นายน้อยขี้โรคต้องการให้คุณพ่อแต่งงานใหม่เพื่อที่จะได้เล่นสนุกกับสมาชิกครอบครัวใหม่อย่างแสนสุข
ชาย-ชาย,ดราม่า,ดาร์ค,,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
ความสุขของนายน้อยขี้โรคนายน้อยขี้โรคต้องการให้คุณพ่อแต่งงานใหม่เพื่อที่จะได้เล่นสนุกกับสมาชิกครอบครัวใหม่อย่างแสนสุข
TW กินเนื้อมนุษย์,Gaslighting,ใช้ความรุนแรง
เมื่อรอยด์กลับถึงคฤหาสน์อาเบลก็รีบวิ่งเข้าไปกอด
"ท่านพ่อ! ยินดีต้อนรับกลับ!"
รอยด์ยิ้มและกอดลูกชายของเขากลับ
"อาเบล...พ่อคิดถึงลูก..."
"ผมเองก็คิดถึงท่านพ่อเหมือนกัน!"
"เป็นเด็กดีจังเลยนะลูกพ่อ..จริงสิเอาเข้ามาได้เลยมิคาเอล"
อาเบลเหลือบมองไปด้านหลังของรอยด์และเห็นมิคาเอลกำลังถือถุงเสื้อผ้าขนาดใหญ่เข้ามาในคฤหาสน์ท่ามกลางสายฝนที่ตกพรำ ๆ
"พ่อเตรียมเสื้อผ้าสำหรับคืนนี้มาเพียบเลย"
"ครับ....แต่วันนี้เกิดเรื่องนิดหน่อย..."
"เกิดเรื่องอะไรขึ้น...?"
รอยด์จ้องมองไปที่สีหน้าเศร้าสร้อยของอาเบลก็เลิกคิ้วขึ้นมา
"หรือว่ามีใครรังแกลูก...? อย่าบอกนะว่าเป็นไอ้พวกชั้นต่ำนั่น!!"
ขณะที่รอยด์กำลังจะเดินไปหาสมาชิกใหม่ก็โดนอาเบลดึงรั้งเอาไว้
"ไม่ใช่หรอกครับ พวกท่านแม่และท่านพี่ไม่ได้ทำอะไรอาเบลหรอกครับ แต่ว่า....."
หัวหน้าแม่บ้านที่เฝ้าดูอยู่ก็เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ดยุกฟัง
"เหมือนว่าสาวใช้ที่ชื่อจินจะถูกคุณหนูลิลลี่ทำร้ายร่างกายค่ะ"
"อะไรนะ....นังเด็กนั่นเหรอ...?"
"ค่ะ แต่เรายังไม่รู้ว่าเรื่องมันเป็นมายังไงเพราะคุณหนูเอาแต่เก็บตัวอยู่ในห้อง คุณผู้หญิงเองก็พยายามจะเข้าไปคุยแต่ก็ไม่ได้ผลส่วนจินที่ถูกทำร้ายก็ออกไปข้างนอกส่งเงินให้กับทางบ้าน....ป่านนี้ยังไม่กลับเลยค่ะ"
"วุ่นวายจริง ๆ บอกไปแล้วแท้ ๆ ว่าอย่าก่อเรื่อง!"
อาเบลเข้าไปกอดพ่อของเขา
"อาจจะไม่ใช่ลิลลี่ทำก็ได้นะครับ....ลิลลี่ดูเป็นเด็กจิตใจดี...คงไม่มีทางทำแบบนั้นหรอกครับ..."
"จะทำหรือเปล่าก็ต้องไปถามเจ้าตัว"
"งั้นมาคุยกันตอนกินข้าวกันเถอะครับ ท่านพ่อเพิ่งกลับมาจากงานเหนื่อย ๆ มากินข้าวและคุยไปกันเถอะครับ"
รอยด์ยิ้มอย่างเอ็นดูให้กับอาเบล เขาลูบหัวอาเบลอย่างอ่อนโยน
"ถ้าลูกว่าอย่างนั้น..."
"วันนี้นายน้อยอาเบลเข้าไปช่วยทำอาหารในครัวด้วยนะคะ ขนาดป่วยแท้ ๆ แต่กลับยื่นกร่านว่าจะช่วยทำอาหารให้ท่านดยุก ท่านดัชเชส ท่านชาย และคุณหนูกิน"
"งั้นเหรอ...ขอบคุณที่เหนื่อยนะอาเบล"
รอยด์จูบที่หน้าผากของอาเบลด้วยความรักใคร่
"คิคิคิ ผมแค่อยากให้ทุกคนได้ชิมอาหารฝีมือของผมดูมันต้องอร่อยแน่ครับอาเบลรับประกัน!"
"พ่อจะกินให้ไม่เหลือเลยลูกรัก....แต่มันจะดีกว่าถ้าลูกไม่ฝืนร่างกายตัวเอง...."
"ผมเข้าใจแล้วครับเพราะงั้นนาน ๆ ทีผมจะเข้าไปทำอาหารในครัวครับ"
"ถ้าอย่างงั้นก็ดี ไปกินข้าวกันเถอะ"
พ่อลูกทั้งคู่จับมือกันไปที่ห้องทานอาหาร
-
ใครจะคิดว่าเรื่องจะบานปลายถึงขนาดนี้!
ลิลลี่แอบไปนั่งที่ห้องสมุด
นังคนรับใช้นั่นปากโป้งจริง ๆ ทั้งที่บอกไปแล้วแท้ ๆ ว่าห้ามบอกใคร
"จะอมทุกข์ไปถึงเมื่อไหร่ไปกินข้าวได้แล้วท่านดยุกเขาเรียกแล้วนะ"
ไซรัสกอดอกมองน้องสาวของเธอ
ยัยน้องสาวตัวดีไปก่อเรื่องเข้าจนได้
ทั้งที่อุส่าเตือนไปแล้วแท้ ๆ
"ฉันไม่ไป!"
"ไม่ไปไม่ได้เพราะท่านดยุกเป็นคนเรียกเธอเอง"
"ตะ...แต่ว่า...!"
"ไม่เป็นไรหรอกน่า"
ลิลลี่เงยหน้ามองไซรัสด้วยสีหน้างุนงง
"ทำไมล่ะ? ฉันเป็นคนทุบตียัยนั่นเอง ท่านดยุกต้องลงโทษฉันแน่ ๆ !"
"เธอมีอาเบลอยู่หนิ"
หืม
"เธอเป็นคนบอกเองนี่ว่าอาเบลตามใจเธอทุกอย่างเพราะงั้นครั้งนี้อาเบลจะต้องช่วยเธอแน่ ๆ "
"จริงสิ...ฉันมีไอ้ขี้โรคนั่นอยู่..."
ลิลลี่พึมพำเมื่อนึกขึ้นได้
และอีกอย่างฉันเป็นเจ้านายส่วนนังนั่นเป็นแค่ข้ารับใช้ ฉันจะทำยังไงกับมันก็ได้
เมื่อคิดอย่างนั้นความรู้สึกผิดทั้งหมดก็หายไป
ลิลลี่กลับมายิ้มอย่างมั่นใจอีกครั้ง
"ใช่แล้ว ไปกินข้าวกันเถอะ!"
-
เมื่อลิลลี่กับไซรัสมาถึงบรรยากาศในห้องกินข้าวก็อึมครึมแต่มีเพียงอาเบลเท่านั้นที่ยิ้มอย่างสดใส
"หายไปไหนมาน่ะลิลลี่? พี่ไปหาที่ห้องก็ไม่อยู่...."
ลิลลี่นั่งลงเก้าอี้อย่างสง่างามและยิ้มตอบกลับอาเบล
"พอดีลิลลี่ไปอ่านหนังสือมาค่ะ...ขอโทษที่ทำให้ท่านพี่รอนานนะคะ"
"แค่น้องมาพี่ชายคนนี้ก็ดีใจแล้ว"
ลิลลี่ยิ้มและมองไปที่อาหารของตัวเอง
ว้าว! เนื้อน่ากินจัง
ลิลลี่ไม่รีรอเธอใช้มีดหั่นและใช้ส้อมจิ้มเนื้อขึ้นมาแล้วเอาเข้าปาก
หื้ออออ!
สัมผัสที่ละลายในปากนี่มัน!
เนื้ออะไรกันนะถึงอร่อยขนาดนี้
อาเบลมองไปที่ทุกคนที่กินเนื้อก็ยิ้มสดใสขึ้นมา
"อร่อยกันใช่มั้ยครับทุกคน"
"อร่อยมากลูก...ขอบคุณที่เหนื่อยนะ"
"คิคิคิ แค่เห็นพวกท่านมีความสุขเรื่องแค่นี้ก็สบายมาก!"
ลิลลี่เหลือบตาไปมองอาเบลขณะกินเนื้อ
อาเบลเป็นคนทำเหรอ? ไอ้ขี้โรคนั่นทำอาหารเป็นด้วยเหรอ?
"ว่าแต่นี่มันเนื้ออะไรเหรอครับทำไมถึงอร่อยได้ขนาดนี้"
คริสเอ่ยถามขึ้นขณะกินเนื้อชิ้นสุดท้าย
"คิคิ ความลับครับท่านพี่ แต่ถ้าท่านอยากกินอีกก็บอกได้เลยนะครับเดี๋ยวอาเบลจะทำให้"
"จริงเหรอ?!.....อึก!!"
เลน่าหยิกเข้าที่ต้นขาของคริสอย่างแรง
ลูกชายคนโตมองไปทางแม่ของเขาด้วยสีหน้าสงสัย
ท่านแม่หยิกผมทำไม
แต่ไม่ทันจะได้ถามก็ได้รับคำตอบมาจากดยุกเสียก่อน
"อาเบลยังป่วยอยู่ถ้าหากอยู่ดี ๆ ลูกชายของฉันเกิดหน้ามืดเป็นลมขึ้นมาเธอจะรับผิดชอบยังไง"
"....ขอโทษครับ"
คริสก้มหัวทำท่าขอโทษไปทางอาเบลที่ยิ้มอย่างช่วยไม่ได้
"เอาล่ะ เรามาเข้าเรื่องกันดีกว่า"
เมื่อรอยด์เห็นทุกคนกินเสร็จกันหมดแล้วเขาก็พูดด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง
ลิลลี่เริ่มเหงื่อตกแต่เธอก็ปลอบใจตัวเองว่ายังไงอาเบลก็ต้องช่วยเธออย่างแน่นอน
"ลิลลี่เรื่องของสาวใช้มันเป็นมายังไง"
ลิลลี่สะดุ้งต่อเสียงที่เย็นชาของดยุกเธอพยายามควบคุมสติอารมณ์ของตัวเองและตอบกลับ
"คะ....คือว่า...หนูไม่รู้เรื่องเลยค่ะ..."
"พวกสาวใช้เขาพูดกันไปทั่วเลยว่าเห็นยัยเด็กนั่นที่เนื้อตัวโชกไปด้วยเลือดเดินมากับอาเบลทางห้องของเธอ"
อาเบล?!
อย่าบอกนะว่ายัยนั่นไปฟ้องอาเบล!
"หนูว่าน่าจะเข้าใจผิดกันนะคะ คือหนูไม่รู้เรื่องอะไรเลยค่ะ! พอหนูกินเค้กกับท่านพี่อาเบลเสร็จก็เข้าห้องนอนทันทีเลยค่ะไม่เชื่อถามท่านพี่อาเบลก็ได้ค่ะ!!"
เมื่อสิ้นคำพูดของลิลลี่ทุกคนก็หันสายตามาจับจ้องที่อาเบล
"จริงไหมลูก?"
อาเบลทำท่าทีกังวลก่อนจะตอบ
"ก็จริงครับที่ผมกับลิลลี่เรากินเค้กกันแต่ว่า....ดูเหมือนว่าผมจะพูดบางอย่างที่ไม่ดีเข้าลิลลี่ก็เลยโกรธปิดประตูออกไปอย่างแรง....พี่เองก็รู้สึกผิดที่ไม่ได้ขอโทษลิลลี่....."
เดี๋ยวสิ อย่ามาตีหน้าซื่อนะ!
ลิลลี่จ้องเขม็งไปที่อาเบล
แกนั่นแหละที่จงใจให้ฉันโกรธไม่ใช่หรือไง?!
"หลังจากนั้นประมาณชั่วโมงหนึ่งผมก็คิดได้เลยจะไปขอโทษลิลลี่แต่กลับเห็นจินที่เนื้อตัวเต็มไปด้วยเลือดและบาดแผลออกมาจากห้องของลิลลี่ด้วยท่าทางอิดโรย...ผมเห็นอย่างนั้นเลยเข้าไปช่วย..."
ไอ้เวรนั่น!!!
ลิลลี่เธอพยายามควบคุมอารมณ์ของตัวเองจิกเล็บเข้าไปในฝ่ามืออย่างแรงเพื่อระงับอารมณ์
เมื่อได้ยินที่อาเบลพูดทั้งคริส ไซรัส และเลน่าต่างก็กังวลว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับลิลลี่หลังจากนี้
ทำเรื่องโง่ ๆ จนได้สินะเด็กคนนี้
เลน่าเธอพยายามเก็บสีหน้าให้ปกติที่สุด แต่ลูกชายอีกทั้งสองคนกลับเผยสีหน้าที่กังวลออกมาอย่างชัดเจน
พวกเราจะโดนไล่ออกจากที่นี่งั้นเหรอ ไซรัสคิด
"คะ...คือว่าเดี๋ยวก่อนค่ะ!!!"
ลิลลี่ลุกขึ้นอย่างร้อนรนและชี้นิ้วไปที่อาเบลอย่างองอาจ
"มันไม่ใช่แบบที่ท่านพี่อาเบลพูดนะคะ!! หนูไม่ได้ทำอะไรผู้หญิงนั่นทั้งนั้น!! นี่เป็นเรื่องเข้าใจผิดทั้งนั้นค่ะ!!"
ตึง-!!
รอยด์ใช้มือทุบโต๊ะทำให้ทุกคนยกเว้นอาเบลสะดุ้งโหยง
"นี่แกจะหาว่าลูกของชายของฉันโกหกงั้นเหรอ?!!"
"เอ๊ะ....กะ...ก็มันจริงนี่คะ!"
พูดบ้าอะไรเนี่ยหยุดเดี๋ยวนี้นะลิลลี่!!!!
เลน่ากับไซรัสพยายามบอกลิลลี่ทางสายตาให้หยุดแต่ทว่าตอนนี้ความโกรธของเธอเริ่มปะทุขึ้นอย่างรุนแรง
"แต่เดิมทียัยนั่นก็เป็นคนรับใช้จะโดนทุบตีขนาดไหนหนูก็ไม่ผิดนี่คะ!"
"ลิลลี่ หยุดซะ!"
"ทำไมคะท่านแม่หนูแค่พูดเรื่องจริง!"
ในขณะที่ฝั่งครอบครัวของลิลลี่พยายามจะหยุดเธอ รอยด์ก็ลุกขึ้นและเดินไปหาลิลลี่ด้วยความโกรธและทันใดนั้น...
เพี๊ยะ-!!
ฝ่ามือใหญ่ตบเข้าไปที่ใบหน้าสวยอย่างเต็มแรงจนเลือดกบปาก
เอ๊ะ....?
นี่ฉันโดนตบเหรอ
คนอย่างฉันเนี่ยนะโดนตบ
ขนาดแม่ของฉันยังไม่เคยตบฉันเลยด้วยซ้ำ!!
เพี๊ยะ-!!
รอยด์ตบไปที่ใบหน้าของลิลลี่อีกครั้ง
"ดูเหมือนจะยังไม่ได้สติสินะ"
ลิลลี่เข่าทรุดด้วยความกลัว
รอยด์มองเธออย่างเย็นชา
"กล้าดียังไงถึงมากล่าวหาลูกชายของฉัน และคนที่ชั้นต่ำคือพวกเธอต่างหาก! ที่ฉันเอาพวกเธอมาไว้ที่คฤหาสน์แห่งนี้ก็เพราะเป็นความต้องการของอาเบล!!"
ลิลลี่เริ่มมีน้ำตาเอ่อร้น เธอรู้สึกกลัว เจ็บ และเขินอาย
"จงใช้ชีวิตอย่างไม่มีตัวตน ฉันเคยบอกในใบสัญญาไปแล้วแต่เหมือนแม่ของพวกเธอจะไม่ได้บอกสินะ"
เลน่ามีเหงื่อออกหน้าของเธอซีดราวกับไก่ต้ม
อาเบลนั่งมองเหตุการณ์อย่างสนุกสนาน
สนุกกว่าที่คิดแฮะ
แต่ฉันยังอยากให้มันสนุกแบบนี้ต่อไปอีกหลาย ๆ วัน
อาเบลลุกจากเก้าอี้และเดินไปหาพ่อของเขา
"พอเถอะครับท่านพ่อ ลิลลี่เองก็ยังเด็กอยู่จะทำผิดก็ไม่แปลก เพราะงั้นให้โอกาสลิลลี่หน่อยเถอะนะครับ"
รอยด์เริ่มกลับมาเป็นปกติเมื่อได้ยินเสียงหวานของลูกชายของเขา
รอยยิ้มของอาเบลไม่สามารถทำให้รอยด์ปฏิเสธได้เลย
"ถ้าลูกว่าอย่างนั้น...."
รอยด์หันกลับไปมองลิลลี่และครอบครัวของเธออย่างเย็นชา
"ถ้าเกิดเรื่องอีกฉันจะไม่เอาพวกเธอไว้แน่"
"ขะ...เข้าใจแล้วค่ะท่านดยุก"
เลน่าก้มหัวให้รอยด์อย่างหวาดกลัว
เธอทั้งแค้นและทั้งอาย
แต่ส่วนมากเธอโกรธที่ผู้ชายคนนี้กล้าดียังไงถึงมาตบหน้าอันแสนสวยของลูกสาวฉัน
เธอจ้องไปที่แผ่นหลังของรอยด์ที่เดินจากไปอย่างโกรธแค้น
ฉันจะแก้แค้นให้สาสมกับสิ่งที่แกทำกับลูกของฉัน!!