โชคชะตาพาปลายฟ้าผู้หวาดกลัวเรื่องบนเตียงให้มารับงานเขียนนิยายอิโรติกตามใบสั่งของแฟนเก่า แต่ฟ้าก็ใจดีส่งชายหนุ่มผู้มากประสบการณ์เซกส์มาให้ โดยที่ดันลืมเตือนว่าเขาเป็นผู้ต้องสงสัยคดีฆาตกรรมคนรักตัวเอง

พระเอกนิยายสุดปลายฟ้า - บทที่ 12 กระต่ายบนดวงจันทร์ 2/3 โดย ณ มหรรณพ @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ดราม่า,ชาย-หญิง,ไทย,รัก,ผู้ใหญ่,อิโรติก,สืบสวน ,ดราม่า,โรมานซ์,โรมานซ์สืบสวน,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

พระเอกนิยายสุดปลายฟ้า

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ดราม่า,ชาย-หญิง,ไทย,รัก,ผู้ใหญ่

แท็คที่เกี่ยวข้อง

อิโรติก,สืบสวน ,ดราม่า,โรมานซ์,โรมานซ์สืบสวน

รายละเอียด

พระเอกนิยายสุดปลายฟ้า โดย ณ มหรรณพ @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

โชคชะตาพาปลายฟ้าผู้หวาดกลัวเรื่องบนเตียงให้มารับงานเขียนนิยายอิโรติกตามใบสั่งของแฟนเก่า แต่ฟ้าก็ใจดีส่งชายหนุ่มผู้มากประสบการณ์เซกส์มาให้ โดยที่ดันลืมเตือนว่าเขาเป็นผู้ต้องสงสัยคดีฆาตกรรมคนรักตัวเอง

ผู้แต่ง

ณ มหรรณพ

เรื่องย่อ

เมื่อนิตยสารสารคดีที่ ปลายฟ้า เป็นนักเขียนประจำปิดตัว ทำให้ปลายผ้าต้องหันเหจากการเขียนแนววิชาการ ไปต้องเลี่ยนแนวไปเป็นนักเขียนนิยาย เพื่อหาเงินเลี้ยงดู แม่และน้องสาว โดยเฉพาะแม่ของเธอต้องรับการผ่าตัดตาในสิ้นปี ปลายฟ้าจึงเขียนนิยายรัก แล้วนำไปให้ กรินทร์ คนรักเก่าที่เป็นซีอีโอของสำหนักพิมพ์อักษรารัญจวนช่วยพิจารณา แต่กรินทร์ไม่ให้ผ่านเพราะแนวเรื่องไม่ตรงกันแนวของอักษรารัญจวนที่เน้นขายแนวนิยายอิโรติก

 แต่เพราะกรินทร์ยังมีใจให้ปลายฟ้า ด้วยความรักที่หลงเหลือ จึงให้ปลายฟ้าเขียนนิยายอิโรติกโดยที่มีเขาเป็นพระเอก และเธอเป็นนางเอก แลกกับเงินค่าจ้างที่เขาจะจ่ายให้เธอเป็นรายเดือนแต่ปลายฟ้ามีปมกับเรื่องเซกส์เพราะเคยถูก เปลว พ่อเลี้ยงล่วงละเมิดในวัยเด็กและมักมีอาการทางประสาทกำเริบหากถูกกระตุ้น ทว่าด้วยเงินที่กรินทร์เสนอให้ จึงทำให้ปลายฟ้าตอบรับงาน แต่เพราะกลัวว่าจะเขียนให้ถึงตอนจบไม่ได้ ปลายฟ้าจึงตั้งใจหางานเสริม และเธอก็ได้งานแม่บ้านรีสอร์ตที่มีชื่อว่า Beyond The Horizon โดยบังเอิญจากแม่บ้านคนเก่าที่ลาออกกระทันหัน

ที่รีสอร์ตนี้ ปลายฟ้าต้องทำงานเป็นแม่บ้านประจำโซนวิลล่าการ์เด้น โดยมี แหวว หัวหน้าแม่บ้านเป็นคนคุมงาน เธอมีหน้าที่ดูแลทำความสะอาดและอำนวยความสะดวกให้แขกประจำโซน ซึ่งหนึ่งในแขกที่เธอต้องดูและคือ เข้ เจ้าของห้องหมายเลข 222 ที่เขาแอบเลี้ยงแมวโดยมีแค่เธอและเขาเท่านั้นที่รู้ นอกจากแหววแล้ว ปลายฟ้าได้เจอ ชิด บาร์เทนเดอร์ที่คอยสอนงานในห้องอาหารให้เธอ 

ด้วยงานแม่บ้านนี้เองที่ปลายฟ้าจะยึดไว้เป็นอาชีพเสริมจนกว่าเธอจะเขียนนิยายอิโรติกให้กรินทร์จบ แต่มีเหตุเกิดขึ้นกับปลายฟ้าคือเธอเหยียบหางแมวที่คุณเข้เลี้ยงไว้ที่ริมสระน้ำ จนทำให้เธอตกสระ แต่เข้ก็ช่วยเธอไว้ได้ทัน ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้เข้รู้ว่าเธอต้องรับงานเขียนนิยายอิโรติกให้กรินทร์ แต่เธอไม่มีประสบการณ์เรื่องบนเตียง(แบบคู่รัก) เข้เลยเสนอว่าถ้าปลายฟ้ามาเป็นเพื่อนคุยให้เขา เขาจะเล่าประสบการณ์บนเตียงให้ฟัง ข้อตกลงแรกระหว่างปลายฟ้าและเข้จึงเริ่มขึ้น

แต่ปลายฟ้าไม่คาดคิดเลยว่าเธอจะกลายเป็นผู้เล่นคนหนึ่งในเกมล่าหาคำตอบของปริศนาฆาตกรรมในรีสอร์ทแห่งนี้

สารบัญ

พระเอกนิยายสุดปลายฟ้า-บทนำ ต้องคำสาบ,พระเอกนิยายสุดปลายฟ้า-บทที่ ๑ นักเขียนตามใบสั่ง,พระเอกนิยายสุดปลายฟ้า-บทที่ ๒ Beyond The Horizon 1/2,พระเอกนิยายสุดปลายฟ้า-บทที่ ๒ Beyond The Horizon 2/2,พระเอกนิยายสุดปลายฟ้า-บทที่ ๓ แม่บ้านคนใหม่ 1/3,พระเอกนิยายสุดปลายฟ้า-บทที่ ๓ แม่บ้านคนใหม่ 2/3,พระเอกนิยายสุดปลายฟ้า-บทที่ ๓ แม่บ้านคนใหม่ 3/3,พระเอกนิยายสุดปลายฟ้า-บทที่ ๔ ดีลที่หนึ่ง 1/3,พระเอกนิยายสุดปลายฟ้า-บทที่ ๔ ดีลที่หนึ่ง 2/3,พระเอกนิยายสุดปลายฟ้า-บทที่ ๔ ดีลที่หนึ่ง 3/3,พระเอกนิยายสุดปลายฟ้า-บทที่ ๕ Rum and Vanilla 1/3,พระเอกนิยายสุดปลายฟ้า-บทที่ 5 Rum and Vanilla 2/3,พระเอกนิยายสุดปลายฟ้า-บทที่ 6 Rum and Vanilla 3/3,พระเอกนิยายสุดปลายฟ้า-บทที่ 6 คุณหนังเหนียว แต่กรามผมแข็งแรง 1/3,พระเอกนิยายสุดปลายฟ้า-บทที่ 6 คุณหนังเหนียว แต่กรามผมแข็งแรง 2/3,พระเอกนิยายสุดปลายฟ้า-บทที่ ๖ คุณหนังเหนียว แต่กรามผมแข็งแรง 3/3,พระเอกนิยายสุดปลายฟ้า-บทที่ ๗ It's just not a glass of milk 1/2,พระเอกนิยายสุดปลายฟ้า-บทที่ ๗ It's just not a glass of milk 2/2,พระเอกนิยายสุดปลายฟ้า-บทที่ ๘ Second life 1/3,พระเอกนิยายสุดปลายฟ้า-บททึ่ 8 Second life 2/3,พระเอกนิยายสุดปลายฟ้า-บทที่ ๘ Second life 3/3,พระเอกนิยายสุดปลายฟ้า-บทที่ ๙ Second deal 1/2,พระเอกนิยายสุดปลายฟ้า-บทที่ ๙ Second deal 2/2,พระเอกนิยายสุดปลายฟ้า-บทที่ ๑๐ Amaretto Vanilla (1) 1/2,พระเอกนิยายสุดปลายฟ้า-บทที่ ๑๐ Amaretto Vanilla (1) 2/2,พระเอกนิยายสุดปลายฟ้า-บทที่ ๑๑ Amaretto Vanilla 2,พระเอกนิยายสุดปลายฟ้า-บทที่ 12 กระต่ายบนดวงจัทร์ 1/3,พระเอกนิยายสุดปลายฟ้า-บทที่ 12 กระต่ายบนดวงจันทร์ 2/3,พระเอกนิยายสุดปลายฟ้า-บทที่ ๑๒ กระต่ายบนดวงจันทร์ 3/3,พระเอกนิยายสุดปลายฟ้า-บทที่ ๑๓ ตอนจบที่เลือกได้ 1/2,พระเอกนิยายสุดปลายฟ้า-บทที่ ๑๓ ตอนจบที่เลือกได้ 2/2,พระเอกนิยายสุดปลายฟ้า-บทที่ ๑๔ ความจริงอีกด้าน 1/2,พระเอกนิยายสุดปลายฟ้า-บทที่ 14 ความจริงอีกด้าน 2/2 ,พระเอกนิยายสุดปลายฟ้า-บทที่ ๑๕ เกมของใคร 1/3

เนื้อหา

บทที่ 12 กระต่ายบนดวงจันทร์ 2/3



ปลายฟ้าหน้าแดงซ่าน ส่วนคนก่อการกลับหัวเราะแล้ว เกี่ยวเอวเธอให้พาไปเลือกซื้อของที่ซุปเปอร์มาร์เก็ต แต่แทนที่จะเห็นเขาหยิบจับเครื่องเทศหรือเครื่องปรุงตามหนังสือที่ซื้อ เขากลับเลือกผลไม้สดสองสามอย่างใส่ตะกร้า แล้วยังมีช็อกโกแลตรสเข้ม นมสดที่ถูกเลือกเฟ้นออกจากชั้นอย่างตั้งใจ


“ผมขอไปเลือกเบียร์สักหน่อย”


“ฉันจะไปหยิบอาหารแมวกับขนมแมวนะคะ เดี๋ยวตามไป” บอกเขาแล้วก็เดินไปเลือกอาหารให้เบอร์เบินจากนั้นย้อนกลับไปทางที่แยกกัน แต่ปลายฟ้ายังเห็นว่าเขากำลังเลือกเบียร์ด้วยท่าทางครุ่นคิด เธอจึงถือโอกาสมองชายหนุ่มจากจุดที่ยืน


ในระหว่างที่เขากำลังใช้สมาธิ ก็มีหญิงสาวแปลกหน้าที่มีรูปร่างดีท่าทางมั่นใจเข้าไปชวนคุยด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม สลับกับหยิบเบอร์กระป๋องนั้นกระป๋องนี้ กระทั่งเขาหันมาสบตาเธอแล้วเดินกลับมาหา


“คุยกันเสร็จแล้วหรือคะ เหมือนเขายังอยากคุยกับคุณต่อนะ”


ที่ถามเพราะเห็นหญิงสาวคนนั้นมีสีหน้าไม่พอใจ แล้วก็ไม่แปลกใจในความทรงเสน่ห์ของเขาเลย เพราะเมื่อใดที่ชายหนุ่มผู้นี้ปรากฏกายที่สระว่ายน้ำหรือชายทะเล เธอมักได้เห็นหญิงสาวแขกของรีสอร์ตต่างลอบมองเขาด้วยสายตาวิบวับ


“ช่างเขาสิ ผมไม่ได้อยากคุยด้วยนี่นา” ชายหนุ่มส่ายหน้าแล้วดึงแขนเธอไปชำระค่าสินค้า


“แล้วคุยเรื่องอะไรกันหรือคะ”


“เขาให้ผมช่วยแนะนำเบียร์ผลไม้สำหรับคนที่ลองดื่มครั้งแรกน่ะ ผมก็บอกเขาไปว่าให้เขาลองเสี่ยงเลือกชิมสักอันบนชั้น เพราะลิ้นคนเราไม่เหมือนกัน สิ่งที่คนอื่นว่ารสชาติดี แต่พอลองแล้วกลับไม่ถูกใจ”


“แล้วเขาว่าไงคะ”


“เขาก็ถามผมกลับว่าลิ้นของผมถูกใจรสชาติแบบไหน”


“แล้วคุณบอกเขาไปว่าไง” ปลายฟ้าเองก็อยากรู้เหมือนกันว่า คนที่ดื่มเหล้าเก่งอย่างเขาจะถูกใจเบียร์รสชาติไหนที่สุด


“ผมบอกเขาไปว่าลิ้นของผมถูกใจแค่รสชาติหวานๆ ของแฟนผมที่แอบมองผมอยู่ตรงนั้น”


คนฟังหน้าแดงเป็นมะเขือเทศทันที “โกหกผิดศีล”


“โกหกแค่เรื่องแฟน แต่เรื่องหวาน...น่ะพูดจริง”


“รีบกลับกันเถอะ จะได้ไม่ถึงรีสอร์ตมืดค่ำเกินไป” นักเขียนสาวพูดพลางทัดผมที่หลังหู


“นั่นสิ...แต่พรุ่งนี้ผมก็ไม่ได้ไปไหน คิดอยู่ว่าจะค้างกับคุณ” บอกเธอในขณะที่หยิบถุงยางอนามัยที่วางบนชั้นใกล้แคชเชียร์มาแสกนจ่ายหนึ่งกล่อง


นักเขียนสาวเห็นแล้วก็ลอบกลืนน้ำลาย ส่วนเขาทำแค่ส่งยิ้มกรุ้มกริ่ม “คุณบอกว่า...คืนนี้จะชมจันทร์วันเพ็ญ...”


“ใช่...ผมบอกแบบนั้น...” มองเธอด้วยแววตาเป็นประกายครู่หนึ่ง แล้วก็หยิบลงมาอีกหนึ่งกล่อง ตามด้วยเจลหล่อลื่นหนึ่งขวด “ชมจันทร์คืนนี้ จะได้ลื่นไหลไม่ติดขัด”


เขาทำให้เธอเขินได้ทุกสถาณการณ์ในยังไงกันนะ ปลายฟ้ารีบคว้าข้าวของจัดเรียงใส่ถุงแก้อาการหนาวๆ ร้อนๆ แล้วรีบเดินออกมาก่อน แต่ได้ยินเสียงเขาหัวเราะดังจากด้านหลัง


เขาและเธอมาถึงรีสอร์ตในตอนพลบค่ำ เวลานั้นล็อบบี้ยังไม่ร้างราผู้คน ฝ่ายต้อนรับและพนักงานทุกคนยังอยู่ในเวลางาน รวมถึงการ์ดรักษาความปลอดภัยที่เข้ามาทำความคำรพชายหนุ่มด้วยท่าทางนอบน้อม


“ผมซื้อผลไม้มาเผื่อ ให้พี่เอากลับไปฝากลูกๆ”


“ขอบคุณมากครับคุณเข้ที่เมตตาครอบครัวของผม” การ์ดรักษาความปลอดภัยพนมมือไหว้นอบน้อม ทำให้เขาเองก็รีบยกมือไหว้รับตามทันที


“ไม่เป็นไรครับ แล้วถ้าพี่เดือดร้อนเรื่องเงินค่าเรียนลูกอีก ก็บอกผมได้เลย” เขตต์พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน


“ผมไม่รู้จะตอบแทนคุณเขตต์ยังไง” ลุงยามผงกศีรษะให้ชายหนุ่มหลายต่อหลายครั้ง แต่ทุกครั้งที่เงยขึ้นมานั้น ปลายฟ้ารู้สึกว่าเธอกำลังถูกจ้องมองเหมือนตำรวจหน่วยสืบสวนกำลังจับพิรุธคนร้าย


“เรื่องตอบแทนนั่นไม่ต้องหรอกครับ แค่ทำงานกับผมไปนานๆ ก็พอ” ชายหนุ่มคลี่ยิ้มบอกกับการ์ด แล้วแหงนหน้ามองไปทางชั้นสองของล็อบบี้ที่ปิดไฟดังสนิท ก่อนจับมือปลายฟ้าให้เดินตามจนถึงห้องพัก เขาก็จัดแจงเก็บของที่ซื้อมาใส่ตู้เย็นให้เข้าที่เข้าทาง


“คุณใจดีกับยามเสมอเลยหรือคะ” ปลายฟ้าส่งเสียงถามขณะรินน้ำใส่แก้วมายื่นให้เขา


“ไม่ทุกคนหรอก” 


“ลุงยามคนนี้พิเศษกว่าทุกคนหรือคะ” ปลายฟ้าเผลอตัวถามเพราะการสัมภาษณ์เพื่อหาข้อมูลเป็นพื้นฐานนิสัยของนักเขียนสายสารคดี “ขอโทษค่ะ คุณไม่ต้องตอบก็ได้”


ชายหนุ่มเพ่งมองเธอแล้วยกยิ้มที่มุมปาก “ผมไว้ใจเขามากกว่าคนอื่น”


ปลายฟ้าพยักหน้ารับทราบ แล้วจะหันไปหยิบอาหารแมวกับขนมแมวเลียออกจากถุงเพื่อเติมใส่โหลไว้ให้เบอร์เบิน เผื่อว่าเจ้าแมวรักการพเนจรจะพาท้องหิวโซกลับมา


“วางไว้ก่อนเถอะ มันยังไม่หิวตอนนี้หรอก” แต่ชายหนุ่มสั่งให้เธอละเว้นหน้าที่นั้น แล้วหยิบเบียร์ติดมือมาสองกระป๋อง “ออกไปนั่งชมจันทร์กันที่ระเบียงเถอะ”


“ที่ระเบียง...” หญิงสาวลอบกลืนน้ำลาย มองเขาตาฉงนพลางหันหน้าไปทางถุงที่เขาใส่กล่องถุงยางกับเจลหล่อลื่น


“ตอนนี้ผมเองก็ยังไม่หิวเมือนกัน” เขาพูดกลั้วเสียงหัวเราะ “หรือคุณหิวแล้ว”


“ฉันไม่หิว” เธอหน้าแดงซ่านทันทีที่เขาอ่านจากสายตาเธอได้ว่ากำลังมองอะไร


“ก็ดี...” น้ำเสียงของเข่าอ่อนโยนลง “ถ้าไม่หิว ก็อย่าฝืนกิน” พูดแล้วเดินไปเลื่อนบานประตูกระจกให้เปิดกว้าง รับสายลมเย็นกลิ่นดินที่พัดโชยเข้ามา


“ออกมาสิ” ชักชวนเธอพร้อมกับหย่อนตัวนั่งบนเก้าอี้ไม้ปรับเอนนอน “ดวงจันทร์กำลังสวย”


ปลายฟ้ายังยืนนิ่งอยู่ที่เดิม ไม่ใช่เพราะไม่อยากชมดวงจันทร์ที่เขาบอกว่ากำลังสวย แต่เพราะคำพูดของเขาก่อนหน้าทำให้เธอหยุดคิด อาจเป็นเพราะความเชี่ยวชาญของเพลย์บอย หรือเพราะเธออ่านง่ายเกินไป เขาถึงได้มองออกว่า เธอกำลังฝืน...


“แล้วถ้าไม่หิว แต่จำเป็นต้องกินล่ะ” คำถามถูกส่งออกไปหาชายหนุ่ม พร้อมกับการก้าวไปหยุดยืนหน้าเขาที่กำลังดื่มเบียร์พลางแหงนคอมองชมจันทร์กระจ่างบนน่าฟ้าราตรี


“ก็ให้ถามตัวเองให้แน่ว่าจำเป็นต้องกิน หรือ...ต้องการ” เขาวางเบียร์กระป๋องนั้นบนโต๊ะข้าง แล้วหยิบอีกกระป๋องมาเปิดส่งให้เธอ


“ต่างกันตรงไหน” ปลายฟ้ารับเบียร์มา แลกกับคำตอบที่อยากได้จากเขา


“ต้องกินคือร่างกายไม่ต้องการ ฝืนกินไปก็ไม่ได้รสชาติ ส่วนต้องการ...คือคุณอยากลิ้มรสมันให้สมกับที่ใจต้องการ”


หญิงสาวยังยืนกำกระป๋องเบียร์ด้วยมือทั้งสองข้าง พยายามอย่างมากที่จะทำให้มือตัวเองไม่สั่น “ถ้าอย่างนั้น... คุณทำให้ฉันต้องการได้ไหม ทำให้ฉันต้องการมันเหมือนผู้หญิงทุกคนในเรื่องเล่าของคุณ” แต่พอสิ้นประโยคที่พูดไป หัวใจเธอก็สั่นนำไปแล้ว 


“ได้สิ” เขายื่นฝ่ามือมาทางเธอ


รอยยิ้มของเขาไม่ได้เจ้าเล่ห์ แววตาที่เขาใช้มองเธอก็ไร้ความลุ่มลึกร้ายกาจ แต่มันเปี่ยมไปด้วยความอบอุ่นใจจนน่าประหลาด อบอุ่นใจจนปลายฟ้าเผลอวางมือบนฝ่ามือหนา และวางใจนั่งลงบนหน้าตักแกร่งที่ประคองตัวเธอด้วยมือข้างที่ว่าง


“แหงนชมจันทร์บนฟ้าสิ” เขากระซิบเสียงแผ่ว พลางหยิบเบียร์ออกจากมือเธอ แล้วโอบเอวปลายฟ้าจากด้านหลัง ดันเธอเบาๆ ให้เอนตัวจนแผ่นหลังบางแนบชิดกับร่างแกร่ง


สัมผัสอุ่นร้อนจากฝ่ามือที่ค่อยๆ เลื่อนสอดเข้าใต้ชายเสื้อของเธอ ทำให้ร่างกายปลายฟ้าเกร็งขึ้นโดยไม่รู้ตัว ลมหายใจอุ่นที่เป่ารดบริเวณหลังคอ ยิ่งปลุกหัวใจให้สั่นระรัวราวกับสายลมปั่นป่วน


“บอกผมที ว่ามันสวยแค่ไหน” เสียงทุ้มพร่าดังใกล้ชิดจนหัวใจเธอเต้นแรง


ปลายฟ้าเงยหน้ามองดวงจันทร์บนฟ้า แสงจันทร์นวลส่องผ่านม่านหมอกบาง เผยให้เห็นดวงดาวพร่างพรายกระจายอยู่เต็มฟากฟ้า สวยเสียจนเธออดสงสัยไม่ได้ว่า ความงามแบบนี้เคยปรากฏมาตลอด หรือเพียงเพราะเธอไม่เคยใส่ใจ


“สวยมาก...สวยจนฉันสงสัยว่า มันเคยสวยแบบนี้มาตลอด หรือเพราะฉันเพิ่งจะเริ่มสังเกตมัน”


เขตต์หัวเราะเบาๆ แผ่นอกกว้างกระเพื่อมตามแรงขยับ "คุณไม่ใช่คนเดียวที่คิดแบบนั้น ผมเคยออกเรือยอชต์ไปกลางทะเลตอนกลางคืน มันเงียบสงบ มืดมิด แต่บนฟ้านั้น ดาวส่องประกายระยับ สวยจนเหมือนอยู่อีกโลกหนึ่ง"


ปลายฟ้าเอี้ยวตัวหันไปสบตาเขาเบาๆ "คุณ... ทำความฝันของพ่อสำเร็จแล้วหรือคะ"


เขตต์ถอนหายใจลึก แววตาเปลี่ยนไปชั่วขณะ "ใช่... แต่ก็เพียงลำพัง ถ้ามีท่านทั้งคู่อยู่ด้วย มันอาจจะงดงามกว่านั้นอีกหลายเท่า"


ปลายฟ้านิ่งไป ก่อนจะเอ่ยเสียงแผ่วเบา "แต่บางที เพียงแค่ระเบียงตรงนี้ ถ้ามีคนที่เรารักอยู่เคียงข้าง ดาวไม่ต้องมากมายขนาดนั้น ก็คงงดงามได้ไม่ต่างกัน ฉันเชื่อว่าคุณพ่อคุณแม่ของคุณ ได้สัมผัสมันก่อนที่พวกท่านจะ..." เธอเลือกหยุดคำพูดลงที่ตรงนั้น


ดวงตาสีนิลมีแววไหวสะเทือน เขานิ่งเงียบราวกับตกอยู่ในภวังค์ แต่ยังส่งสายตามองเธอเนิ่นนาน "คุณพูดถูก เพราะดาวที่สวยที่สุด ไม่ได้อยู่ที่จำนวนหรือสถานที่ แต่คือการที่เรามองมันกับใครต่างหาก"


มือหนาที่เข้าโอบรอบเอวบางแน่นกว่าเดิม สร้างความอบอุ่นให้แผ่กระจายช้าๆ แทนที่ความกังวลที่มีอยู่ก่อนหน้านี้


"ถ้ามีโอกาส ผมอยากพาคุณไปเห็นด้วยตัวเอง แล้วบอกผมว่า ดาวจากกลางทะเลกับจากระเบียงห้องนี้ คุณชอบแบบไหนมากกว่ากัน"


คำพูดนั้นไม่ได้เป็นแค่คำเชิญชวนหรือคำสัญญา แต่มันกลับแฝงไว้ด้วยความหมายลึกซึ้งที่ทำให้หัวใจปลายฟ้าสั่นไหวรุนแรง จนเธอเผลอมองดวงตาเขา ดวงตาที่ตอนนี้สะท้อนประกายดาวเต็มฟ้า สวยงามจนเธอไม่อาจละสายตาได้


"แล้วคืนนี้...ดวงจันทร์สวยสำหรับคุณไหม" เขาถามพร้อมลมหายใจอุ่นร้อนที่เป่ารดพวงแก้ม


"สวย...สวยมากเลยค่ะ" ปลายฟ้าตอบเสียงสั่นเบาๆ พร้อมหัวใจที่เต้นถี่เร็ว


“คุณเห็นกระต่ายบนนั้นไหม” ปลายนิ้วแกร่งค่อยๆ ไต่ขึ้นมาตามหน้าท้อง แล้วโอบอุ้มรอบฐานปทุมถันข้างซ้าย แล้วกดแนบริมฝีปากหยักที่หลังคอ มือข้างขวาของเขาก็ไล้วนรอบหน้าท้องเนียน


“หะ...เห็น...เห็นค่ะ” หญิงสาวตอบตะกุกตะกัก เธอแทบหยุดหายใจตอนที่ขอบบราเซียร์ถูกดึงลง ปลดปล่อยดอกบัวตูมให้เป็นอิสระจากเนื้อผ้ารัดรัง


“คุณว่า... มันจะรู้สึกเหงาไหม ถ้ามันรู้ว่ามันอยู่บนนั้นตัวเดียว”


“อ๊ะ...” ร่างบางกรัดเกร็งกะทันหัน ในตอนที่ยอดถันทั้งสองถูกนิ้วสากเขี่ย เนื้อกายเธอก็ตอบสนอง มันเต่งตึงชูชันทันที


“ว่าไง...บอกผมให้รู้หน่อย”


“ฉัน... ฉันไม่รู้... ฉันไม่ใช่มัน” แค่หายใจยังติดขัด ไฉนเลยจะเปล่งเสียงตอบเขาได้


“นั่นสินะ...” ลมหายใจอุ่นของเขาแตะสัมผัสแผ่วเบาที่ใบหู “คุณไม่ใช่มัน คุณคงไม่รู้...”


แล้วเธอก็ไม่รู้ด้วยว่า บราเซียร์ของเธอถูกปลดตะขอตอนไหน รู้ตัวอีกทีก็ตอนที่ทรวงอกอิ่มทั้งสองถูกครอบครองด้วยฝ่ามือหนา