แต่งงานเพื่อผลประโยชน์แต่หัวใจกลับทรยศ ระหว่างนางงามผู้มีข่าวฉาว และชายหนุ่มผู้ไม่เชื่อในความรัก วิวาห์ครั้งนี้...จะลวงรัก หรือฝากรักไว้ในหัวใจของเธอและเขา
รัก,ดราม่า,ชาย-หญิง,ไทย,ครอบครัว,อ่านฟรี,นางงาม,นางเอกสวยมาก,พระเอกเย็นชา,พระเอกขี้หึง,นางเอกสู้ชีวิต,ไม่นอกกายนอกใจ,จบดี ,สัญญา,แต่งงาน,ลูกแฝด,เด็กแฝด,มีลูก,นิยายรักชายหญิง,นิยายรัก,ดราม่า,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
ฝากรักวิวาห์ลวง [อ่านฟรีจนจบ]แต่งงานเพื่อผลประโยชน์แต่หัวใจกลับทรยศ ระหว่างนางงามผู้มีข่าวฉาว และชายหนุ่มผู้ไม่เชื่อในความรัก วิวาห์ครั้งนี้...จะลวงรัก หรือฝากรักไว้ในหัวใจของเธอและเขา
ฝากรักวิวาห์ลวง
ตอนที่ 25 บาดแผลในรอยใจ
บาดแผลเก่า ถูกเกาซ้ำ ย้ำจนเจ็บ
ในใจเก็บ กลบถมไว้ ไม่จางหาย
รอยสามเส้า เผาจนแสบ แทบเจียนตาย
ใจสลาย เพราะพ่ายรัก หนักอารมณ์
รถยนต์สีเข้มแล่นบนถนน ที่มุ่งสู่คฤหาสน์ลัวร์อย่างเงียบเชียบ ท่ามกลางความเงียบที่ตึงเครียดในรถ เมณิชานั่งตัวตรง ดวงตากลมเหม่อมองออกไปอย่างไม่สบายใจ
“คุณณัฐ...จอดส่งพิมพ์แค่ตรงป้ายรถเมล์ข้างหน้าได้ไหมคะ พิมพ์จะโบกแท็กซี่ต่อเข้าไปเอง” เธอพูดเสียงแผ่ว
ณัฐกฤษเลื่อนสายตามองหญิงสาวข้างตัว แล้วส่ายหน้าปฏิเสธอย่างแน่วแน่
“ไม่ พิมพ์... ฉันจะไปส่งเธอถึงหน้าบ้าน ฉันไม่ไว้ใจสถานการณ์ในตอนนี้ เธอกำลังตกเป็นเป้า”
เมณิชาหันมามองเขาดวงตาสั่นไหว
“แต่...ถ้าคุณภวินเข้าใจผิด ฉันไม่อยากให้มันเป็นปัญหา...”
“ฉันไม่ได้คิดอะไรนอกจากความปลอดภัยของเธอ” เขาขัดขึ้นด้วยเสียงทุ้มหนักแน่น
“ภวินเป็นผู้ใหญ่ มีเหตุผล ถ้าผมอธิบายว่าเราเจอกันที่สำนักงานเขต และฉันแค่ช่วยพาเธอกลับบ้าน ...เขาคงเข้าใจ”
เมณิชานิ่งไป เธออยากเชื่อแบบนั้น...แต่ลึก ๆ ก็รู้ว่าความหึงหวงนั้น มักไม่มีเหตุผลเสมอ
เธอไม่รู้เลยว่า ณัฐกฤษคนที่เธอเคยรู้จัก ก็สามารถเด็ดขาดได้ไม่แพ้ภวิน
รถแล่นเข้าสู่ลานคฤหาสน์อย่างช้า ๆ เสียงล้อบดพื้นกรวดดังขึ้นเตือนการมาถึงของผู้มาเยือน
เมณิชากำลังจะเปิดประตูลง แต่ณัฐกฤษกลับเปิดประตูฝั่งคนขับออกแล้วเดินอ้อมมาหาเธอ
“คุณจะลงไปด้วยทำไมคะ...” เธอเอ่ยเสียงเบา
“เพื่อลดความเข้าใจผิด ฉันจะอธิบายทุกอย่างให้เขาฟังเอง”
"แต่..."
เธอเม้มริมฝีปากไม่พูดต่อ แล้วลอบถอนหายใจอย่างปลดตก ก่อนจะเดินนำเข้าไปในตัวบ้านพร้อมเขา
ทันทีที่ประตูเปิดออก ภวินที่นั่งรออยู่ในห้องโถง ก็ลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว สายตาคมประกายกรุ่นด้วยความร้อนรนและเป็นห่วง
“เมณิชา...” เขาเอ่ยเรียกเธอ ก่อนจะหยุดชะงักเมื่อเห็นร่างของณัฐกฤษเดินตามเข้ามา
สีหน้าของภวินเปลี่ยนทันที ดวงตาคมวาวโรจน์ด้วยความไม่พอใจ
“นายมาทำอะไรที่นี่” ภวินเอ่ยถามเสียงต่ำ สีหน้าไม่ปิดบังความรู้สึกเลยแต่นิด
“ผมมาส่งคุณเมย์ครับ เธอเจอเรื่องไม่คาดคิด เราบังเอิญเจอกันที่สำนักงานเขต แล้ว...”
“บังเอิญ?” ภวินแค่นเสียงหัวเราะ เขาขัดขึ้นทั้งที่อีกฝ่ายยังอธิบายไม่ทันจบ
“ผู้ชายที่บังเอิญเจอเมียคนอื่น แล้วพากลับมาส่งบ้าน?”
“มันคือเรื่องบังเอิญจริง ๆ เธอกำลังมีเรื่องยุ่ง และผมแค่ช่วย...” ณัฐกฤษพยายามอธิบายอย่างสุขุม
“ต่อไปนี้...อย่ายุ่งกับเมียของผมอีก” เป็นอีกครั้งที่ภวินขัดขึ้น เขาพูดเสียงขุ่นแล้วเดินเข้ามาหา ก่อนจะผลักไหล่ณัฐกฤษอย่างแรง
แรงผลักเพียงแค่นั้นก็ทำให้ชายหนุ่มเซถอยไปด้านหลัง สีหน้าเขาเหยเกแสดงความเจ็บปวด เพราะแรงผลักสะเทือนมาถึงบาดแผลที่แขน
“คุณณัฐ!” เมณิชาเข้าไปประคองณัฐกฤษไว้ด้วยความเป็นห่วง
“ไม่เป็นไร ...พิมพ์” เขากลั้นเสียงเจ็บแล้วหันมาพูดกับเธอ
แต่ภวินยิ่งเห็นภาพนั้น ก็ยิ่งเดือดปุดในอก แล้วไหนจะชื่อนั้น 'พิมพ์' ที่ณัฐกฤษใช้เรียกเมียของเขาอย่างสนิทสนม
เขาก้าวเข้ามาจะคว้าคอเสื้อของณัฐกฤษ แต่ยังไม่ทันแตะตัว เมณิชาก็หมุนตัวกลับมายืนขวางเอาไว้
“พอได้แล้วค่ะ! อย่าทำร้ายเขา!”
“เธอกล้าปกป้องมันขนาดนี้เลยเหรอ!”
ภวินเค้นเสียงคำรามลั่น จนเส้นเลือดตรงขมับปูดขึ้นและเต้นตุบ ๆ ไปตามจังหวะหัวใจที่ถี่ชัด สีหน้าเขาเต็มไปด้วยทั้งความโกรธและความเจ็บปวด
“เขาช่วยชีวิตฉันไว้!” เธอเผลอพูดออกมาอย่างลืมตัว
คำพูดนั้นเหมือนหยดน้ำมันราดลงบนไฟ
ภวินชะงัก ดวงตาแดงก่ำ เขานิ่งไปเพียงครู่ก่อนจะหัวเราะในลำคอ รอยยิ้มบิดเบี้ยวปรากฏบนใบหน้าคมเข้ม
“ในที่สุด...ก็พูดความจริงแล้วสินะ ที่แท้ก็ไปเจอเรื่องอันตรายมาจริง ๆ แล้วปิดบังผมไว้ ทำไมไม่บอกผม ทำไมถึงต้องไปพึ่งผู้ชายคนอื่น!”
เสียงของเขาเต็มไปด้วยการประชดประชันและความผิดหวัง สีหน้าพลันเย็นชาแต่แววตากลับรุ่มร้อน
ที่จริงเขาพอจะรู้บ้างแล้วว่าวันนี้เกิดอะไรขึ้นกับเมณิชาบ้าง เพราะแม้ว่าเมณิชาจะกำชับกับร้อยเวรที่รับแจ้งความเอาไว้แล้ว ว่าไม่อยากให้ทางบ้านรู้ แต่ความเป็นภวินก็ทำให้เขารู้ทุกเรื่องของตระกูล อย่างไม่มีเงื่อนไข
“คุณไม่เข้าใจ!” เมณิชาเถียงกลับทันควัน
“มันเป็นเหตุการณ์เฉพาะหน้า และเขาก็แค่บังเอิญผ่านมาช่วยฉัน!”
“ใช่ครับ ผมเห็นเธอที่สำนักงานเขต ผมรู้สึกไม่สบายใจเลยตามไป และ...”
ณัฐกฤษได้จังหวะจึงพูดเสริมความน่าเชื่อถือ แต่ไม่เป็นผล กลับยิ่งเพิ่มทวีความโกรธให้ภวิน
“พอ!” ภวินตะโกนตัดบท เขาหัวเราะเสียงต่ำอย่างเย้ยหยัน แล้วจ้องหน้าเมณิชานิ่ง
ทำไมกันนะ...กับคนที่เธอสามารถร้องขอความช่วยเหลือได้ทุกอย่าง ...อย่างเขา เธอถึงไม่เคยพูดอะไร
...แต่กับณัฐกฤษ ทำไมเธอกลับยอมให้ช่วยเหลือ หรือเป็นเพราะว่า...
“เธอยังลืมรักเก่าไม่ได้ใช่ไหม หรือว่า...เธอกำลังหาพ่อให้เด็กแฝด”
ประโยคนั้นเหมือนคมมีดกรีดตรงกลางหัวใจของเมณิชา
...เธอไม่คิดเลย ว่าคนที่เป็นพ่อของลูก จะพูดอะไรแบบนี้ออกมาได้
เขาไม่รู้ว่าเขากำลังหยามหัวใจของแม่คนหนึ่งแค่ไหน เธอกำมือแน่น พูดตอบเสียงสั่น
“แล้วถ้าคุณณัฐเป็นพ่อของลูกฉันจริง ๆ ล่ะคะ... คุณจะทำยังไง? จะไล่ฉันกับลูกออกไปจากคฤหาสน์นี้เลยไหม”
ความผิดหวังภายในอก กระตุ้นให้เธอพูดออกมาอย่างนั้น
บรรยากาศรอบตัวแน่นขึงจนแทบหายใจไม่ออก มันเงียบเสียจนได้ยินเสียงลมหายใจของทั้งสามคนชัดเจน
ภวินนิ่งงัน ราวกับถูกฟาดหน้าอย่างแรง แววตาของเขาผสมปนเปกันระหว่างความเจ็บ...กับความโกรธ และความรู้สึกโหวงใจ กับประโยคทิ่มแทงอีกฝ่ายที่เพิ่งเผลอพูดออกไป
ถ้าเป็นผู้หญิงคนอื่นที่พูด ป่านนี้เขาคงทำตามคำประชดชันเหล่านั้นไปแล้ว ...แต่นี่คือเมณิชา คนที่ในใจลึก ๆ กำลังบอกกับเขาว่า
...อย่ายอมเสียเธอไป เขาจึงเลือกที่จะไม่พูดอะไรต่อ
เมณิชากัดฟันแน่น กลั้นน้ำตา ก่อนจะเบนหน้าไปอีกทาง ไม่มองใครเลยแม้แต่น้อย
ฝ่ายณัฐกฤษก็นิ่งเงียบ เขาไม่ได้ตกใจ และไม่ได้โต้แย้ง
เพราะเขารู้...เขาไม่ใช่พ่อของเด็กสองคนนั้น และเขาก็ไม่เคยเป็นอะไรในหัวใจของเมณิชาเลยด้วยซ้ำ
แต่วันนี้ เขาเป็นต้นเหตุให้คนสองคนที่รักกัน ต้องเจ็บช้ำเพราะเข้าใจผิด
“ผมว่า...ผมควรกลับก่อน” ณัฐกฤษพูดเสียงเรียบ ก่อนจะเหลือบตามองเมณิชา
เธอหันหน้าหนี ไม่อยากให้เขาเห็นว่าเธอกำลังจะร้องไห้
ณัฐกฤษมองภวินนิ่ง ๆ เป็นครั้งสุดท้าย
เขาไม่รู้ว่าใครคือพ่อของเด็กแฝด
...แต่เขารู้ ว่าผู้ชายตรงหน้าเขา รักผู้หญิงคนนี้ จนยอมให้ความรู้สึกกลืนกินเหตุผลไปหมดแล้ว
เขาจากไปเงียบ ๆ เหลือเพียงความขุ่นมัวที่แน่นทึบภายในคฤหาสน์อันโอ่อ่า
และรอยแผล...ที่ไม่มีใครมองเห็น
เมณิชาไม่ได้ห้าม ส่วนภวิน...ก็ไม่แม้แต่จะมองหน้าเขาอีก
ณัฐกฤษเดินออกจากคฤหาสน์ พร้อมรอยเลือดจาง ๆ ติดอยู่ที่ชายแขนเสื้อ
..เขาไม่รู้ว่าอะไรเจ็บกว่ากัน
...ระหว่างบาดแผลที่แขน กับ รอยบาดลึกในใจ
....เพราะเขาเผลอเดินเข้ามาใกล้เธอเกินไปแล้ว
*****