แต่งงานเพื่อผลประโยชน์แต่หัวใจกลับทรยศ ระหว่างนางงามผู้มีข่าวฉาว และชายหนุ่มผู้ไม่เชื่อในความรัก วิวาห์ครั้งนี้...จะลวงรัก หรือฝากรักไว้ในหัวใจของเธอและเขา
รัก,ดราม่า,ชาย-หญิง,ไทย,ครอบครัว,อ่านฟรี,นางงาม,นางเอกสวยมาก,พระเอกเย็นชา,พระเอกขี้หึง,นางเอกสู้ชีวิต,ไม่นอกกายนอกใจ,จบดี ,สัญญา,แต่งงาน,ลูกแฝด,เด็กแฝด,มีลูก,นิยายรักชายหญิง,นิยายรัก,ดราม่า,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
ฝากรักวิวาห์ลวง [อ่านฟรีจนจบ]แต่งงานเพื่อผลประโยชน์แต่หัวใจกลับทรยศ ระหว่างนางงามผู้มีข่าวฉาว และชายหนุ่มผู้ไม่เชื่อในความรัก วิวาห์ครั้งนี้...จะลวงรัก หรือฝากรักไว้ในหัวใจของเธอและเขา
ฝากรักวิวาห์ลวง
ตอนที่ 33 ปมซ้อนซ่อนลวง
เพียงไม่ถึงครึ่งชั่วโมงหลังเสียงคำสั่งสุดท้ายในสายโทรศัพท์จางหาย เสียงเครื่องยนต์ของรถตู้สีดำคันหนึ่งก็ดังแผ่วขึ้นท่ามกลางความเงียบสงัดของโกดังร้าง
รถจอดสนิทตรงหน้าทางเข้า ร่างสูงโปร่งในชุดเสื้อโค้ทสีเข้ม ก้าวลงมาจากรถท่ามกลางความมืดสลัว ท่วงท่าของเขาแน่วแน่และสงบนิ่งจนดูน่าเกรงขาม
เงาสะท้อนจากแสงไฟริมทางสาดทาบบนใบหน้าคมเข้ม แม้เขาจะสวมแจ็คเก็ตคลุมทั้งตัว และใส่หมวกแก๊ปกดต่ำ
แต่...
รังสีอำนาจบางอย่างที่แผ่ออกมารอบตัว กลับชัดเจนจนแม้แต่ความมืดก็ปกคลุมไว้ไม่ได้
บนยอดตึกฝั่งตรงข้าม มือของสไนเปอร์ฝีมือฉกาจที่แอบซุ่มอยู่ในเงามืด ปรากฏความลังเลสั่นไหวเล็กน้อยขณะปรับเลนส์เล็งเป้าหมาย
กล้องส่องทางไกลบนมือของชายอีกคนที่ยืนอยู่บนดาดฟ้าตึกเดียวกัน ก็สั่นสะท้านราวกับกำลังหวั่นเกรงต่อบางสิ่ง
“ใช่แน่...เป็นเขา...”
คนบนดาดฟ้าพึมพำผ่านวิทยุสื่อสาร เหมือนต้องการคำสนับสนุนว่าเขาคิดถูกจากมือสไนเปอร์ด้านล่าง
รูปร่างนั้น...
ท่าทางเดิน...
แรงกดดันจากออร่าโดยรอบ...
แม้กระทั่ง เสี้ยวหน้าด้านข้างที่แง้มให้เห็นเพียงนิดเดียว...
ทุกอย่างตรงกับ “ภวิน” อย่างไม่มีผิดเพี้ยน
ปลายนิ้วค้างอยู่บนไกปืน เขาไม่ได้หมายจะลั่นไกไปยังบุคคลนั้น เพราะคำสั่งจากผู้เป็นนายหญิง
“ห้ามแตะต้องภวินเด็ดขาด… เล็งที่เด็ก...ถ้าเขาผิดเงื่อนไข”
เพราะสิ่งที่แพทริเซียต้องการไม่ใช่ศพของภวิน...
แต่เป็น "หัวใจที่แตกละเอียดของเขา"
ภายในโกดังร้าง... กลิ่นสนิมกับฝุ่นสกปรกอบอวล เสียงลมพัดลอดช่องประตูเก่า ๆ ดังแว่วเป็นระยะ
ใต้เสาเหล็กด้านในสุดของโกดัง เด็กชายตัวเล็กกำลังพยายามอย่างสุดกำลัง
มีถังน้ำเก่า ๆ ที่ด้านบนแตกหักไปกว่าครึ่ง แต่ยังคงรองรับน้ำฝนเอาไว้ได้ประมาณหนึ่ง น้องพีร์ถอดเสื้อเชิ้ตนักเรียนตัวจิ๋วออก แล้วชุบเสื้อกับน้ำในถังนั้น ใช้มันเช็ดหน้าให้น้องสาวอย่างเบามือ
ริมฝีปากเล็กพึมพำเสียงเบาและเศร้าสร้อย
“น้องพราว...ตื่นสิ...เรากำลังจะได้กลับบ้าน”
มือเล็กนั้นสั่นเล็กน้อย ด้วยทั้งความหนาว ความอ่อนแรง และความหวาดกลัว
น้ำตาไหลรินบนแก้มเปื้อนฝุ่น แต่เด็กชายยังไม่ยอมหยุดพยายามเพื่อน้องสาว เพราะเขารู้ว่า...เมื่อแม่ไม่อยู่แล้ว ตอนนี้...เขาต้องเป็นคนปกป้อง
เสียงฝีเท้าที่หนักแน่นแต่ไม่เร่งรีบ ดังแทรกเข้ามาในความเงียบ
เด็กชายหันขวับ หยุดการเคลื่อนไหวทั้งหมด แล้วรีบคว้าร่างน้องสาวเข้ามากอดแน่นตามสัญชาตญาณ
ร่างสูงในเงามืด ค่อย ๆ ก้าวเข้ามาใกล้
ใบหน้าครึ่งหนึ่งยังซ่อนอยู่ใต้เงาหมวก แต่ดวงตาที่ทอดมองเด็กสองคนทอประกายบางอย่าง...
ทั้งอบอุ่น และร้าวรานในเวลาเดียวกัน
ชายคนนั้นยกมือขึ้นช้า ๆ ส่งสัญญาณให้น้องพีร์ใจเย็น
เขาก้าวเข้ามาอีกก้าวด้วยท่วงท่าที่สงบ พร้อมกับเสียงทุ้มที่เอ่ยขึ้นอย่างอ่อนโยน
“ลุงมาช่วยแล้ว...ไม่ต้องกลัวนะ”
เสียงนั้น...
ลุงวิน?
เด็กชายเอ่ยในใจอย่างไม่ค่อยแน่ใจนัก แม้เสียงจะฟังดูคล้ายแต่ก็ต่างออกไปจากที่จำได้เล็กน้อย
เงามืดบดบังใบหน้า และแสงในโกดังก็เพียงริบหรี่เกินกว่าจะเห็นได้ชัดเจน
ชายคนนั้นไม่ได้ขยับเข้าใกล้ รอให้เด็กชายรู้สึกปลอดภัยเสียก่อน
น้องพีร์ขมวดคิ้ว ริมฝีปากขยับจะถาม แต่ยังไม่ทันได้พูดอะไร สายตาก็เริ่มพร่าเลือน
ความเครียด ความหวาดกลัว และความอ่อนเพลียประดังเข้ามาพร้อมกันราวพายุโถม
อาการวิงเวียนจากความเครียดสะสม ทำให้หัวใจเล็ก ๆ เต้นช้าลง เด็กชายพยายามยืนหยัด
...แต่ก็ไม่ไหว
ร่างเล็กเซแล้วทรุดลง
ชายหนุ่มก้าวเข้าไปประคองไว้ทันก่อนที่ทั้งสองร่างจะล้มลง
แขนแข็งแรงโอบรับร่างเล็กไว้แน่น ก่อนจะก้มลงกระซิบบางสิ่งข้างหู เป็นคำปลอบที่มั่นคงและอบอุ่น
“ไม่เป็นไรแล้วนะ... พวกเธอปลอดภัยแล้ว”
น้องพีร์พยายามฝืนเปิดเปลือกตา แล้วพึมพำถึงน้องสาวเสียงแผ่ว ราวกับจะฝากฝังให้คนตรงหน้าช่วยเหลือ
“น้อง...พราว...” ก่อนที่เปลือกตาจะปิดลงอย่างช้า ๆ
เจ้าของอ้อมแขนแข็งแรง ก้มลงตรวจดูสัญญาณชีพของเด็กทั้งสองอย่างรวดเร็ว
ลมหายใจของทั้งคู่แผ่วเบา แต่สม่ำเสมอ
เขาจึงอุมเด็กทั้งสองขึ้น แล้วก้าวเดินผ่านเงามืดของโกดังออกไปอย่างรีบร้อน
อีกด้านหนึ่ง
...ที่โรงจอดเครื่องบินร้าง
สถานที่แห่งนี้แม้จะทรุดโทรม แต่กลับมีการใช้งานอยู่บ่อยครั้ง จากผู้คนบางกลุ่มที่ลอบนำเครื่องบินเล็กขึ้นบิน พานักท่องเที่ยวชมธรรมชาติของป่าแม่ฮ่องสอนในทริปราคาถูก
ณัฐกฤษมาถึงตั้งแต่ครึ่งชั่วโมงก่อน ตามแผนที่ภวินสั่งให้เขาซุ่มสังเกตการณ์หากเมณิชาถูกพามาที่นี่
เขาเลือกจุดหลบหลังโครงเหล็กขึ้นสนิมของเครื่องบินเก่าที่จอดทิ้งไว้ เฝ้ามองทุกการเคลื่อนไหวโดยไม่ให้ใครสังเกตเห็น
โดยมีตำรวจนอกเครื่องแบบกลุ่มหนึ่ง ที่เขาใช้เส้นสายของ 'มงคล' พ่อเลี้ยงของเขา ติดตามมาคุ้มกันและทำภารกิจช่วยเหลือนี้ด้วย
ทันทีที่มาถึง เขาก็เห็นเครื่องบินเล็กลำหนึ่งกำลังถูกเตรียมความพร้อม ไฟนำร่องกระพริบช้า ๆ บนปลายปีก เสียงเครื่องยนต์ถูกสตาร์ตวอร์มอัพเป็นระยะเหมือนรอผู้โดยสารที่จะมาถึงในไม่ช้า
คนงานสองสามคนเดินวนอยู่รอบลำเครื่อง ท่าทางเคร่งขรึมและมีจังหวะเคลื่อนไหวที่ไม่เหมือนพนักงานบริการท่องเที่ยวทั่วไปแม้แต่น้อย
แล้วไม่นาน...รถตู้คันสีเทาก็เข้ามาจอดเงียบสนิทตรงหน้าลานบิน
ประตูเลื่อนเปิดออก ผู้ชายสองคนก้าวลงมาอย่างรวดเร็ว ท่าทางแข็งกร้าวราวกับทหารรับจ้าง
พวกเขาลากตัวผู้หญิงคนหนึ่งลงจากรถ เธอถูกคลุมหัวด้วยถุงผ้าสีดำ มิดชิดจนไม่เห็นแม้เสี้ยวใบหน้า แขนทั้งสองข้างถูกมัดไพ่หลังไว้แน่น
ณัฐกฤษเกร็งตัวอยู่ในเงามืด ปลายนิ้วไล้ไปบนไกปืนพกข้างเอว เขาจับจ้องผู้หญิงที่ถูกคลุมหัวอย่างไม่วางตา สัญชาตญาณเตือนเขาว่าผู้หญิงคนนั้นอาจเป็น...เมณิชา
หัวใจเต้นถี่เป็นจังหวะเดียวกับเสียงใบพัดเครื่องบินที่เริ่มหมุนช้า ๆ
ทุกก้าวของชายสองคนที่ลากเธอไปยังบันไดเครื่องบิน เขาเพ่งพินิจอย่างใจเย็น รอให้ภาพตรงหน้าชัดเจนก่อนจะตัดสินใจ
ร่างในผ้าคลุมหัวถูกลากไปยังบันไดเครื่องบินเล็ก ลมกลางคืนพัดแรงจนผ้าคลุมปลิวเล็กน้อย เผยให้เห็นเพียงปลายเส้นผมสีดำยาวสลวย ซึ่งยิ่งตอกย้ำหัวใจเขาให้กระตุกแรง
"พิมพ์...ใช่เธอหรือเปล่า" เขาพึมพำแผ่วในลำคอ กำมือแน่น อยากจะรีบพุ่งออกไปช่วยเต็มที่
แต่เพราะเสียงภวินที่ฝากฝังยังดังในหัว
“อย่าใจร้อน…เรายังไม่รู้ว่าแพทริเซียจัดฉากอะไรไว้”
ชายที่ลากตัวเธอเดินขึ้นบันไดอย่างไม่ลังเล ขณะที่คนงานรอบลำเครื่องจับตามองทุกทิศ
ณัฐกฤษขยับปืนขึ้นเล็งผ่านร่องเหล็กขึ้นสนิม แต่จังหวะนั้นเอง เขาก็สังเกตเห็น…
บางสิ่งสะกิดใจ สัดส่วนช่วงไหล่ ความสูง และจังหวะก้าว หญิงสาวที่ถูกคลุมหัว...ลำตัวและข้อมือหนากว่าผู้หญิงทั่วไปเล็กน้อย
แววสงสัยพุ่งขึ้นในใจทันที
หรือว่า…นี่ไม่ใช่เมณิชา
เขาตัดสินใจรอให้ขึ้นบันไดถึงกลางลำ แล้วส่งสัญญาณทางวิทยุให้ทีมซุ่มยิงเลื่อนเป้าจากตัวประกันไปที่คนคุ้มกันแทน
จังหวะที่ลมแรงพัดผ้าคลุมหัวหลุดลงครึ่งหนึ่ง…
ใบหน้าที่ปรากฏไม่ใช่เมณิชา แต่คือ "สุรวีร์" ดวงตากร้าวแฝงด้วยความแค้น แม้จะถูกมัด
ณัฐกฤษสบตาเธอเพียงวินาทีเดียวก็รู้ทันที…นี่คือเหยื่อล่อ
และเขาคิดถูก เพราะหนึ่งในกลุ่มคนที่ลากสุรวีร์ขึ้นเครื่องบินคือ 'วินัย' นักขายข่าวที่ตอนนี้ตกกระไดพลอยโจน เข้ามาอยู่ในแผนลวงของแพทริเซีย เพื่อแลกกับอิสรภาพของตัวเอง
ณัฐกฤษสั่งถอนกำลังทันที เขาต้องแสดงตามน้ำไปว่า ภวินมาถึงที่นี่ไม่ทัน เพื่อให้แพทริเซียชะล่าใจ
“ไม่ใช่เป้าหมาย! เคลื่อนออก อย่าให้พวกมันรู้ว่าเราอยู่ที่นี่”
"รับทราบ!"
เสียงตอบรับสั้น ๆ ในวิทยุทำให้เขาโล่งใจเพียงเสี้ยววินาที เพราะในหัวก็ยังคิดเป็นห่วงว่า…ถ้าไม่ใช่ที่นี่ งั้นเมณิชาก็ต้องอยู่ที่จุดสุดท้าย...ซึ่งอันตรายที่สุด
ขณะเดียวกัน ที่โกดังร้าง…
ชายร่างสูงในหมวกแก๊ปอุ้มเด็กทั้งสองออกมาจากเงามืด
ทีมสไนเปอร์ของแพทริเซีย เลือกปล่อยเขาให้อุ้มเด็กออกมาตามคำสั่ง เพราะถึงเขาจะได้ตัวเด็กไป ก็ไม่แน่ว่าเด็กคนหนึ่งในนั้นจะรอด...
แสงไฟจากรถตู้สีดำที่จอดรออยู่ด้านนอกส่องให้เห็นชัด ใบหน้าคมเข้ม ดวงตาคมกริบที่คล้ายภวิน…
น้องพีร์มองเขาผ่านความพร่ามัวก่อนจะหลับตาลงอีกครั้ง
ชายคนนั้นยิ้มบาง ๆ แล้วเอ่ยเสียงทุ้ม
“ลุงจะพาไปหาพ่อของพวกหนู”
เขาคือ อคิน พี่ชายแท้ ๆ ของภวิน คนที่เป็นข่าวว่าหายตัวไป ทำให้ภวินต้องกลายเป็นผู้สืบทอดทุกอย่างแทน
อคินวางเด็กทั้งสองลงบนเบาะหลังรถอย่างระมัดระวัง ก่อนสั่งคนสนิท
“ขับออกไปเส้นเลี่ยงเมือง อย่าให้ใครตามเจอ ตรงไปเซฟเฮ้าส์”
ที่เซฟเฮ้าส์ได้เตรียมหมอและพยาบาลไว้เสร็จสรรพ เพราะที่โรงพยาบาลอันตรายเกินไป เสี่ยงที่จะถูกตลบหลังซ้ำสอง
เขารู้ดี…นี่ไม่ใช่แค่การช่วยเด็ก แต่คือการปิดบังเส้นทางตัวจริงของน้องชาย ให้คนร้ายตามผิดเป้าหมายไปอีกฝั่ง
ในเวลาเดียวกัน บนถนนมืดนอกเมือง รถของภวินกำลังขับรถพุ่งไปยังพิกัดที่ GPS จากแหล่งข่าวลับเพิ่งส่งมา
เขาไม่ลังเลแม้แต่วินาทีเดียว
เพราะทุกข้อมูลที่แพทริเซียให้…เขาอ่านทะลุว่าเป็นแผนลวง
หัวใจเขาบอกว่า เมณิชาอยู่ที่ปลายเส้นทางนี้ ท่าเรือที่ไม่มีใครคาดคิดว่าจะใช้เพื่อการลักพาตัวและหลบหนี
*****
มาช้าแต่มานะ
พยายามปั่นอยู่น๊าาา
รักรี้ดทุกคนที่อ่านและเม้นท์
อย่าว่าแต่รี้ดรออัพ
ไรท์ก็รอคอมเม้นต์เช่นกัน
จุ๊บุ จุ๊บุ