นายน้อยขี้โรคต้องการให้คุณพ่อแต่งงานใหม่เพื่อที่จะได้เล่นสนุกกับสมาชิกครอบครัวใหม่อย่างแสนสุข
ชาย-ชาย,ดราม่า,ดาร์ค,,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
ความสุขของนายน้อยขี้โรคนายน้อยขี้โรคต้องการให้คุณพ่อแต่งงานใหม่เพื่อที่จะได้เล่นสนุกกับสมาชิกครอบครัวใหม่อย่างแสนสุข
ด้านหน้าพระราชวังมีสมาชิกในครอบครัวนิโคลัสทุกคนอยู่กันพร้อมหน้า
แต่ละคนแต่งตัวกันหรูหราบ่งบอกถึงฐานะที่ร่ำรวย
โดยปกติดยุกจะต้องมีดัชเชสเป็นคู่เปิดตัวในงานแต่ทว่าอาเบลผู้ซึ่งเป็นลูกชายได้กลายเป็นคู่แทนเลน่า
การที่ดยุกเอาใครก็ตามมาเป็นคู่แทนที่จะเป็นดัชเชสถือเป็นการหักหน้าอย่างยิ่งถึงแม้เลน่าจะรับรู้เรื่องนี้แต่เธอเลือกที่จะเพิกเฉย
"อย่าก่อความวุ่นวายล่ะ"
"เข้าใจแล้วค่ะ"
"เข้าใจแล้วครับ"
สมาชิกที่เหลือยกเว้นอาเบลก้มหัวให้กับดยุกด้วยความเคารพ
"ไปกันเถอะอาเบล"
"ครับ ท่านพ่อ"
ภายในราชวังตกแต่งไปด้วยทองอร่ามทั่วทุกที่
ชนชั้นสูงที่ยศต่ำกว่าต่างพากันก้มหัวทำความเคารพ
อาเบลที่ไม่เคยได้มางานแบบนี้มานานแล้วก็ยิ้มเมื่อมองหน้าทุกคน
"นั่นนายน้อยอาเบลนี่"
"งดงามยิ่งกว่าหญิงใดซะอีก"
"ส่วนพวกที่เดินอยู่ข้างหลังท่านดยุกนี่มัน...."
"เคยได้ยินมาว่าดัชเชสคนใหม่ของตระกูลนิโคลัสเป็นหญิงขายบริการ"
"เป็นเรื่องจริงฉันจำหน้ายัยผู้หญิงนั่นได้เพราะฉันเคยไปใช้บริการอยู่"
เสียงกระซิบกระซาบดังขึ้นเมื่อสมาชิกทุกคนเข้ามาในงาน
ธีโอกับมิคาเอลทำหน้าที่คุ้มกันอยู่ด้านหลัง
"ว้าว สวยจัง!"
ลิลลี่ตกตะลึงกับความงามของพระราชวังที่แต่งเติมไปด้วยเพชรและทอง
นี่มันยิ่งใหญ่กว่าคฤหาสน์ของดยุกรอยด์เสียอีก
วันนี้จะเป็นวันที่ฉันจะได้เฉิดฉาย
ลิลลี่เธอสวมเดรสสีฟ้าที่เหมือนกับดวงตาของเธอมันทำให้เธอดูงดงามยิ่งขึ้นเพราะแบบนั้นเธอเลยมั่นใจในตัวเอง
ดัชเชสสวมเครื่องประดับเพชรเม็ดงามที่ราคาชนชั้นสูงบางตระกูลก็ยังซื้อไม่ไหว
แต่อย่างไรก็ตามเครื่องประดับที่ดัชเชสเลน่าควรใส่คือเครื่องประดับที่สืบทอดต่อกันมาของดัสเชสคนก่อน
ดยุกรอยด์ไม่อนุญาตให้เธอใส่มาเพราะมันเป็นของต่างหน้าของภรรยาที่ดยุกรัก
แม้ว่าท่านดยุกจะมีภรรยาคนใหม่แต่เขาไม่เคยนำรูปดัชเชสคนก่อนออกจากห้องโถงเลย
ความงามของเธอนั้นช่างเปล่งประกายยิ่งกว่าผู้หญิงคนไหนในโลกนี้
'อีฟ นิโคลัส' ชื่อของภรรยาคนก่อนของดยุกรอยด์และแม่แท้ ๆ ของอาเบล
เธอมีผมสีเงินอันสละสลวย ดวงตาสีชมพูสดใส ไม่ว่าใครมองก็หลงรักกันทั้งนั้น
อีฟและรอยด์ทั้งสองถูกคลุมถุงชนให้แต่งงานกัน ตอนแรกรอยด์ไม่ได้รู้สึกอะไรกับอีฟเลยแต่ทว่าเมื่อกาลเวลาผ่านไปรอยด์ค่อย ๆ หลงรักอีฟเข้าไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งเธอเสียชีวิตถึงแม้ว่าเธอจะไม่เคยรักเขาเลยก็ตาม
เลน่าจิบไวน์และมองไปทางรอยด์กับอาเบลที่กำลังคุยกับเหล่าขุนนางอยู่ด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึก
ลิลลี่เดินไปหาของกิน
ไซรัสได้คุยกับลูกขุนนางที่อายุเท่ากัน
และคริสอยู่ในหมู่สาว ๆ
หวังว่าลูก ๆ จะไม่ก่อเรื่องวุ่นวายกันนะ
เลน่าถอนหายใจออกมาและหันไปมองมิคาเอลด้วยท่าทางครุ่นคิด
มิคาเอลเป็นองครักษ์ประจำกายของท่านดยุก
เขาดูแข็งแกร่งมาก
ถ้าหากได้เขามาเป็นพวกละก็บางทีชีวิตของฉันอาจจะราบรื่นมากกว่าเดิม
เธอเดินตรงไปหามิคาเอลโดยไม่สนสายที่ของเหล่าชนชั้นสูงที่มองเหยียดเธอ
"มิคาเอล"
"มีอะไรให้รับใช้หรือครับนายหญิง"
"พาฉันไปตากลมที่ระเบียงหน่อยสิ"
มิคาเอลลังเลและเหลือบมองดยุกก่อนจะตัดสินใจพาเลน่าไปที่ระเบียง
ตรงระเบียงนั้นมีผ้าม่านปิดเอาไว้เพื่อการส่วนตัว
ดัชเชสยืนรับลมด้วยสีหน้าผ่อนคลาย มิคาเอลเฝ้ามองอยู่ด้านหลังวันนี้เขาไม่ได้พกดาบติดตัวมาเนื่องจากมาที่พระราชวังเลยถูกสั่งห้ามไม่ให้ผู้ใดนำอาวุธทุกชนิดเข้ามา
ตั้งแต่ที่พวกเขามาถึงก็ผ่านไปเกือบครึ่งชั่วโมงแล้วองค์หญิงเฮเลน่าก็ยังไม่ปรากฏตัวออกมา
มิคาเอลมองผมที่ปลิวไปตามสายลมของเลน่าด้วยสีหน้าไร้อารมณ์
ถึงแม้ว่าดัชเชสคนใหม่จะมีหน้าตาสวยงามเมื่อเทียบกับสามัญชนทั่วไปแล้วแต่ว่า....
ยังไงเรื่องความงามหญิงใดในโลกนี้ก็มิอาจสู้ท่านอีฟได้
ความงามราวกับไม่มีอยู่จริง เธอผู้นั้นเปรียบเสมือนเจ้าหญิงในเทพนิยายที่อัศวินผู้ต่ำต้อยอย่างเขาเผลอใจไปรัก
เสียงพูดของเธอราวกับเสียงของไซเรนที่ดึงดูดเหล่าพวกเดินเรือในทะเล
เมื่อใบหน้าของเธอกระทบกับแสงแดดมันยิ่งทำให้เธอดูงดงามเสียจนองค์จักรพรรดินีที่ว่าสวยแล้วก็ต้องน่าเกลียดเมื่ออยู่ต่อหน้าเธอ
ท่านดยุกรอยด์หลงใหลรูปลักษณ์ของท่านอีฟเป็นอย่างมากถึงขั้นแกะสลักรูปปั้นของเธอด้วยตนเอง
หลังจากที่ท่านอีฟได้จากไปในขณะท้องลูกคนที่สองทำให้ท่านดยุกโศกเศร้าเสียใจเป็นอย่างมากถึงขั้นกินไม่ได้นอนไม่หลับเลยทีเดียว แต่หลังจากนั้นท่านดยุกก็กลับมาเป็นปกติเมื่ออาเบลลูกสุดหวงแหนของเขาเข้ามาปลอบประโลม
ถึงแม้ว่าอาเบลจะเสียแม่ไปแต่เขากลับมาปลอบใจผู้เป็นบิดาของเขาก่อนใครมันยิ่งทำให้ท่านดยุกรักนายน้อยมากกว่าเดิม
ถึงแม้ความรักที่ท่านดยุกมีให้กับนายน้อยจะมากเกินหน้าเกินตาไปบ้างก็ตาม
"มิคาเอลเป็นองครักษ์ให้กับท่านดยุกตั้งแต่อายุเท่าไหร่เหรอ?"
มิคาเอลหลุดออกจากความคิดเมื่อได้ยินเสียงของดัชเชส
".....ตั้งแต่อายุ 15 ครับ"
เธอหันหลังเผชิญหน้ากับมิคาเอล
"นายแต่งงานหรือยัง...?"
"กระผมไม่แต่งงานครับ....เพราะอัศวินประจำกายของท่านดยุกต้องอยู่ข้างกายตลอดเลยมิมีเวลาไปแต่งงานหรอกครับ"
"งั้นเคยมีผู้หญิงคนไหนเข้าตานายบ้างมั้ย...."
มิคาเอลเลิกคิ้วเมื่อได้ยินคำถาม
และในตอนนั้นภาพของอีฟที่ยิ้มเมื่อมองดอกกุหลาบขาวในสวนก็โผล่เข้ามาในจิตใจของมิคาเอล
นั่นเป็นครั้งแรกที่มิคาเอลเห็นอีฟยิ้มตั้งแต่อยู่ด้วยกันมา
ตอนนั้นเป็นช่วงเวลาหลังที่อีฟแต่งงานกับท่านดยุกได้หนึ่งปี
เธอดูสวยยิ่งขึ้นเมื่ออยู่กับดอกไม้
วินาทีนั้นที่มิคาเอลได้ตกหลุมรักอีฟจนหมดหัวใจเขารู้ดีว่าความรู้สึกนี้เป็นความรู้สึกต้องห้าม ตลอดที่ผ่านมามิคาเอลพยายามหักห้ามใจของตัวเองมาตลอด เขากับท่านอีฟเป็นเพียงเจ้านายกับลูกน้องเท่านั้น
แถมเจ้านายของเขายังเป็นสามีของหญิงที่มิคาเอลหลงรักเสียอีก
มิคาเอลได้แต่เก็บความรู้สึกไว้ในใจโดยที่ไม่มีใครรู้แม้กระทั่งอีฟเองก็เช่นกัน
แต่เหนือสิ่งใดมิคาเอลก็ดันไปรู้ความลับอย่างหนึ่งของท่านอีฟมา
เป็นความลับที่ทำให้เขาหักหลังท่านรอยด์เป็นครั้งแรก