หนุ่มวัย 22 ที่ไม่เคยมีรักช่วยสตริแล้วโดนรถบรรทุกส่งมายังต่างโลกเป็นเด็กกำพร้า พอมาเกิดเขาตัดสินใจทิ้งความจำเก่าๆและเป็นเด็กไปกับเพื่อนสมัยเด็กสองคนกับเพื่อนซี้ทั้งสองคนอีกหนึ่ง เมื่อเขาโตเขาก็ไปทำงานสายต่อสู้ที่ซ่อง เจ้านายให้เขาประดิษฐ์ของเล่นผู้ใหญ่แถมเปิดร้านให้จนเขายิ่งรวย สุดท้ายไปเจอราชินีที่ซ่องและเธอชวนไปอยู่ประเทศของเธอ เขาสร้างบ้าน สร้างร้านใหม่และอยู่ที่นั่นตั้งแต่นั้นมา มาดูชีวิตประจำวันของหนุ่มต่างโลกกับฮาเร็มระดับสิยคนเรื่องราวความรัก การเลี้ยงลูก การทำงานและกานต่อสู้ในเขตวัง
รัก,แอคชั่น,แฟนตาซี,ชาย-หญิง,เกิดใหม่,ต่างโลก,คลั่งรัก,ชาย-ชาย,หญิง-หญิง,ฮาเร็ม,ชาย-หญิง,หญิงรุก,yaoi,โรมานซ์,โรแมนติก,ต่อสู้,รักวัยรุ่น,เกิดใหม่,ทำงาน,สร้างตัว,ฝึกฝน,นางเอกเก่ง,พระเอกเก่ง,รัก,แฟนตาซี,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
กำพร้า ณ ต่างโลก ภาค 2หนุ่มวัย 22 ที่ไม่เคยมีรักช่วยสตริแล้วโดนรถบรรทุกส่งมายังต่างโลกเป็นเด็กกำพร้า พอมาเกิดเขาตัดสินใจทิ้งความจำเก่าๆและเป็นเด็กไปกับเพื่อนสมัยเด็กสองคนกับเพื่อนซี้ทั้งสองคนอีกหนึ่ง เมื่อเขาโตเขาก็ไปทำงานสายต่อสู้ที่ซ่อง เจ้านายให้เขาประดิษฐ์ของเล่นผู้ใหญ่แถมเปิดร้านให้จนเขายิ่งรวย สุดท้ายไปเจอราชินีที่ซ่องและเธอชวนไปอยู่ประเทศของเธอ เขาสร้างบ้าน สร้างร้านใหม่และอยู่ที่นั่นตั้งแต่นั้นมา มาดูชีวิตประจำวันของหนุ่มต่างโลกกับฮาเร็มระดับสิยคนเรื่องราวความรัก การเลี้ยงลูก การทำงานและกานต่อสู้ในเขตวัง
ภาค 1 เกิดใหม่เล็งไข่ตั้งมั่น
https://www.plotteller.com/book_reading_novel/01J6K59JBZFBKF5WR1DS8Y86Q2
วารี อดีตหนุ่ม 22 ในชีวิตที่แล้วที่มาเกิดใหม่ต่างโลกเป็นเด็กกำพร้าพร้อมเจอเด็กแฝด 2 คนที่เป็นกึ่งแมวและกึ่งแมงมุมในโลกที่คนใช้ดาบออกท่าฟันกันเหมือนกดสกิล 1 อย่างเดียว
เขาฝึกต่อสู้กับพวกเธอตั้งแต่เด็กจนสู้เก่งเกินวัยไปอย่างมาก
เขาโตมากับพวกเธอจนถึงวัยทำงานก็ชวนไปทำงานต่างประเทศด้วยเป็นผู้คุ้มกันในซ่อง
แต่เจ๊ใหญ่เห็นศักยภาพว่าผลิตของมาขายเก่งและหาจ้างคนได้ดีจึงเปิดร้านค้าให้
เขาขายของไปเรื่อยๆจนเจอเจ้าหญิงชวนไปอยู่ประเทศเธอ
เขาเลยเปิดห้างให้ใหญ่ยิ่งกว่าร้านหลายเท่าพร้อมสร้างบ้านในเขตวังคู่กับแฟนที่เยอะเป็นฮาเร็ม
มาดูชีวิตประจำวันของนักธุรกิจและเหล่าแฟนมากมายตั้งแต่แม่บ้านยันราชินี
วันวุ่นๆของพ่อแม่มือใหม่กับลูกแท้และลูกเลี้ยง
มันจะสุขสบายไปอย่างนี้ตลอดไปมั้ยหนอ
118 พาเมียกลับบ้าน
ปลายเดือน 12 ใกล้วันปีใหม่
วารีกำลังขับโดรนใหญ่
มันเป็นโดรนที่ได้แบบอย่างมาจากรถตู้ใหญ่ที่ไว้สำหรับให้ทั้งครอบครัวเดินทางและทำกิจกรรมกันในนั้น
เหล่าแฟนวารีกำลังนั่งติดกันอยู่บนเบาะที่เปิดเบาะด้านหน้าเพื่อเอาชั้นวางจานข้าวมาวางจานได้
หลายคนกำลังกินมะม่วงเปรี้ยวอมหวานอยู่ มันเกือบสุกแต่ยังไม่สุกดี มันเลยทำให้รสชาติมันหวานอร่อยโดยที่ยังไม่ได้ทิ้งความเปรี้ยวปี้ด
หวาน, ฟ็อกซี่, และฮิเมะกำลังปอกมะม่วงให้สาวๆทั้งหมดกันอยู่
วันนี้วาโรนั่งที่นั่งข้างคนขับ เธอมีมงกุฎอยู่บนหัว และกำลังป้อนมะม่วงให้วารีกิน
โดรนบินมาได้เกือบสองชั่วโมงแล้ว
หวานพอปอกมะม่วงได้ดี กินเนื้อไปนิดหน่อย เธอเริ่มทำงานบ้านได้ดีขึ้นเยอะแล้วหลังอยู่กันมานาน
ฟ็อกซี่ช่ำชองเรื่องการใช้มีดเหมือนคนมีประวัติ และปอกมะม่วงแบบบางกริบ
แต่ฮิเมะปอกได้ไม่ดีนัก และกินเนื้อไปเยอะจนเรดจำปาที่นั่งข้างเธอพูดขึ้นมา “ระวังเรื่องปอกเนื้อออกไปเยอะ มันเป็นการทิ้งของที่กินได้ และจากที่วารีเคยพูด มันเหมือนเป็นการดูถูกคนที่ปลูกมันและเอามันมาขาย พวกเขาอาจเป็นชาวนาบ้านๆแบบเธอก็ได้ ฮิเมะ สงสารพวกเขาหน่อย”
“หนูพยายามแล้ว…” ฮิเมะทำหน้าจะร้องไห้
เรดจำปาเห็นวารีมองเธอผ่านกระจกมองหลัง เธอรีบลูบหัวฮิเมะ “ฉันเข้าใจ เอาล่ะ ค่อยๆเรียนรู้นะ ไม่ต้องรีบ ไม่มีใครกดดันเธอ”
“พอดีแหละ เราจะถึงเขตโคเบนแล้ว ให้เธอดูภาพจากโดรน บ้านเธอเป็นนาใหญ่ใช่มั้ย? มีนาเดียว ประมาน 250 ตารางเมตร ถูกมั้ย?” วารีพูดขึ้นมา
“หนูก็ไม่รู้ว่า 250 ตารางเม็ดอะไรนั่นมันเท่าไหร่…” ฮิเมะเบะปาก น้ำตาเริ่มเล็ด
นาย้ายเก้าอี้มาและมาสะกิดใหล่ฟ็อกซี่ “เปลี่ยนที่กัน ขอฉันช่วยเธอหน่อย”
ฟ็อกซี่ยิ้ม ยัดมะม่วงเข้าปากเบะๆของฮิเมะ “อ่ะ กินๆ”
เธอเข้าไปใกล้ๆหูฮิเมะ
เธอกระซิบเบาๆ “เราเป็นเมียราชา ไม่มีอะไรน่ากลัวจริงๆถ้าเธอท่องคำนั้นไว้”
ฮิเมะเปิดตากว้าง มือเธอลงไปลูบท้องที่ปูดนิดๆเพราะท้องได้เดือนนึงแล้ว “เมียราชา…”
จากนั้นฟ็อกซี่ลุกจับมือนาแล้วค่อยๆประคองนานั่งเหมือนที่ปรกติผู้ชายจะทำ
นามองฟ็อกซี่งงๆ แต่เธอหลิ่วตากลับมาแล้วเดินไปเก้าอี้เก่าของนา ทิ้งความโรแมนติกนิดๆให้ฟุ้งกระจายอยู่ในอารมณ์ของนา
นาเลิกคิดแปลกๆแล้ว บอกวารี “ส่งโดรนเล็กหน่อย”
“พร้อมส่ง ยิงโดรนสำรวจ” วารีกดปุ่มที่หน้าปัดใหญ่ข้างคนขับ
ปุ่ช มีเสียงบางอย่างถูกยิงออกไปจากตัวโดรน
“โดรนสิบตัวกำลังลงพื้นที่และส่งภาพ ภาพเชื่อมต่อเสร็จแล้ว กดดูได้เลย เราอยู่ในเขตโคเบนพอดี” วารีตอบกลับมา
นากดหน้าจอที่คล้ายแท็บเล็ตหน้าที่นั่งฮิเมะ กดเมนูอะไรบางอย่างที่ฮิเมะไม่เข้าใจ จากนั้นภาพนับสิบจอขึ้นมา
ภาพส่วนใหญ่เป็นภาพนาและสวนหลายขนาด
นากดให้เอไอช่วยคัดภาพนาและสวนที่ขนาดใหญ่เกินไปออก และเอาแต่ภาพนากับสวนบ้านๆที่เล็กหน่อยเข้ามา “ฝากหน่อยนะน้องไอ”
“ยินดีเสมอค่ะ พี่นา” น้องไอ ระบบเอไอที่ทุกคนช่วยกันสอนก็เข้ามามีส่วนร่วมในการหาบ้านฮิเมะครั้งนี้ด้วย
ฮิเมะดูภาพแปลงทั้งหลายข้างหน้า “ช่วงหน้าหนาวหนูบอกให้พ่อแม่ปลูกสตรอว์เบอร์รี่ไว้”
“สตรอว์เบอร์รี่เหรอ น่ากินจัง เดี๋ยวฉันต้องลองซักหน่อยแล้ว” นาพูดแล้วลูบหัวปลอบฮิเมะ
เพราะไม่มีพิกัดและอะไรทั้งสิ้นเลย ทุกคนคิดกับการบินมาครั้งนี้ว่าพักร้อน และความหวังในการเจอบ้านฮิเมะจากการบินครั้งแรกต่ำมาก
และฮิเมะก็รู้ดีถึงข้อนี้ เธอโทษความไร้การศึกษาของเธอที่ต่ำจนไม่รู้ว่าอยู่เขตไหนหมู่บ้านไหน
พ่อแม่เธอไม่ค่อยให้เธอได้ออกไปข้างนอก เพราะเธอเป็นสาวสวยกลางป่าเขา พ่อแม่เธอกลัวเรื่องร้ายถ้าฮิเมะไปที่นั่นที่นี่
แต่ฮิเมะก็เคยไม่วายแอบเที่ยว “หนูจำได้ว่าเดินไม่ไกลก็เจอแม่น้ำ หนูใช้การตามคูน้ำของที่บ้านไป”
“ใกล้แม่น้ำเหรอ? ดีมากฮิเมะ มันช่วยได้เยอะ” วารียิ้มและหันพวงมาลัยเลี้ยวไปทางตะวันตกที่มีแม่น้ำ
ฮิเมะดูภาพไปเรื่อยๆ วารีบินแถวๆแม่น้ำไปเรื่อยๆ
แต่พอผ่านไปสองชั่วโมง ฮิเมะที่เพ่งมองนาบ้านนั้นบ้านนี้แล้วไม่เจอนาตัวเอง หรือเจอแล้วจำไม่ได้ก็เริ่มร้องไห้
วารีเห็นแล้วรู้สึกว่าไม่ได้การ วารีลงจอดที่นาหนึ่งที่มีสีแดง
เมื่อกำลังลง วารีก็ถอนหายใจเพราะมันเป็นสวนมะเขือเทศ ไม่ใช่สตรอว์เบอร์รี่ แต่จุดหมายที่เขาลงมาที่นี่ยังไม่หายไป
“พวกเธอยังไม่ต้องลงนะ เดี๋ยวชาวบ้านแตกตื่น” วารียังไม่อยากให้ใครเห็นมงกุฎวาโร
วารีจับมือวาโร วาโรพยักหน้าเข้าใจ วารีลงจอดแล้วโดดออกจากโดรนตู้
เขาเจอกับชาวบ้านผัวเมียพร้อมลูกห้าหกคนมุงดูโดรนของเขา “ลุง ป้า แถวนี้เมื่อสองปีที่แล้วเคยมีบ้านไหนลูกสาวหายมั้ย?”
ลุงมองป้า แล้วป้าทุบมือ “บ้านยายสะตอไง ที่เกือบสองปีที่แล้วมาโวยหน้าบ้านอ่ะ!”
วารีเริ่มมีความหวัง ล้วงถุงทองที่มีเป็นร้อยทอง ช่วงนี้เขาเงินเหลือไม่ขาดมือจากกำไรหลายที่ “พอบอกได้มั้ยว่าอยู่แถวไหน ป้า?”
ลุงหยิบถุง เปิดดู เอาให้ป้าดู ป้าเอามากัดแล้วเปิดตากว้าง แต่ลุงหน้าตาไม่ดีใจ แล้วบอกกับป้า “ทองปลอมแหง คนอะไรจะให้บ้าบอขนาดนี้ กับแค่ที่อยู่บ้าน”
ป้าตบกระโหลกลุงดังฉาด “อีบ้า มึงไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น! หนูจ๋า โอ๋ลูกเอ้ยลูกแม่ บ้านยายสะตอนะ หนูไปตะวันออกกิโลเมตรนึง แล้วขึ้นเหนืออีกครึ่งกิโลก็ถึงแล้วจ้า ถ้าเหมือนปีที่แล้วที่เอาสตรอว์เบอร์รี่มาให้แล้วถามหาลูก แกคงปลูกอย่างเดิมอยู่ล่ะจ้ะ”
ลุงดูช็อกกับเหตุการณ์แล้วพูดอะไรไม่ออก
ออร่าจิตสังหารของป้าแรงมากจนทำให้เด็กทั้งหมดวิ่งเข้าแอบในบ้าน
แต่วารียิ้มแล้วจับมือป้า “ขอบคุณมากป้า อยู่กันดีๆล่ะครับ ไปแล้วครับ”
จากนั้นวารีเดินไปประตูโดรน ไหว้ลุงป้าคนละที แล้วกลับขึ้นโดรน
ฮิเมะน้ำตาอาบแก้ม ไม่ได้ดูว่าเกิดอะไรขึ้น ยังมองภาพจากโดรนเล็กที่อยู่บนฟ้าอยู่
วารีรีบบินแบบสุดความเร็วจนทุกคนบนโดรนจับเบาะรองแขนมะม่วงกระเด็น ออกตะวันออก จากนั้นขึ้นเหนือ
และแล้ว
ด้านล่างเป็นภาพแปลงผักเขียวปนแดง
วารีรีบลงจอด โดรนเล็กเริ่มมารวมกันบนแปลงผืนนี้ เป็นสัญญาณว่าน้องไอก็คิดเหมือนกัน
เมื่อวารีเห็นว่าเป็นสตรอว์เบอร์รี่เขาก็ยิ่งตื่นเต้น
เมื่อจอดถึงพื้น “วาโร ลงกับฉันที”
วาโรจัดมงกุฎ เปิดโดรนลงอย่างสง่า
แต่หน้าบ้านไม่มีใครออกมา และเสียงโดรนตู้ไม่ใช่เบาๆ
วารีเคาะประตูบ้านไม้เล็กๆ
บ้านดูโทรมเหมือนไม่ดูแลมานับปี แต่สิ่งที่ดูดีคือพืชพรรณที่บ้านนี้ปลูก
สตรอว์เบอร์รี่น่ากินมาก และวาโรสอยไปสองสามลูกแล้ว วารีมองค้อนจนวาโรค้อนสวน “ฉันจ่ายน่า”
ซักพักก็มีคุณตาที่ขอบตาดำเปิดประตู
แกมองวารีหัวจรดเท้า ไม่พูด แกมองมงกุฎ มองลงหน้าวาโร วาโรยิ้ม แกเมินแล้วมองเท้าวาโร
แกถอนหายใจ ไม่พอใจ เหมือนสองคนมาขัดเวลาพัก “มีอะไร?”
“ที่บ้านนี้ สองปีที่แล้วมีคนหายมั้ย?” วาโรเป็นคนพูด
คุณตาพุ่งเข้าคว้ามือวาโร “เธอรู้ได้ยังไง! รู้มั้ยลูกฉันอยู่ไหน!?”
“เราต้องถามก่อนว่าตากับยายบ้านนี้ชื่ออะไรกัน” วารีพูดเช็คขั้นตอนสุดท้าย
“ฉันเม็ดเดือย! เมียฉันชื่อสะตอ! ฮิเมะอยู่ไหน! พวกเธอเจอฮิเมะบ้างมั้ย!?” คุณตาตาเหลือกแดงแบบไม่เหมาะกับขอบตาดำๆ
วารีทำสัญญาณมือวงเป็นวงกลม ไม่นานประตูโดรนก็เปิดแล้วสาวๆลงมา โดรนเล็กบินเข้าโดรนตู้เพื่อเก็บ
หนูนารีบแต่งหน้าฮิเมะแบบด่วนตามที่วางแผนกันไว้ สาวๆยืนกันเว้นเป็นทางเดินให้ฮิเมะเดินลงไปหาพ่อกับแม่
จนสุดท้ายฮิเมะลงจากโดรนด้วยเดรสสวยหรู คุณยายสะตอเริ่มโหม่มาดู เมื่อฮิเมะเดินได้ครึ่งทางยายสะตอพุ่งด้วยความเร็วสูงไปหาเธอ “ลูกแม่!”
ยายสะตอโผกอดฮิเมะ และเพราะฮิเมะอยู่กับวารีร่วมสามเดือน วารีให้เธอออกกำลังกายบ่อยเพราะอยากให้สารเคมีที่ออกมาทำเธอหายเครียด จนหลักเธอดีและยกคุณแม่ที่เธอเห็นว่าตัวเล็กลงกว่าเดิมได้
ฮิเมะยกแม่ขึ้นแล้วหมุนสองรอบ “แม่จ๋า หนูกลับมาแล้ว!”
“แง้! ลูกเอ้ยลูกจ๋า สวยอะไรจะปานนี้!” คุณยายพูดไปร้องไห้ไป
ตายายน่าจะมีฮิเมะในช่วงกลางๆของชีวิตเพราะสองคนเริ่มแกเลยเรียกลุงกับป้าแล้ว
คุณตาคุกเข่าหน้าวาโร “โอ้ย คุณพระคุณเจ้าช่วยลูกแล้ว ราชินีจงเจริญ!”
ตาทำท่าจะกราบเท้าวาโร แต่วาโรจับหลังเสื้อยกมือเดียวทำแกยืน “เพราะอะไรหลายๆอย่าง คุณตาเหมือนเป็นญาติเราแล้ว เพราะวารี… ไม่ต้องทำกับหนูแบบนั้นหรอก”
ตาฉวยจังหวะก้มกอดขาวาโรแทน “ขอบคุณ ขอบคุณ”
วาโรผลักหัวคุณตา พยายามแงะแกออกจากขาเธอ
ทุกคนเริ่มลงจากโดรน และปิดท้ายทุกคนคือหน่วยมังกรขาวสามคนที่ติดมาด้วยเป็นผู้คุ้มกัน
วารีไม่เห็นด้วยที่จะลากคนที่เหมือนพนักงานมาธุระส่วนตัว แต่วาโรบอกแบบเด็ดขาดให้พามา
ริค คนที่โดนปลากัดแขนขาดเมื่อราวสามสี่เดือนก่อนก็มาด้วย ตอนนี้เขาใส่แขนกลที่เชื่อมตรงกับสมอง
ริคถามนา “ท่านนาครับ ให้เตรียมเต็นท์เลยมั้ยครับ?”
นาดูภาพ เหม่อลอยกับคนมีพ่อแม่ จากนั้นหันไปหาริค “จัดเลย ฝากด้วยนะ”
ริคตอบฉับพลัน “รับทราบ”
จากนั้นทหารสามคนขวักไขว่ช่วยกันปูผ้าใบลงพื้น กางเบาะ จัดเต็นท์ใหญ่
คุณตาคุณยายเริ่มมีสติมากขึ้น ตาถามวาโร “หนุ่มๆเหล่านั้นจะทำอะไรเหรอท่านราชินี?”
“เรียกหนูวาโรได้ค่ะพ่อเขย คนของเราจะกางเต็นท์นอนที่นี่เพื่อให้ฮิเมะได้นอนบ้านซักวันสองวัน จากนั้นเราจะเก็บมันก่อนกลับ” วาโรอธิบายด้วยรอยยิ้ม
คุณยายรีบจับหน้าลูกตัวเอง “โอ๋ หนูอยากกลับมานอนบ้านเหรอลูกเอ้ย แบบนี้ไม่ได้นะลูก ลูกมีผัวแล้วจะมีลูกแล้วด้วย ลูกต้องอยู่บ้านผัวน่ะถูกแล้ว”
ฮิเมะรีบบอกแม่ “ผัวหนูให้หนูมา บอกว่ามันจะดีกับใจหนูในระยะยาวมากกว่าถ้าใช้ชีวิตแบบไม่รีบไม่กดดัน”
“เอ อย่างนั้นเหรอลูก? เรื่องแบบนี้มันเข้าใจยาก แก่ๆอย่างแม่คงไม่เข้าใจ แต่ถ้าผัวลูกว่าอย่างนั้น ก็ได้ มาๆ ห้องหนูยังเหมือนเดิม ถ้าเอาหมอนวางก็ให้ผัวหนูนอนด้วยได้แล้ว” คุณแม่ฮิเมะพูดขึ้นมา
วารีไม่ได้คิดว่าจะเบียดเบียนนอนในบ้านเล็กหลังนั้นอีกคน “ไม่ต้องก็ได้ครับแม่เขย เดี๋ยวผมนอนข้างนอกเอา”
“โอ๋ย ไม่ได้หรอกลูก ฮิเมะจะเหงาเอา มานอนบ้านเราสักคืนเป็นเพื่อนเธอก่อน” คุณแม่พูดเชิงบังคับ
วารีมองหน้าวีและวิว สองคนเผยอหน้าเหมือนให้ทำไปตามนั้น
“ได้ครับแม่เขย” สุดท้ายวารีก็ยอมนอนในบ้านฮิเมะ
จากนั้นฮิเมะพาพ่อกับแม่เข้าบ้าน วารีหันไปพยักหน้าให้เหล่าแฟนๆ หลายคนพยักหน้ากลับแบบไม่ขัด
ดีที่ไม่มีใครไม่พอใจ
วารีเข้าไปนั่งที่โต๊ะอาหารเล็กๆข้างฮิเมะ
คุณยายแม่ฮิเมะเอาข้าวเหนียวปิ้งที่น่าจะทาไข่มาวางหลายชิ้นบนโต๊ะ
ฮิเมะหยิบกินแล้วน้ำตาไหล “อาหารแม่อร่อยเหมือนเดิม”
“รู้มั้ย ตั้งแต่ลูกหายไป แม่คิดถึงลูกทุกวัน พ่อเดินเป็นหลายพันก้าวไปบ้านนั้นบ้านนี้เพื่อเล่าเรื่องแล้วถามหาลูก แต่เราหาเท่าไหร่ก็ไม่เจอ” แม่น้ำตาไหลเมื่อนึกถึงวันที่ลูกไม่อยู่
พ่อฮิเมะสะอื้นตาม “สองปีมานี้เราโดนก่อกวนจากบ้านไอ้จ้อดไม่เปลี่ยน ตั้งแต่ลูกหายไป บ้านนั้นมันก็ฮึกเหิมขึ้น รังควานเราหลายครั้ง ลักวัว เผานา มันทำทุกอย่างเพื่อไล่เราออกจากพื้นที่ แต่พ่อยึดคำสอนลูกแล้วปลูกผักที่ลูกสอนให้ปลูก เราอยู่ได้กระท่อนกระแท่นมาเรื่อยๆ แต่ทุกวันนี้มันเริ่มจะหนัก มีวัยรุ่นที่ยังไม่โตนักชอบทำตัวเป็นนักเลงลูกน้องไอจ้อด แล้วจากนั้นก็มารุมรังควานเรา รวมทุกบ้านติดๆกับเรา จนเราคิดว่าบ้านไอ้จ้อดมันทำอะไรแปลกๆที่ไม่น่าจะดี มันถึงได้เป็นแบบนี้”
วารีที่เคี้ยวข้าวเหนียวปิ้งเค็มอร่อยหูผึ่ง “ผมต้องขอรายละเอียดเรื่องนั้นด้วยครับ”
จากนั้นวารีหยิบข้าวเหนียวปิ้งกัดอีกอัน
พ่อวารีมอง ทำหน้าไม่อยากพูด มองเมีย แต่เมียพยักหน้า สุดท้ายพูดเล่าทั้งหมด “มันเริ่มหลังช่วงลูกเราหาย…”
วารีนั่งฟังราวๆสองชั่วโมง ที่คุณตาคุณยายเล่าวีรกรรมนักเลง จับใจความคร่าวๆคือพวกนี้ทำตัวบ้าคลั่ง ไม่กลัวกฏหมาย ระรานคนไปทั่วเหมือนกลุ่มตัวเองเป็นใหญ่ที่สุดในพื้นที่ วีรกรรมต่างๆนาๆมีแต่เรื่องแย่ๆ ขโมย ลักวัวควาย ลักพาตัวผู้หญิง แต่ที่คุณตาสงสัยคือพวกนี้ชอบดูดอะไรสักอย่างทุกครั้งที่มา
วารีสงสัยก่อนว่ามันเป็นอุ้ย แต่พอไปปรึกษากับนา, วี, วิว, และวาโร ทุกคนให้ความเห็นว่าอุ้ยมันไม่ทำให้คนกร่าง มันผิดธรรมชาติ
แต่คุณตาเก็บก้นของยาที่พวกนั้นดูดไว้ และเอาให้วารี
วารีโทรปรึกษาสองหมอ สองหมอให้วารีทำการทดลองด้วยสารเคมีง่ายๆที่มีในโดรนตู้จนบทสรุปออกมาว่า สิ่งที่พวกนั้นเสพคืออุ้ยเคมี
วาโรทำหน้าไม่พอใจอย่างมาก “พวกมันกล้ามากที่กระจายของเลวๆแบบนี้ในพื้นที่ชนบทห่างไกลความเจริญ”
วารีพยักหน้าเห็นด้วย “เราต้องทำอะไรซักอย่าง”
วีเสนอความคิดเห็น “เผาบ้านไอ้จ้อดหัวโจกพร้อมพวกมันไปเลยดีมั้ย?”
วิวพยักหน้า “เราต้องจับมันมาถลกหนังหัว!”
วารีเหงื่อตก “เฮ้ เราจับเป็นเพื่อสืบที่มาของยาจะดีกว่านะ ว่าแต่เธอดิบเถื่อนขนาดนี้กันตั้งแต่เมื่อไหร่?”
“เราเอาหน่วยมังกรขาวมาสองคน เราให้พวกเขาช่วยได้” วาโรภูมิใจที่เอาลูกน้องมาด้วย
“ฉันว่าให้พวกเขาคุ้มกันที่นี่ระหว่างเราบุกกันเองดีกว่า นา โดรนเห็นภาพอะไรบ้าง” วารีหันไปถามนา
นาดูมือถือ วิเคราะห์บ้านเป้าหมาย “มันเป็นบ้านใหญ่ แต่ไม่ได้ใหญ่อะไรขนาดนั้น บุกซักสองสามคนก็เรียบร้อยแล้ว”
เรดจำปาเริ่มคันมือ ปรกติเธอไม่บ้าเลือด แต่เพราะอยู่กับวีและวิวนาน เธอติดนิสัยแฝดบ้าพลังสองคน
ตกดึก ริคแต่งตัวปิดหน้าเหมือนนินจา จากนั้นดันโดรนแมลงวันสอดแนมเข้าใต้ประตูบ้านไอ้จ้อด
โดรนแมลงวันขึ้นบินสำรวจในบ้าน
บ้านไม่มีอะไรน่าสนใจ แต่วารีเห็นห้องนั่งเล่นรวมมีวัยรุ่นนั่งดูดยารวมหัวกันคุยกันเสียงดัง และที่ห้องมีอุ้ยกองใหญ่ น่าจะเป็นอุ้ยเคมี
ริคแงะประตู วารี, วี, วิว, วาโร, และเรดจำปาพุ่งเข้าไปที่ห้องกลางทันที
หน่วยมังกรขาวปีนหน้าต่างหลังบ้านและดักทางหนี
วารีพร้อมออกหมัดเท้าเข่าศอก แต่เมื่อเข้าไปเจอวัยรุ่นจริงๆก็ผิดหวัง
วัยรุ่นแต่ละคนตัวผอมไม่มีแรง ต่อยเตะไม่เป็นจนไม่มีอะไรน่ากลัว
วารีกับสาวๆแค่เดินตบหัวคนละทีพวกนั้นก็นั่งร้องไห้หมดแล้ว
เพราะวารีเรียกโดรนตู้สำหรับคุมผู้ต้องหามาแล้ว ที่เหลือก็แค่ให้ทหารคุมตัวพวกไอ้จ้อดไปขึ้นขังในโดรนเพื่อสอบสวนต่อ
เหล่าแฟนในหน่วยมังกรขาวเกามือไม่ค่อยพอใจ จากนั้นกลับเต็นท์ไปนอน
วารีเข้านอนในบ้านฮิเมะ ข้างฮิเมะ เธอหันมาถาม “ไอ้จ้อดโดนจับแล้วใช่มั้ย?”
“แน่นอน” วารียิ้มแล้วลูบหัวเธอ
ฮิเมะปลดกางเกงเพื่อจะบรรเลงเพลงปากที่ฝึกมากับพี่อายะให้วารี
เช้าตรู่วันต่อมา
วารีไปนั่งที่โต๊ะกินข้าวบ้านฮิเมะหน้ามันผ่องใส
คุณตาวางต้มแซ่บเนื้อกลางโต๊ะ “เมื่อเช้าฉันล้มวัว กินให้เต็มที่!”
“เราจะให้พ่อเขยแม่เขยไปอยู่กับเราที่วังวาโรซีเมียเรีย” วารีเสนอขึ้นมา
ตามองยาย ยายส่ายหน้า “เราไม่ไปเป็นภาระคนหนุ่มสาวหรอก เรามีที่นาผืนนี้และเราจะตายกันที่นี่แหละ”
ฮิเมะมองวารีเหมือนอ้อน “ถ้าให้พ่อแม่ไปกัน แกไม่ไปหรอก แกรักบ้านมาก แต่ถ้าทำให้บ้านมันใหญ่ มีผู้ช่วย อะไรแบบนี้น่าจะดี พอทำให้พ่อแม่ฉันได้มั้ย?”
วารียิ้ม “เธอไม่ต้องขอด้วยซ้ำ”
ฮิเมะร้องไห้ จับมือวารี พาวารีออกจากบ้านลงทุ่งสตรอว์เบอร์รี่ จูบกันกลางทุ่ง
เหล่าแฟนพากันยิ้มให้ภาพคู่นี้
วารีจับมือฮิเมะ มองหน้าอย่างแน่วแน่ “มันเป็นโชคดีที่ได้เจอเธอ อยู่กับฉันตลอดไปนะ”
ฮิเมะยิ้มกว้าง “ได้ค่ะ”
จากนั้นวารีและเหล่าแฟนกลับวาโรเรีย ทิ้งริคไว้สอนตายายเล่นมือถือ เหมือนให้เขาพักร้อนด้วย
คนของบุญมีและบุญมามาสร้างบ้านให้ใหม่ภายในเดือนเดียว และมีผู้จัดการกับคนงานที่ช่วยทำงานสวนงานนา
ตากับยายยิ้มร่าใส่ทองเส้นใหญ่กันทั้งคู่และเป็นที่รู้จักของคนแถวนั้นมากมาย