โชคชะตาพาปลายฟ้าผู้หวาดกลัวเรื่องบนเตียงให้มารับงานเขียนนิยายอิโรติกตามใบสั่งของแฟนเก่า แต่ฟ้าก็ใจดีส่งชายหนุ่มผู้มากประสบการณ์เซกส์มาให้ โดยที่ดันลืมเตือนว่าเขาเป็นผู้ต้องสงสัยคดีฆาตกรรมคนรักตัวเอง
ดราม่า,ชาย-หญิง,ไทย,รัก,ผู้ใหญ่,อิโรติก,สืบสวน ,ดราม่า,โรมานซ์,โรมานซ์สืบสวน,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
พระเอกนิยายสุดปลายฟ้าโชคชะตาพาปลายฟ้าผู้หวาดกลัวเรื่องบนเตียงให้มารับงานเขียนนิยายอิโรติกตามใบสั่งของแฟนเก่า แต่ฟ้าก็ใจดีส่งชายหนุ่มผู้มากประสบการณ์เซกส์มาให้ โดยที่ดันลืมเตือนว่าเขาเป็นผู้ต้องสงสัยคดีฆาตกรรมคนรักตัวเอง
เมื่อนิตยสารสารคดีที่ ปลายฟ้า เป็นนักเขียนประจำปิดตัว ทำให้ปลายผ้าต้องหันเหจากการเขียนแนววิชาการ ไปต้องเลี่ยนแนวไปเป็นนักเขียนนิยาย เพื่อหาเงินเลี้ยงดู แม่และน้องสาว โดยเฉพาะแม่ของเธอต้องรับการผ่าตัดตาในสิ้นปี ปลายฟ้าจึงเขียนนิยายรัก แล้วนำไปให้ กรินทร์ คนรักเก่าที่เป็นซีอีโอของสำหนักพิมพ์อักษรารัญจวนช่วยพิจารณา แต่กรินทร์ไม่ให้ผ่านเพราะแนวเรื่องไม่ตรงกันแนวของอักษรารัญจวนที่เน้นขายแนวนิยายอิโรติก
แต่เพราะกรินทร์ยังมีใจให้ปลายฟ้า ด้วยความรักที่หลงเหลือ จึงให้ปลายฟ้าเขียนนิยายอิโรติกโดยที่มีเขาเป็นพระเอก และเธอเป็นนางเอก แลกกับเงินค่าจ้างที่เขาจะจ่ายให้เธอเป็นรายเดือนแต่ปลายฟ้ามีปมกับเรื่องเซกส์เพราะเคยถูก เปลว พ่อเลี้ยงล่วงละเมิดในวัยเด็กและมักมีอาการทางประสาทกำเริบหากถูกกระตุ้น ทว่าด้วยเงินที่กรินทร์เสนอให้ จึงทำให้ปลายฟ้าตอบรับงาน แต่เพราะกลัวว่าจะเขียนให้ถึงตอนจบไม่ได้ ปลายฟ้าจึงตั้งใจหางานเสริม และเธอก็ได้งานแม่บ้านรีสอร์ตที่มีชื่อว่า Beyond The Horizon โดยบังเอิญจากแม่บ้านคนเก่าที่ลาออกกระทันหัน
ที่รีสอร์ตนี้ ปลายฟ้าต้องทำงานเป็นแม่บ้านประจำโซนวิลล่าการ์เด้น โดยมี แหวว หัวหน้าแม่บ้านเป็นคนคุมงาน เธอมีหน้าที่ดูแลทำความสะอาดและอำนวยความสะดวกให้แขกประจำโซน ซึ่งหนึ่งในแขกที่เธอต้องดูและคือ เข้ เจ้าของห้องหมายเลข 222 ที่เขาแอบเลี้ยงแมวโดยมีแค่เธอและเขาเท่านั้นที่รู้ นอกจากแหววแล้ว ปลายฟ้าได้เจอ ชิด บาร์เทนเดอร์ที่คอยสอนงานในห้องอาหารให้เธอ
ด้วยงานแม่บ้านนี้เองที่ปลายฟ้าจะยึดไว้เป็นอาชีพเสริมจนกว่าเธอจะเขียนนิยายอิโรติกให้กรินทร์จบ แต่มีเหตุเกิดขึ้นกับปลายฟ้าคือเธอเหยียบหางแมวที่คุณเข้เลี้ยงไว้ที่ริมสระน้ำ จนทำให้เธอตกสระ แต่เข้ก็ช่วยเธอไว้ได้ทัน ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้เข้รู้ว่าเธอต้องรับงานเขียนนิยายอิโรติกให้กรินทร์ แต่เธอไม่มีประสบการณ์เรื่องบนเตียง(แบบคู่รัก) เข้เลยเสนอว่าถ้าปลายฟ้ามาเป็นเพื่อนคุยให้เขา เขาจะเล่าประสบการณ์บนเตียงให้ฟัง ข้อตกลงแรกระหว่างปลายฟ้าและเข้จึงเริ่มขึ้น
แต่ปลายฟ้าไม่คาดคิดเลยว่าเธอจะกลายเป็นผู้เล่นคนหนึ่งในเกมล่าหาคำตอบของปริศนาฆาตกรรมในรีสอร์ทแห่งนี้
บทที่ ๑๔ ความจริงอีกด้าน
ท่ามกลางความสับสนไหลวนในบรรยากาศของห้องพัก ปลายฟ้านั่งจ้องแผงยาไดอะซีแพมในมืออย่างไม่อยากเชื่อสายตา หัวใจเต้นระรัวเมื่อภาพอดีตเลวร้ายย้อนกลับเข้ามาเหมือนคลื่นพายุที่ซัดกระหน่ำ เธอสูดลมหายใจลึกหลายครั้ง พยายามกดความหวาดหวั่นที่ก่อตัวขึ้นภายใน
"คุณเข้…ทำไมถึงมีของแบบนี้อยู่ในห้องคุณ" ปลายฟ้ากระซิบถามตัวเอง น้ำเสียงสั่นสะท้าน ขณะที่เบอร์เบินส่งเสียงร้องเบาๆ อย่างเป็นกังวล
ทันใดนั้น เสียงกระดิ่งห้องที่ดังกะทันหันทำให้ปลายฟ้าสะดุ้งเฮือก เธอรีบเอาไดอะซีแพมกลับไปเก็บที่เดิม แล้วเดินไปที่ประตู แต่เมื่อมองผ่านช่องตาแมวปลายฟ้าสูดลมหายใจเข้าลึกเพราะไม่คาดคิดจะได้เห็นแพรวพลอยมายืนกอดอกหลังประตูบานนี้
ปลายฟ้าตัดสินเพิกเฉย ด้วยมั่นใจว่าแพรวพลอยยังไม่รู้เรื่องของเธอ ทว่าความมั่นใจของนักเขียนสาวสั่นคลอนอย่างรวดเร็วในตอนที่แพรวพลอยหยิบโทรศัพท์ของตนขึ้นมาโทรหาใครสักคน แล้วเสียงเรียกเข้าก็ดังจากโทรศัพท์ของปลายฟ้าแทบจะทันที
บังเอิญ มันเป็นเรื่องบังเอิญ! ปลายฟ้าคิดแบบนั้น จนกระทั่งแพรวพลอยยื่นหน้าจอเครื่องของตัวเองเข้าใกล้ช่องตาแมว ราวกับรู้ว่ามีคนยืนสังเกตการณ์อยู่ด้านใน และจงใจให้เห็นว่าชื่อของหมายเลขที่กำลังโทรหานั้นคือ...ปลายฟ้า
แพรวพลอยรู้ถึงการมีอยู่ของเธอและจงใจมาหาเธออย่างนั้นหรือ จะด้วยจุดประสงค์ใดก็สุดแล้วแต่จะหยั่ง ปลายฟ้าจึงเปิดประตูรับให้รู้ถึงความต้องการของหญิงสาวผู้มีใบหน้าและผิวพรรณเทียบเคียงระดับดารานำหญิงของเมืองไทย
“สวัสดี...ปลายฟ้า” ฝ่ายนั้นส่งคำทักทายมาพร้อมกับรอยยิ้มที่ไม่ถึงกับเผยให้เห็นฟันชัดเจน
“สวัสดีค่ะ...คุณแพรวพลอย” เจ้าของชื่อยังคงมีรอยยิ้มให้ เป็นรอยยิ้มนี้ทำให้ปลายฟ้ารู้สึกเหมือนเธอกำลังถูกท้าทายอย่างเงียบๆ
"ฉันรู้เรื่องของเธอจากคุณแหววแล้ว..." แพรวพลอยเอ่ยเสียงเรียบ มองปลายฟ้าดวงตาคมที่กำลังสืบเสาะค้นหาอะไรก็ตามจากเธอ “แต่เธอคงไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับฉัน...” เหมือนจงใจหยุดพูดขณะมองเลยไหล่ของเธอไป
“คุณเขตต์ไม่อยู่ค่ะ” ไม่อยู่นานแล้วนับจากวันที่เธอเห็นเขามีปากเสียงกับแพรวพลอย
ดวงตาของแพรวพลอยวกกลับมามองใบหน้าของปลายฟ้าอีกครั้ง “ฉันขอเข้าไปคุยในห้องได้ไหมเป็นเรื่องสำคัญต้องหาที่คุยเป็นการส่วนตัว”
เหตุผลที่บอกมาก็นับว่ามีความหนักแน่นพอ แต่ห้องนี้ไม่ใช่กรรมสิทธิ์ของเธอ ใครจะเข้าจะออก ก็ควรได้รับความยินยอมจากเจ้าของห้องก่อน
ฟ่อ!!!
ทันในนั้น เสียงขู่ฟ่อก็ดังขึ้นจากลำคอของเบอร์เบิน ร่างกายของมันโค้งเกร็ง หลังโก่งขนพองฟู ดวงตากลมโตหรี่ลงจับจ้องแขกแปลกหน้าอย่างไม่ไว้ใจ คล้ายแม่แมวที่พร้อมจะต่อสู้สุดชีวิตเพื่อปกป้องลูกอันเป็นที่รักของมันจากอันตรายที่กำลังคืบคลานเข้ามาTop of Form
Bottom of Form
ปลายฟ้าเห็นแล้วไม่อยากเสี่ยงให้ผิวสวยเนียนของแขกสาวมีริ้วรอยเพราะคมเล็บแหลมของเบอร์เบิน ปลายฟ้าจึงบอกกับแขกสาวว่า
“ไปหาที่คุยที่เงียบๆ ข้างนอกดีกว่าค่ะ”
แพรวพลอย ปลายตามองทางเจ้าเหมียวเพียงชั่วแวบ แล้วยกยิ้มที่มุมปาก “อย่างนั้นก็ได้ ถ้าอย่างนั้นก็ตามฉันไปที่ลานจอดรถหน้าล็อบบี้”
บอกเธอแล้วหมุนตัวเดินลงบันได้ด้วยก้าวเดินเชื่องช้า แล้วหยุดยืนมองบางอย่างที่พื้นเมื่อเธอก้าวลงจากขั้นสุดท้าย “แล้วเธอจะได้รู้อีกว่าเกิดอะไรขึ้นที่นี่ ในห้องนี้ที่เธอใช้หลับนอนกับเขตต์อย่างสุขสบาย”
หัวใจของเธอเต้นถี่ สบสายตากับคนพูดเบื้องล่างแล้วผลุบเข้าห้องเพื่อหยิบคีย์การ์ด จากนั้นเทอาหารแมวทิ้งให้เบอร์เบินที่ยังเดินวนเวียนใกล้ประตูพลางส่งเสียงร้องเหมือนยังไม่วางใจ
“มาเถอะ เบอร์เบิน มากินขนมแมวเลีย” หญิงสาวหลอกล่อมันให้ห่างจากประตู เธอเขย่งปลายเท้าหยิบโหลขนมแมวเลียออกจากตู้ ไม่วายมองแผงยาไดอะซีแพมที่เธอส่งมันกลับคืนที่ แต่นานหลายนาทีกว่าที่เบอร์เบินจะยอมเดินเข้ามากินขนมจนหมดซอง
“เดี๋ยวฉันกลับมานะ” พูดพร้อมกับลูบหัวอย่างอ่อนโยน แล้วก็เดินออกจากห้อง มุ่งตรงไปยังลานจอดรถหน้าล็อบบี้ ที่ผู้ถือหุ้นสาวยืนกอดอดข้างรถเก๋งยุโรปคันโตสีขาว
“ขึ้นรถสิ”
“เราจะไปไหนกันหรือคะ” ที่เธอบอกว่าหาที่คุยข้างนอก ไม่ได้หมายความว่าต้องออกไปนอกเขตรีสอร์ต
“ไปสถานที่ที่จะให้เธอตาสว่าง”
หากมัวแต่ถามอยู่อย่างนี้ ก็ไม่ได้ช่วยไขความกระจ่างให้เสียที ปลายฟ้าจึงขึ้นรถตามคำบอก แล้วปล่อยให้แพรวพลอยที่เข้ามานั่งในตำแหน่งหลังพวมาลัย นำเธอไปยังจุดหมายที่ปลายฟ้าไม่อาจคาดเดา
แต่เมื่อมาถึงจุดหมาย นักเขียนสาวก็ยิ่งงุนงงด้วยเพราะแพรวพลอยพาเธอมายังโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งในจังหวัดระยอง
“ลงรถสิแล้วตามฉันมา”
อีกฝ่ายอ่านคำถามที่ฉายจากแววตาของปลายฟ้าออก จึงบอกเธอแล้วคว้ากระเป๋าแบรนด์เนมคล้องแขน จากนั้นลงจากรถแล้วก็เดินนำเธอเข้าสู่สถานพยาบาลยาม ส่งยิ้มทักทายเจ้าหน้าที่ที่เดินผ่านไปมาด้วยราวกับคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี
จนนักเขียนสาวถูกนำมาหยุดหน้าห้องผู้ป่วยห้องหนึ่ง และป้ายชื่อผู้ป่วยก็ทำให้ปลายฟ้าถึงกับกลั้นลมหายใจ
“น้ำตาล...”
“มองเข้าไปสิ” แพรวพลอยพยักเพยิดไปช่องกระจกที่กรุบนบานประตูแล้วถอยเท้าหลีกทางให้
ด้านในนั้น เธอเห็นแหววในชุดนอกเครื่องแบบเป็นครั้งแรก และเป็นครั้งแรกที่เธอเห็นริ้วรอยความโศกเศร้าอาบเต็มใบหน้า และก็เป็นครั้งแรกเช่นกันเธอได้รู้ว่าหญิงสาวที่สงสัยใคร่อยากรู้มาตลอดว่าคือใครนั้นกำลังนอนทอดร่างนิ่งมีท่อพลาสติกยาวเชื่อมโยงกับร่างกาย โดยหัวหน้าแม่บ้านสาวใหญ่กำลังใช้ผ้าเช็ดไปตามร่างกาย
“เขาทำให้น้ำตาลอยู่ในสภาพนั้น”
“เขา...” ปลายฟ้ารำพึงคำพูดตาม แต่ยังอุทิศดวงตากลมทอดมองไปยังภาพเบื้องหน้า
“เขตต์... เขาเมายาจนคลั่งแล้วทำร้ายร่างกายน้ำตาลไม่พอ ยังผลักน้ำตาลที่ท้องได้เกือบหกเดือนตกบันไดหัวกระแทกพื้นวิลล่า ก็คงจะหึงหวงที่น้ำตาลไปได้เสียกับเสี่ยปองจนท้อง” แพรวพลอยเขยิบเข้าใกล้จนเสียงพูดดังใกล้หู “วิลล่าที่เขาใช้หลับนอนกับเธอ ก็เป็นที่ที่เขาใช้กักขังหน่วงเหนี่ยว มอมยา ข่มขืนน้ำตาลทั้ง ๆ ที่ท้องแก่ใกล้คลอดขนาดนั้น”
“มอมยา ข่มขืน...”
“ใช่” แพรวพลอยแสยะยิ้ม “เลวยิ่งกว่าเดรัจฉาน”
เธอได้ยินทุกคำพูดที่ออกจากปากแพรวพลอย ได้ยินแม้กระทั่งความเกลียดชังที่เต็มแน่นในน้ำเสียง แต่ปลายฟ้ายังคงยืนจ้องเข้าไปในห้องนิ่งงัน
“คุณแหววเคยห้ามน้ำตาลไม่ให้คบกับเขา แต่ดูเหมือนน้ำตาลจะไม่เชื่อ ฉันเองก็เคยช่วยพูด แต่ยามคนเราตกอยู่ห้วงความรัก ดวงตาก็มืดบอดเสียสนิท จะรู้ตัวอีกที คนเป็นแม่ก็สูญเสียลูกสาวคนเดียวไปอย่างไม่มีวันกลับ”
“แต่เธอยังมีเครื่องช่วยหายใจอยู่นี่คะ...” ปลายฟ้าหันไปถามด้วยเสียงสั่น “เธอยังไม่ตาย”
“ก็เป็นเหตุผลทางการแพทย์น่ะ ถ้าถอดก็เกมโอเวอร์นั่นแหละ” ริมฝีปากเคลือบสีชมพูเหยียดยิ้ม ดวงตาคู่สวยสีน้ำตาลอ่อนเต็มไปด้วยความขำขัน ทั้งที่ไม่มีอะไรน่าขำ
“ฉันก็หวังว่าเธอจะตาสว่างก่อนกลายเป็นน้ำตาลคนต่อไป”
คำเตือนจากคนที่เพิ่งได้คุยกันครั้งแรกอาจสั่นคลอนความคิดของปลายฟ้าที่มีต่อชายหนุ่ม แต่สำหรับปลายฟ้า ต่อให้สิบปากว่าก็ไม่เท่าตาเห็น แล้วเธอก็เห็นความชั่วร้ายที่เกิดกับตนมาแล้วครั้งหนึ่งในวัยเยาว์ หากแต่จะยอมให้เกิดขึ้นอีกครั้งอย่างนั้นหรือ
ไม่... ไม่มีทางให้มันเกิดขึ้นแน่ ปลายฟ้าให้คำตอบตัวเองชัดเจนในใจ ไม่ว่าจะกับเธอหรือใคร คนผิดต้องถูกลงทัณฑ์ และเธอจะเปิดโปงความชั่วร้ายนั้นเหมือนอย่างที่เคยทำกับไอ้เปลว
“ขอบคุณคุณแพรวพลอยที่ให้ปลายไม่หน้ามืดตามัวนะคะ”
แพรวพลอยส่งยิ้มกลับมา แต่แล้วรอยยิ้มนั้นก็สลายไปแทบทันทีที่มีเสียงพูดของใครคนหนึ่งดังจากด้านหลังของปลายฟ้า
“แพรวพลอย”
ปลายฟ้าหันขวับตามเสียง ดวงตาเธอเบิกกว้างเมื่อพบกับชายร่างใหญ่ในชุดเชิ้ตปกตฮาวาย ปลดกระดุมเผยสร้อยทองเส้นหนา
“เธอมาทำอะไรที่นี่” เสียงนั้นแฝงแววดูถูกดูแคลน แต่ไม่ใช่เธอที่เขาหมายถึง ดวงตาแข็งกร้าวคู่นั้นจับจ้องไปที่แพรวพลอยผู้กำลังยืนนิ่งสีหน้าเรียบเฉยอย่างท้าทาย
“แพรวก็แค่พาเพื่อนใหม่ของเขตต์มาทำความรู้จักน้ำตาล...หรือคิดว่าแพรวมีจุดประสงค์อื่นหรือคะเสี่ย” น้ำเสียงของแพรวพลอยนิ่งเรียบ แต่ทุกคำกลับแฝงด้วยคมมีดที่พร้อมกรีดลึกเข้าไปในจิตใจของคนฟัง
เสี่ยปองหัวเราะในลำคอเสียงต่ำ ดวงตาเขาเต็มไปด้วยความโกรธเคืองและชิงชังอย่างไม่ปิดบัง “ปากเก่งแบบนี้ให้ตลอดรอดฝั่งเถอะยายตัวดี”
“แพรวดีอยู่แล้วค่ะ” หญิงสาวส่งเสียงหัวเราะเย็นชา “เสี่ยสิคะยังดีอยู่มั้ย เห็นทุกวันนี้แค่ก้าวออกจากบ้าน ก็เหมือนกับมีชนักติดหลังเน่าๆ ไม่ใช่หรือคะ”
สีหน้าของเสี่ยปองแดงก่ำด้วยโทสะ ปลายฟ้ามองทั้งสองสลับไปมา และรับรู้ได้ทันทีว่า ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ไม่ได้เป็นเพียงสามีภรรยาธรรมดาอย่างที่ใครๆ เข้าใจ
“เธอคิดหรือว่าจะชนะเกมนี้”
แพรวพลอยแค่นยิ้มขยับเข้าไปใกล้สามี จ้องตาเขาด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความสมเพชและเกลียดชัง “จะชนะหรือเปล่าก็ไม่รู้สิคะเสี่ย แต่ดูเหมือนว่าแพรวจะเป็นคนคุมเกม”
เสี่ยปองกัดกรามแน่น ก่อนจะหัวเราะเยาะดังลั่นราวกับคนเสียสติ “ดี...ดีมาก แพรวพลอย คุมให้ดีล่ะ แต่จำไว้ว่าถ้าฉันแพ้ เธอก็ต้องแพ้เหมือนกัน!”
ปลายฟ้ายืนนิ่ง จับอารมณ์ความขัดแย้งที่ไหลวนอยู่ระหว่างทั้งสองอย่างชัดเจน เธอรู้สึกเหมือนตกอยู่ท่ามกลางสมรภูมิที่มองไม่เห็น แต่ทุกการโจมตีกลับแหลมคมและทิ่มแทงลึกกว่ากระสุนปืนหลายเท่านัก โดยเฉพาะแววตามาดร้ายของเสี่ยที่เพ่งมองสลับระหว่างแพรวพลอยและเธอไม่ต่างจากไส้ชนวนปืนใหญ่ที่มอดไหม้เข้าใกล้ดินปืนไปทุกที
“กลับกันเถอะปลายฟ้า”
ข้อมือของนักเขียนถูกกระชับแล้วดึงให้เดินตามไปขึ้นรถ สายฝนเริ่มโปรยสายลงมแล้วในตอนที่แพรวพลอยหมุนพวงมาลัยออกสู่ท้องถนน หากไร้ซึ่งเสียงก้านปัดน้ำฝน ความเงียบภายในห้องโดยสารเต็มไปด้วยอารมณ์ที่ยากจะอธิบายก็สร้างความอึดอัดใจให้ปลายฟ้าได้มากโข เพราะหญิงสาวที่นั่งหลังพวงมาลัยคล้ายมีความคิดที่อ่านยากซ่อนอยู่
“เธอตาสว่างแล้วใช่ไหมปลายฟ้า เห็นน้ำตาลเป็นแบบนั้นแล้วก็หนีไปให้ไกลจากเขา” เป็นประโยคแรกของแพรวพลอยตั้งแต่บึ่งรถออกจากโรงพยาบาล
“แต่... ปลายติดสัญญาจ้างแม่บ้านกับเขา...”
“เขาจ้างเธอเท่าไหร่ ฉันจะจ้างเธอต่อด้วยค่าจ้างที่มากกว่าเขตต์ให้เธอแน่นอน” คำถามของแพรวพลอยคล้ายโยนเหยื่อลงในน้ำลึก
ปลายฟ้าหันไปมองดวงตาสวยคู่นั้นอย่างไม่แน่ใจ “คุณหมายถึงเงินหรือคะ”
แพรวพลอยยกมุมปากขึ้นอย่างมีเลศนัย “เงินน่ะเป็นเรื่องเล็ก ฉันให้ได้มากกว่าที่เธอคิดไว้มากนัก และที่สำคัญ เธอจะปลอดภัย ไม่ต้องอยู่ในวังวนของความอันตรายแบบนั้นอีก”
ปลายฟ้าเม้มริมฝีปากแน่น เธอไม่ปฏิเสธทันที แต่ก็ไม่ตอบรับเช่นกัน ทุกอย่างมันดูเร็วเกินไป และความรู้สึกภายในใจก็ปั่นป่วนมากเกินกว่าจะตัดสินใจได้ทันที
“ไม่ต้องรีบตอบ แต่หากเธอร่วมมือกับฉัน เราอาจกำจัดคนชั่วออกจากรีสอร์ตของฉันได้”
“ถ้าเป็นเรื่องไม่ดี ต่อให้เป็นใคร ปลายก็อยู่ข้างความถูกต้องยุติธรรม”
แพรวพลอยคลี่ยิ้ม “ขอให้เธอเลือกอยู่ถูกข้างก็แล้วกัน”
“แล้วถ้าปลายบอกกับคุณแพลรวพลอยว่า ปลายเพิ่งเจอไดอะซีแพมหนึ่งแผงบนตู้แขวนผนังเหนือบาร์เหล้าในห้องคุณเข้ คุณแพรวพลอยว่าปลายเลือกอยู่ข้างไหนคะ”
รอยยิ้มของอีกฝ่ายเลือนหายไป “เธอกำลังจะบอกอะไรฉัน”
“ไดอะซีแพมเป็นยาแก้อาการวิตกกังวล แต่ก็มีบางคนก็กินหยุดความกระวนกระวายจากการรักษาอาการติดเหล้า” ปลายฟ้าหยุดพูดขณะมองริมฝีปากทรงกระจับเหยียดออกเป็นเส้นตรง ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนคู่นั้นก็จับจ้องเธอเหมือนนางเสือคอยขย้ำเหยื่อ “คุณแพรวพลอยคิดว่าคุณเข้มีไดอะซีแพมติดไว้เพราะต้องการเลิกเหล้าหรือเปล่าคะ”
“คนอย่างเขาน่ะหรือจะเลิกเหล้า” เสียงตอบค่อนไปทางแข็ง “ฉันเจอเขาครั้งแรกที่บาร์เหล้า เขาเป็นบาร์เทนเดอร์ฝึกหัดที่นั่นตอนเรียนมหาวิยาลัย ชีวิตเขาวนเวียนอยู่กับขวดเหล้านั่นแหละ”
ปลายฟ้าเอียงคอมอง “คุณแพรวพลอยรู้จักคุณเข้มานานแค่ไหนคะ”
“นานพอที่จะรู้ว่าเขามีขี้แมงวันขึ้นตรงไหนที่ของลับ”
เป็นคำเปรียบเปรยหรือไม่ปลายฟ้าไม่แน่ใจ แต่มั่นใจว่าความรู้สึกเจ็บปวดที่เกิดขึ้นกลางอกเป็นเพราะคำพูดนั้น
“ถ้าอย่างนั้น คุณแพรวพลอยคิดว่าเขามีไดอะซีแพมเก็บไว้ทำไมคะ”
คนถูกถามหันหน้ามามองเธอด้วยสายคาดคะเน แต่แล้วก็เหยียดปากพูดก่อนหันไปมองท้องถนน “ฉันจะบอกให้เธอรู้ไว้อย่าง ผลตรวจเลือดของน้ำตาลหลังจากวันเกิดบอกว่ามีปริมาณไดอะซีแพมในเลือดปริมาณสูง แถมวันนั้น เขาก็มีอาการมึนเมาเหมือนคนเมายาด้วย เธอว่าเขามียานั่นไว้เพื่อเลิกเหล้าหรือไง”
“คุณแพรพวลอยคิดว่า...เขาเป็นคนใส่ไดอะซีแพมในเหล้าให้น้ำตาลกินหรือคะ...”
คิ้วเรียงเส้นสวยของแพวพลอยขยับเข้าหากัน “ไม่ใช่เขาแล้วจะเป็นใคร”
“เป็นคนที่รู้จักไดอะซีแพมดีกว่าทุกคนในรีสอร์ต”
ปลายฟ้าตอบเสียงราบเรียบ พยายามปกปิดความรู้สึกให้มิดชิดภายใต้ใบหน้า แต่หน้าอกของแพรวพลอยสะท้อนลับขึ้นลงอย่างเห็นได้ชัดเจน
“ดูเหมือนว่าเราต้องหาโอกาสคุยแลกเปลี่ยนกันให้มากขึ้น”
หญิงสาวใบหน้าสวยสมบูรณ์แบบพูดทิ้งท้ายไว้แค่นั้น แล้วปล่อยความเงียบทำงานแทน กระทั่งมาถึงหน้ารีสอร์ต ปลายฟ้าก็กำลังก้าวขาลง สายตากลับสะดุดเข้ากับร่างคุ้นตาที่กำลังยืนรออยู่บริเวณล็อบบี้ จึงเดินเข้าไปเพื่อยืนยันว่าตัวเองตาไม่ฝาด
“พี่รินทร์...” แล้วเธอก็ไม่ได้ตาฝาด
ขอบคุณนักอ่านทุกท่านที่ติดตามนะคะ เราจะมาเจอกันอีกสองอาทิตย์ข้างหน้า รอเค้าด้วยน้า