที่ดันลืมเตือนว่าเขาเป็นผู้ต้องสงสัยคดีฆาตกรรมคนรักตัวเอง
ดราม่า,ชาย-หญิง,ไทย,รัก,ผู้ใหญ่,อิโรติก,สืบสวน ,ดราม่า,โรมานซ์,โรมานซ์สืบสวน,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
พระเอกนิยายสุดปลายฟ้าโชคชะตาพาปลายฟ้าผู้หวาดกลัวเรื่องบนเตียงให้มารับงานเขียนนิยายอิโรติกตามใบสั่งของแฟนเก่า แต่ฟ้าก็ใจดีส่งชายหนุ่มผู้มากประสบการณ์เซกส์มาให้ โดยที่ดันลืมเตือนว่าเขาเป็นผู้ต้องสงสัยคดีฆาตกรรมคนรักตัวเอง
เมื่อนิตยสารสารคดีที่ ปลายฟ้า เป็นนักเขียนประจำปิดตัว ทำให้ปลายผ้าต้องหันเหจากการเขียนแนววิชาการ ไปต้องเลี่ยนแนวไปเป็นนักเขียนนิยาย เพื่อหาเงินเลี้ยงดู แม่และน้องสาว โดยเฉพาะแม่ของเธอต้องรับการผ่าตัดตาในสิ้นปี ปลายฟ้าจึงเขียนนิยายรัก แล้วนำไปให้ กรินทร์ คนรักเก่าที่เป็นซีอีโอของสำหนักพิมพ์อักษรารัญจวนช่วยพิจารณา แต่กรินทร์ไม่ให้ผ่านเพราะแนวเรื่องไม่ตรงกันแนวของอักษรารัญจวนที่เน้นขายแนวนิยายอิโรติก
แต่เพราะกรินทร์ยังมีใจให้ปลายฟ้า ด้วยความรักที่หลงเหลือ จึงให้ปลายฟ้าเขียนนิยายอิโรติกโดยที่มีเขาเป็นพระเอก และเธอเป็นนางเอก แลกกับเงินค่าจ้างที่เขาจะจ่ายให้เธอเป็นรายเดือนแต่ปลายฟ้ามีปมกับเรื่องเซกส์เพราะเคยถูก เปลว พ่อเลี้ยงล่วงละเมิดในวัยเด็กและมักมีอาการทางประสาทกำเริบหากถูกกระตุ้น ทว่าด้วยเงินที่กรินทร์เสนอให้ จึงทำให้ปลายฟ้าตอบรับงาน แต่เพราะกลัวว่าจะเขียนให้ถึงตอนจบไม่ได้ ปลายฟ้าจึงตั้งใจหางานเสริม และเธอก็ได้งานแม่บ้านรีสอร์ตที่มีชื่อว่า Beyond The Horizon โดยบังเอิญจากแม่บ้านคนเก่าที่ลาออกกระทันหัน
ที่รีสอร์ตนี้ ปลายฟ้าต้องทำงานเป็นแม่บ้านประจำโซนวิลล่าการ์เด้น โดยมี แหวว หัวหน้าแม่บ้านเป็นคนคุมงาน เธอมีหน้าที่ดูแลทำความสะอาดและอำนวยความสะดวกให้แขกประจำโซน ซึ่งหนึ่งในแขกที่เธอต้องดูและคือ เข้ เจ้าของห้องหมายเลข 222 ที่เขาแอบเลี้ยงแมวโดยมีแค่เธอและเขาเท่านั้นที่รู้ นอกจากแหววแล้ว ปลายฟ้าได้เจอ ชิด บาร์เทนเดอร์ที่คอยสอนงานในห้องอาหารให้เธอ
ด้วยงานแม่บ้านนี้เองที่ปลายฟ้าจะยึดไว้เป็นอาชีพเสริมจนกว่าเธอจะเขียนนิยายอิโรติกให้กรินทร์จบ แต่มีเหตุเกิดขึ้นกับปลายฟ้าคือเธอเหยียบหางแมวที่คุณเข้เลี้ยงไว้ที่ริมสระน้ำ จนทำให้เธอตกสระ แต่เข้ก็ช่วยเธอไว้ได้ทัน ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้เข้รู้ว่าเธอต้องรับงานเขียนนิยายอิโรติกให้กรินทร์ แต่เธอไม่มีประสบการณ์เรื่องบนเตียง(แบบคู่รัก) เข้เลยเสนอว่าถ้าปลายฟ้ามาเป็นเพื่อนคุยให้เขา เขาจะเล่าประสบการณ์บนเตียงให้ฟัง ข้อตกลงแรกระหว่างปลายฟ้าและเข้จึงเริ่มขึ้น
แต่ปลายฟ้าไม่คาดคิดเลยว่าเธอจะกลายเป็นผู้เล่นคนหนึ่งในเกมล่าหาคำตอบของปริศนาฆาตกรรมในรีสอร์ทแห่งนี้
บีชวิลล่าที่ลียงจัดแจงเนรมิตโต๊ะอาหารสุดหรูห่างจากห้องอาหารริมทะเลไปไม่ไกล แต่ก็ไม่เรียกว่าใกล้จนขาดความเป็นส่วนตัว อาคารของห้องพักมีลักษณะเป็นทรงโดม ภายในมีห้องโถงขนาดเพียงพอสำหรับการพักเพียงสองคน ซึ่งพื้นที่ส่วนมากถูกอุทิศให้กับห้องนอนกว้างขวาง ที่มีเตียงขนาดคิงส์ไซส์วางอยู่ใจกลาง และเหนือเตียงขึ้นไป คือหลังคาที่เป็นกระจกใส เปิดปิดได้ด้วยม่านระบบรีโมทคอนโทรล สำหรับให้ผู้พักแรมได้ชมฟากฟ้ายามราตรี
นับว่าลียงเลือกสถานที่ได้ดีสำหรับสร้างความประทับใจให้กับหญิงสาวแทนคำขอบคุณ แต่ลียงไม่อาจนัดแนะกับพระพิรุณให้หยุดโปรยฝนหรือพัดพาเมฆฝนให้ห่างหายไปจากค่ำคืนนี้ได้
พิมพ์ลดาส่งยิ้มให้เขาจากที่โต๊ะอาหารที่จัดบนระเบียงวิลล่า รอยยิ้มสีแดงก่ำของเธอสดใสคล้ายอัญมณี ดวงตาสีนิลก็เปล่งประกายสะท้อนแสงไฟจากเชิงเทียน
“ขอโทษที่ทำให้คุณรอ” ชายหนุ่มเอ่ยบอกเมื่อเขาเดินมาหยุดยืนตรงเก้าอี้ฝั่งตรงข้าม “ผมโดนฝนเล่นงานบนถนนนิดหน่อย”
“ฉันไม่กล่าวโทษผู้ชายคนที่คุ้มค่าแก่การรอหรอกค่ะ” คำพูดของเธอยังคงมีซุกซนแบบหมาหยอกไก่เสมอ “แต่คุณจะให้ฉันรอชิมแชมเปญขวดนั้นไม่ได้แล้วนะ”
ชายหนุ่มคลี่ยิ้ม ดูเครื่องดื่มที่ลียงยัดใส่มือมาให้ “อ้อ ใช่ แชมเปญ เราต้องฉลองความสำเร็จ”
เขตต์พูดพลางวางแก้วลงบนโต๊ะ แล้วฉีกแถบฟอยล์ออก แต่ในตอนที่กำลังคลายลวดรอบจุกก๊อก หญิงสาวก็ขอเป็นผู้เปิดเอง
“ระวังหน่อย เดี๋ยวฟองเชมเปญพุ่งออกมาแล้วชุดคุณจะเปื้อน”
พิมพ์ลดาแย้มยิ้ม “ฉันเปิดแชมเปญฉลองงานสำเร็จตั้งหลายขวด เปิดครั้งนี้จะเปื้อนก็ให้รู้ไป”
เธอบอกแบบนั้น แต่ท่าทางการเปิดฟ้องเขาล่วงหน้าแล้วว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น และทันทีที่เสียงป๊อบดัง ฟองแชมเปญสีทองก็พวยออกจากปากขวด ไหลผ่านฝ่ามือของหญิงสาวที่ทำท่าตกอกตกใจจนของเหลวฟองฟูฟ่องกระเด็นเปื้อนหน้าอกของเธอ
“แย่จัง คุณเพิ่งเตือนฉันแท้ ๆ”
เขตต์ระบายลมหายใจบาง แล้วหยิบผ้าเช็ดปากบนโต๊ะยื่นส่งให้ ก่อนหันหน้าไปมองทางอื่นในตอนที่พิมพ์ลดาแหวกสาบเดรสที่คว้าลึกอยู่แล้วออกเพื่อซับแชมเปญ
“ขอฉันไปเปลี่ยนชุดในห้องนอนได้ไหมคะ ฉลองทั้ง ๆ ที่มีกลิ่นแชมเปญติดตัวแบบนี้คงไม่ไหว” พิมพ์ลดาเอ่ยเสียงอ่อน
ไม่มีเหตุอะไรที่เขาต้องห้าม เขตต์จึงพยักหน้าให้ “ตามสบายเลยครับ ผมจะไปรอข้างนอก”
หญิงสาวคลี่ยิ้ม แล้วเดินหายกลับเข้าไปหลังประตู ส่วนเขาก็ควรพาตัวเองออกมายืนรอเธอบนหาดหน้าวิลล่า แต่เมื่อมีเสียงเปิดประตูอีกครั้ง เขาจึงหันไปมอง เห็นเธอโผล่มาเพียงใบหน้า แต่ดูเหมือนว่ากำลังพบปัญหาลำบากใจ
“คือ... คือว่าพิมพ์รูดซิปไม่ออกค่ะ มันเป็นซิปหลัง คุณมาช่วยพิมพ์รูดได้ไหม”
เขาเองก็ลำบากใจ เขตต์กลืนน้ำลายเหนียวลงคอ สูดลมหายใจเข้าแล้วเดินตามหญิงสาวเข้าสู่ห้องนอนที่ไร้แสงไฟโดยแง้มประตูไว้เล็กน้อย ซึ่งหากไม่มีแสงจากไฟริมหาดที่ส่องผ่านหลังคากรุกระจก เขาคงเห็นหญิงสาวเป็นเพียงเงามัว
“ผมจะรูดแล้วนะ” ชายหนุ่มเตือนเธอ เมื่อรู้สึกว่าตัวเสื้อถูกยึดไว้ ก็รูดซิปโดยโฟกัสสายตาไปทางโคมไฟตั้งพื้น จนซิปที่ไม่มีวี่แววจะติดขัดประการใดถูกเลื่อนลงในระดับที่เขาเห็นว่าพอเหมาะแล้วจึงปล่อยมือ
ทว่าเดรสสีดำสั้นของพิมพ์ลดากลับหลุดจากเรือนร่างของเธอลงไปกองบนพื้น เร็วเกินกว่าที่เขตต์จะตั้งตัว และเมื่อเธอก็หมุนตัวกลับมาเผชิญหน้า เขตต์ก็เบือนหน้าหนีแล้วจะก้าวถอยหลัง แต่กลับถูกเรียวแขนทั้งสองของหญิงสาวรวบรั้งต้นคอไว้ ก่อนเขย่งปลายเท้ายกตัวเองขึ้นจนริมฝีปากใกล้กับปลายคางของเขา
“พิมพ์น่ารังเกียจจนเขตต์ไม่อยากมองไม่อยากเข้าใกล้หรือคะ”
ชายหนุ่มส่ายหน้า แต่ยังฝังสายตาตัวเองไปทางความมืดของผนังห้อง “เปล่า คุณสวยมาก แต่ผมไม่ควรค่ากับคุณ”
พิมพ์ลดาโอบแก้มเขาด้วยมือข้างที่เปียกชื้นเล็กน้อยจากหยดแชมเปญที่ยังหลงเหลือ “ถ้าอย่างนั้น ก็หันหน้ามามองตาพิมพ์ แล้วพูดประโยคนั้นอีกครั้ง พิมพ์ถึงจะเชื่อ”
เขตต์สูดลมหายใจลึก แล้วค่อย ๆ หันหน้าไป ดวงตาสีนิลของพิมพ์ลดาที่ฉาบเคลือบด้วยแรงปรารถนาอันมิอาจซ่อนเร้น
“พูดอีกครั้งสิคะ” ริมฝีปากสีแดงก่ำของเธอยกขึ้นเป็นรอยยิ้มเจ้าเล่ห์
“คุณสวยมาก...” เสียงทุ้มเอ่ยอย่างยอมจำนน ดวงตาคมดิ่งลึก ราวกับไม่อยากฝืนความเป็นจริงอีกต่อไป “แต่ผมไม่...”
“ชูว์...”
เสียงกระซิบเบา ๆ จากริมฝีปากสีแดงก่ำของพิมพ์ลดา ราวกับเธอกลัวว่าเขาจะตัดบท และก่อนที่เขาจะได้เอ่ยคำใดต่อ ลมหายใจร้อนผ่าวปะทะเข้าที่ปลายคาง ตามด้วยริมฝีปากของเธอเคลื่อนเข้าบดเบียดกับริมฝีปากของเขา
กลิ่นแอลกอฮอล์ผสมกับน้ำหอมราคาแพงแทรกผ่านลมหายใจอุ่นร้อน พิมพ์ลดาจูบเขาอย่างกระหาย มือของเธอก็ไล่รุกตามแผงอกแกร่ง แนบเรือนกายเปลือยอกเข้าบดเบียดจนหน้าท้องเนียนไร้ช่องว่างระหว่างหน้าท้องแกร่ง
ถึงอย่างนั้น เขตต์กลับรู้สึกเหมือนเป็นหินผาที่ไม่อาจหวั่นไหวไปตามกระแสน้ำ เพราะต่อให้พิมพ์ลดายั่วเขามากเพียงใด หัวใจของเขาก็นิ่งสนิท ไม่อาจถูกปลุกเร้าด้วยสัมผัสของผู้หญิงอื่นใดอีกแล้ว แต่ถ้าเขายอมปล่อยเธอให้ทำตามแรงปรารถนา มันก็ไม่ต่างจากการโอบรับสิ่งที่เธอยัดเหยียดให้ การไม่ปฏิเสธที่ชัดเจนนี่แหละคือหนทางไปสู่หายนะที่ร้ายแรงกว่า
ชายหนุ่มตัดสินใจยุติฉากรักที่เขาไม่ต้องการเป็นตัวแสดง เขตต์ใช้สองมือจับไหล่ของเธอแล้วดันออกช้า ๆ แต่หนักแน่น
“พิมพ์ ผมรู้ว่าคุณรู้สึกยังไงกับผม แต่ผมไม่ใช่ผู้ชายที่เหมาะสมกับคุณในทุกทาง”
“คุณรังเกียจพิมพ์จริง ๆ นั่นแหละ ถ้ารังเกียจก็พูดออกมาตรง ๆ” ดวงตาของเธอมีทั้งความตกใจและผิดหวังปะปนกัน
“ผมไม่ได้รังเกียจคุณ”
“แล้วทำไมไม่ยอมรับความรู้สึกที่พิมพ์มีให้” เธอถามด้วยน้ำเสียงเกือบสะอื้น “หรือว่า... คุณยังรักน้ำตาลอยู่...”
ยิ่งเธอยิงคำถามมากเท่าไหร่ ก็เหมือนเขาถูกกระสุนเม็ดใหญ่รัวใส่ไม่ยั้ง โดยเฉพาะคำถามสุดท้ายนั่น เหมือนดินปืนที่พุ่งทะยานปากกระบอกปืนไรเฟิล
“คุณยังรักน้ำตาลอยู่ใช่ไหม รักผู้หญิงที่นอกใจไปท้องกับคนอื่นอยู่ใช่ไหม”
“เมื่อก่อนผมอาจคิดว่าถูกนอกใจ แต่ตอนนี้ผมเริ่มไม่แน่ใจว่าน้ำตาลนอกใจผม”
“หมายความว่ายังไง” น้ำเสียงของพิมพ์ลดาเริ่มเข้มมากขึ้น “ผู้หญิงคนนั้นตั้งใจท้องกับเสี่ยปองเพราะแม่ของเธอไปกู้เงินเสี่ยมาสร้างร้านให้ลูกสาว น้ำตาลก็เลยใช้ตัวเองแลกหนี้ แบบนี้ถึงไม่เรียกว่านอกใจ ก็เรียกว่าเธอเห็นเงินสำคัญกว่าคุณ เธอไม่ได้รักคุณเลยแต่เธอรักตัวเอง เธอเห็นแก่ตัว”
ความขุ่นมัวเกิดขึ้นในใจฉับพลัน น้ำเสียงของเขาก็แข็งขึ้นตามแรงอารมณ์ “คุณรู้ได้ยังไงว่าน้ำตาลทำแบบนั้น คุณรู้ได้ยังไงว่าอดีตว่าที่ภรรยาผมตั้งใจท้องกับเสี่ย แล้วคุณรู้ได้ยังไงว่าน้ำตาลเห็นเงินสำคัญกว่าผม หรือต่อให้มันใช่ น้ำตาลก็ไม่ผิดถ้าที่เธอทำไปเพราะความรักที่มีต่อแม่ตัวเอง”
พิมพ์ลดาเริ่มหน้าเสียชั่วขณะ ก่อนส่งยิ้มเจื่อนที่ดูออกมาพยายามปั้นแต่ง “เขตต์คะ พิมพ์รู้ว่ามันยากที่คุณจะลืมเรื่องที่ผ่านมาระหว่างคุณกับน้ำตาล แต่พิมพ์พร้อมจะผ่านมันไปกับคุณ โครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวชายฝั่งตะวันออกมีชื่อ Beyond The Horizon เข้าร่วม จะมีสื่อหลากหลายสาขาเข้ามาเป็นเครื่องมือโพรโมตที่สำคัญ เมื่อถึงตอนนั้น คดีก็จะสิ้นสุด คุณจะได้ยืนเด่นในงานแถลงข่าวร่วมกับคุณพ่อของพิมพ์”
“พิมพ์ลดา” เขตต์เอ่ยเสียงเย็นเยียบ “แล้วถ้าบทสรุปของคดีคือผมเป็นฆาตกรจริง ๆ ล่ะ ตอนนั้นคุณจะยังรู้สึกแบบนี้กับผมหรือเปล่า”
แววตาของหญิงสาวซีดลงไปถนัด แต่ก่อนที่ริมฝีปากที่เปรอะเปื้อนลิปสติกของเธอจะได้เอื้อนเอ่ยคำ เสียงของบริกรและเสียงของลียงก็ดังจากระเบียง
เขตต์ปรายตามองไปทางช่องว่างของประตู แล้วหันไปทางหญิงสาวที่ยังจมอยู่ในความเงียบ “หากคุณอยากรู้คำตอบที่คุณถาม...” เขาเอ่ยด้วยเสียงที่แผ่วลง “ผมเคยบอกกับน้ำตาลไปชัดเจนแล้วว่า ผมกับเธอไม่อาจกลับไปเหมือนเดิม...”
“ถ้าอย่างนั้น...” พิมพ์ลดาเริ่มหาเสียงตัวเองเจอ “...เป็นแพรวพลอยใช่ไหม... คุณกับแพรวพลอยเคยลอบเล่นชู้กันไม่ใช่หรือ”
“โอ...ให้ตายสิ...” เขตต์นวดขมับตัวเอง ผู้หญิงคนนี้สืบเก่งอย่างกับพวกเอฟบีไอในหนัง คงด้วยบารมีของพ่อเธออีกสินะ “ผมไม่เคยคิดเล่นชู้กับผู้หญิงคนนั้น แต่ถ้าจะทำให้คุณสบายใจมากขึ้น ผมจะบอกให้ก็ได้ว่า แพรวพลอยคือรักแรกของผม รักแรกที่ทำให้ผมแทบคลั่งไม่เป็นผู้เป็นคนเพราะเธอทิ้งผมไปแต่งงานกับเสี่ยปอง”
สิ้นประโยค เขตต์ก็ก้มลงหยิบชุดเดรสส่งให้เธอ “ผมมองไม่เห็นกระเป๋าเสื้อผ้าของคุณในห้องนี้ คุณจะใส่ตัวเดิมแล้วออกไปดินเนอร์ฉลองความสำเร็จของการเป็นพาร์ทเนอร์ร่วมกัน หรืออยากอยู่แต่ในห้องก็ตามใจ”
เขาไม่ได้ใจร้ายเกินไป แต่การไม่พูดอะไรให้ชัดเจนก็ไม่ใช่ตัวเขา ผู้เคยมีสันดานของเพลย์บอยรักสนุกไม่เน้นผูกพัน แต่เมื่อได้พบรักที่จริงจังก็จะสงวนคำว่ารักให้แต่หญิงที่รักคนเดียว ต่างกับพวกเจ้าชู้เป็นพ่อพวงมาลัยลอยชาย ที่แม้จะบอกรักแต่ก็พร้อมหายตัวไปกับคนใหม่ได้ทุกเมื่อ
ไม่ผิดหรอกที่น้ำตาลจะตราหน้าเขาว่าเป็นคนเจ้าชู้ เพราะเธอดันเห็นภาพการสมสู่ของเขากับแพรวพลอยในขณะที่ความสัมพันธ์ระหองระแหงยังไม่ขาดสะบั้นในทีเดียว
“ไงพวก อาหารมาช้าไปหรือไง ก็เลยไปหาอะไรรองท้องก่อน” ลียงเห็นหน้าเขาก็ยกนิ้วชี้เคาะที่มุมปากของตัวเองสองสามที
เขตต์เห็นดังนั้นก็พ่นลมหายใจแล้วใช้หลังมือเช็ดริมฝีปาก กระนั้นก็ไม่ได้ใส่ใจนักว่าจะหลงเหลือหลักฐานอะไรไว้หรือไม่ “มึงเอาเสิร์ฟทีเดียวพร้อมกันทุกเมนูเลยได้ไหม”
“จะรีบไปไหนล่ะ ของหวานวันนี้เป็นซูเฟรวานิลา ต้องกินทันทีที่เสิร์ฟ”
เขตต์ทำหน้าระอาทันที แล้วจะขอเปลี่ยนเป็นอะไรที่ทำทิ้งไว้ได้เลย แต่พิมพ์ลดาที่ก้าวออกจากห้องในเดรสตัวเดิมเอ่ยแทรกขึ้นว่า
“อย่าพูดถึงของหวานในตอนนี้เลยค่ะคุณลียง... ฉันมีข่าวดีอีกข่าวมาฝากคุณด้วย” เธอยกแก้วแชมเปญขึ้นจิบ พลางปรายตามองเขตต์ด้วยแววตาที่เป็นปริศนา “พิมพ์เพิ่งได้รับข่าวจากคุณพ่อว่า ท่านสนใจที่จะเพิ่มการลงทุนใน Beyond the Horizon ถ้ามีการแบ่งขายหุ้นครั้งต่อไป พิมพ์ก็อาจมีส่วนร่วมในการลงขันด้วย”
ลียงเลิกคิ้วสูงด้วยความสนใจทันที “จริงหรือ นั่นเป็นข่าวดีมากเลย แบบนี้คงต้องฉลองกันยกใหญ่แล้ว”
พิมพ์ลดายิ้มบางแต่สายตาของเธอยังคงจับจ้องเขตต์ “หวังว่า Beyond the Horizon จะเปิดโอกาสให้พาร์ทเนอร์อย่างพิมพ์ได้มีส่วนร่วมมากขึ้นในอนาคตนะคะ”
เขตต์ขบกรามแน่น ความรู้สึกบางอย่างที่คล้ายกับหนามแหลมทิ่มแทงเข้ากลางอก แต่เขายังคงเก็บสีหน้าไว้แน่นเหมือนภูเขาหินที่ไม่หวั่นไหว
“แน่นอน!” ลียงหัวเราะเสียงดัง แล้วใช้มือทุบหลังเขตต์เบา ๆ “พวกเราต้องดูแลกันดี ๆ นะ เข้ มึงอย่าให้คุณพิมพ์ต้องผิดหวังล่ะ”
เขตต์ระบายลมหายใจเบา ๆ หยิบแก้วแชมเปญขึ้นมาจิบ แต่รสขมในลำคอกลับยิ่งขมขึ้นเมื่อรู้สึกว่าตัวเองถูกดักให้อยู่ในเกมที่เขาไม่ทันตั้งตัว
งานฉลองความสำเร็จเสร็จสิ้นไป ความอ่อนล้าเพราะต้องปั้นหน้าและทำให้ทุกอย่างเป็นปรกติเริ่มต้นเล่นงานเขาเข้าแล้ว หลังส่งพิมพ์ลดาขึ้นรถที่พ่อของเธอจัดมารับพร้อมกับลียง เชฟหนุ่มจ้องหน้าเขาเหมือนมีคำถาม แต่ก็ไม่เอ่ยอะไรออกมาแล้วเลือกพาตัวเองเดินกลับไปยังครัวใหญ่ อันเป็นสถานที่ทำงานของตน
เขตต์จึงแบกร่างของตัวเองเดินกลับห้องพัก ในใจคิดอยากไปล้มตัวบนที่นอน แต่พอคิดถึงห้องว่างเปล่า ความรู้สึกเคว้งคว้างในใจก็พาเขามานั่งลงบนหาดทราย
สายลมทะเลยามดึกพัดเอื่อยเฉื่อยผ่านผิวกาย ชายหนุ่มรู้สึกได้ถึงความเย็นเยียบที่แทรกซึมเข้ามาภายในหัวใจอย่างช้า ๆ เขาหลับตาลงแล้วปล่อยให้ความเงียบงันของค่ำคืนห่อหุ้มร่าง หากแต่เสียงคลื่นที่กระทบฝั่งกลับไม่ช่วยเยียวยาความโดดเดี่ยวที่เขากำลังเผชิญ
เขตต์ถอนใจยาว ปล่อยให้สายลมทะเลโอบกอดความเหน็บหนาวที่กัดกินหัวใจ พลันใบหน้าของปลายฟ้าก็ผุดขึ้นในห้วงความคิด ดวงตาใสและแสนเศร้า ยังคงตามหลอกหลอน ราวกับเธอยืนอยู่ตรงนั้น ทอดมองเขาด้วย
ดวงตาคู่นั้นของเธอ...
ไดอะซีแพมของแม่บ้านคนเก่า นิ้วชี้ของมือซ้ายลากผ่านผืนทรายเป็นวลีที่เกิดจากห้วงความคิด... ปลายฟ้าอยากบอกอะไรเขา...
รอยนิ้วมือบนแผงยาที่พบในตึกร้านขนมของน้ำตาล... รอยนิ้วมือของแม่บ้านคนเก่าที่ถูกฆาตกรรมไปแล้ว
ชายหนุ่มเรียบเรียงความคิด ขีดเขียนรายการหลักฐานที่มีอยู่ด้วยปลายนิ้วและผืนทรายต่างกระดาษกับปากกา พยายามย้อนรำลึกเหตุการณ์ก่อนวันเกิดเหตุ บุคคล สถานที่และเวลา
“ทั้งคุณแหววทั้งเสี่ยปองไม่เคยเห็นแผงยา...” ชายหนุ่มรำพึงในความมืด “หมายว่า... ทั้งคู่ไม่รู้จักไดอะซีแพมมาก่อน...”
“หึ... ทำไมไม่เขียนชื่อผู้ต้องสงสัยลงไปด้วยล่ะ” เสียงหัวเราะต่ำ ๆ ของลียงดังขึ้นจากด้านหลัง
เขตต์หันกลับไปมอง เห็นลียงยื่นขวดแก้วที่มีสีเหลืองอำพันของเหล้าสับปะรดส่งมาให้ แม้จะยังอยู่ในขั้นตอนทดลอง แต่กลิ่นหอมอ่อน ๆ ของมันก็โชยแตะจมูก ยั่วยวนให้เขารับมาแล้วกระดกดื่มทันที
“กูกำลังจะใส่ชื่อมึงลงไปอยู่พอดี” เขตต์เอ่ยเสียงเรียบพลางกระดกขวดเบียร์ขึ้นอีกครั้ง “ในฐานะหนึ่งในผู้ต้องสงสัยที่มอมเหล้ากูจนทำให้สมรรถภาพทางความคิดบกพร่อง”
ลียงยกยิ้มมุมปาก ดวงตาส่องประกายแฝงปริศนาเหมือนกำลังท้าทายบางอย่างอยู่ในใจ “ชิดกับลุงแก้ว”
เขตต์เลิกคิ้วมอง “ลุงแก้ว...”
อีกฝ่ายยักไหล่ “ใส่ไว้ก็ไม่เสียหลาย ใครก็ตามที่มึงปฏิสัมพันธ์ด้วยทั้งก่อนเกิดเหตุและหลังเกิดเหตุ ทุกคนล้วนเป็นผู้ต้องสงสัย”
“ผู้ต้องสงสัยควรเป็นจ้าของแผงยา หรือเป็นผู้เอายาให้น้ำตาลกับใส่ยาในเหล้าให้กูกิน”
“เราต่างรู้ว่ามันทำเป็นขบวนการ” ลียงพูดพลางจ้องมองตัวอักษรบนผืนทราย “ก็เหมือนเตรียมงานเลี้ยง คนหนึ่งจัดหาวัตถุดิบ อีกคนปรุง และอีกคนเสิร์ฟ มึงต้อนเค้นความทรงจำให้ออกว่าทั้งก่อนวันเกิดเหตุแล้วก็ในวันเกิดเหตุมึงว่าเห็นใครบ้าง”
เขตต์ถอนหายใจ “กูพยายามนึกจนหัวระเบิดหลายครั้ง แต่เหมือนความทรงจำของกูหล่นหาย รู้ตัวอีกทีกูก็เห็นแพรวพลอยเนื้อตัวฟกช้ำ นอนล่อนจ้อนบนเตียงกู”
ลียงแค่หัวเราะ เป็นเสียงหัวเราะเย้ยหยันมากกว่าขบขัน “คลิประยำนั่นเป็นต้นเหตุของเรื่องทั้งหมด หลังเกิดเรื่อง กว่ากูจะไล่ให้พนักงานทุกคนลบคลิปที่แชร์กันกระฉ่อน กับส่งเมลไปขอโทษลูกค้าเพราะไอ้ห่าที่ไหนไม่รู้ร่อนสแปมเมล์ไปทั่ว ก็ใช้เวลาเป็นเดือน”
เขตต์จำความรู้สึกหดหู่ตอนนั้นได้ดี ทุกย่างก้าวที่เขาเดินในรีสอร์ต มีแต่เสียงซุบซิบนินทา แม้จะไม่มีใครอยากเดาว่าหญิงสาวคนนั้นเป็นใครเพราะไม่เห็นหน้า แต่ทุกคนรู้ว่าคนที่มีรอยสักรูปกงจักรกับจี้เขี้ยวห้อยคอเป็นใคร
“เย็นวันนั้นกูทะเลาะกับน้ำตาล แล้วจะกลับมาหาข้อมูลไดอะซีแพมที่ห้อง...” เขตต์ลำดับเหตุการณ์อีกครั้ง “แต่อย่างที่กูเคยบอก ตอนที่หาข้อมูลยาก็เหมือนรู้สึกมึนหัวแปลก ๆ แต่จากนั้นน้ำตาลก็มาเคาะห้องแล้วยืนกรานว่าเขาจะเปิดเหล้าแฝดสองขวดนั้นให้ได้...”
“ซึ่งทางตำรวจพิสูจน์เหล้าที่มีไดอะซีแพมมีแค่เหล้า ‘เขตต์’ ส่วนเหล้าทุกขวดในห้องมึงไม่พบว่าผสมไดอะซีแพม รวมไปถึงเหล้า ‘น้ำตาล’ ด้วย” ลียงรำพึงถึงด้วยข้อเท็จจริงในอดีต แล้วเอ่ยถามเสียงเคร่งขรึม “ก่อนกินเหล้า มึงแดกอะไรไปบ้าง”
เขตต์ส่ายหน้า “วันนั้นกูแทบไม่ได้แดกอะไรเลย เรียกว่าแดกไม่ลงมากกว่า...”
ลียงทำเสียงขัดใจ ขมวดคิ้วเข้าหากัน เหมือนกำลังคิดสมการคณิตศาสตร์ “ไม่มีอะไรเข้าปากมึงเลยนอกจากเหล้า แล้วมึงจะถูกมอมได้ยังไง ตรงนี้แหละที่เราต้องหาเหตุผลมายันฝ่ายแพรวพลอยให้ได้ว่ามึงไม่ได้ใช้กำลังข่มขืนน้ำตาล”
“จะว่าไม่มีอะไรเข้าปากเลยก็ไม่เชิง...” ความทรงจำเสี้ยวบางผุดขึ้นมา “ก่อนทะเลาะกับน้ำตาล กูชิมช็อกโกแลต,ช็อกโกเลตน้ำตาลทำเข้าไป...”
“หล่อนเรียกมึงไปกิน” ลียงถามเสียงเข้ม
“เปล่า... กูตั้งใจเข้าไปหาน้ำตาลเอง”
“หมายความว่ามึงเข้าไปแดกช็อกโกแลต,ช็อกโกเลตเองโดยสมัครใจ”
“ใช่ แต่ก็ไม่เชิงตั้งใจเข้าไปแดกนัก” เขตต์ตอบแล้วเค้นความทรงจำออกมาให้มากที่สุด “ตอนนั้น น้ำตาลมีท่าทางแปลก ๆ เหมือนที่กูเล่าให้ตำรวจฟัง เหม่อลอย พูดอะไรซ้ำ ๆ ทรงตัวไม่ค่อยอยู่จนเธอทำยาตกพื้น”
“ตอนนั้นมึงบอกว่าเก็บยาขึ้นมา แล้วถามน้ำตาลว่ายาอะไร เจ้าหล่อนก็ทำตาขวางใส่ทันที จากนั้นก็ทะเลาะกันบานปลายใหญ่โตใช่ไหม” ลียงช่วยเสริมแต่ก็เกิดคำถามตามมา “เป็นไปได้ไหมว่ามึงแดกไดอะซีแพมที่ผสมในช็อกโกแลต,ช็อกโกเลตนั่นไปแล้ว”
“ถ้าเป็นแบบนั้น หมายความว่าน้ำตาลผสมไดอะซีแพมในช็อกโกแลต,ช็อกโกเลตที่ใช้ขายให้ลูกค้าอย่างนั้นหรือ”
“เว้นเสียว่าน้ำตาลไม่ได้ทำเพื่อขาย แต่ทำให้มึงกินโดยเฉพาะ เพราะในช่วงเดือนที่มึงกลับมาไทย ไม่มีรายงานยอดขายช็อกโกแลต,ช็อกโกเลตเลย...”
“ไอ้ขบวนการระยำ” เขตต์สบถอย่างหัวเสีย “มันมีคนเก็บกวาดด้วยแน่”
“แล้วก็มีแผนกต้อนรับลูกค้าด้วย” ลียงเอ่ยพลางจิบเบียร์
“ลุงแก้ว...”
ใช่แล้ว เขานึกออกแล้ว! ลุงยามผู้ที่ส่งยิ้มแล้วเข้ามาทักทายเขาทุกครั้งที่เขาขับรถไปจอดที่ลานจอดรถหน้า ลุงยามที่มีเรื่องเล่ามากมายให้ฟัง
และวันนั้น... ลุงยามเป็นคนบอกเขาว่า
‘อย่าหาว่าคนแก่ยุ่งเรื่องหนุ่มสาวเลยครับ แต่ผมเห็นคุณน้ำตาลร้องไห้ในครัวแล้วไม่สบายใจ คนกำลังทุกข์ใจขนาดนั้นจะทำขนมออกมาอร่อยได้ยังไง คุณเขตต์เข้าไปดูเธอหน่อยเถอะ’
คนที่มีสิทธิ์เข้านอกออกใน คนที่ทุกคนต่างไว้วางใจ ตอนนี้หัวใจเขตต์แหลกเหลวไม่ต่างจากทรายเม็ดที่ไว้ใจให้คลื่นทะเลสาดเซาะจนตัวเองแตกสลายเลย
ขอบคุณที่ติดตามนะคะ เหมือนว่าปริศนาคดีค่อย ๆ คลี่คลายแล้ว แต่ปริศนาหัวใจยังหาชิ้นส่วนจิ๊กซอไม่ได้
ฝากติดตามเอาใจช่วยตัวละครกันต่อนะคะ
หากพบคำผิด ขออภัยค่ะ