นายน้อยขี้โรคต้องการให้คุณพ่อแต่งงานใหม่เพื่อที่จะได้เล่นสนุกกับสมาชิกครอบครัวใหม่อย่างแสนสุข
ชาย-ชาย,ดราม่า,ดาร์ค,,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
ความสุขของนายน้อยขี้โรคนายน้อยขี้โรคต้องการให้คุณพ่อแต่งงานใหม่เพื่อที่จะได้เล่นสนุกกับสมาชิกครอบครัวใหม่อย่างแสนสุข
TW กล่าวถึงการขายบริการ
อาเบลเดินไปนั่งข้าง ๆ ไซรัสตรงข้ามลิลลี่ที่กำลังยืนแข็งทื่ออยู่
"หืม ลิลลี่คุยกับท่านพี่คริสเสร็จแล้วงั้นเหรอ?"
"......."
ไซรัสเริ่มขมวดคิ้วเมื่อลิลลี่ไม่ตอบคำถามของอาเบล เขาแอบใช้เท้าเตะไปที่น่องของลิลลี่เบา ๆ เพื่อเรียกสติ
"อ๊ะ! เอ่อ....ค่ะ..คุยเสร็จแล้ว..."
"งั้นเหรอ....ว่าแต่ท่านพี่กำลังอ่านอะไรอยู่เหรอครับ...?"
อาเบลจ้องไปที่หน้าปกหนังสือ
"วิธีการสืบทอดตำแหน่งทายาทนอกสายเลือด....."
อาเบลอ่านออกเสียงทำให้เหงื่อของไซรัสไหลอย่างบ้าคลั่งหน้าของเขาซีดราวกับไม่มีเลือด
"เอ่อ...อันนี้คือว่า...."
"อ๋ออย่างงี้นี่เอง! ท่านพี่นี่ขยันจังเลยนะครับถ้าหากอยากอ่านอีกยังมีหนังสือแนวนี้อีกอยู่ด้านหลังของห้องสมุดนะครับ"
"ห๊ะ...อ๊ะ...อื้ม ขอบใจที่แนะนำนะอาเบล...."
อาเบลยิ้มออกมาทำให้หน้าที่เคยซีดของไซรัสกลับมามีสีอย่างปกติเหมือนเดิม
"ถ้าหากท่านพี่มีความสุขอาเบลก็ดีใจครับ"
ทั้งสองคุยกันราวกับอยู่ในโลกที่มีเพียงสองคนโดยไม่สนลิลลี่ที่ยืนคิ้วกระตุกอยู่
ไอ้เวรนี่จะมาแย่งพี่ชายอีกคนของฉันไปอย่างนั้นเหรอ เห็นว่าป่วยอยู่แต่ขยันเดินจริง ๆ เลยนะ
ถ้าหากทำให้เดินไม่ได้ละก็.....!
"....."
ลิลลี่ปัดความคิดที่ไม่ดีทิ้งไปซะ เธอยังไม่อยากตายเพราะดยุก
"ลิลลี่ชอบอ่านหนังสือประเภทไหนเหรอ..?"
"ฉันไม่ชอบอ่านหนังสือ"
พูดจบลิลลี่ก็หันหลังเดินออกจากห้องสมุดไปอย่างไม่ไยดี
ไซรัสขมวดคิ้ว
ยัยนั่นทำบ้าอะไรน่ะ
"ขอโทษแทนลิลลี่ด้วยนะอาเบล...ยัยเด็กนั่นก็เป็นแบบนี้มาตั้งนานแล้ว"
"ไม่เป็นไรหรอกอาเบลไม่ถือสาเรื่องแค่นี้หรอกครับ....สร้อยนั่นที่ลิลลี่ใส่..."
"อ๋อ อันนั้นเป็นสร้อยที่ท่านแม่ให้เป็นของขวัญวันเกิดน่ะ ท่านแม่เก็บเงินจากการทำงานมาทั้งหมดเพื่อซื้อให้เธอ...."
"ว้าวฟังดูโรแมนติกจัง! หญิงสาวชาวบ้านผู้ยากจนมีลูกชายสองคน ลูกสาวหนึ่งคน ต้องดิ้นรนหาเช้ากินค่ำเก็บเงินเพื่อชดใช้หนี้สินที่สามีก่อเอาไว้ เธอยอมเป็นแม้กระทั่งโสเภณียอมอ้าขาเพื่อให้ได้เงินและจู่ ๆ แม่ของพวกเขานั้นก็ได้เป็นดัชเชสที่ร่ำรวยเรื่องราวแบบนี้ฟังดูเหมือนนิยายที่อาเบลเพิ่งจะอ่านจบไปเลย"
คิ้วของไซรัสเริ่มกระตุก เขากำมือไว้ใต้โต๊ะไม่มีใครเห็น
"ท่านพี่ไซรัสรู้มั้ยว่าตอนจบของเรื่องนี้คืออะไร"
"หืม คืออะไรงั้นหรอ"
อาเบลยิ้มกว้างมองไปทางไซรัสที่กำลังเก็บอาการโกรธอยู่
"แม่ผู้กลายเป็นดัชเชสถูกวางยาพิษจนตายอย่างทรมาน ส่วนพี่ชายคนโตถูกแยกชิ้นส่วนร่างกายหัวอยู่บนเตียงนอน แขนและขาอยู่สวนดอกไม้ ร่างกายอยู่ในเตาเผา ส่วนพี่ชายคนรองก็ถูกประหารชีวิตโทษฐานที่วางยาพิษฆ่ามารดาตัวเอง และน้องสาวก็โดนรุมโทรมจนตาย...เรื่องราวแบบนี้มันช่างโรแมนติกมากเลยไม่ใช่เหรอครับท่านพี่ไซรัส?"
อาเบลยิ้มเมื่อไซรัสเริ่มเก็บสีหน้าที่โกรธจัดไว้ไม่อยู่แล้ว ทันใดนั้นไซรัสก็ถอนหายใจออกและยิ้มออกมา
"แต่พี่ว่ามันน่าสงสารมากกว่านะ...."
"ทำไมเหรอครับ...?"
"เพราะฟังจากเรื่องราวแล้วผู้ที่แต่งเรื่องนี้คงขาดความอบอุ่นจากครอบครัวน่าดู....พอได้ฟังเรื่องราวก็รู้สึกสงสารคนที่แต่งเรื่องนี้ขึ้นมาน่ะ"
"ท่านพี่ไซรัสจิตใจดีจริง ๆ เลยนะครับ...อาเบลคิดไม่ถึงเลยว่าคนแต่งจะน่าสงสารขนาดนี้"
ไซรัสมองไปยังอาเบลที่ทำสีหน้าเศร้าสร้อยอย่างไร้อารมณ์
ดูเหมือนว่าที่ลิลลี่พูดจะเป็นจริง
ผู้ชายคนนี้
เป็นคนที่ไม่ควรจะเข้าไปยุ่งด้วยจริง ๆ
-
"ท่านพ่อกลับมาแล้วเหรอครับ!"
อาเบลรีบวิ่งไปกอดพ่อของเขาที่ทางเข้าคฤหาสน์
"อย่าวิ่งสิอาเบล...เดี๋ยวจะล้มเอานะ..."
รอยด์รับอ้อมกอดนั้นอย่างยินดี
"ไม่เห็นเป็นไรเลย ผมไม่ล้มหรอก"
"แต่ถ้าลูกล้มลงพ่อคนนี้คงไม่ยกโทษให้ตัวเองแน่นอน"
"โถ่ ท่านพ่อละก็...อาเบลจะไม่ทำอีกแล้ว อาเบลไม่อยากเห็นท่านพ่อเศร้า"
รอยด์จูบไปทั่วหน้าของอาเบลอย่างรักใคร่
"ลูกรักของพ่อทำไมเป็นเด็กดีแบบนี้!"
สมาชิกครอบครัวคนใหม่ทุกคนต่างเฝ้ามองพ่อลูกทอดรักกัน
ลิลลี่เลิกคิ้วกับภาพตรงหน้า
ฉันว่าฉันไม่ได้คิดไปเองนะทั้งสองคนดูสนิทกันแปลก ๆ
เธอสังเกตพวกท่านพี่และท่านแม่ที่มองไปยังดยุกกับอาเบล
ท่านพี่คริสอมยิ้มนิดหน่อย
ท่านพี่ไซรัสขมวดคิ้วเล็กน้อย
ส่วนท่านแม่มองไปอย่างไร้อารมณ์
ดูเหมือนท่านพี่ไซรัสจะคิดเหมือนกันกับเรา
"ยินดีต้อนรับกลับค่ะท่านดยุก"
ดัชเชสคนใหม่และลูก ๆ ของเธอก้มหัวทักทายดยุก
รอยด์ไม่แม้จะชายตามองเขาเดินผ่านทั้งสี่คนอย่างไม่แยแส
"จริงสิมีใครรังแกลูกมั้ยอาเบล"
ทั้งไซรัสและลิลลี่ต่างสะดุ้งเมื่อได้ยินอย่างนั้น เขาทั้งสองค่อย ๆ หันหลังไปและเผลอสบตาสองสีของอาเบล
เหงื่อทั้งสองไหลอย่างบ้าคลั่ง
อาเบลยิ้มออกมาและตอบกลับพ่อของเขา
"เปล่าครับ วันนี้อาเบลสนิทกับพวกท่านพี่และน้องสาวมากเลยครับ"
"งั้นเหรอ...ไปกินข้าวเย็นกันเถอะ"
"ครับ! ไปกันเถอะครับท่านแม่ ท่านพี่ และน้องสาว"
เมื่อเห็นรอยยิ้มนั้นลิลลี่ก็รู้สึกเย็นวาบทั้งตัว
คริสสังเกตว่าน้องสาวของเธอยืนแข็งทื่ออยู่ก็ตบหลังไปทีนึง
ป๊าบ
"อ๊ะ!! ทำบ้าอะไรเนี่ยไอ้พี่บ้า!!!"
"ยืนเหม่ออยู่ได้ ไปกินข้าวได้แล้ว"
พูดจบคริสก็เดินตามหลังท่านแม่ไปทิ้งลิลลี่ไว้ด้านหลัง
ท่านพี่หลงเสน่ห์ของไอ้ปีศาจนั่นจนโงหัวไม่ขึ้นแล้ว
ฉันไม่อยากเสียท่านพี่และท่านแม่ไป
ก่อนที่อาเบลจะทำอะไรครอบครัวของเธอ
"ฉันจะต้องเปิดโปงหน้ากากนั่นให้ได้"