โชคชะตาพาปลายฟ้าผู้หวาดกลัวเรื่องบนเตียงให้มารับงานเขียนนิยายอิโรติกตามใบสั่งของแฟนเก่า แต่ฟ้าก็ใจดีส่งชายหนุ่มผู้มากประสบการณ์เซกส์มาให้ โดยที่ดันลืมเตือนว่าเขาเป็นผู้ต้องสงสัยคดีฆาตกรรมคนรักตัวเอง

พระเอกนิยายสุดปลายฟ้า - บทที่ ๑๐ Amaretto Vanilla (1) 2/2 โดย ณ มหรรณพ @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ดราม่า,ชาย-หญิง,ไทย,รัก,ผู้ใหญ่,อิโรติก,สืบสวน ,ดราม่า,โรมานซ์,โรมานซ์สืบสวน,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

พระเอกนิยายสุดปลายฟ้า

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ดราม่า,ชาย-หญิง,ไทย,รัก,ผู้ใหญ่

แท็คที่เกี่ยวข้อง

อิโรติก,สืบสวน ,ดราม่า,โรมานซ์,โรมานซ์สืบสวน

รายละเอียด

พระเอกนิยายสุดปลายฟ้า โดย ณ มหรรณพ @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

โชคชะตาพาปลายฟ้าผู้หวาดกลัวเรื่องบนเตียงให้มารับงานเขียนนิยายอิโรติกตามใบสั่งของแฟนเก่า แต่ฟ้าก็ใจดีส่งชายหนุ่มผู้มากประสบการณ์เซกส์มาให้ โดยที่ดันลืมเตือนว่าเขาเป็นผู้ต้องสงสัยคดีฆาตกรรมคนรักตัวเอง

ผู้แต่ง

ณ มหรรณพ

เรื่องย่อ

เมื่อนิตยสารสารคดีที่ ปลายฟ้า เป็นนักเขียนประจำปิดตัว ทำให้ปลายผ้าต้องหันเหจากการเขียนแนววิชาการ ไปต้องเลี่ยนแนวไปเป็นนักเขียนนิยาย เพื่อหาเงินเลี้ยงดู แม่และน้องสาว โดยเฉพาะแม่ของเธอต้องรับการผ่าตัดตาในสิ้นปี ปลายฟ้าจึงเขียนนิยายรัก แล้วนำไปให้ กรินทร์ คนรักเก่าที่เป็นซีอีโอของสำหนักพิมพ์อักษรารัญจวนช่วยพิจารณา แต่กรินทร์ไม่ให้ผ่านเพราะแนวเรื่องไม่ตรงกันแนวของอักษรารัญจวนที่เน้นขายแนวนิยายอิโรติก

 แต่เพราะกรินทร์ยังมีใจให้ปลายฟ้า ด้วยความรักที่หลงเหลือ จึงให้ปลายฟ้าเขียนนิยายอิโรติกโดยที่มีเขาเป็นพระเอก และเธอเป็นนางเอก แลกกับเงินค่าจ้างที่เขาจะจ่ายให้เธอเป็นรายเดือนแต่ปลายฟ้ามีปมกับเรื่องเซกส์เพราะเคยถูก เปลว พ่อเลี้ยงล่วงละเมิดในวัยเด็กและมักมีอาการทางประสาทกำเริบหากถูกกระตุ้น ทว่าด้วยเงินที่กรินทร์เสนอให้ จึงทำให้ปลายฟ้าตอบรับงาน แต่เพราะกลัวว่าจะเขียนให้ถึงตอนจบไม่ได้ ปลายฟ้าจึงตั้งใจหางานเสริม และเธอก็ได้งานแม่บ้านรีสอร์ตที่มีชื่อว่า Beyond The Horizon โดยบังเอิญจากแม่บ้านคนเก่าที่ลาออกกระทันหัน

ที่รีสอร์ตนี้ ปลายฟ้าต้องทำงานเป็นแม่บ้านประจำโซนวิลล่าการ์เด้น โดยมี แหวว หัวหน้าแม่บ้านเป็นคนคุมงาน เธอมีหน้าที่ดูแลทำความสะอาดและอำนวยความสะดวกให้แขกประจำโซน ซึ่งหนึ่งในแขกที่เธอต้องดูและคือ เข้ เจ้าของห้องหมายเลข 222 ที่เขาแอบเลี้ยงแมวโดยมีแค่เธอและเขาเท่านั้นที่รู้ นอกจากแหววแล้ว ปลายฟ้าได้เจอ ชิด บาร์เทนเดอร์ที่คอยสอนงานในห้องอาหารให้เธอ 

ด้วยงานแม่บ้านนี้เองที่ปลายฟ้าจะยึดไว้เป็นอาชีพเสริมจนกว่าเธอจะเขียนนิยายอิโรติกให้กรินทร์จบ แต่มีเหตุเกิดขึ้นกับปลายฟ้าคือเธอเหยียบหางแมวที่คุณเข้เลี้ยงไว้ที่ริมสระน้ำ จนทำให้เธอตกสระ แต่เข้ก็ช่วยเธอไว้ได้ทัน ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้เข้รู้ว่าเธอต้องรับงานเขียนนิยายอิโรติกให้กรินทร์ แต่เธอไม่มีประสบการณ์เรื่องบนเตียง(แบบคู่รัก) เข้เลยเสนอว่าถ้าปลายฟ้ามาเป็นเพื่อนคุยให้เขา เขาจะเล่าประสบการณ์บนเตียงให้ฟัง ข้อตกลงแรกระหว่างปลายฟ้าและเข้จึงเริ่มขึ้น

แต่ปลายฟ้าไม่คาดคิดเลยว่าเธอจะกลายเป็นผู้เล่นคนหนึ่งในเกมล่าหาคำตอบของปริศนาฆาตกรรมในรีสอร์ทแห่งนี้

สารบัญ

พระเอกนิยายสุดปลายฟ้า-บทนำ ต้องคำสาบ,พระเอกนิยายสุดปลายฟ้า-บทที่ ๑ นักเขียนตามใบสั่ง,พระเอกนิยายสุดปลายฟ้า-บทที่ ๒ Beyond The Horizon 1/2,พระเอกนิยายสุดปลายฟ้า-บทที่ ๒ Beyond The Horizon 2/2,พระเอกนิยายสุดปลายฟ้า-บทที่ ๓ แม่บ้านคนใหม่ 1/3,พระเอกนิยายสุดปลายฟ้า-บทที่ ๓ แม่บ้านคนใหม่ 2/3,พระเอกนิยายสุดปลายฟ้า-บทที่ ๓ แม่บ้านคนใหม่ 3/3,พระเอกนิยายสุดปลายฟ้า-บทที่ ๔ ดีลที่หนึ่ง 1/3,พระเอกนิยายสุดปลายฟ้า-บทที่ ๔ ดีลที่หนึ่ง 2/3,พระเอกนิยายสุดปลายฟ้า-บทที่ ๔ ดีลที่หนึ่ง 3/3,พระเอกนิยายสุดปลายฟ้า-บทที่ ๕ Rum and Vanilla 1/3,พระเอกนิยายสุดปลายฟ้า-บทที่ 5 Rum and Vanilla 2/3,พระเอกนิยายสุดปลายฟ้า-บทที่ 6 Rum and Vanilla 3/3,พระเอกนิยายสุดปลายฟ้า-บทที่ 6 คุณหนังเหนียว แต่กรามผมแข็งแรง 1/3,พระเอกนิยายสุดปลายฟ้า-บทที่ 6 คุณหนังเหนียว แต่กรามผมแข็งแรง 2/3,พระเอกนิยายสุดปลายฟ้า-บทที่ ๖ คุณหนังเหนียว แต่กรามผมแข็งแรง 3/3,พระเอกนิยายสุดปลายฟ้า-บทที่ ๗ It's just not a glass of milk 1/2,พระเอกนิยายสุดปลายฟ้า-บทที่ ๗ It's just not a glass of milk 2/2,พระเอกนิยายสุดปลายฟ้า-บทที่ ๘ Second life 1/3,พระเอกนิยายสุดปลายฟ้า-บททึ่ 8 Second life 2/3,พระเอกนิยายสุดปลายฟ้า-บทที่ ๘ Second life 3/3,พระเอกนิยายสุดปลายฟ้า-บทที่ ๙ Second deal 1/2,พระเอกนิยายสุดปลายฟ้า-บทที่ ๙ Second deal 2/2,พระเอกนิยายสุดปลายฟ้า-บทที่ ๑๐ Amaretto Vanilla (1) 1/2,พระเอกนิยายสุดปลายฟ้า-บทที่ ๑๐ Amaretto Vanilla (1) 2/2,พระเอกนิยายสุดปลายฟ้า-บทที่ ๑๑ Amaretto Vanilla 2,พระเอกนิยายสุดปลายฟ้า-บทที่ 12 กระต่ายบนดวงจัทร์ 1/3,พระเอกนิยายสุดปลายฟ้า-บทที่ 12 กระต่ายบนดวงจันทร์ 2/3,พระเอกนิยายสุดปลายฟ้า-บทที่ ๑๒ กระต่ายบนดวงจันทร์ 3/3,พระเอกนิยายสุดปลายฟ้า-บทที่ ๑๓ ตอนจบที่เลือกได้ 1/2,พระเอกนิยายสุดปลายฟ้า-บทที่ ๑๓ ตอนจบที่เลือกได้ 2/2

เนื้อหา

บทที่ ๑๐ Amaretto Vanilla (1) 2/2

ชิดทำหน้าเหนื่อยหน่าย แล้วก็ทำตาโตเหมือนนึกอะไรขึ้นได้ “ปลายเข้าไปในครัว นับจำนวนขนมให้ครบตามที่เขียนบนกระดาน บอกพวกเขาว่าพี่ขอให้ช่วย แล้วถ้าพี่ยังไม่เข้าไปเรียกก็อย่าเพิ่งออกมา”

ใบหน้าของผู้พูดเหมือนว่าต้องการสั่งมากกว่าร้องขอ เธอจึงวางมีดและมะนาวแล้วเดินเข้าไปในครัวที่เหล่าเชฟและผู้ช่วยต่างมองเธอเป็นตาเดียวกัน

“พี่ชิดให้หนูเข้ามานับจำนวนขนมค่ะ” ปลายฟ้าพูดตามสคริปต์ของชิด ทั่งหมดจึงหันกลับไปทำงานที่ค้างของตนต่อตามปกติ แต่เธอรู้ว่ามันไม่ปกติสำหรับผู้ไม่เกี่ยวข้องกับงานครัวเช่นเธอ ที่เหมือนอยู่ผิดที่ผิดทางทาง

ที่โต๊ะเตรียมเสิร์ฟมีอาหารและขนมจัดวางไว้แล้ว สิ่งที่เธอต้องทำคือมองหากระดาน แล้วมันก็แขวนอยู่หน้าประตูทางเข้าครัว ซึ่งเธอควรเริ่มทำตามคำขอของชิด แต่สิ่งที่ทำให้ปลายฟ้าถึงกับเดินเข้าไปจ้องกระดานใกล้ๆ คือลายมือที่เธอคุ้นตา

 

งานแต่งริมหาด แขก 22 คน

เรียกน้ำย่อย หอยนางรมสดน้ำจิ้มซีฟู้ด

ค้อกเทลกุ้ง

ยำส้มโอ

กุ้งเทมปุระ

จานหลัก ปลากะพงย่างเกลือ ซอสเลมอนและมันบดสมุนไพร

สปาเก็ตตี้ซีฟู้ด

บาร์บีคิวซีฟู้ด

ของหวาน เครมบรูเล่

เครื่องดื่มบริการพิเศษ Amaretto Vanilla Lemonade (For adults)

Vanilla Lemonade (For kids)

 

เครมบรูเล่... ปลายฟ้าอ่านชื่อขนมในใจ ที่ลายมือนั้นแตกต่างกับบรรทัดด้านบน เช่นเดียวกับชื่อเครื่องดื่มในบรรทัดถัดมา พานให้นึกถึงใบหน้าเจ้าของลายมือประณีตบรรจง

“คุณเป็นใครกันแน่...”

ปลายฟ้ารำพึงแล้วรีบนับจำนวนขนมจนครบ แต่การรอคอยในครัวที่มีแต่คนเดินผ่านหน้าผ่านหลังทำให้ปลายฟ้ารู้สึกว่าตัวเองกลายเป็นสิ่งเกะกะ จึงหามุมเหมาะๆ ให้ตัวเองใกล้กับปากทางเข้า

“ดูรีสอร์ตเงียบๆ แบบนี้จะไปรอดหรือ แล้วเดือนนี้ยอดจองห้องได้เท่าไหร่ล่ะ”

เสียงสนทนาที่ดังเข้ามาทำให้ปลายฟ้าแอบมองในมุมอับสายตา เห็นรุ่นพี่ของเธอยื่นมาการิต้าให้แพรวพลอย ข้างๆ กันมีหนุ่มใหญ่สวมใส่เสื้อปกฮาวายปลดกระดุมสองเม็ดบนจนเห็นสร้อยทองเส้นโต ในขณะที่ด้านหลังของทั้งสองมีเหล่าชายฉกรรจ์ยืนล้อมวงซดเบียร์กันพูดคุยส่งเสียงดังกันอย่างสนุกสนาน

“ได้เท่าไหร่น่ะ แพรวไม่รู้หรอกค่ะเสี่ย ต้องไปถามเซลล์นู่น แต่ปีนี้ไม่น่าจะได้ปันผล”

“อะไรวะ! ไม่ได้ปันผลอีกแล้ว! ” คนที่ถูกเรียกเสี่ยย่นคิ้วพูดเสียงแข็ง “ไม่รู้เพราะเธอหรือเพราะมันที่ทำให้เงินของฉันมาจมที่นี่ ขายๆ ไปแล้วเอาเงินมาแบ่งกันยังดีกว่า ดูไปดูมาที่นี่ไม่เห็นจะสู้รีสอร์ตเปิดใหม่ใกล้กันได้เลย!”

ใกล้กับที่นี่มีรีสอร์ตเปิดใหม่หลายที่จริง แต่เจ้าของประโยคดูหมิ่นนั้นเป็นคนคนเดียวกับที่อยู่ในรูปถ่ายผู้ถือหุ้นที่นี่ ซึ่งควรแล้วหรือที่เขาจะไม่สนใจใยดีกิจการแล้วจะขายทิ้งได้ตามใจ แล้วมันใช่หรือที่เธอกลับรู้สึกฉุนแทนพนักงานรีสอร์ตทุกคนแม้ไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียอะไรกับที่นี่เลย

“เมื่อก่อนเสี่ยยังเทียวมาเทียวไปที่นี่บ่อยกว่าแพรวอีกไม่ใช่หรือไง”

ในทีแรกหญิงสาวคนเดียวกลางวงพูดโดยไม่สนใจใบหน้าขุ่นของคนฟัง แต่พอก้นแก้ววิสกี้เปล่ากระแทกลงบนโต๊ะ แพรวพลอยก็สะดุ้งตัวโยนพร้อมกับใบหน้าหวาดหวั่นต่อแววตาที่กำลังเขม้นมอง จนกระทั่งเสียงโทรศัพท์ของคนที่ถูกเรียกว่าเสี่ยดัง ก็เป็นเหมือนระฆังช่วยชีวิตดึงตัวเสี่ยให้รับสายนั้นแล้วเดินคุยออกจากห้องอาหารไปพร้อมกับเหล่าบอดี้การ์ดของตน ส่วนแพรวพลอยนั้นยังนั่งนิ่งขบกรามแน่น จ้องเขม็งไปยังแก้วมาการิต้า

“นี่เขายังกลับมาไม่ถึงอีกหรือไง” กระทั่งมีคำถามเสียงเครียดออกจากปากหญิงสาว

“ผมก็ไม่ทราบเหมือนกันครับ” แต่คนถูกถามก็ตอบเสียงเครียดปานกัน

“ไม่ทราบ ไม่ทราบ ถามอะไรก็ไม่ทราบ!” แพรวพลอยพ่นลมหายใจแรง เคาะนิ้วมือข้างที่ประดับแหวนเพชรเป็นจังหวะส่งผลให้เกิดประกายวิบวับบนนิ้วนางข้างซ้ายของเธอ จากนั้นแล้วคว้าแก้วมาการิต้าขึ้นดื่มอึกสุดท้าย “ทำให้ฉันอีกแก้ว!”

คำสั่งเสียงแข็งทำให้ชิดกุลีกุจอปรุงค้อกเทลสีแดงใส ในขณะที่หญิงสาวเปิดฝากระเป๋าแล้วหยิบอะไรสักอย่างออกมา แต่พอมีเสียงโทรศัพท์เข้าก็สบถคำหยาบแล้วรับสาย

“แพรวไม่ว่างไปหาเสียงกับเสี่ยหรอกค่ะ เดี๋ยวต้องไปงานเลี้ยงน้ำชาของสมาคมผู้ค้าพลอยอีก” แล้วคว้าแก้วมาการิต้าที่ถูกวางตรงหน้าเดินถือออกจากห้องอาหารไป

เมื่อนั้นเอง ปลายฟ้าจึงเคลื่อนกายออกจากครัวโดยที่ไม่ต้องรอให้ให้ชิดมาเรียก “เครมบลูเรมีครบยี่สิบสองถ้วยค่ะ”

ความกังวลยังหลงเหลือบนใบหน้าของชิด จนปลายฟ้าอดใจถามไม่ได้ “คุณสองคนเมื่อกี้เป็นผู้ถือหุ้นที่นี่ใช่ไหมคะ”

ชิดระบายลมหายใจแล้วลดเสียงพูดให้ได้ยินกันแค่เธอและเขา “ใช่ สองคนนั้นเป็นผู้ถือหุ้นที่นี่ คนผู้ชายนานๆ จะมาที แต่คนผู้หญิงจะมาแค่เฉพาะวันที่...” แต่แล้วก็เม้มริมฝีปากแน่น ทำหน้าเหมือนคิดอะไรสักอย่าง

“รอพี่ตรงนี้แป๊บ”

บอกเธอแล้วหายเข้าไปในครัว ปลายฟ้าจึงได้แต่ยืนรอด้วยความสงสัย ระหว่างนั้นสายตาของเธอก็ไปสะดุดกับสิ่งที่ถูกวางทิ้งไว้บนเคาน์เตอร์บาร์ จึงเดินเข้าไปหยิบขึ้นมาดู และเห็นว่ามันเป็นแผงยาแก้ปวด

“เอาเครมบรูเล่กับ Amaretto Vanilla Lemonade ไปเสิร์ฟคุณเข้ให้ที” ชิดออกจากครัวมาวางถาดที่มีถ้วยขนมวางบนเคาน์เตอร์ จากนั้นก็บรรเลงการผสมค้อกเทลอย่างเชี่ยวชาญแล้วเทลองแก้วทรงเตี้ยที่มีน้ำแข็งก้อนใส่รอ

“พี่ชิดคะ...” ปลายฟ้าละสายตาจากแผงยาแล้วมองบาร์เทนเดอร์หนุ่มที่วางแก้วค้อกเทลลงบนถาด “ปลายคิดว่าคุณแพรวพลอยน่าจะยาลืมไว้”

ชิดมองมาที่แผงยาในมือเธอ “วางไว้ที่เดิม เดี๋ยวเขานึกขึ้นได้ก็คงกลับมาเอาเอง”

ปลายฟ้าเม้มริมฝีปาก สลับมองยากละใบหน้าของชิด “ปลาย...ขอเก็บไว้ได้ไหมคะ”

“ทำไม มีอะไรหรือเปล่า”

“ปลายมีอะไรสงสัยนิดหน่อย” เธอบอกเขาได้เพียงเท่านี้ แต่พอชิดพยักหน้า ปลายฟ้าคลี่ยิ้มด้วยความดีใจ แล้วเก็บแผงยาเข้ากระเป๋ากางเกงจากนั้นหยิบถาดขึ้น

“แต่คุณเข้ไม่อยู่ห้องนะคะ”

“ไปหาเขาที่ห้อง 222” สั่งแล้วจับปลายฟ้าหมุนตัวเพื่อดุนหลังให้เธอเดิน “รีบไปก่อนที่คุณแพรวพลอยจะกลับมาหายาเถอะ”

ปลายฟ้าจึงรีบจ้ำเดินให้ไว โดยไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงบอกให้เธอกลับห้อง เพราะถ้าเขามาถึงแล้วก็ควรจะอยู่อีกห้องต่างหาก แต่พอหญิงสาวเปิดประตูห้องพักเข้าไป กลับเห็นชายหนุ่มนอนหลับอยู่บนโซฟา ทั้งแปลกใจที่ไม่รู้ว่าชิดรู้ได้อย่างไร และแปลกใจที่ทำไมเขาถึงมาล้มตัวนอนตรงนี้

นักเขียนสาวรีบเดินเข้าไปวางถาดบนโต๊ะที่มีแก้วเหล้ากับขวดเหล้าบรั่นดีที่มีป้ายเขียนด้วยลายมือเป็นตัวอักษรคาลิกราฟีระบุปีที่บ่ม แบบเดียวกันกับเหล้าขวดนั้นในคลัง

ส่วนคนดื่มก็กำลังหลับตาหายใจเข้าออกสม่ำเสมอ กลิ่นแอลกอฮอล์จากลมหายใจชายหนุ่มบอกจำนวนแก้วที่เขาดื่มได้พอๆ กับปริมาณบรั่นดีที่เหลือในขวด แต่ถ้าบวกกับท่าทางการนอนของเขาแล้ว ปลายฟ้าลงความเห็นได้อย่างเดียวว่าเขาคงเหนื่อยกับงานมากกว่าเมาเหล้า

“คุณได้พักผ่อนบ้างหรือเปล่านะ”

ปลายฟ้ารำพึงเสียงเบาแล้วเอามาห่มมาคลุมร่างคนที่ยังนอนหลับสบาย จากนั้นก็เอาขนมกับค้อกเทล ของฝากจากชิดไปแช่เย็นก่อนกลับมานั่งบนพื้นข้างโซฟา เพื่อล้วงเอาแผงยาที่เก็บได้กับกระดาษฝากข้อความของลียงออกจากกระเป๋ากางเกงเตรียมส่งต่อให้ผู้รับ

‘testify in court...’ คำพูดแรกของลียงยังติดอยู่ในหัวปลายฟ้า ให้การในศาลอย่างนั้นหรือ

‘ถ้าได้เห็นหรือได้ยินอะไรในคลังเหล้าวันนั้น ก็ให้ลืมๆ ไปซะ’ คำพูดของชิดก็ยังติดค้างในใจ ทับถมกับประโยคน่าสงสัยของแหวว ที่ทั้งคู่ทำเหมือนพยายามกันเธอให้ออกห่างจากบางสิ่ง แต่คำกล่าวที่ว่ายิ่งห้ามก็เหมือนยิ่งยุนั้นมีจริง โดยเฉพาะกับปลายฟ้า

ดวงตากลมจับจ้องมองแผงยาที่อยู่มืออย่างพินิจพิเคราะห์ ลักษณะร่องรอยการแกะยาของแพรวพลอยมีเส้นยาวตัดกันเป็นเครื่องหมายบวกคล้ายถูกปลายเล็บกรีดบนช่องบรรจุยาแล้ว หากมองให้ดีก็คล้ายแผงยาไดอะซีแพมที่อยู่ในกระเป๋าผ้ากันเปื้อนแม่บ้านคนเก่า จะเป็นเรื่องบังเอิญไปไหมถ้าร่องรอยของยาทั้งสองแผงมันช่างเหมือนกันมากทีเดียว

ปลายฟ้าระลึกภาพในวันที่เจอแม่บ้านคนเก่าในร้ายก๋วยเตี๋ยว และตอนที่ยื่นถุงผ้ามาให้เธอด้วยมือสั้นป้อมที่เล็บทั้งห้าแหว่งวิ่นจากการใช้ฟันแทะ

หรือว่าแม่บ้านคนนั้นไม่ได้เป็นเจ้าของไดอะซีแพม... ความคิดนั้นแล่นเข้ามาในหัวปลายฟ้า แต่แล้วเธอก็สะบัดหัว

“ฉันอาจคิดมากเกินไป...”

“คิดมากเรื่องอะไรหรือครับ”

เสียงนั้นทำให้ปลายฟ้าหันขวับไปมองด้านหลัง เห็นรอยยิ้มนุ่มปรากฏบนใบหน้าคนที่กำลังยืดแขนเหยียดขาขับไล่ความง่วงเหงาหาวนอน

“ฉันทำให้คุณตื่นหรือคะ”

ชายหนุ่มยิ้มแล้วส่ายหน้า ดันตัวเองลุกขึ้นนั่ง “ผมตื่นตั้งแต่เห็นคุณนั่งจ้องแผงยานั่นแล้ว ว่าแต่คุณคิดมากเรื่องอะไรหรือ”

“เอ่อ...” ปลายฟ้าสูดลมหายใจเข้าลึก แล้วสอดแผงยาเก็บใส่กระเป๋ากางเกง “คิดว่า... ทำไมเครมบลูเร กับ Amaretto Vanilla Lemonade ถึงเข้ากันได้”

เขาเลิกคิ้วมองเชิงถาม ปลายฟ้าจึงรีบลุกไปหยิบของฝากออกจากตู้แช่นำมาวางไว้บนโต๊ะ “พี่ชิดให้เอาเครมบลูเรกับ Amaretto Vanilla Lemonade ค่ะ”

แล้วถามต่อด้วยแววตาสดใส “ทำไมคุณถึงออกแบบสองเมนูนี้ให้เป็นคู่กันหรือคะ”

“คุณรู้ได้ยังไงว่าผมออกแบบ”

“เอ่อ... ฉันพูดผิด ฉันอยากถามว่าทำไมพี่ชิดทำให้คุณทานเครมบลูเรกับ Amaretto Vanilla Lemonade ด้วยกันต่างหาก”

ริมฝีปากหยักคลี่ยิ้ม “ให้ผมอธิบายด้วยคำพูดมันเข้าใจยาก คุณต้องลองชิมเอง” บอกเธอแล้วยกแก้วค้อกเทลส่งให้ “ลองดูแล้วคุณจะรู้คำตอบ”

กลิ่นหอมของวานิลาผสมน้ำมะนาวที่มีกลิ่นของเหล้าเคล้าอยู่ด้วยกันลอยจากแก้วเข้าแตะจมูกปลายฟ้า ดวงตาสีนิลคู่นั้นก็มองมาด้วยแววตาเชื้อเชิญ เธอจึงรับแก้วมาถือ แต่ชั่งใจพักหนึ่งจากนั้นก็ยกขอบแก้วเสมอริมฝีปากอิ่มแล้วจิบคำแรกเข้าไป

รสชาติของมะนาวเปรี้ยวอมหวานละลายรวมกับความหอมของวานิลลาที่ผสมผสานได้อย่างลงตัวกับความหอมหวานละมุนของอัลมอนด์จากเหล้า Amaretto ในแก้วนี้ทำให้ปลายฟ้าอยากลิ้มลองมากกว่าแค่การจิบ

“รสชาติเป็นยังไงบ้าง”

ปลายฟ้าอมยิ้ม แล้วบอกเขาด้วยน้ำเสียงชื่นชม “ความหอมหวานของวานิลาไซรัป กับความเปรี้ยวของมะนาวทำให้ค้อกเทลแก้วนี้มีความหวานซ่อนเปรี้ยวที่ทำให้ยิ่งดื่มยิ่งสดชื่นค่ะ”

“ลองกินเครมบลูเรตามเข้าไปสิ”

หญิงสาวส่ายหน้า “ไม่ดีกว่าค่ะ พี่ชิดตั้งใจให้เอามาให้คุณ คุณกินเถอะค่ะ”

“งั้นกินด้วยกัน” เขาบอกแล้วหยิบขวดเหล้าบรั่นดีเปิดฝาแล้วรินเติมใส่แก้วของตัวเอง “แต่ผมจะกินกับบรั่นดี ส่วน Amaretto Vanilla Lemonade ผมยกให้คุณ”

ในตอนที่เขาเอื้อมมือไปจับขวดเหล้านั้น ดวงตาสีนิลคงสะดุดเห็นชื่อผู้ส่งสารที่เธอเขียนไว้บรรทัดสุดท้ายบนกระดาษข้อความ เขาจึงคว้าขึ้นมาอ่านแล้วย่นคิ้วมองเธอ

“คุณได้คุยกับลียง”

“คุณลียงโทรมาที่เบอร์ห้องนี้ค่ะ เขาขอสายคุณแต่คุณไม่อยู่”

“ผมตอบข้อความเขาไปแล้วก่อนมาที่นี่” เขาวางกระดาษคืนที่เดิม “เขาพูดอะไรอีกบ้าง”

ปลายฟ้าส่ายหน้าเบาๆ “มีแค่ที่ฉันเขียนค่ะ”

“ไม่ได้พูดอะไรไม่ดีใส่คุณใช่ไหม”

ริมฝีปากอิ่มเม้มเข้าหากัน คิดถึงประโยคที่เธอไม่เข้าใจของชายหนุ่มคนนั้น แต่ปลายฟ้าเลือกส่ายหน้าให้เป็นคำตอบ

“งั้นก็ดี ลียงเป็นคนพูดจาขวานผ่าซาก แต่ไม่ใช่คนที่มีจิตใจร้ายอะไร” เขาพูดถึงเจ้าของข้อความแล้วเลื่อนขนมมาตรงหน้าเธอ “กินขนมสิ ทิ้งไว้นานหน้าคาราเมลจะเหนียว”

“คุณเป็นเจ้าของ คุณก็ต้องกินก่อนสิคะ”

ชายหนุ่มคลี่ยิ้ม แล้วใช้ช้อนตักขนมเข้าปากหนึ่งคำ แล้วอมยิ้มเหมือนเด็กน้อยอารมณ์ดีเพราะได้กินของอร่อย ปลายฟ้าเห็นแล้วก็เผลอยิ้มตามไปด้วย แต่พอเขาหันมาปลายฟ้าก็ทำเป็นมองอย่างอื่นอยู่

“ที่คุณถามผม...”

คำพูดนั้นทำให้ปลายฟ้าหันกลับไปมองเขาอีกครั้ง

“...ว่าทำไมถึงออกแบบสองเมนูนี้ให้เป็นคู่กัน” เขาวางถ้วยขนมลงบนโต๊ะ แล้วทอดตามองอยู่อย่างนั้น “เหตุผลไม่มีอะไรซับซ้อน ผมแค่หารสชาติขั้วตรงข้าม”

“ขั้วตรงข้าม...”

“ขั้วตรงข้าม ที่ไม่ใช่คู่กัน แต่เข้ากัน”

เขาขยายความต่อให้ แต่ปลายฟ้าก็ยังไม่กระจ่างแก่ใจ ทว่าแน่ชัดแล้วว่าเขาเป็นคนออกแบบเมนูให้กับรีสอร์ต ลายมือที่เขียนบนกระดานในครัวคือลายมือของเขาอย่างไม่ต้องสงสัย...ลายมือของคนถนัดซ้าย แต่ลายมือที่อยู่บนป้ายคล้องคอขวดบรั่นดีนั้นแตกต่างออกไป ปลายฟ้าจึงเอียงคอมอง ด้วยความสงสัยจนเขตต์เห็นแล้วส่งคำถามด้วยรอยยิ้ม

“คุณมองอะไรอยู่”

“เอ่อ...” นักเขียนสาวเม้มริมฝีปาก ก่อนส่งยิ้มแห้งๆ กลับ “ฉันกำลังสงสัยว่าลายมือแบบคาลิกราฟีที่อยู่บนป้ายบรั่นดีไม่เหมือนกับลายมือของคุณที่อยู่บนป้ายเหล้าในคลังสมบัติของคุณ”

ชายหนุ่มขมวดคิ้ว “เหล้าในคลัง...”

“เหล้าที่มีป้ายชื่อเขียนว่า ‘น้ำตาล’ ค่ะ”

เขาเพ่งมองเธอแล้วนิ่งเงียบไป “ไม่เหมือนหรอก” บอกแล้วเลื่อนขวดบรั่นดีมาให้เธอเห็นป้ายใกล้ๆ “เพราะป้ายใบนี้ เป็นลายมือของพ่อของผมเอง”

พอได้ยินแล้วปลายฟ้าอดทึ่งไม่ได้ เรื่องความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับเหล้า เขาคงได้ต้นแบบมาจากพ่อของเขา “เหล้าขวดนี้ผ่านมาตั้งสามสิบสองปีแล้ว แต่น้ำหมึกที่คุณพ่อเขียนไว้ยังชัดเจนอยู่... จะมีซีดจางตามเวลาบ้างแค่บางส่วนแสดงคุณเก็บรักษาไว้อย่างดี”

ชายหนุ่มยกยิ้มที่มุมปาก “จริงๆ แล้วที่มันซีดเป็นบางส่วนไม่เกี่ยวกับเวลา”

คำพูดของเขาสร้างเครื่องหมายคำถามในหัวให้ปลายฟ้า “คุณหมายถึงน้ำหนักมือที่เขียนไม่สม่ำเสมอหรือคะ”

“เปล่า... แต่พ่อผสมหมึกพิเศษ หมึกทำเฉพาะป้ายเหล้าขวดนี้” ดวงตาสีนิลส่องประกายคล้ายกำลังเล่านิทานแฟนตาซีให้เธอฟัง

หญิงสาวนตกอยู่ในภวังค์ ภาพของลายเส้นบนป้ายชื่อเหล้าขวดนั้นในคลังสมบัติของเขาลอยขึ้นมาให้หัว

“แล้วคุณเข้ใช้หมึกของคุณพ่อด้วยใช่ไหมคะ”

ชายหนุ่มพยักหน้ายิ้ม มองเธอด้วยแววตาเอ็นดู “วิธีการผสมหมึกเหมือนกัน แต่สิ่งผสมในหมึกไม่เหมือนกัน”

ปลายฟ้ากระพริบตาปริบๆ อีกฝ่ายเห็นเป็นเรื่องน่าขำที่ทำให้เธอมึนงงเหมือนกำลังขบคิดโจทย์คณิตศาสตร์ในหัว ซึ่งเป็นวิชาที่เธอทำคำแนนได้แย่ที่สุด

“ก็เลยให้ผลลัพธ์เรื่องน้ำหนักความชัดของหมึกไม่เท่ากันหรือคะ”

เขาสบสายตาเธอนิ่ง แต่แล้วก็ใช้นิ้วคลี่หัวคิ้วที่ขมวดเป็นโบของเธอให้ห่างออกจากกัน “คุณอย่าปวดหัวกับเรื่องนี้เลย เดี๋ยวจะเขียนนิยายตอนต่อไปไม่ออกนะ”

“ฉันอยากมีพรสวรรค์แบบคุณบ้างจัง ทั้งผสมเหล้า แล้วก็ผสมหมึก” ปลายฟ้าไม่ได้พูดเพื่อเยินยอ แต่เธอชื่นชมเขาด้วยใจจริง

“คุณก็มีพรสวรรค์ของคุณนี่” เขาคลี่ยิ้ม “คุณเขียนเก่ง”

“เขียนเก่ง? ยังไงหรือคะ”

“เอ่อ...” ชายหนุ่มทำหน้าราวกับเผลอเปิดกล่องลับแพนโดรา เขาแลบลิ้นเลียริมฝีปากตัวเอง “ที่คุณเขียน...มัน...”

นั่นเขากำลังเขินหรือเปล่านะ ด้วยความสงสัย ปลายฟ้าจึงขยับเข้าไปมองหน้าเขาให้ชัดขึ้นอีกนิด แต่ชายหนุ่มหันหน้าหนี ทว่าใบหูของเขาเริ่มขึ้นสีแดงชัดเจน

“มันทำไมคะ” เธอถามเพราะอยากรู้

“มัน...” เขาสูดลมหายใจเข้าเฮือกใหญ่ แล้วเอ่ยประโยคที่ทำให้เธอเองก็หน้าแดงว่า “มันทำให้ผม...มีอารมณ์”

จากนั้นหันมาสบตาเธอตรงๆ “โคตรมีอารมณ์”