ปลายฟ้า นักเขียนแนววิชาการจำต้องมาเขียนนิยายอิโรติกตามใบสั่งแฟนเก่า มิสชั่นนี้ว่าไม่ง่ายแล้ว แต่ชีวิตดันผลักเธอให้ไปรู้จัก 'เขาคนนั้น' ที่ลวงเธอให้รับดีลเป็นเพื่อนแลกประสบการณ์บนเตียง เพียงเพื่อใช้เธอเป็นนกต่อล่อเหยื่อ

พระเอกนิยายสุดปลายฟ้า - บทที่ ๕ Rum and Vanilla 1/3 โดย ณ มหรรณพ @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ดราม่า,ชาย-หญิง,ไทย,รัก,ผู้ใหญ่,อิโรติก,สืบสวน ,ดราม่า,โรมานซ์,โรมานซ์สืบสวน,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

พระเอกนิยายสุดปลายฟ้า

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ดราม่า,ชาย-หญิง,ไทย,รัก,ผู้ใหญ่

แท็คที่เกี่ยวข้อง

อิโรติก,สืบสวน ,ดราม่า,โรมานซ์,โรมานซ์สืบสวน

รายละเอียด

พระเอกนิยายสุดปลายฟ้า โดย ณ มหรรณพ @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ปลายฟ้า นักเขียนแนววิชาการจำต้องมาเขียนนิยายอิโรติกตามใบสั่งแฟนเก่า มิสชั่นนี้ว่าไม่ง่ายแล้ว แต่ชีวิตดันผลักเธอให้ไปรู้จัก 'เขาคนนั้น' ที่ลวงเธอให้รับดีลเป็นเพื่อนแลกประสบการณ์บนเตียง เพียงเพื่อใช้เธอเป็นนกต่อล่อเหยื่อ

ผู้แต่ง

ณ มหรรณพ

เรื่องย่อ

เมื่อนิตยสารสารคดีที่ ปลายฟ้า เป็นนักเขียนประจำปิดตัว ทำให้ปลายผ้าต้องหันเหจากการเขียนแนววิชาการ ไปต้องเลี่ยนแนวไปเป็นนักเขียนนิยาย เพื่อหาเงินเลี้ยงดู แม่และน้องสาว โดยเฉพาะแม่ของเธอต้องรับการผ่าตัดตาในสิ้นปี ปลายฟ้าจึงเขียนนิยายรัก แล้วนำไปให้ กรินทร์ คนรักเก่าที่เป็นซีอีโอของสำหนักพิมพ์อักษรารัญจวนช่วยพิจารณา แต่กรินทร์ไม่ให้ผ่านเพราะแนวเรื่องไม่ตรงกันแนวของอักษรารัญจวนที่เน้นขายแนวนิยายอิโรติก

 แต่เพราะกรินทร์ยังมีใจให้ปลายฟ้า ด้วยความรักที่หลงเหลือ จึงให้ปลายฟ้าเขียนนิยายอิโรติกโดยที่มีเขาเป็นพระเอก และเธอเป็นนางเอก แลกกับเงินค่าจ้างที่เขาจะจ่ายให้เธอเป็นรายเดือนแต่ปลายฟ้ามีปมกับเรื่องเซกส์เพราะเคยถูก เปลว พ่อเลี้ยงล่วงละเมิดในวัยเด็กและมักมีอาการทางประสาทกำเริบหากถูกกระตุ้น ทว่าด้วยเงินที่กรินทร์เสนอให้ จึงทำให้ปลายฟ้าตอบรับงาน แต่เพราะกลัวว่าจะเขียนให้ถึงตอนจบไม่ได้ ปลายฟ้าจึงตั้งใจหางานเสริม และเธอก็ได้งานแม่บ้านรีสอร์ตที่มีชื่อว่า Beyond The Horizon โดยบังเอิญจากแม่บ้านคนเก่าที่ลาออกกระทันหัน

ที่รีสอร์ตนี้ ปลายฟ้าต้องทำงานเป็นแม่บ้านประจำโซนวิลล่าการ์เด้น โดยมี แหวว หัวหน้าแม่บ้านเป็นคนคุมงาน เธอมีหน้าที่ดูแลทำความสะอาดและอำนวยความสะดวกให้แขกประจำโซน ซึ่งหนึ่งในแขกที่เธอต้องดูและคือ เข้ เจ้าของห้องหมายเลข 114 ที่เขาแอบเลี้ยงแมวโดยมีแค่เธอและเขาเท่านั้นที่รู้ นอกจากแหววแล้ว ปลายฟ้าได้เจอ ชิด บาร์เทนเดอร์ที่คอยสอนงานในห้องอาหารให้เธอ 

ด้วยงานแม่บ้านนี้เองที่ปลายฟ้าจะยึดไว้เป็นอาชีพเสริมจนกว่าเธอจะเขียนนิยายอิโรติกให้กรินทร์จบ แต่มีเหตุเกิดขึ้นกับปลายฟ้าคือเธอเหยียบหางแมวที่คุณเข้เลี้ยงไว้ที่ริมสระน้ำ จนทำให้เธอตกสระ แต่เข้ก็ช่วยเธอไว้ได้ทัน ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้เข้รู้ว่าเธอต้องรับงานเขียนนิยายอิโรติกให้กรินทร์ แต่เธอไม่มีประสบการณ์เรื่องบนเตียง(แบบคู่รัก) เข้เลยเสนอว่าถ้าปลายฟ้ามาเป็นเพื่อนคุยให้เขา เขาจะเล่าประสบการณ์บนเตียงให้ฟัง ข้อตกลงแรกระหว่างปลายฟ้าและเข้จึงเริ่มขึ้น

สารบัญ

พระเอกนิยายสุดปลายฟ้า-บทนำ ต้องคำสาบ,พระเอกนิยายสุดปลายฟ้า-บทที่ ๑ นักเขียนตามใบสั่ง,พระเอกนิยายสุดปลายฟ้า-บทที่ ๒ Beyond The Horizon 1/2,พระเอกนิยายสุดปลายฟ้า-บทที่ ๒ Beyond The Horizon 2/2,พระเอกนิยายสุดปลายฟ้า-บทที่ ๓ แม่บ้านคนใหม่ 1/3,พระเอกนิยายสุดปลายฟ้า-บทที่ ๓ แม่บ้านคนใหม่ 2/3,พระเอกนิยายสุดปลายฟ้า-บทที่ ๓ แม่บ้านคนใหม่ 3/3,พระเอกนิยายสุดปลายฟ้า-บทที่ ๔ ดีลที่หนึ่ง 1/3,พระเอกนิยายสุดปลายฟ้า-บทที่ ๔ ดีลที่หนึ่ง 2/3,พระเอกนิยายสุดปลายฟ้า-บทที่ ๔ ดีลที่หนึ่ง 3/3,พระเอกนิยายสุดปลายฟ้า-บทที่ ๕ Rum and Vanilla 1/3,พระเอกนิยายสุดปลายฟ้า-บทที่ 5 Rum and Vanilla 2/3,พระเอกนิยายสุดปลายฟ้า-บทที่ 6 Rum and Vanilla 3/3,พระเอกนิยายสุดปลายฟ้า-บทที่ 6 คุณหนังเหนียว แต่กรามผมแข็งแรง 1/3,พระเอกนิยายสุดปลายฟ้า-บทที่ 6 คุณหนังเหนียว แต่กรามผมแข็งแรง 2/3,พระเอกนิยายสุดปลายฟ้า-บทที่ ๖ คุณหนังเหนียว แต่กรามผมแข็งแรง 3/3,พระเอกนิยายสุดปลายฟ้า-บทที่ ๗ It's just not a glass of milk 1/2,พระเอกนิยายสุดปลายฟ้า-บทที่ ๗ It's just not a glass of milk 2/2,พระเอกนิยายสุดปลายฟ้า-บทที่ ๘ Second life 1/3,พระเอกนิยายสุดปลายฟ้า-บททึ่ 8 Second life 2/3,พระเอกนิยายสุดปลายฟ้า-บทที่ ๘ Second life 3/3,พระเอกนิยายสุดปลายฟ้า-บทที่ ๙ Second deal 1/2,พระเอกนิยายสุดปลายฟ้า-บทที่ ๙ Second deal 2/2,พระเอกนิยายสุดปลายฟ้า-บทที่ ๑๐ Amaretto Vanilla 1/2,พระเอกนิยายสุดปลายฟ้า-บทที่ ๑๐ Amaretto Vanilla 2/2

เนื้อหา

บทที่ ๕ Rum and Vanilla 1/3

“คุณแหววปฏิเสธที่จะเป็นพยานให้เรา เธอปักใจเชื่อว่าคุณเข้คือคนทำร้ายคุณน้ำตาล และยืนยันหนักแน่นว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับภาพแอบถ่ายหน้าจอโน้ตบุ๊คของคุณแม้แต่น้อย”


วีรชัย ทนายความที่เขาเชื่อมั่นและไว้ใจเตือนผ่านการทำวีดิโอคอลสามสายระหว่างเขากับ ลียง เพื่อนสนิทที่ควบตำแหน่งเชฟใหญ่พ่วงด้วยผู้ถือหุ้นคนสำคัญของรีสอร์ต


“คุณแหววเชื่อ แต่คุณแหววไม่เห็น” เขตต์ทอดถอนลมหายใจเสียงยาวแล้วกอดอกเอนหลังพิงกับพนักโซฟา


“นั่นหมายความว่าเขาเกลียดมึงขนาดที่ถึงไม่เห็นกับตา ก็เชื่อว่ามึงทำร้ายลูกเขาไงล่ะไอ้เข้” ลียงกล่าวเสียงขุ่น “นอกจากชิดแล้ว ตอนนี้มีคนในรีสอร์ตคนไหนเชื่อใจมึงบ้าง”


“นั่นสิ... จะเหลือใครเชื่อใจกูบ้าง” เขาเหมือนถามตัวเองมากกว่าต่อบทสนทนากับอีกฝ่าย ไม่ว่าจะหันไปทางไหน ก็ดูเหมือนไม่มีใครคิดอยากยื่นมือเข้ามาช่วย ก็แน่ล่ะ ใครจะอยากแกว่งเท้าหาเสี้ยน ในเมื่อผู้กุมอำนาจใหญ่ที่นี่ยังไม่ใช่เขา


“ที่คุณลียงพูดมาก็มีส่วนนะครับ ถ้าเป็นไปได้ ผมแนะนำให้คุณเขตต์เก็บตัว”


“คุณวีรชัยกำลังจะบอกว่า มึงเพิ่งกลับไปเมืองไทยใหม่ๆ ก็อย่าเพิ่งออกไปเงี่ยนที่ไหน เก็บตัวให้อยู่แต่ในห้องมากที่สุดเท่าที่ทำได้”


คำว่า ‘เงี่ยน’ ถูกพูดอย่างไม่เคอะเขินจากปากของลียง แม้จะเป็นลูกครึ่งไทยฝรั่งเศส แต่สกิลการใช้ภาษาไทยเรียกได้ว่าเท่าเทียมเนทีฟสปีกเกอร์เช่นเขา


“แล้วถ้ากูหิวขึ้นมาล่ะ ใจคอจะให้กูแดกแต่น้ำประปาประทังชีวิตอย่างเดียวหรือไง” เขตต์ย้อนถาม แล้วหันไปทางทนายของตน “อย่างน้อย ให้ผมได้ออกไปหาอะไรใส่ท้อง หรือออกไปรับแสงเดือนแสงตะวันบ้าง ไม่งั้นกว่าจะขึ้นศาล ผมคงเฉาตาย”


“ถ้ามึงหิวข้าว มึงก็เรียกรูมเซอร์วิส ถ้ามึงหิวแสง มึงก็ออกไปยืนสังเคราะห์แสงที่ระเบียง แต่ถ้ามึงหิวตับ มึงก็ควรสำเหนียกว่ายังไม่ใช่เวลาเหมาะที่มึงจะแดกตับใคร และควรมาใส่ใจกับการเตรียมตัวมาแก้ไขปัญหาด่วนที่นิวยอร์กกับกูเดือนหน้า”


คนตอบคือลียงเช่นเคย ส่วนทนายความคนเก่งที่มักปรากฏกายในชุดสูทสีเทาเข้มนั้นขยับแว่นตากรอบหนาสีดำแล้วเงยหน้าจากสมุดโน้ตเพื่อสรุปใจความสำคัญของบทสนทนา


“เอาเป็นว่าคุณเขตต์ปฏิสัมพันธ์กับคนอื่นให้น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะเรายังไม่รู้แน่ชัดว่าใครเป็นคนลอบเข้าห้องคุณเขตต์เพื่อภาพถ่ายหน้าจอโน้ตบุ๊ค”


“จะเป็นใครไปได้อีก ถ้าไม่ใช่คนที่มีคีย์การ์ดห้องของมึง แล้วไอ้คนคนนี้ต้องรู้สหัสโน้ตบุ๊คของมึงด้วย ไม่งั้นก็คงเข้าไปค้นประวัติหาข้อมูลกูเกิลของมึงไม่ได้ แถมกล้องวงจรปิดตัวที่พอจะใช้เป็นหลักฐานก็ดันไฟช็อตในคืนนั้นไปเสียดื้อๆ”


มันอาจดูเหมือนเรื่องบังเอิญ แต่กลิ่นไม่ชอบมาพากลลอยอยู่ในอากาศตั้งแต่ภาพแอบถ่ายนั้นโผล่ขึ้นมา คนที่มีคีย์การ์ดห้องเขามีไม่มาก และคนที่รู้รหัสโน้ตบุ๊ก...ก็มีแค่น้ำตาล


ทั้งที่เคยบอกเขาว่า ‘ฉันรักคุณคนเดียว!’


“ผมอยากให้คุณเขตต์ระวังตัวไว้ให้มากที่สุด ตอนนี้เรายังไม่รู้ว่าใครอยู่ฝ่ายไหน”


เสียงของวีรชัยตัดผ่ายความคิด ดึงเขาออกจากดวงตาข้นแค้นของหญิงสาวคนรักที่ฉายซ้ำในหัว “ผมปฏิสัมพันธ์กับใครไม่ได้เลยหรือครับ”


“ให้น้อยที่สุดเท่าที่ทำได้ก็แล้วกันครับ” ทนายความหนุ่มถอนหายใจแล้วตอบเสียงจริงจัง


เขตต์ลอบถอนหายใจ ก็เพราะไม่รู้ว่าใครอยู่ฝ่ายใครมิใช่หรือ เขาจึงควรกวาดคนที่เกี่ยวข้องให้มาอยู่ในสายตา โดยเฉพาะคนที่อยู่ปกครองของคุณแหวว ที่ประกาศชัดเจนว่าจะช่วยแพรวพลอยลากคอเขาเข้าไปนอนในเรือนจำ


“ผมจะพยายาม”


คำตอบแบบอ้อมๆ ของเขาไม่ถูกใจคนฟังอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะลียงที่แยกเขี้ยวแล้วออกคำสั่งก่อนออกจากการประชุมออนไลน์ด้วยท่าทีเกรี้ยวกราดว่า


“เก็บจู๋ของมึงให้ดีด้วย!”


“ผมว่าฟังคำเตือนของคุณลียงไว้บ้างก็ดี” วีรชัยก็คงคิดเหมือนกันเรื่องเก็บจู๋ แต่เสดงออกสุภาพกว่า “ส่วนเรื่องการตามตัวแม่บ้านคนเก่า ถ้าได้ความคืบหน้าแล้วผมจะรีบรายงานทันที”


แต่การประชุมสายกับทั้งคู่ก็จบไปแบบไม่มีอะไรคืบหน้ามากนัก ทั้งหลักฐานและพยานยังไม่ชัดเจนพอให้พิสูจน์ว่าเขาบริสุทธิ์จริง แม้คู่กรณีจะเป็นคู่สามีภรรยาที่เป็นผู้ถือหุ้นร่วมกิจการก็ตาม แต่ดูเหมือนว่าพวกเขาต้องการเหยียบเขาให้จมดิน


ฝ่ายชายยังพอดูออกว่าไม่ได้ชอบขี้หน้าเขาเท่าไหร่ แต่ฝ่ายหญิงนั้นคืออดีตรักในรั้วมหาวิทยาลัยที่ทั้งเธอและเขาต่างก็เคยคลั่งรักกันและกันมาก่อนในวันวาน


ก็แค่เคยรักกัน...


เขตต์แสยะยิ้มคนเดียวท่ามกลางแสงไฟสีเหลืองนวลในห้องที่เงียบงัน ภาพอดีตระหว่างเขากับแพรวพลอยค่อยๆ ไหลย้อนเข้ามาในหัว เป็นความรักในรั้วมหาวิทยาลัยที่รุนแรง เผลอไม่ได้ก็เผาใจ


แต่ความบอบช้ำในวันนั้นก็กลายเป็นส่วนผสมสำคัญในการบ่มจิตใจเขา คล้ายวิสกี้ชั้นดีที่ต้องอาศัยเวลาเพาะบ่มถึงจะได้กลิ่นและรสที่ลึกล้ำ เขาลุกจากโซฟา เดินไปยังตู้โชว์สุราที่เขาและบิดาเคยตามหาด้วยกันเพื่อสะสม แต่ขวดไม่เคยมีราคาต่ำกว่าหลักแสน แต่ก็ยังน้อยค่ากว่าหยดแห่งความทรงจำที่กาลเวลามอบให้


เขาเลือกขวดหนึ่ง เทวิสกี้ลงในแก้วใส เสียงน้ำรินดังก้องในห้องเงียบงัน ก่อนเขาจะจิบซ้ำแล้วซ้ำเล่า ให้ความขมร้อนช่วยปลอบประโลมหัวใจในยามค่ำ


เพลงจากเครื่องเล่นขับกล่อมเบาๆ สร้างบรรยากาศพอให้วิสกี้จิบแล้วไม่เศร้าเกินไป แต่แล้วความเหงาก็ยังคืบคลานเข้ามาอยู่ดี


ถ้าไม่มีเรื่องร้ายเกิดขึ้นกับน้ำตาล ตอนนี้เธอคงซุกตัวอยู่ในอ้อมแขนของเขา ขอไออุ่นจากร่างกายเขาบนโซฟาตัวนี้...บนเตียงใหญ่หลังนั้น...ที่เคาน์เตอร์บาร์...และใต้ฝักบัว


ทุกตารางนิ้วในห้องนี้ต่างเต็มไปด้วยความทรงจำ แต่แม้เขาจะมอบความรักให้เธอเต็มหัวใจ มันก็ไม่เคยพอสำหรับความต้องการของน้ำตาล


ตุบ!


เสียงของบางอย่างหล่นกระทบพื้น ทำให้เขตต์สะดุ้งหลุดจากภวังค์ หันไปตามเสียง เห็นเบอร์เบิน เจ้าแมวขนฟูกำลังใช้จมูกดมสมุดโน้ตสีเทาที่วางอยู่ใกล้โมเดลเรือยอชต์บนพื้น


สมุดเล่มนั้น...ของแม่บ้านคนใหม่ สมุดที่เขา ‘ยึด’ ไว้ เพราะเธอเป็นหนึ่งใน ‘คนของคุณแหวว’ ที่เขากำลังจับตามอง


“ต้องคืนสมุดให้เธอคืนนี้แล้วสินะ...” เขาพึมพำกับตัวเอง ก่อนจะย่อตัวเก็บเรือยอชต์ไม้ขึ้นมาวางบนโต๊ะ แล้วหยิบสมุดขึ้นมากรีดปลายนิ้วไปตามขอบปกเนื้อเรียบ


ทันทีที่นึกถึงใบหน้าซีดเผือดราวกระดาษของเจ้าของสมุดเมื่อต้องมานั่งฟังเขาเล่าเรื่องฉากรักสุดร้อนแรงเมื่อคืน เขาก็หลุดหัวเราะในลำคอ แต่พอเปิดอ่านประโยคที่เธอเขียนบรรยายฉากเร่าร้อนจากจินตนาการลงไป เขากลับต้องกลืนน้ำลายอึกใหญ่ โดยที่คอไม่ได้แห้งอะไร


เพียงแค่คำจากลายมือเล็กเรียบร้อยของเธอ ก็ทำให้ร่างกายของเขาตื่นตัว


‘คุณมันเจ้าชู้โดยสันดาน!’


เสียงกรีดร้องของน้ำตาลกลับมาอีกครั้งในหัว รวดเร็ว ดุดัน ราวกับต้องคำสาป ภาพใบหน้าเปื้อนเลือดของเธอฉายวาบ พร้อมกับกลิ่นคาวเลือดที่เหมือนยังฝังแน่นในอากาศทุกอณู


เขารีบวางสมุด แล้วหงายฝ่ามือขึ้นดูแผลเป็นเก่าที่ยังคงอยู่ มันนูนยาวจากโคนนิ้วชี้ไปจรดข้อมือขวาเหมือนบันทึกที่ฝังลึกลงในผิวหนัง เป็นเครื่องเตือนความจำว่าเขาไม่อาจลืมเหตุการณ์วันนั้น

แม้จะพยายามแค่ไหนก็ตาม


เมี้ยว...


เบอร์เบินส่งเสียงเบาๆ แล้วใช้สองขาหน้าแตะหน้าท้องเขา ยืดคอมาดมมือของเขาด้วยความอยากรู้อยากเห็น


“อย่างน้อยฉันก็ยังมีแกใช่ไหม เบอร์เบิน” เขาพูดพร้อมจะอุ้มมันขึ้นมากอด แต่เจ้าแมวกลับกระโดดหนีไปยังประตูกระจก แล้วตะกุยเหมือนจะขอออก


“อยากออกไปเดินเล่นแล้วล่ะสิ”


เขาไม่ขัดใจแมวตัวโปรด และทันทีที่เปิดประตู เจ้าแมวก็กระโดดออกไป ไต่กิ่งตะแบกที่โน้มตัวลงมาอย่างคล่องแคล่ว ทิ้งเขาไว้กับความเงียบในห้องคนเดียว


เขตต์ยืนนิ่งมองมันอย่างอิจฉา อยากจะเป็นอิสระแบบนั้นบ้าง แต่พอหวนคิดถึงคำเตือนของวีรชัย เขาก็ถอนใจ แล้วเดินกลับไปทิ้งตัวลงบนโซฟาอีกครั้ง รินเหล้าที่เหลือใส่แก้วจนหมดขวดแล้วดื่มรวดเดียว


แต่แล้วสายลมแผ่วบางหอบกลิ่นหญ้าและป่าไม้พัดแผ่วเข้ามาแตะปลายจมูก มือที่ถือแก้วค้างไว้ตรงริมฝีปากสะดุดเล็กน้อย เพื่อหยุดฟังเสียงกิ่งไม้เสียดสีกัน เสียงนกร้องจากชายป่าไกลๆ ลอยมากระทบหัวใจ


ทุกเสียง ทุกกลิ่น คือสิ่งที่อยู่ ‘นอกห้อง’


สุดท้ายคำเตือนของลียงกับวีรชัย ก็ไม่อาจตรึงเขาไว้ได้อีกต่อไป เขตต์วางแก้วลุกขึ้น แล้วเดินออกจากห้อง บ่ายหน้าไปทางทะเล ให้ผิวกายรับแสงสีแดงฉานของตะวันยามเย็น







 


ณ มหรรณพ