ปลายฟ้า นักเขียนแนววิชาการจำต้องมาเขียนนิยายอิโรติกตามใบสั่งแฟนเก่า มิสชั่นนี้ว่าไม่ง่ายแล้ว แต่ชีวิตดันผลักเธอให้ไปรู้จัก 'เขาคนนั้น' ที่ลวงเธอให้รับดีลเป็นเพื่อนแลกประสบการณ์บนเตียง เพียงเพื่อใช้เธอเป็นนกต่อล่อเหยื่อ

พระเอกนิยายสุดปลายฟ้า - บทที่ 6 คุณหนังเหนียว แต่กรามผมแข็งแรง 2/3 โดย ณ มหรรณพ @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ดราม่า,ชาย-หญิง,ไทย,รัก,ผู้ใหญ่,อิโรติก,สืบสวน ,ดราม่า,โรมานซ์,โรมานซ์สืบสวน,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

พระเอกนิยายสุดปลายฟ้า

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ดราม่า,ชาย-หญิง,ไทย,รัก,ผู้ใหญ่

แท็คที่เกี่ยวข้อง

อิโรติก,สืบสวน ,ดราม่า,โรมานซ์,โรมานซ์สืบสวน

รายละเอียด

พระเอกนิยายสุดปลายฟ้า โดย ณ มหรรณพ @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ปลายฟ้า นักเขียนแนววิชาการจำต้องมาเขียนนิยายอิโรติกตามใบสั่งแฟนเก่า มิสชั่นนี้ว่าไม่ง่ายแล้ว แต่ชีวิตดันผลักเธอให้ไปรู้จัก 'เขาคนนั้น' ที่ลวงเธอให้รับดีลเป็นเพื่อนแลกประสบการณ์บนเตียง เพียงเพื่อใช้เธอเป็นนกต่อล่อเหยื่อ

ผู้แต่ง

ณ มหรรณพ

เรื่องย่อ

เมื่อนิตยสารสารคดีที่ ปลายฟ้า เป็นนักเขียนประจำปิดตัว ทำให้ปลายผ้าต้องหันเหจากการเขียนแนววิชาการ ไปต้องเลี่ยนแนวไปเป็นนักเขียนนิยาย เพื่อหาเงินเลี้ยงดู แม่และน้องสาว โดยเฉพาะแม่ของเธอต้องรับการผ่าตัดตาในสิ้นปี ปลายฟ้าจึงเขียนนิยายรัก แล้วนำไปให้ กรินทร์ คนรักเก่าที่เป็นซีอีโอของสำหนักพิมพ์อักษรารัญจวนช่วยพิจารณา แต่กรินทร์ไม่ให้ผ่านเพราะแนวเรื่องไม่ตรงกันแนวของอักษรารัญจวนที่เน้นขายแนวนิยายอิโรติก

 แต่เพราะกรินทร์ยังมีใจให้ปลายฟ้า ด้วยความรักที่หลงเหลือ จึงให้ปลายฟ้าเขียนนิยายอิโรติกโดยที่มีเขาเป็นพระเอก และเธอเป็นนางเอก แลกกับเงินค่าจ้างที่เขาจะจ่ายให้เธอเป็นรายเดือนแต่ปลายฟ้ามีปมกับเรื่องเซกส์เพราะเคยถูก เปลว พ่อเลี้ยงล่วงละเมิดในวัยเด็กและมักมีอาการทางประสาทกำเริบหากถูกกระตุ้น ทว่าด้วยเงินที่กรินทร์เสนอให้ จึงทำให้ปลายฟ้าตอบรับงาน แต่เพราะกลัวว่าจะเขียนให้ถึงตอนจบไม่ได้ ปลายฟ้าจึงตั้งใจหางานเสริม และเธอก็ได้งานแม่บ้านรีสอร์ตที่มีชื่อว่า Beyond The Horizon โดยบังเอิญจากแม่บ้านคนเก่าที่ลาออกกระทันหัน

ที่รีสอร์ตนี้ ปลายฟ้าต้องทำงานเป็นแม่บ้านประจำโซนวิลล่าการ์เด้น โดยมี แหวว หัวหน้าแม่บ้านเป็นคนคุมงาน เธอมีหน้าที่ดูแลทำความสะอาดและอำนวยความสะดวกให้แขกประจำโซน ซึ่งหนึ่งในแขกที่เธอต้องดูและคือ เข้ เจ้าของห้องหมายเลข 114 ที่เขาแอบเลี้ยงแมวโดยมีแค่เธอและเขาเท่านั้นที่รู้ นอกจากแหววแล้ว ปลายฟ้าได้เจอ ชิด บาร์เทนเดอร์ที่คอยสอนงานในห้องอาหารให้เธอ 

ด้วยงานแม่บ้านนี้เองที่ปลายฟ้าจะยึดไว้เป็นอาชีพเสริมจนกว่าเธอจะเขียนนิยายอิโรติกให้กรินทร์จบ แต่มีเหตุเกิดขึ้นกับปลายฟ้าคือเธอเหยียบหางแมวที่คุณเข้เลี้ยงไว้ที่ริมสระน้ำ จนทำให้เธอตกสระ แต่เข้ก็ช่วยเธอไว้ได้ทัน ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้เข้รู้ว่าเธอต้องรับงานเขียนนิยายอิโรติกให้กรินทร์ แต่เธอไม่มีประสบการณ์เรื่องบนเตียง(แบบคู่รัก) เข้เลยเสนอว่าถ้าปลายฟ้ามาเป็นเพื่อนคุยให้เขา เขาจะเล่าประสบการณ์บนเตียงให้ฟัง ข้อตกลงแรกระหว่างปลายฟ้าและเข้จึงเริ่มขึ้น

สารบัญ

พระเอกนิยายสุดปลายฟ้า-บทนำ ต้องคำสาบ,พระเอกนิยายสุดปลายฟ้า-บทที่ ๑ นักเขียนตามใบสั่ง,พระเอกนิยายสุดปลายฟ้า-บทที่ ๒ Beyond The Horizon 1/2,พระเอกนิยายสุดปลายฟ้า-บทที่ ๒ Beyond The Horizon 2/2,พระเอกนิยายสุดปลายฟ้า-บทที่ ๓ แม่บ้านคนใหม่ 1/3,พระเอกนิยายสุดปลายฟ้า-บทที่ ๓ แม่บ้านคนใหม่ 2/3,พระเอกนิยายสุดปลายฟ้า-บทที่ ๓ แม่บ้านคนใหม่ 3/3,พระเอกนิยายสุดปลายฟ้า-บทที่ ๔ ดีลที่หนึ่ง 1/3,พระเอกนิยายสุดปลายฟ้า-บทที่ ๔ ดีลที่หนึ่ง 2/3,พระเอกนิยายสุดปลายฟ้า-บทที่ ๔ ดีลที่หนึ่ง 3/3,พระเอกนิยายสุดปลายฟ้า-บทที่ ๕ Rum and Vanilla 1/3,พระเอกนิยายสุดปลายฟ้า-บทที่ 5 Rum and Vanilla 2/3,พระเอกนิยายสุดปลายฟ้า-บทที่ 6 Rum and Vanilla 3/3,พระเอกนิยายสุดปลายฟ้า-บทที่ 6 คุณหนังเหนียว แต่กรามผมแข็งแรง 1/3,พระเอกนิยายสุดปลายฟ้า-บทที่ 6 คุณหนังเหนียว แต่กรามผมแข็งแรง 2/3,พระเอกนิยายสุดปลายฟ้า-บทที่ ๖ คุณหนังเหนียว แต่กรามผมแข็งแรง 3/3,พระเอกนิยายสุดปลายฟ้า-บทที่ ๗ It's just not a glass of milk 1/2,พระเอกนิยายสุดปลายฟ้า-บทที่ ๗ It's just not a glass of milk 2/2,พระเอกนิยายสุดปลายฟ้า-บทที่ ๘ Second life 1/3,พระเอกนิยายสุดปลายฟ้า-บททึ่ 8 Second life 2/3,พระเอกนิยายสุดปลายฟ้า-บทที่ ๘ Second life 3/3,พระเอกนิยายสุดปลายฟ้า-บทที่ ๙ Second deal 1/2,พระเอกนิยายสุดปลายฟ้า-บทที่ ๙ Second deal 2/2,พระเอกนิยายสุดปลายฟ้า-บทที่ ๑๐ Amaretto Vanilla 1/2,พระเอกนิยายสุดปลายฟ้า-บทที่ ๑๐ Amaretto Vanilla 2/2

เนื้อหา

บทที่ 6 คุณหนังเหนียว แต่กรามผมแข็งแรง 2/3

นักเขียนสาวในร่างแม่บ้านเก็บความสงสัยไว้ แล้วบ่ายหน้าสู่ห้องพักโซนการ์เด้นที่ทิวต้นตะแบกต้นใหญ่พร้อมใจกันโปรยดอกไม้สวยลงมาสร้างพรมดอกไม้สีม่วงสวยให้เธอตลอดทาง จนมาหยุดยืนหน้าห้องหมายเลข 222 และเมื่อกดกระดิ่ง ประตูก็ถูกเปิดรับโดยมีเจ้าเบอร์เบินโผล่หน้ามาทักทายก่อนเจ้าของห้อง

“เครื่องดื่มที่คุณสั่งค่ะ” แม่บ้านสาวบอกแล้วจะเดินเข้าไปวางให้ในห้อง แต่ร่างสูงรับถาดไปถือไว้เอง

“เข้ามาก่อนสิ” เขาเบี่ยงตัวเปิดทางให้เธอ “ผมมีอะไรให้คุณลองชิมด้วย”

“แต่ยังไม่ถึงเวลาดีลนะคะ”

ชายหนุ่มยกข้อมือดูเวลา “คุณเลิกงานหนึ่งทุ่มนี่นะ เหลือเวลาอีกสิบห้านาที ถ้างั้นผมมีฝุ่นให้คุณเข้ามาปัดกวาดเช็ดถูอยู่บ้าง”

ปลายฟ้าลอบถอนหายใจ เพราะคำพูดของแหววยังประทับอยู่ในหัว การห่างเขาสักวันสองวันไม่ได้ช่วยลดคำครหา แต่ยังดีกว่าถูกสงสัยจนทำให้ดีลระหว่างเขาและเธอถูกเปิดเผย

“จริงๆ แล้วฉันอยากขอเว้นดีลสักคืน ฉันอยากใช้เวลาเขียนนิยายให้เต็มที่”

“งั้นหรือ” รอยยิ้มของเขาหดแคบลง “ได้สิ...แต่พรุ่งนี้เป็นต้นไปผมจะไม่อยู่รีสอร์ตสักพัก”

“คุณจะไปไหนหรือคะ” ปลายฟ้าส่งเสียงแปลกใจ “หรือว่าคุณต้องกลับแล้ว”

“ถ้าใช้คำว่ากลับ สำหรับผมหมายถึงกลับมาที่ แต่ที่ผมบอกว่าไม่อยู่ หมายถึงผมจะไปทำงานที่นิวยอร์กสักพัก”

“สักพักที่ว่านานแค่ไหนคะ”

“อาจเป็นเดือน ขึ้นอยู่กับปัญหางานว่าหนักแค่ไหน”

“แล้วในกรณีที่ปัญหาหนักละคะ” ไม่รู้ทำไมถึงอยากรู้นัก แต่หากเขาไม่อยู่นานๆ ละก็ เธอจะไปหาข้อมูลฉากเซกส์ซีนได้จากใคร

“เป็นปีๆ”

“เป็นปีๆ ...” เสียงของปลายฟ้าแผ่วลง พร้อมๆ กับความรู้สึกใจแป้ว

“ขอบคุณที่เอาว้อดก้ากับโซดามาเสิร์ฟให้นะครับ” เขาบอกแล้วย่อตัวอุ้มเบอร์เบินที่กำลังตั้งอกตั้งใจไถหัวเล็กๆ ของมันกับขาหญิงสาวด้วยมือข้างที่เหลือ “กู้ดไนท์”

“ถ้าฉันไม่อยู่เป็นเพื่อนคุยกับคุณคืนนี้ก่อนคุณไปนิวยอร์ก...” หญิงสาวเม้มริมฝีปาก “ฉันคงไม่ได้ชิมอะไรที่คุณอุตส่าห์รอฉันมาทั้งวันใช่ไหมคะ”

ดวงตาสีนิลส่องประกายขึ้นมา “ใช่ และผมรับรองว่ามันคุ้มที่คุณสละเวลาการเขียนนิยายแน่นอน”

เธอไม่คาดหวังว่าจะได้กินอะไรพิสดาร แต่การตอบรับคำเชิญก่อนเขาเดินทางไกล ก็เป็นเรื่องที่ควรทำไม่ใช่หรือ “ถ้าอย่างนั้น... คืนนี้ฉันใช้เวลากับคุณให้คุ้มค่า”

เจ้าของดวงตาสีนิลส่องประกาย เบี่ยงตัวเองเปิดทางให้หญิงสาวก้าวขาเข้าไปในห้องที่เธอจำได้ว่าเก็บกวาดทุกอย่างเรียบร้อยดีแล้วเมื่อช่วงบ่ายตอนเขาไม่อยู่ แต่ตอนนี้บนโต๊ะกระจำหน้าโซฟามีโน้ตบุ๊คและกองเอกสารมากมาย ข้างๆ ก็แคตตาล็อกเรือยอชต์และโมเดลเรือยอชต์ไม้จำลองขนาดจิ๋ว

หากคิดดูให้ดี สัปดาห์ที่ผ่านมา ชายหนุ่มก็ไม่ได้เรียกใช้เธอถี่เกินควรอย่างที่คุณแหววคอยจับผิด โดยเฉพาะช่วงบ่ายที่เขาจะออกจากรีสอร์ตแล้วกลับมาอีกทีก็หัวค่ำ บางวันก็ดึกดื่นเที่ยงคืน บางวันก็มาถึงช่วงเช้ามืดในสภาพคนที่ยังไม่สร่างเมา

“ขอโทษที่ที่ทำห้องรก ผมกำลังเก็บข้าวของใส่กระเป๋าเดินทางน่ะ” เหมือนเขาอ่านใจเธออก

“แล้วมีอะไรให้ฉันช่วยเก็บไหมคะ” ด้วยตำแหน่งหน้าที่ที่ถูกว่าจ้าง ปลายฟ้าจึงต้องเสนอตัว เธอนั่งพับเพียบกับพื้นแล้วช่วยเขาเรียงแฟ้มเอกสารบนโต๊ะกลางชุดโซฟา แต่ร่างสูงกลับเดินเข้ามายกกองเอกสารพวกนั้นขึ้นแล้วบอกเธอว่า

“ช่วยเดียวที่คุณทำได้คือ ช่วยนั่งรอเฉยๆ”

แต่ปลายฟ้าก็ไม่ได้ทำแค่นั่งรอ เพราะในตอนที่เธอหาที่หาทางเหมาะบนผืนพรมแล้วหย่อนตัวนั่งลงพับเพียบ เจ้าเบอร์เบินก็เดินเข้ามานอนหมอบบนหน้าตักพร้อมกับส่งเสียงร้องใส่พลางกระพริบตาปริบๆ เธอจึงลูบหัวให้ราวกับอ่านใจมันออก

“ผมรู้แล้วล่ะว่าถ้าผมไม่อยู่ ผมจะฝากมันไว้ที่ใคร ดีจังที่คุณไม่เกลียดมันที่มันทำคุณจมน้ำ” เขาส่งเสียงพูดพลางหยิบนั่นจับนร่เรียงใส่กระเป๋าเดินทางจนหมด แล้วกลับมาหย่อนตัวนั่งบนผืนพรมห่างตรงช่องว่างระหว่างโต๊ะกับโซฟา

“แต่ฉันทำมันเจ็บก่อนนะคะ มันต่างหากที่ไม่เกลียดหรือกลัวฉันเลย”

“เบอร์เบินรู้ว่าคุณไม่ได้ตั้งใจ แต่ที่กัดคุณเพราะสัญชาติญาณของสัตว์ทำงาน”

“เป็นการป้องกันตัวเองโดยธรรมชาติของมัน” ปลายฟ้าเสริม “พอถูกทำร้าย ก็เลยตอบสนองรวดเร็วแบบอัตโนมัติ”

“โดยการกัด” เขาคลี่ยิ้มถาม

“ถ้าไม่กัด ฉันก็คงเหยียบหางมันต่อไปโดยไม่รู้ตัว”

“นั่นสินะ เจ็บก็ต้องบอกว่าเจ็บ แต่สัตว์พูดภาษาคนไม่ได้ก็เลยใช้วิธีของมันบอกให้รู้”

เขาพูดพลางหันไปทอดสายตามองเรือยอตช์จำลองที่วางบนโต๊ะ แล้วใช้นิ้วเรียวดันท้ายเรือให้เคลื่อนที่ไปด้านหน้าเหมือนเด็กชายเล่นของเล่นชิ้นโปรดข้างหน้า

“การสื่อสารของสัตว์เรียบง่ายไม่ซับซ้อนเหมือนมนุษย์ค่ะ” ปลายฟ้าพูดต่อขณะเกาคางให้เจ้าขนฟูที่แหงนคอหลับตาพริ้มอิ่มสุข “แต่ไม่ว่าจะเป็นสัตว์หรือคน ภาษากายที่ใช้บอกรักหรือเกลียดกลับไม่แตกต่างกัน”

“ไม่แตกต่างกันยังไง” น้ำเสียงของอีกฝ่ายเหมือนสนอกสนใจ

“ก็อย่างเช่น...” ปลายฟ้าเงยหน้าสบตามองเจ้าของคำถาม “สัมผัสเบาๆ จูบ หรือกอด แม้แต่การดูแลทำความสะอาดให้กันเหมือนตอนที่แมวเลียขนให้กันไงคะ แบบนั้นคือการแสดงความรัก”

“คนก็ทำแบบนั้นนี่นะ จูบ กอด แล้วก็...เลีย”

หากเป็นคนอื่นที่ไม่ใช่เจ้าพ่อเรื่องเล่าบนเตียงคนนี้ละก็ ปลายฟ้าคงฟังแบบผ่านหูไปแล้ว ยิ่งเขาแลบลิ้นเลียริมฝีปาก มองเธอด้วยดวงตาเจ้าเล่ห์แบบนี้ การใกล้ชัดด้วยพันธะที่ผูกกันพอทำให้เธอพอรู้ว่า...เขาแค่อยากแหย่เธอเล่นแน่นอน กระนั้นนักเขียนสาวก็อดหน้าร้อนผ่าวไม่ได้

“แต่หลายครั้ง มนุษย์เราก็ทำไปเพราะแค่ความต้องการทางเพศเท่านั้น” เธอแย้งกลับโดยไม่สบสายตา

“แล้วสัมผัสของมนุษย์แบบไหนที่เรียกว่าสัมผัสของความรัก ไม่ใช่แค่ต้องการแค่เรื่องเพศล่ะ”

ปลายฟ้าสูดลมหายใจเข้า แล้วหันหน้าไปทางอื่นหลีกเลี่ยงการสบสายตาที่ส่องประกายวิบวับ “ฉันไม่รู้หรอก ไม่ได้เชี่ยวชาญทางนี้ ถ้าถามเกี่ยวกับพฤติกรรมสัตว์ ก็จะตอบให้ได้”

เขาหัวเราะในลำคอ “ไม่เชี่ยวชาญแต่อาจหาญรับงานเขียนนิยายอิโรติกให้เขา ผมดูไม่ออกเลยว่าคุณเป็นผู้หญิงแบบไหนกันแน่”

“ฉันก็ดูคุณไม่ออกเหมือนกันค่ะ แล้วดูเหมือนคุณจะชอบเรือยอตช์เอามากๆ” เธอแอบส่งตาค้อนใส่ แล้วพยักเพยิดหน้าไปทางเรือยอชจำลองที่ถูกปลายนิ้วแกร่งหมุนเล่นไปมา

“ไม่ได้ชอบแต่แรก แต่รับแรงบันดาลใจมาจากพ่อ”

“แรงบันดาลใจจากพ่อ” ความขุ่นใจแปรเปลี่ยนเป็นความใคร่รู้

“พ่อของผมฝันว่าอยากพาผมกับแม่ล่องเรือยอช์ตไปดูดาวกลางทะเล แต่ท่านทั้งสองเสียชีวิตไปก่อนที่จะได้ทำตามที่ฝัน”

คล้ายว่าเห็นแสงไฟที่สะท้อนในดวงตาสีนิลคู่นั้นเต้นไหว แต่เพียงแค่ชั่ววินาทีเดียวเท่านั้นก่อนที่เขาจะลุกขึ้นเดินไปเปิดตู้เย็น

“ผมบอกว่าจะให้คุณกินอะไรนี่นา”

บอกเธอแล้วกลับมานั่งที่เดิมพร้อมกล่องกระดาษสีขาว ภายในมีขนมเค้กที่ตกแต่งด้วยวิปครีมสีขาวและสตรอว์เบอรี่สีแดงสดฉ่ำวาวหนึ่งผลใหญ่ประดับด้านบน ดูน่ากินจนคนที่กินข้าวยังไม่อิ่มดีรู้สึกน้ำลายสอขึ้นมา

“ที่ผมให้คุณเอาว้อดก้ากับโซดามาเพราะอยากให้คุณลองชิมมันกับเค้กชิ้นนี้” พูดพลางเขยิบมานั่งชิดกับเธอในระยะที่ปลายเข่าชนกัน แล้วใช้ช้อนพลาสติกที่ใส่มาในกล่องตักผลไม้สุกฉ่ำสีแดงขึ้นเสมอริมฝีปากอิ่ม

“ฉัน...ฉันกินเองได้ค่ะ”

ปลายฟ้ารีบผละมือจากคางเล็กๆ ของเบอร์เบินเพื่อจะเอาช้อนมาถือไว้เอง แต่เจ้าแมวน้อยร้องประท้วงแล้วพลิกตัวยกสองขาหน้าขึ้นคว้าข้อมือของหญิงสาวกลับไปกอดรวดเร็วราวกับตะปบนก

“มือของคุณไม่ว่างแล้วล่ะ”

หญิงสาวลอบถอนหายใจ ระอาเจ้าขนฟูที่ไม่ยอมให้หยุดเอาใจ เธอจึงยอมอ้าปากรับสตรอว์เบอรี่ผลโตสีแดงก่ำ ซึ่งแค่กัดคำแรกความหวานฉ่ำก็กระจายทั่วโพรงปาก

“อย่าเพิ่งกลืนสตรอว์เบอรี่หมด เหลือไว้บางส่วนก่อน” พูดกับเธอเสร็จก็รินว้อดก้าผสมโซดาในแก้วใส่น้ำแข็ง จากนั้นยื่นเข้าใกล้เสมอริมฝีปากอิ่ม “อมว้อดก้าไว้ในปาก จากนั้นเคี้ยวสตรอว์เบอรีชิ้นที่เหลือแล้วค่อยกลืน”

ปลายฟ้าโบกมือไปมาแทนการตอบปฏิเสธ แต่ดวงตาสีนิลที่ส่องประกายวาววับคู่นั้นบอกเธอว่าปฏิเสธอย่างไรก็ไม่เป็นผล หญิงสาวจึงยอมจำนนด้วยความรู้สึกหวั่นกลัว

แต่แล้วเมื่อลิ้มรสชาติของสุราสีใสผสมกับความหอมหวานของผลไม้สีแดงสุกฉ่ำ ดวงตากลมโตของปลายฟ้าก็โตขึ้นอีกระดับ เพราะกลิ่นและรสชาติจางๆ ของเหล้าว้อดก้าผสานความซ่าของโซดานั้น ช่างไปกันได้ดีกับความหอมหวานของสตรอว์เบอรีจนน่าประหลาดใจว่าเธอเพิ่งกลืนเหล้าไป

“ไม่ใช่ผลไม้ทุกอย่างที่จะเข้ากับเหล้าได้” เขาอ่านความสงสัยได้จากใบหน้าของเธอ จากนั้นตัดเค้กขนาดพอดีคำส่งให้ถึงปากหญิงสาว “แล้วก็ไม่ใช่กับขนมหวานทุกอย่างด้วยเหมือนกัน”

“คุณหาอะไรที่เข้ากันเจอได้ยังไง”

“หนึ่งคือโชคชะตา สองคือเวลา และสามคือการท้าทาย” เขาพูดราวกับเป็นเรื่องธรรมดาสามัญ “แล้วตอนนี้คุณก็ทำข้อที่สามแล้ว บอกผมหน่อยสิว่า สตรอว์เบอรี่ว้อดก้าจิบแรกของคุณมีรสชาติเป็นไงบ้าง”

ปลายฟ้าค่อยๆ เรียงลำดับความรู้สึกในหัวออกมา “สัมผัสแรกคือความสดชื่นจากโซดา ตามด้วยความอบอุ่นของวอดก้าที่ค่อย ๆ คลายออก และปิดท้ายด้วยความหอมหวานของสตรอว์เบอร์รี่ที่ติดอยู่บนปลายลิ้น คล้ายดอกไม้ค่อยๆ ผลิบานข้ามคืนฤดูหนาวสู่เช้าของฤดูใบไม้ผลิ”

ปลายฟ้าหยุดพูดไปชั่วขณะ จดจ้องนัยน์ตาคนฟังที่มีแสวงสะท้อนดวงไฟวูบไหวอยู่ภายใน จากนั้นเอ่ยประโยคสุดท้าย

“จิบแรกของแก้วนี้... ทำให้ฉันคิดถึงเด็กสาวที่ผ่านคืนหนาวเหน็บแต่เธอมีพลังแห่งความสดใสและกล้าฝันถึงการค้นพบโลกใหม่”

เขามองเธอด้วยดวงตาเปี่ยมรอยยิ้ม “ผมชอบที่คุณเปรียบเทียบจัง ฟังดูคล้ายคำสรรเสริญทวยเทพยังไม่รู้ บางทีผมน่าจะให้ลองเหล้าหลายๆ แบบแล้วบอกความรู้สึกให้ผมฟัง”

“ความจริง...ฉันเกลียดเหล้า...” เธอบอกเขาแล้วหลุบตาลง มองเบอร์เบินที่หลับตาพริ่มส่งเสียงครางในลำคอ