หนุ่มวัย 22 ที่ไม่เคยมีรักช่วยสตริแล้วโดนรถบรรทุกส่งมายังต่างโลกเป็นเด็กกำพร้า พอมาเกิดเขาตัดสินใจทิ้งความจำเก่าๆและเป็นเด็กไปกับเพื่อนสมัยเด็กสองคนกับเพื่อนซี้ทั้งสองคนอีกหนึ่ง เมื่อเขาโตเขาก็ไปทำงานสายต่อสู้ที่ซ่อง เจ้านายให้เขาประดิษฐ์ของเล่นผู้ใหญ่แถมเปิดร้านให้จนเขายิ่งรวย สุดท้ายไปเจอราชินีที่ซ่องและเธอชวนไปอยู่ประเทศของเธอ เขาสร้างบ้าน สร้างร้านใหม่และอยู่ที่นั่นตั้งแต่นั้นมา มาดูชีวิตประจำวันของหนุ่มต่างโลกกับฮาเร็มระดับสิยคนเรื่องราวความรัก การเลี้ยงลูก การทำงานและกานต่อสู้ในเขตวัง
รัก,แอคชั่น,แฟนตาซี,ชาย-หญิง,เกิดใหม่,ต่างโลก,คลั่งรัก,ชาย-ชาย,หญิง-หญิง,ฮาเร็ม,ชาย-หญิง,หญิงรุก,yaoi,โรมานซ์,โรแมนติก,ต่อสู้,รักวัยรุ่น,เกิดใหม่,ทำงาน,สร้างตัว,ฝึกฝน,นางเอกเก่ง,พระเอกเก่ง,รัก,แฟนตาซี,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
กำพร้า ณ ต่างโลก ภาค 2หนุ่มวัย 22 ที่ไม่เคยมีรักช่วยสตริแล้วโดนรถบรรทุกส่งมายังต่างโลกเป็นเด็กกำพร้า พอมาเกิดเขาตัดสินใจทิ้งความจำเก่าๆและเป็นเด็กไปกับเพื่อนสมัยเด็กสองคนกับเพื่อนซี้ทั้งสองคนอีกหนึ่ง เมื่อเขาโตเขาก็ไปทำงานสายต่อสู้ที่ซ่อง เจ้านายให้เขาประดิษฐ์ของเล่นผู้ใหญ่แถมเปิดร้านให้จนเขายิ่งรวย สุดท้ายไปเจอราชินีที่ซ่องและเธอชวนไปอยู่ประเทศของเธอ เขาสร้างบ้าน สร้างร้านใหม่และอยู่ที่นั่นตั้งแต่นั้นมา มาดูชีวิตประจำวันของหนุ่มต่างโลกกับฮาเร็มระดับสิยคนเรื่องราวความรัก การเลี้ยงลูก การทำงานและกานต่อสู้ในเขตวัง
ภาค 1 เกิดใหม่เล็งไข่ตั้งมั่น
https://www.plotteller.com/book_reading_novel/01J6K59JBZFBKF5WR1DS8Y86Q2
วารี อดีตหนุ่ม 22 ในชีวิตที่แล้วที่มาเกิดใหม่ต่างโลกเป็นเด็กกำพร้าพร้อมเจอเด็กแฝด 2 คนที่เป็นกึ่งแมวและกึ่งแมงมุมในโลกที่คนใช้ดาบออกท่าฟันกันเหมือนกดสกิล 1 อย่างเดียว
เขาฝึกต่อสู้กับพวกเธอตั้งแต่เด็กจนสู้เก่งเกินวัยไปอย่างมาก
เขาโตมากับพวกเธอจนถึงวัยทำงานก็ชวนไปทำงานต่างประเทศด้วยเป็นผู้คุ้มกันในซ่อง
แต่เจ๊ใหญ่เห็นศักยภาพว่าผลิตของมาขายเก่งและหาจ้างคนได้ดีจึงเปิดร้านค้าให้
เขาขายของไปเรื่อยๆจนเจอเจ้าหญิงชวนไปอยู่ประเทศเธอ
เขาเลยเปิดห้างให้ใหญ่ยิ่งกว่าร้านหลายเท่าพร้อมสร้างบ้านในเขตวังคู่กับแฟนที่เยอะเป็นฮาเร็ม
มาดูชีวิตประจำวันของนักธุรกิจและเหล่าแฟนมากมายตั้งแต่แม่บ้านยันราชินี
วันวุ่นๆของพ่อแม่มือใหม่กับลูกแท้และลูกเลี้ยง
มันจะสุขสบายไปอย่างนี้ตลอดไปมั้ยหนอ
121 โทษจากโชคชะตา
“คุณตาต้องเลิกเหล้าแล้วนะ” คุณหมอสาวหน้าตาน่ารักกำลังคุยกับตาตัวผอม
“เอิ่ม… ได้ๆ หนู” คุณตาพูดแต่แกไม่คิดเชื่อฟัง และจะแอบกินเมื่อมีเวลาว่างที่ลูกเมียไม่เห็น
“หนูพูดจริงๆนะ ถ้าตาดื่มมากกว่านี้ ตับมันจะพัง ถ้าเลิกตอนนี้มันยังทัน แต่ถ้าช้ากว่านี้จะไม่ทันแล้ว และเราไม่เปลี่ยนอวัยวะภายในให้คนที่ไม่ดูแลตัวเองและมีพฤติกรรมเสี่ยง” หมอสาวพูดด้วยหน้าแน่วแน่
จากหน้าหมอที่กดดันให้ตาเลิกเหล้า คุณตาเลยคิดใหม่อีกครั้ง
“ได้” จากนั้นหน้าแกเหมือนตัดสินใจเรื่องสำคัญ
เมื่อหมอเห็นคุณตาตั้งใจก็กดนัดสำหรับตรวจตับครั้งหน้าที่คอมพิวเตอร์
“หนูนัดเดือนหน้านะ เอาล่ะคุณตา รอรับบัตรนัดด้านหน้านะคะ สวัสดีค่ะ” หมอปิดการตรวจผลวันนี้
“ขอบคุณนะครับหมอ” คุณตาลุกโดยมียายที่ดูเด็กกว่าช่วย แล้วค่อยๆเดินออกจากห้อง
จากนั้นหมอก็ดูรายละเอียดคนในคิวต่อไป
ถ้าเป็นที่โลกเก่าของวารี หมอคงต้องตรวจเลือดวัดความดันเช็คไขมันต่างๆนาๆเพื่อหาว่ามีอะไรผิดปรกติ
แต่ในโลกนี้ไม่มีอะไรแบบนั้น
แม้แต่โรคร้ายอย่างมะเร็งก็ไม่มี
แต่คนที่ป่วยส่วนใหญ่มาจากการกินอะไรบางอย่างมากเกินไป
ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องกินเหล้าจนตับพัง หรือกินหวานจนร่างกายรับไม่ไหว
และโลกนี้คนอ้วนที่ดูคลอดลูกง่ายคือคนที่เซ็กซี่
แต่การจะแบกน้ำหนักตัวเองที่เพิ่มขึ้นมาก็ต้องแข็งแรงตามร่างกายด้วย
ไม่อย่างนั้นก็จะเป็นอย่างคนไข้ที่หมอกำลังอ่านรายละเอียด
เธออ้วนขึ้นมากจนกระดูกร้าวเมื่อเดิน
มันทำให้เธอถือไม้เท้ามาเป็นปีแล้ว
แต่เท่าที่สำรวจพฤติกรรมเธอยังไม่หยุดกินไข่ต้มราดน้ำหวาน
เธอต้องพูดให้คนไข้คนนี้เข้าใจ
“เฮ้อ” หมอสาวถอนหายใจกับความดื้อของคนไข้
เธอไม่คิดว่าคนไข้หญิงคนนี้จะเปลี่ยนนิสัย
เธอกดรับคิว จอแสดงลำดับคิวขึ้นเลขคนไข้ต่อไป
เธอมองประตูรอ
เธอคิดอยากจะออกไปดู แต่มีกฎห้ามทำอย่างนั้นอยู่
มันถูกห้ามไว้เพราะคำนึงถึงอันตรายต่อบุคคลที่ฝึกยากอย่างหมอ ถ้าเกิดข้างนอกมีการทะเลาะกัน การที่หมอออกไปจะเป็นอันตรายต่อบุคลากร
ซักพักพยาบาลก็เข้ามา หมอถอนหายใจที่ไม่ต้องแหกกฎ
“หมอคะ คนไข้บอกลุกไม่ไหวแล้ว เจ็บขาแบบแปล้บๆ ข้างที่ยังดีอยู่ก็เจ็บแล้ว” พยาบาลพูดกับหมอด้วยหน้าหนักใจ
“เอาเครื่องเอ็กซ์เรย์เคลื่อนที่มา ขาอีกข้างน่าจะร้าวไปด้วยแล้ว” หมอสั่งพยาบาล
มันน่าจะเป็นเพราะขาอีกข้างที่โดนภาระน้ำหนักทั้งหมดเทเข้ามารับไม่ไหว
หมอสาวเดินออกไปหน้าห้องเจอคุณป้าร้องไห้และพยายามจะลุก
“ป้า อย่าเพิ่งลุกตอนนี้ ขาน่าจะร้าว เดี๋ยวมันจะยิ่งแย่” หมอสาวบอกด้วยเสียงที่เข้มแข็ง
“เมื่อเช้าป้ายังเดินได้อยู่เลย! พอทำไมมาแล้วมันไม่ได้อ่ะ ป้าไม่เข้าใจ!” ป้าโวยใส่หมอ
“ร่างกายป้าไม่มีกล้ามเนื้อแล้วป้าใส่น้ำหนักลงไปเยอะ มีคนไข้หลายคนเหมือนป้า ป้าต้องหยุดก่อน” หมอสั่งอีกครั้ง
ป้าฟังแล้วเลิกพยายามลุกขึ้นมา
เครื่องเอ็กซ์เรย์พกพามาถึงด้วยความรวดเร็ว
หมอวางขา วางแผ่นกั้นรังสี และทำการเอ็กซ์เรย์ทันที
และหมอดูผลเอ็กซ์เรย์ที่หลังจอ จากนั้นหันหน้าจอไปให้ป้าเห็น “ป้าเห็นเส้นดำๆเล็กๆนี้มั้ย? กระดูกส้นเท้าป้าร้าว และน่องป้าปริ นี่แหละที่ทำให้ป้าเดินไม่ได้”
“แล้วป้าต้องทำยังไงหมอ? ป้าออกกำลังกายไม่ได้แล้วถ้าเป็นแบบนี้ มีวิธีอะไรมั้ย?” ป้าอ้อนวอนกับหมอให้หมอสาวรักษาเธอ
“อืม…” หมอหาสูตรที่น่าจะรักษาได้เร็วที่สุดและไม่เจ็บตัว
จากนั้นหมอเดินเข้าห้องหยิบโทรศัพท์และกดเบอร์ภายในถึงศูนย์กำกับแพทย์
“ฉันหมอเลขที่ 6789 จะขอใช้นาโนแมชชีนต้นแบบเพื่อการรักษา” หมอสาวสั่งทางโทรศัพท์
“ตอนนี้อาจารย์มหัศศรีว่าง จะต่อสายให้นะคะ” โอเปอเรเตอร์กดโอนสายให้หมอใหญ่
เสียงเพลงรอสายดังขึ้นมา
ซักพักก็มีคนรับสาย “มหัศศรีพูดอยู่จ้า มีอะไร หมอแก้ว?”
“มีคนไข้น้ำหนักเกินจนกระดูกร้าว หนูจะขออนุญาตใช้นาโนแมชชีนเข้าไปรัดกระดูกเพื่อดามและรักษา มันจะไม่ใช้คำสั่งเยอะและไม่ซับซ้อนจนเอไอไม่สับสน มันเป็นเคสง่ายๆที่น่าลองเอาเทคโนโลยีใหม่มาใช้ หมอจะอนุญาตมั้ยคะ?” หมอแก้วอธิบายและถาม
“เธอก็รู้ว่าเรายังไม่รู้ว่าเอไอมันจะทำอะไรต่อเมื่อดามเสร็จแล้วนี่ ถูกมั้ย?” หมอพูดเสียงเข้มที่ปลายสาย
“หนูเข้าใจค่ะ แต่สำหรับเคสนี้ คนไข้อายุ 65 แล้วที่กินอาหารไม่ครบจนกระดูกอ่อนแอมันจะช่วยซ่อมแซมทั้งร่างกายได้ และจากที่หนูดูพัฒนาการของเอไอ มันค่อนข้างฉลาดขึ้นเยอะนับจากตอนแรก และหนูคิดว่ามันพร้อมใช้แล้วค่ะ” หมอแก้วพูดอย่างแน่วแน่เหมือนกัน
เหงื่อเธอตกเพราะความประหม่าหลังพูดกับหมอใหญ่
ต่อให้เป็นวันทั่วๆไป หมอมหัศศรีไม่ค่อยว่างเจอกับใครเลย
การที่เธอโทรติดวันนี้ตอนนี้ถือเป็นความมหัศจรรย์อย่างหนึ่งที่บังเอิญสุดๆ
“ถ้ามันมีอะไรผิดพลาดขึ้นมา…” หมอมหัศศรีพูดด้วยเสียงน่ากลัว “เธอพร้อมรับผิดชอบทั้งหมดมั้ย?”
หมอแก้วกลืนน้ำลาย สูดหายใจเพื่อทำใจยอมรับว่าต้องแบกคนไข้เคสนี้ไว้บนบ่า “หนูจะรับผิดชอบทั้งหมดค่ะ”
“หึหึหึ” หมอมหัศศรีหัวเราะเหมือนชอบใจ “เธอมันบริสุทธิ์จังนะ”
“อะไรนะคะ?” หมอแก้วไม่เข้าใจว่าหมอใหญ่พูดอะไร
“ฉันมีอะไรดีๆจะบอก คนใจขาวสะอาดอย่างเธอ จะอยู่ได้ไม่นานหรอก และคนใจดำชั่วร้ายจะไปเร็วกว่าใจขาวอีก เพราะที่โลกต้องการน่ะ มันคนที่มีใจเทาๆ ไม่สะอาดเกินไป ไม่สกปรกเกินไป คนแบบนั้นเท่านั้นที่จะอยู่ได้นาน” หมอมหัศศรีสั่งสอน
แก้วคิดในใจ ‘หมอใหญ่พูดหลายอย่าง แต่ความหมายที่ฉันเข้าใจมีน้อย มันเพราะฉันยังฝีมือไม่ถึง หรือฉันอ่อนต่อโลกไปเหรอ?’
“ฉันอนุญาติ ใช้แล้วรายงานตรงมาหาฉันอย่างละเอียด เริ่มตั้งแต่นาทีแรกที่นาโนแมชชีนเข้าไป ฉันคาดหวังถึงผลการรักษาที่ดี อย่าทำให้ผิดหวังล่ะ” หมอมหัศศรีพูดเพื่อเปิดประตูสู่เทคโนโลยีใหม่ให้วิ่งออกไปประจันกับโลกกว้าง
“หนูจะไม่ทำให้ผิดหวังค่ะ!” หมอพูดหลังจากที่น้ำหนักของความรับผิดชอบตกใส่หลังเธอ
หลังเธอพูดหน้าคอมที่เปิดอยู่ของเธอเด้งขึ้นมาว่า ‘นาโนแมชชีนใช้งานได้’
เธอรีบเข้าไปหน้าตั้งค่านาโนแมชชีน ตั้งคำสั่ง และน้ำหนักที่จะฉีดเข้าร่างผู้ป่วย
เธอใช้เวลาไม่นานเพราะเธอรู้หมดแล้วว่าต้องสั่งให้พวกมันทำอะไรบ้าง
เธอส่งคำสั่งไปแผนกฉีด
ที่เหลือก็ต้องรอให้แผนกฉีดพร้อมและให้เธอไปดูการฉีดใส่คนไข้
เธอเดินไปหน้าห้องอธิบายกับคนไข้ รายนี้เป็นคนสุดท้ายและต่อจากนี้เป็นเวลาพักเที่ยง
คนไข้สีหน้าดีขึ้นหลังได้รู้ว่าจะได้รับการรักษาระดับสูงสุดของเทคโนโลยี และเซ็นยินยอมเรียบร้อย
เธอเดินเข้าไปเก็บของและดูมือถือ เธอดูแชทของกลุ่มเพื่อนแพทย์
‘ยาระบาดเยอะอ่ะ’ จากนั้นเป็นคลิปข่าว
‘น่ากลัว’
‘ยาดีๆอย่างวิตามินก็มีทำไมไม่กินกัน?’
หมอแก้วเปิดดูคลิป
มันเป็นรายงานข่าว “มีการเข้าจับกุมการฆาตกรรมที่เกี่ยวข้องกับแก้งค้ายาที่เรียกว่าอุ้ยเคมีนะคะ คนร้ายเข้าไปในบ้านคุณยายคนหนึ่งเพื่อทวงเงินกู้นอกระบบ จากนั้นมีปากเสียงกับคนในแก้งเดียวกัน และได้เกิดการสู้กันในบ้านคุณยาย และสรุปด้วยคนที่มาทีหลังเสียชีวิต จากนั้นคนร้ายหิ้วคุณยายขึ้นมอเตอร์ไซค์หนีไปเข้าร้านสะดวกซื้อของฮาโมนี่และถูกจับกุมตัวในที่สุด”
มีหน้าคนร้ายอยู่ที่มุมขวาบนของจอ
“นก!?” หมอแก้วพูดเสียงดังและรีบวิ่งออกจากห้อง
นกลืมตากว้างพ้นจากฝันร้าย
เขาอยู่ในห้องที่ดูเรียบง่าย มีเตียง โต๊ะ ห้องน้ำ และทีวี
ต้นเดือน 1 ยุคตีกันปี 124
ความมืดที่นอกหน้าต่างบอกว่าตอนนี้กลางคืนและยังไม่เช้า
แต่นกเป็นคนตื่นก่อนตะวันขึ้นตลอดจึงค่อนข้างแน่ใจว่าตอนนี้เป็นเช้าตรู่ไม่ใช่กลางดึกจากความรู้สึก
เขาตัดสินใจเปิดทีวีเพื่อดูว่ากี่โมง
นกไม่เคยดูทีวี แม้มีเงินซื้อเขาก็ไม่คิดซื้อทีวี
และเขาเป็นคนไม่ใช้มือถือที่ยุคนี้เดินไปไหนมาไหนก็มีคนเล่น
แม้เขายังวัยรุ่นอยู่เขารู้สึกว่าตัวเองล้าหลัง
แต่เสียใจตอนนี้ก็ไม่ทันแล้วเพราะเขาถูกจับกุม
ทีวีบอกว่าเช้าตรู่เหมือนที่เขาคิด และมีนักข่าวกำลังพูดถึงข่าวที่เขาสังหารเตา
ห้องนี้ไม่ใช่ห้องรับแขกธรรมดา แต่มีตำรวจติดอาวุธเฝ้าหน้าห้องและมีกล้องอยู่ที่มุมห้อง
ก๊อก ก๊อก เสียงประตูดัง
นกสงสัยว่าทำไมตำรวจรู้สึกจำเป็นต้องเคาะห้องคนร้ายก่อนเข้ามา และเขารู้สึกว่าถึงเขาเป็น ‘คนชั่ว’, ‘ฆาตกร’ เขายังได้รับมารยาทที่ดีจากผู้มีอำนาจ
อะไรๆมันอาจไม่แย่นัก แต่โลกแห่งความมืดสอนให้เขาระวังรอบด้านและไม่ไว้ใจอะไรทั้งสิ้น
เขาเปิดประตู คนที่ยืนหน้าห้องเป็นตำรวจที่มีแขนกล เขาถืออาหารมา
จากกลิ่นน่าจะเป็นข้าวราดแกงไบชุนฟุ
“ผมริค นี่อาหารเช้า เราเห็นจากกล้องว่าตื่นแล้ว และเราได้รับคำสั่งให้เอาอาหารให้คุณ กินให้เสร็จ ไม่ต้องรีบ และหลังจากนี้คนของฮาโมนี่จะมาสอบปากคำ ทำธุระให้เรียบร้อย อาบน้ำและเตรียมตัว” ริคยื่นข้าวราดไบชุนฟุให้นก
“ขอบคุณ” นกรับและเอาไปวางที่โต๊ะในห้อง
“เชิญตามสบาย” ริคคว้าประตู
“เดี๋ยวครับ… ใครจะสอบสวนผม และผมจะโดนอะไรบ้าง?” นกแบ่งใจทุ่มชีวิตที่เหลือไว้หลังกรงแล้ว แต่ลึกๆเขายังมีความหวัง มันไม่เจ็บตัวที่จะถาม
ริคยิ้ม แต่มันยิ้มเหมือนเสือมองเหยื่อ “เดี๋ยวคุณก็รู้เอง” จากนั้นเขาปิดประตู
นกถอนหายใจที่ไม่ได้ข้อมูลอนาคตตัวเอง หายใจเขาลึกๆ ‘ฉันต้องไปต่อ’ กินข้าว ทำธุระ เพื่อไปข้างหน้า
หลังจากนั้น
ริคเดินอยู่ข้างหน้านก พร้อมตำรวจใส่เกราะสองคนขนาบข้างนกมาที่ห้องที่มีกระจกเป็นกำแพง
นกเห็นว่าใต้ตาตัวเองออกดำๆ เพราะน่าจะเครียดมากไป
ในห้องมีโต๊ะไม้ทรงเสี้ยวจันทร์ที่มีหลายเก้าอี้ กระดานเขียนสีขาว กระดานสำหรับเอาหมุดปัก เก้าอี้ว่างประมาณห้าตัว และเก้าอี้กลางห้องที่มีโต๊ะเล็กๆอยู่ข้างๆ
หลังจากนั่งสักพัก ประตูข้างหลังก็เปิดออกโดยไม่ได้เคาะ นกหันไปมองแล้วก็เจอกับเธอ
วิว ฮาโมนี่
อดีตครึ่งแมงมุมที่ไม่เคยมีใครอธิบายว่าเธอเดินสองขาได้ยังไง แฟนหรือว่าที่ภรรยาของวารี
นกหันไปมอง สายตาที่วิวมองนกเหมือนเป็นสายตาของเสือ… ไม่สิ ถ้าเสือยังน่ากลัวน้อยไป มันรู้สึกเหมือนดำน้ำอยู่แล้วหันไปเจอจรเข้ตัวใหญ่กำลังอ้าปาก
กล้ามเธอเป็นมัด ตัวหนา สูง แต่ยังเซ็กซี่สุดๆ เพราะโค้งเว้าที่เธอมี
“อ่ะ คาปูชิโน่ นาเป็นคนชงให้” ขัดกับสายตาน่ากลัวที่เธอมองนก เธอเอาของกินมาให้นก รวมถึงของเธอเองที่อีกมือ
นกรับและได้กลิ่นกาแฟเข้าจมูก มันหอมและทำน้ำลายสอรอรับรสชาติที่นุ่มลึก
นกยกซดแบบไม่สนมารยาท
เขาไม่เคยกินกาแฟเพราะมันราคาแพง รวมถึงชา เขากินแต่น้ำเปล่าและโซดาเป็นบางครั้ง
รสชาติเข้มของกาแฟผ่านลิ้นและลงไปในท้องอย่างเร็ว นกรู้สึกเหมือนเกียร์ในหัววิ่งเร็วขึ้น ขจัดความคิดที่ดึงตัวเองไปข้างหลังจากความกดดันที่ไร้อนาคต
วิวนั่งริมโต๊ะโค้ง แต่ก่อนนั่งเธอดึงบางอย่างจากเอวมาวางบนโต๊ะคู่กับมือถือ
‘ปืน’ สิ่งที่เลือกชีวิตกับความตายด้วยเสียงดังสนั่นเหมือนประกาศกับทวยเทพให้รับเป้าหมายไปโลกหลังความตาย
นกกลืนน้ำลาย เหงื่อตก ‘แม้ไม่มีอาวุธ ฉันก็สู้เธอไม่ได้อยู่แล้ว นี่มีปืนมาด้วย! แสดงว่าฉันเป็นบุคคลอันตรายสำหรับเธอสินะ’
วิวมองหน้านก มองตัว มองขา จากนั้นมองหน้าแล้วยิ้มให้นก “หล่อนะเราอ่ะ”
นกลืมหายใจ ‘มันเป็นการประชดเหรอ? หรือเธอตั้งใจชม? แม้อย่างนั้นก็เถอะ ตอบเธอก่อนดีกว่า’
“ไม่หรอกครับ” นกก้มหน้าให้วิวแล้วเกาหัว
จากนั้นเสียงประตูดังอีกครั้ง
คราวนี้เป็นแฟนวารีตัวตั้งตัวตี วี ฮาโมนี่ ไอดอลสาวสุดดังที่มีรูปตั้งโฆษณาอยู่ทั่วประเทศ ตั้งแต่เสาไฟยันป้ายใหญ่
เพราะวิวมีปืน นกมองเอววีและเห็นอาวุธอย่างเดียวกันกับวิว
วีมองหน้านกเหมือนมองสัตว์ตัวน้อยที่เธอต้องตัดสินใจว่าจะกินไม่กิน
“อุ้ย สักหน้า ไม่คิดว่าจะได้เห็นซักคนอยู่ฝั่งนี้นะเนี่ย” วียิ้ม และจิตสังหารหายไป
นกนั่งเหลียวหลังอยู่และกำลังจะรีบหันกลับไปหาโต๊ะและหยิบกาแฟจิบแก้เขิน วีมาจับคางนกไว้ไม่ให้หัน
เธอกางกรงเล็บและมันเฉือนเข้าคางนก แต่มันตื้นเกินจะมีแผล
วี เดินมาข้างนก ยังจับหน้าไม่ปล่อย
‘เธอคิดจะทำอะไร? โถ่เอ้ย! ไม่กล้าพูดอะไรออกไปเลย ฉันจะถูกฆ่าตอนนี้เหรอเนี่ย?’ นกรีบคิดหาคำพูดเพื่อให้เธอเลิกสนใจ
วีนั่งตักนกแบบไม่ได้ถาม เลิกจับคาง แต่เอาแขนอ้อมหลังคอนก
เธอเกร็งแขนให้มันรัดคอนิดๆ นกหายใจไม่ถนัดแต่เขาไม่กล้าบ่นอะไร
วียิ้มมุมปากแล้วพูด “ทำไมเลือกกุหลาบ?”
วีพูดถึงสักรูปกุหลาบที่หน้าและแขนของนก
“มะ, มันแสดงถึงรักในอดีตที่เคยเสียไป” นกพูดติดๆขัดๆ ไม่มีแรงจะบีบลมออกจากปอดจากความอึดอัด
จากนั้นวีทำสิ่งที่ทำให้นกต้องใจหาย เธอเอามืออีกข้างที่ไม่ได้รัดคอจับเป้านก
“พี่วี?” วิวลุก ทำหน้าไม่พอใจ
วีไม่พูดอะไร คลำๆเหมือนกำลังวัด ไม่ได้พยายามทำให้มีอารมณ์
จากนั้นปล่อยแขนและลุก ชูสองมือเหมือนยอมจากคำเตือนของวิว และเดินสับขาไปนั่งข้างวิว
“ว่าแต่ใหญ่ป่ะ?” วิวนั่งและถามวี
“ไม่ค่อยหนาเท่าวารีนะ เกือบๆ แต่ยาวหกนิ้วได้มั้ง?” วีหันไปพูดกับวิว
นกใช้เวลาที่สองพี่น้องคุยกันรีบหายใจเข้าปอด ไม่ได้สนใจเรื่องที่พวกเธอพูด แม้เป็นเรื่องขนาดของเขาเอง
จากนั้นเสียงประตูดังอีกครั้ง
นกหันไปด้วยความตกใจ
คราวนี้มันเป็นเขา ‘วารี’
วารีเดินจูงผู้หญิงมาด้วย
และเธอไม่ใช่ใครที่ไหน
ฝันร้ายของศัตรูแห่งประเทศวาโรซีเมียเรีย
ราชินีวล็อดซีเมีย
วารีเดินซดกาแฟชิลๆ นกเลยไม่รู้สึกอะไร แต่วาโรมองหน้านก
ดวงตาสีแดงเหมือนดึงหัวใจนกไปย่างข้างหมูปิ้ง
และปิดท้ายคือผู้หญิงผมแดงหน้ามีกระ นกไม่เคยเห็นหน้าเธอแม้ในข่าวฮาโมนี่ที่เขาอ่านมาเป็นปี แต่ชื่อเธอคือเรดจำปา เขารู้ได้จากชุดแม่บ้านที่เธอใส่
นกรู้ได้ด้วยความรู้สึกว่าแม้ ‘นา’ เลขาในตำนานไม่อยู่ในห้อง เธอกำลังดูนกด้วยตาเหมือนเหยี่ยวเลือกของกินอยู่บนฟ้าที่ไหนซักแห่ง
ทุกคนที่มาทำเหมือนกันคือวางปืนคู่มือถือ และจิบกาแฟเหมือนขี้เมาเจอเหล้า
“เอาล่ะ” วารีเริ่มพูด “แก้งกิ้งกือหัวธนู…”
“แก้งจิ้งจกก้ามปู!” วีขัดอย่างรวดเร็วแล้ววารีกับวีมองวิว
“แก้งค้างคาวหัวหมู!” วิวขัดอย่างรวดเร็วและสามคนมองวาโร
นกมองวาโรและวาโรจ้องหน้านก จิบกาแฟ หน้าไม่สบอารมณ์
จากนั้นวารี, วี, และวิวมองเรดจำปา
“อ่า… เอิ่ม… ตำปูปลาร้า?” เรดจำปาพยายามตามหนุ่มสาวที่เล่นเหมือนเด็กยังไม่ขึ้นเลขสิบ
เหล่าเด็กร่างโตสามคนพากันโห่ “บู่…”
“ไม่ใช่ของกินดิ”
“คนละอย่างเลย”
เรดจำปาเบะปากเสียใจ
วาโรตบโต๊ะ แต่เบาๆเหมือนดึงให้สี่คนจริงจังเฉยๆ
นาที่นั่งหลังกระจกด้านเดียวเอามือแปะหน้ากลุ้มกับการเปิดการสอบสวนจริงจังที่สุดห่วยแตก และเธอมีความรู้สึกอยากด่าแฟนกับเพื่อนผ่านไมโครโฟนแรงๆ
นกที่รู้สึกโล่งใจกับมุขโง่ๆ กลับมาสมองตึงอีกครั้งหลังเสียงตบโต๊ะ
เขาซดกาแฟ แต่มือที่หยิบกาแฟสั่น
เขามองวาโร วาโรจ้องเขาไม่วางตา เขามองที่อื่น และพอมองวาโรอีกทีเธอก็ไม่วางตา และเขาพยายามไม่ให้ตาว่ายเวียนไปที่สีหัวนมชมพูหลังเสื้อขาวที่ไม่ได้ใส่ชั้นใน
“แก้งกิ่งก่าหัวตะปู” วาโรพูด แต่โทนเสียงไม่มีซักเสี้ยวที่บอกว่าเป็นการเล่น
นกรู้สึกต้องยืนยันเพราะกลัววารีเล่นให้วาโรอารมณ์เสียมากกว่านี้ “ใช่ครับ”
“คุณนก โทษที่คุณโดนขังตอนนี้คือฆาตกรรม… แต่ถ้าเล่าทั้งหมด ทุกอย่าง เราอาจลดโทษให้ คุณอาจได้ห้องดีๆในคุก” วาโรพูดอย่างจริงจัง
นกกลืนน้ำลาย “ผมเริ่มจาก…”
6 ชั่วโมงต่อมา
วารีตักข้าวผัดในกล่องกระดาษกิน ทุกคนมีข้าวผัดเนื้อหมักกันหมด รวมถึงนก นกกินอย่างมูมมามเพราะอร่อยจนนกน้ำตาซึม
กระดานมีปิรามิดองค์กรหรือแก้งกิ้งก่าหัวตะปูทั้งหมด
ตั้งแต่ด้านโสเภณีเถื่อน บ่อนเถื่อน และการค้ายา
มีที่อยู่บ้านหัวหน้ารองและหัวหน้าใหญ่ กลุ่มกระจายยาปลายแถว
ทุกครั้งที่นกพูดชื่อและที่อยู่บ้าน นาจะเดินเปิดประตูเข้ามาเอาภาพหน้าคนร้ายเล็กๆไปปักหมุดที่กระดานหมุด
นกบอกทุกอย่างที่รู้
เพราะเขาเพิ่งทำงานมาได้ปีกว่าๆ เขาต้องตั้งใจจำสถานที่เหล่านั้นเพื่อจะให้ได้งาน
คราวนี้ข้อมูลคนชั่วเหล่านั้นจะมาทำให้เขาล้มได้นุ่มกว่าที่ต้องล้ม
เหล่าแก้งวารีและแฟนลุกๆนั่งๆดูกระดาน ถ่ายรูป แชทเข้ามือถือ
ทุกคนเหงื่อตกรวมถึงนกที่นั่งบอกทุกอย่างปลายกระบอกปืน
“นั่นคือทุกอย่างที่ผมรู้” นกพูดหมดแล้ว เขาไม่มีอะไรจะพูดอีกแล้ว
ตื้นลึกหนาบางข่าวจริงข่าวลือ ทุกอย่างมันอยู่บนกระดานหมดแล้ว
“มีอะไรอยากฝากอีกมั้ย?” วารีพูดถามนก เขาเก็บปืนเก็บมือถือแล้ว
“กลุ่มโสเภณีเถื่อนถูกปฏิบัติอย่างย่ำแย่โดยเหล่าผู้ชายที่ต้องทำหน้าที่ส่งและปกป้องพวกเธอถ้ามีเรื่อง ผมเข้าแก้งนี้และเปลี่ยนเรื่องพวกนั้น แต่พอผมไม่อยู่ มันจะกลับไปแย่เหมือนเดิม พวกเธอจะโดนขู่ให้มีเซ็กส์แลกกับการป้องกัน และจบแบบไม่เคยจ่ายเงิน ผมอยากให้ช่วยกลุ่มนั้นก่อน… ถ้าเป็นไปได้” นกพูดถึงเหล่าโสเภณีเถื่อนที่เขารับผิดชอบและบางคนเป็นมากกว่าเพื่อนร่วมงาน
วารีคิดและมองกระดาน “นายส่งสาวๆ บอกมาตามตรง มีอะไรกันมั้ย?”
นกกัดปาก เขาเป็นผู้ชายที่คลุกคลีกับเรื่องอย่างว่า และเขาไม่มีแฟน สาวหลายคนเห็นเขาเป็นหลักให้พักพิง
เขากลืนน้ำลายและพูด “มีกับหลายคน แต่ไม่ทั้งหมด บางคนก็แค่ความรู้สึกดีๆ”
“ถ้าอย่างนั้นนายจะรับผิดชอบกลุ่มนั้นทั้งหมด วาโร เราต้องหาเซฟเฮ้าส์ใหม่ เอาที่มันใหญ่หน่อย” วารีปรึกษาแฟน
‘เซฟ-เฮ้าส์ มันคืออะไร วิธีลงโทษใหม่อย่างนั้นเหรอ?’ นกคิดหนัก พยายามเข้าใจ
“ฉันยังไม่ได้ตัดสินโทษเลย” วาโรมองค้อน
“เห็นกระดานมั้ยเนี่ย วาโร? ยังจะจับอีกเหรอ? ให้เขาไปทำอะไรๆดีๆยังดีกว่า” วีประท้วง
“เห็นด้วยๆ” วิวพูดเสริมพี่
เรดจำปายืนหน้ากระดานกินข้าวผัดเนื้อหมักและไม่ได้สนที่คุยกัน มองเป้าหมายที่ต้องกำจัด
วาโรหายใจลึกๆ หลับตา มันเป็นครั้งแรกที่เธอปล่อยสายตาจากนก
นกรู้สึกโล่งใจ
“กักบริเวณ ปรับพฤติกรรม ทำกิจกรรมเพื่อสังคม และดูแลให้เหล่าโสเภณีหางานที่ใหม่” วาโรสั่งตัดสินโทษ
โทษที่นกได้รับมันเหมือนเด็กโดนตีหลังมือเมื่อหยิบขนม
“ถ้าอย่างนั้น นา เตรียมข้อเท้าจีพีเอสกับมือถือ จัดโดรนเตรียมให้เขาไปเจอแขกที่เซฟเฮ้าส์” วารีมองกระจกแล้วสั่ง
“แขก?” นกถามถึงเรื่องที่เขาไม่เคยคิดว่าจะมี
“มีสองคนเที่ยวพูดบอกว่านายเป็นคนดีแบบนั้นแบบนี้ไม่หยุด เดี๋ยวนายเจอก็รู้เอง” วารีพูดแล้วหันไปสนใจกระดานต่อ
ริคเข้ามาในห้องพร้อมนา
นาใส่บางอย่างที่ข้อเท้านก “นี่เอาไว้ติดตามดูว่านายไปไหนบ้าง พยายามอย่าไปยุ่งกับพวกโจรผู้ร้ายอีกล่ะ และนี่ มือถือ”
“เข้าใจแล้วครับ” นกทำใจกับการโดนกักบริเวณ รับมือถือ
ริคพานกออกห้อง เดินผ่านวังที่อลังการที่มีทหารหุ่นแน่นป้องกันหลายจุด
มันเป็นงานศิลป์ที่อลังการจนเขารู้สึกภูมิใจที่เป็นคนวาโรซีเมียเรีย
เขาไปขึ้นโดรนและลงที่บ้านหลังหนึ่งแถวชานเมืองวาโรเรีย
ริคจอดโดรนที่ลานจอดหน้าบ้าน “บ้านหลังนี้ใหญ่จริงแต่ราคาถูกเพราะอยู่ชานเมือง ถ้าถูกใจที่นี่แล้วมีเงิน ลองต่อรองขอผ่อนไปอยู่ไปกับท่านวารีดูแล้วกัน ส่วนนี่” นกเปิดช่องเก็บของที่หน้าตัวเองด้านล่างแล้วล้วงบางอย่าง “เงินคุณ”
นกรับถุงทองโทรมๆหนาๆของตัวเอง
ริคบินออกไป ปล่อยนกอยู่หน้าบ้าน
นกมองซ้ายขวา และมีชาวบ้านมองเขาอยู่ไกลๆ
นกก้มคำนับพวกเขาแล้วรีบเข้าบ้านพักของเขา หรือ ‘เซฟ-เฮ้าส์’ ที่กลุ่มวารีเรียก
เมื่อเข้ามา มีคนโผกอดเขา “ลูกแม่เอ้ย! ลูกแม่! เป็นยังไงบ้าง พวกเขาทำโทษลูกมั้ย?” คุณยายที่ทำอาหารให้เขาอยู่ที่นี่ด้วย
แต่เมื่อเขามองไปข้างหลังยาย
ผู้หญิงสวยในเสื้อกาวน์แพทย์
“แก้ว!?” นกพูดชื่อเจ้าของกุหลาบบนหน้าเขา รักที่เคยเสียไป
และสุดท้าย เขาได้โคจรกลับมาเจอรักอีกครั้งในชีวิต