นายน้อยขี้โรคต้องการให้คุณพ่อแต่งงานใหม่เพื่อที่จะได้เล่นสนุกกับสมาชิกครอบครัวใหม่อย่างแสนสุข
ชาย-ชาย,ดราม่า,ดาร์ค,,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
ความสุขของนายน้อยขี้โรคนายน้อยขี้โรคต้องการให้คุณพ่อแต่งงานใหม่เพื่อที่จะได้เล่นสนุกกับสมาชิกครอบครัวใหม่อย่างแสนสุข
TW กล่าวถึงการฆาตกรรม,กล่าวถึงการมีเพศสัมพันธ์,ผิดศิลธรรมในความคิด
ลิลลี่นั่งกอดหมอนอยู่บนเตียงอย่างกระวนกระวายใจ
ทะ...ทำยังไงดี ไอ้คนที่เราเกลียดจะมานอนบนเตียงเดียวกับเราแค่คิดก็สยองแล้ว
ก๊อก ก๊อก
เฮือก! ลิลลี่สะดุ้งกับเสียงเคาะประตู
"พี่เอง ขอเข้าไปนะ"
มาแล้วสินะไอ้ปีศาจ มาดูกันว่าใครจะแสดงเก่งกว่ากัน
"เข้ามาได้เลยค่ะท่านพี่อาเบล"
อาเบลเปิดประตูเข้ามาพร้อมถือหมอนมานอนด้วย
ดูก็รู้ว่าชุดนอนของอาเบลนั้นแพงแค่ไหน
ลิลลี่ยิ้มอย่างมีความสุขให้กับอาเบล เธอเดินไปควงแขนพี่ชายต่างสายเลือดของเธอ
"ลิลลี่รอพี่ชายตั้งนาน...ดีใจจังที่ได้นอนกับท่านพี่"
"ขอโทษทีนะที่ปล่อยให้รอนาน พอดีพี่กำลังกินยาอยู่น่ะ"
จริงสิไอ้เจ้านี่ป่วยอยู่นี่นา ไม่ใช่ว่าจะมาตายบนเตียงนอนเราหรอกนะ
อาเบลและลิลลี่นอนเคียงข้างกันอยู่บนเตียง หมอนคนละใบแต่ผ้าห่มผืนเดียวกัน
ความเงียบที่น่าอึดอัดมันทำให้ลิลลี่ไม่กล้าที่จะหายใจ
"ลิลลี่ชอบกินเนื้อขนาดนั้นเลยเหรอ...?"
"หือ...อ่อใช่ ลิลลี่ชอบกินเนื้อมากเลย! กินทุกวันยังได้"
อาเบลจ้องไปที่ดวงตาสีฟ้าคู่นั้นและยิ้มออกมา
"ดีใจจังที่น้องชอบ....ว่าแต่น้องเคยกินเนื้อมาก่อนด้วยเหรอ...?"
"เปล่าหรอก...ลิลลี่ไม่เคยกินเนื้อมาก่อนในชีวิต..."
'ทำไมถึงถามแบบนี้?'
ลิลลี่มองเข้าไปในดวงตาสองสีคู่นั้นอย่างสงสัย
"อย่างงี้นี่เอง....คงเพราะไม่มีเงินจะซื้อกินสินะ....แถมท่านแม่เองก็ยังทำงานหนักเพื่อมาเลี้ยงดูลูก ๆ ที่น่าสงสาร...."
'ตั้งใจจะพูดอะไรกันแน่'
ลิลลี่เลิกคิ้วขึ้น เธอไม่เข้าใจจุดประสงค์ของอาเบลเลยสักนิด
ลิลลี่ชะงักและเบิกตากว้างเมื่อมีมือนุ่มมาลูบหัวของเธออย่างอ่อนโยน
"น่าสงสารจริง ๆ ใช้ชีวิตอย่างอดอยากหาเช้ากินค่ำ...พี่เองรู้สึกสงสารน้องสาวจริง ๆ ถึงแม้พี่จะไม่เคยอยู่ในสถานการณ์แบบนั้นมาก่อนก็เถอะ"
ลิลลี่เส้นเลือดปูดขึ้นบนใบหน้าเมื่อมองไปยังอาเบลที่ทำสีหน้าเสียใจแต่ดวงตาของอาเบลนั้นกลับกำลังสนุก
เธอเข้าใจสิ่งนี้ดี ลิลลี่เธอชอบสังเกตอารมณ์ของคนตั้งแต่พ่อของเธอที่ชอบตีหน้าซื่อแต่จริง ๆ แล้วเขากำลังแสดงอยู่เพื่อให้ท่านแม่ใจอ่อนทนอยู่กับพ่อต่อไป
ท่านพี่คริสที่มีสีหน้าแสดงออกมาชัดเจน
ท่านพี่ไซรัสที่เก็บสีหน้าเก่งแต่ถ้าเจออะไรกระตุ้นเข้าสีหน้าที่เก็บมาทั้งหมดก็จะถูกเปิดเผยออกมาอย่างควบคุมไม่ได้
และท่านแม่ที่ต้องแสดงสีหน้าแข็งแกร่งออกมาเพื่อลูก ๆ ของเธอแต่ภายในใจของแม่นั้นแหลกสลายไม่เหลือชิ้นดีแล้ว หากไม่มีลูก ๆ อย่างพวกเราอยู่ท่านแม่ก็คงจะไม่รู้ว่าจะมีชีวิตไปเพื่อใคร
อาเบลที่กำลังทำสีหน้าเศร้าสร้อยกับเรื่องราวของเธอ แม้น้ำเสียงของเขาฟังคล้ายจะร้องไห้ออกมาทำให้คนที่ได้ยินแล้วเวทนาสงสารก็จริงแต่สายตานั้นมันหลอกกันไม่ได้
ดวงตาสีแดงเลือดอันน่ากลัวและดวงตาสีม่วงอันน่าพิศวงส่อประกายความสนุกออกมาอย่างบ้าคลั่ง
ลิลลี่กำหมัดอยู่ในผ้าห่มและฝืนยิ้มออกมา
"งะ...งั้นหรอคะ"
"ใช่...แต่ไม่ต้องห่วงแล้วนะในเมื่อน้องอยู่ในคฤหาสน์หลังนี้น้องจะกินแค่ไหนก็ได้ตามใจที่น้องต้องการเลย"
"ขอบคุณค่ะท่านพี่อาเบล..."
"ถ้าน้องอยากได้อะไรก็บอกพี่ชายคนนี้ได้เลยนะ พี่จะไปหามาให้"
หรือนี่จะเป็นโอกาส
ลิลลี่คิดและเอ่ยขอขึ้น
"ลิลลี่อยากได้พ่อบ้านส่วนตัวค่ะ...!"
อาเบลมองไปยังใบหน้าลิลลี่ด้วยสีหน้าครุ่นคิดก่อนจะยิ้มออกมา
"เดี๋ยวพี่ไปคุยกับท่านพ่อให้นะ"
สำเร็จ!
ยังไงท่านดยุกก็ต้องให้พ่อบ้านแก่ฉันเพราะเป็นคำขอของอาเบล
แต่ได้ยินมาว่าพ่อบ้านคนก่อนก็ไม่ได้แก่ขนาดนั้นหนิ ทำไมถึงต้องหาพ่อบ้านคนใหม่
"ว่าแต่ท่านพี่อาเบลคะ พ่อบ้านคนก่อนถ้าจำไม่ผิดชื่อว่าอัลวิน...? เขาลาออกไปเหรอคะ....?"
"หืม อัลวินนะเหรอ...เปล่าหรอก"
"อ้าว แล้วเขาไปไหนเหรอคะ?"
"....ร่างกายของเขาถูกฉีกเป็นชิ้น ๆ ราวกับโดนสัตว์ป่าที่บ้าคลั่งทำร้าย ใบหน้าไม่เหลือเค้าโครงเดิม ทั้งตัวเต็มไปด้วยบาดแผลขนาดเล็ก"
อาเบลพูดขณะสังเกตสีหน้าที่หวาดกลัวของลิลลี่
"คะ....ใครทำเหรอคะ?!!"
อาเบลยิ้ม
"สนใจงั้นเหรอ?"
"คะ....คืออยากฟังไว้เผื่อเจอเหตุการณ์แบบนี้กับตัว......"
ลิลลี่เบาเสียงลงเมื่อเห็นรอยยิ้มแสยะของอาเบล ดวงตากลมโตทั้งสองข้างของอาเบลจ้องมองไปยังลิลลี่ราวกับสะกดจิต
ความงดงามที่แฝงไปด้วยความน่ากลัว นั่นน่าจะเป็นคำอธิบายที่เหมาะกับอาเบลที่สุดแล้ว
ลิลลี่พยายามกำมือที่สั่นนั้นอย่างใจเย็นและรอคอยคำตอบจากอาเบล
"ไม่มีใครรู้ พอเช้าอีกวันก็มีร่างของพ่อบ้านอยู่ใจกลางสวนดอกกุหลาบขาว กุหลาบสีขาวที่เปรอะเปรื้อนไปด้วยสีเลือดนั่นฟังดูโรแมนติกมากไม่ใช่หรอ...?"
"ฮ่าฮ่า ท่านพี่นี่ล่ะก็แกล้งกันแรงจังนะคะ จะพูดให้ลิลลี่กลัวจนฝันร้ายเหรอคะ..."
อาเบลกลับมายิ้มอย่างสดใสอีกครั้ง
"เปล่าสักหน่อย ตอนนี้ก็ดึกแล้วนอนกันดีกว่านะ"
"ค่ะ..."
"ถ้าหากลิลลี่กลัวจะให้พี่ชายคนนี้นอนกอดก็ได้นะ"
"ไม่เป็นไรค่ะ"
-
รอยด์นั่งอยู่บนเตียงกำลังเปิดสมุดภาพถ่ายของอาเบลตั้งแต่เด็กจนโตอยู่
ก๊อก ก๊อก
"ฉันเองค่ะท่านดยุก"
รอยด์ปิดสมุดลงและขมวดคิ้ว
"มีอะไร?"
น้ำเสียงเย็นทำให้เลน่ากลั้นหายใจไปสักพัก
"ขออนุญาตเข้าไปนะคะ"
เมื่อไม่ได้ยินเสียงตอบกลับเธอเลยถือวิสาสะเข้าไปในห้องนอนของดยุก
รอยด์เลิกคิ้วเมื่อเห็นดัชเชสคนใหม่สวมเสื้อผ้าบางจนเห็นหน้าอกที่ไม่ได้ใส่ยกทรงของเธอ
เลน่าเดินไปหาดยุกและขึ้นคร่อมร่างกายของเขา
เธอไม่รีรอประกบจูบรอยด์อย่างรวดเร็วก่อนที่เขาจะพูดอะไร
เธอผลักร่างรอยด์ให้นอนราบกับเตียงเบา ๆ ก่อนจะปลดกางเกงขายาวของเขาออก
มือเล็กเลื่อนลงไปจับท่อนเอ็นใหญ่ของดยุกและนวดคลึงอย่างเมามัน
มืออีกข้างของเธอจับมือดยุกให้มาขยำหน้าอกของเธอ
"อ๊ะ...ท่านดยุกคะ..."
".....ชิ.."
เมื่อท่อนเอ็นของรอยด์ตั้งแข็งแล้วเธอก็สอดท่อนเอ็นใส่เข้าไปในรูรักของเธอทันที
"อึก...!"
"อ๊าาาา! ท่านดยุกคะ!"
เสียงเนื้อกระทบกันดังลั่นทั่วห้อง
แม้ว่าเธอจะครางชื่อของรอยด์แต่รอยด์กลับมองหน้าเธอเป็นลูกชายสุดรักของเขา....