แต่งงานเพื่อผลประโยชน์แต่หัวใจกลับทรยศ ระหว่างนางงามผู้มีข่าวฉาว และชายหนุ่มผู้ไม่เชื่อในความรัก วิวาห์ครั้งนี้...จะลวงรัก หรือฝากรักไว้ในหัวใจของเธอและเขา
รัก,ดราม่า,ชาย-หญิง,ไทย,ครอบครัว,อ่านฟรี,นางงาม,นางเอกสวยมาก,พระเอกเย็นชา,พระเอกขี้หึง,นางเอกสู้ชีวิต,ไม่นอกกายนอกใจ,จบดี ,สัญญา,แต่งงาน,ลูกแฝด,เด็กแฝด,มีลูก,นิยายรักชายหญิง,นิยายรัก,ดราม่า,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
ฝากรักวิวาห์ลวง [อ่านฟรีจนจบ]แต่งงานเพื่อผลประโยชน์แต่หัวใจกลับทรยศ ระหว่างนางงามผู้มีข่าวฉาว และชายหนุ่มผู้ไม่เชื่อในความรัก วิวาห์ครั้งนี้...จะลวงรัก หรือฝากรักไว้ในหัวใจของเธอและเขา
ฝากรักวิวาห์ลวง
ตอนที่ 30 ทางเลือกสุดท้าย
ทางของใจ เคยเอ่ยไว้ ไม่ยุ่งเกี่ยว
เลือกหนึ่งเดียว เพื่อชีวิต ผ่านพลิกผัน
สุดทางออก กลับลับหาย คล้ายทางตัน
ท้ายสุดนั้น คือฝันร้าย ภัยโง่งม
เมณิชากลับมาถึงห้องพักในตอนเย็น เหตุการณ์ที่โรงเรียนยังคงตามหลอกหลอน มือที่จับลูกทั้งสองนั้นยังคงกระชับแน่น เหงื่อผุดบนฝ่ามือทั้งที่ห้องเปิดแอร์ไว้เย็นเฉียบ
กลิ่นหวาดระแวงยังคงติดอยู่ในโพรงจมูก ความรู้สึกเมื่อครู่ยังกัดกินอยู่ทุกอณูจิต
น้องพีร์กับน้องพราวยังดูตกใจ เด็กทั้งสองไม่ซนเหมือนเคย ไม่ถามอะไรเลยแม้แต่คำเดียว แค่นั่งเงียบ ๆ อยู่ข้างแม่เหมือนกลัวว่า ถ้าพูดอะไรออกไป สิ่งไม่ดีจะเกิดขึ้นจริง ๆ
เมณิชารู้ตัวดี ว่าความกลัวที่เกาะกินเธอในตอนนี้มันไม่ได้ไร้เหตุผล แต่มันคือสัญชาตญาณ...
...ราวกับเหยี่ยวป่า ที่รู้ว่าศัตรูเริ่มป้วนเปี้ยนใกล้รังมากเกินไป
หากพลั้งพลาด... ลูก ๆ จะไม่ปลอดภัย
เธอไม่อาจเสี่ยงให้เกิดอะไรขึ้นอีก แม้เคยสาบานกับตัวเองว่าจะไปจากภวิน และไม่มีวันกลับไปหาเขา
...แต่ในตอนนี้ เขาคือทางรอดที่ดีที่สุด
เมณิชาเปิดโทรศัพท์ กดโทรหาเบอร์ของภวิน
เสียงสัญญาณดังครั้งแรก...ครั้งที่สอง...ไม่มีการตอบรับ เธอกดซ้ำอีกครั้ง และอีกครั้ง
...แต่ทุกครั้งก็ไม่มีสัญญาณตอบรับ เสียงสัญญาณที่ตัดไปกลางทางทำให้เธอร้อนใจ
มือที่ถือโทรศัพท์สั่นเทา น้ำตาที่กลั้นไว้มาตลอดวัน ค่อย ๆ เอ่อคลออย่างห้ามไม่อยู่
สุดท้าย...เธอจึงเปลี่ยนเป็นส่งข้อความไปแทน
["มารับฉันกับลูกที ที่นี่ไม่ปลอดภัย ที่อยู่คือ..."]
เธอพิมพ์ที่อยู่ห้องพักแนบไปด้วยมือสั่นเทา น้ำตาที่เอ่อล้น หยดลงบนหน้าจอโดยไม่รู้ตัว
ก่อนจะเปลี่ยนไปกดโทรหาณัฐกฤษ หวังเพียงว่าเขาจะสามารถติดต่อภวินได้ หรืออย่างน้อย ณัฐกฤษจะได้รีบมาช่วยเธอ...ก่อนที่อะไรจะสายเกินไป
ทว่า...ยังไม่ทันที่เขาจะรับสาย เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น
ปึ้ง! ปึ้ง! ปึ้ง!
ก่อนจะเปลี่ยนเป็นเสียงทุบกระหน่ำรัว จนกระจกหน้าต่างบานเกล็ดสั่นคลอน แทบแตกไปพร้อมกัน
เมณิชาสะดุ้งเฮือก...
น้องพราวที่กำลังสะลึมสะลือง่วงนอน พลันสะดุ้งตัวโหยง ส่วนน้องพีร์ก็รีบคว้ากระเป๋านักเรียนขึ้นมากอดไว้อย่างตื่นกลัว
เมณิชาวางโทรศัพท์แทบจะทันที แล้วหันกลับไปคว้าลูกทั้งสองมากอดไว้แน่น แทบกลั้นหายใจตามเสียงเคาะที่หยุดลง
"ใครน่ะ!"
เธอตะโกนเสียงเข้มถามกลับไปทางประตู ดวงตาประกายแข็งกร้าว แม้ริมฝีปากจะสั่น
ไร้เสียงตอบกลับ มีเพียงความเงียบที่แสนอึดอัด
เธอคว้าโทรศัพท์ขึ้นมาอีกครั้ง สายที่โทรหาณัฐกฤษมีการรับสาย เธอกำลังจะพูดตอบ
แต่ในจังหวะเดียวกันนั้นเอง เงาทะมึนของบางอย่างก็เคลื่อนผ่านบานหน้าต่างไป ทำให้เธอตัดสินใจตัดสายของเขา แล้วกดเบอร์ 191 แทน
"ช่วยด้วยค่ะ! มีคนพยายามบุกรุกห้องฉัน ที่อยู่คือ..."
หญิงสาวรีบแจ้งเหตุ ด้วยข้อมูลทุกอย่างที่พอจะนึกออกตอนนั้น
อีกด้านหนึ่ง
เสียงล้อรถบดไปบนถนนลาดยางคดเคี้ยว รถตู้วีไอพีแบรนด์หรูกำลังขับผ่านไหล่เขาใต้แสงสีทองยามเย็น ด้วยความเร็วเกินกฎหมายกำหนดเล็กน้อย
ภวินนั่งอย่างไม่เป็นสุข ดวงตาคมจ้องมองหน้าจอมือถือที่สัญญาณยังคงดับสนิท
เขาพยายามโทรหาเมณิชาหลายครั้งก่อนหน้านี้ แต่ไม่มีสัญญาณเลยแม้แต่น้อย
"เร็วขึ้นอีกได้ไหม"
เสียงออกคำสั่งกับคนขับที่ประจำอยู่ด้านหน้าอย่างร้อนใจ
"ได้ครับคุณภวิน"
คนขับรับคำ แล้วเร่งความเร็วขึ้นอีกเล็กน้อย จนรถตู้เคลื่อนตัวผ่านเส้นทางคดเคี้ยวบนภูเขามาได้
“อีกนิดเดียว...รอฉันอีกนิดนะเมย์” เขาพึมพำกับตัวเอง ขากรรไกรกัดแน่น
ทันทีที่เข้าสู่เขตชุมชน คลื่นสัญญาณโทรศัพท์ก็ขึ้นเต็มแถบ
เสียงแจ้งเตือนดังรัว ๆ รวมถึงข้อความเพียงหนึ่งเดียวที่เขารอคอยมาตลอดหลายวัน
[สายที่ไม่ได้รับจาก: เมณิชา (6)]
[ข้อความใหม่: เมณิชา - "มารับฉันกับลูกที ที่นี่ไม่ปลอด..."]
หัวใจเขากระตุกวูบในวินาทีนั้น มือกำโทรศัพท์แน่น รีบเปิดอ่านข้อความทั้งหมด ดวงตาคมเบิกโพลง สีหน้าเคร่งเครียดกว่าครั้งไหน ๆ
เขารีบโทรกลับหาเธอทันที
แต่ยังไม่ทันจะกดโทรออก สายของณัฐกฤษก็เตือนแทรกขึ้นมาเสียก่อน
ภวินกัดฟันแน่น กดรับสายอย่างหัวเสีย
"มีอะไร ผมกำลังยุ่ง!"
“คุณใกล้ถึงหรือยัง คุณเมย์แย่แล้ว” เสียงปลายสายตึงเครียดและเร่งร้อน
ภวินแทบหยุดหายใจ เขานิ่งไปเล็กน้อยก่อนโพล่งกลับ
"นายว่ายังไงนะ!?"
"ฟังผมให้ดีนะ มีคนกำลังจะทำร้ายเธอและเด็ก ๆ เธอโทรหาผม ผมได้ยินเสียงเคาะประตูดังมาก แล้วสายก็ตัดไป!"
เสียงภวินเปลี่ยนเป็นคำรามทันที
"บ้าเอ๊ย!!"
"คุณต้องรีบไป ส่วนผมจะแจ้งตำรวจแล้วรีบตามคุณไป!"
ภวินไม่รอช้า รีบสั่งคนขับให้เร่งความเร็ว
รถคันหรูเปลี่ยนเป็นพุ่งทะยานออกไปด้วยความเร็วสูง ภวินกำหมัดแน่น ใบหน้าตึงเครียด และในหัวมีแต่ภาพเมณิชาและลูกของเขา
วันนี้...เขาจะไม่ยอมเสียเธอและลูกไปอีก
เสียงไซเรนของตำรวจดังขึ้นเบา ๆ ขณะรถตู้ของภวินค่อย ๆ ขับเข้ามาตามที่อยู่ที่เมณิชาส่งให้
รถตู้คันหรูจอดสนิทหน้าตึกอพาร์ตเมนต์เก่า ๆ แห่งหนึ่งซึ่งซ่อนตัวอยู่ในตรอกเล็ก ๆ ของชานเมืองเงียบสงบ
รถตำรวจคันหนึ่งจอดอยู่ก่อนหน้า เสียงไซเรนดับเพิ่งลงไป แต่แสงไฟยังคงกระพริบอยู่ ประตูรถเปิดอยู่ด้านหนึ่ง และมีเสียงวิทยุสื่อสารดังแทรกเบา ๆ ผ่านความเงียบของค่ำคืนในชนบท
ภวินเปิดประตูรถก่อนที่คนขับจะทันลงมาเปิดให้ ร่างสูงวิ่งพรวดไปยังทางเข้าอาคารทันที
เขาเห็นตำรวจสองนายยืนอยู่หน้าห้องหนึ่ง ซึ่งประตูเปิดอ้าอย่างผิดปกติ และเมื่อมองหมายเลขห้อง
ใช่แล้ว ...มันคือเลขเดียวกับในข้อความ
ภวินไม่รอช้า รีบพุ่งตรงเข้าไป แต่ก่อนจะทันได้ก้าวเข้าไปในห้อง ตำรวจนายหนึ่งก็ยกมือกันเขาไว้
“เดี๋ยวก่อนครับ! ห้ามเข้า!”
“คุณเป็นใครครับ? เกี่ยวข้องอะไรกับเจ้าของห้อง?”
ภวินพยายามจะผลักตำรวจออกไป แต่เสียงของตำรวจอีกคนดังขึ้นแทน
“คุณไม่มีสิทธิ์เข้าไปในที่เกิดเหตุ มันอาจจะทำลายหลักฐานสำคัญ”
“ผมถามว่าคุณเป็นใคร?”
“ผมเป็นสามีของเมณิชา...เจ้าของห้องนี้ เธอกับลูก ๆ ของผมอยู่ที่นี่! ตอนนี้พวกเขาอยู่ที่ไหน!?”
ภวินตอบอย่างร้อนรน ริมฝีปากขบแน่นจนเห็นสันกราม
ตำรวจชะงักเล็กน้อยเมื่อได้ยินความสัมพันธ์ หนึ่งในนั้นพยักหน้าเบา ๆ แล้วปล่อยมือที่กันตัวเขาไว้ออก
“ขออภัยครับ… ตอนนี้เรากำลังสืบสวนอยู่ มีคนโทรแจ้งว่ามีคนร้ายพยายามพังประตูเข้ามาในห้องนี้”
“แล้วตอนนี้เธออยู่ไหน!?” เสียงเขาเกือบจะตะโกน
“ตอนพวกเรามาถึง ประตูห้องก็เปิดอ้าอยู่ ไม่มีใครอยู่ข้างใน แต่พบร่องรอยการต่อสู้ครับ เรากำลังสอบถามข้างห้องและหาข้อมูลจากกล้องวงจรปิดละแวกนี้”
ภวินรู้สึกเหมือนหัวใจหยุดเต้นไปชั่วขณะ เขารีบวิ่งเข้าไปข้างในห้อง มองไปทุกมุม
เดินไปเปิดประตูห้องน้ำ เปิดผ้าม่านกั้นภายในนั้น เดินออกไปที่ระเบียงหลังห้อง แล้วสังเกตุไปจนทั่ว
แต่ก็ไม่มีแม้เงาของคนที่เขาตามหา...
..เมณิชา
…น้องพีร์ น้องพราว
.…พวกเขาหายไปอีกแล้ว
ไม่ว่าจะต้องพลิกเมือง หรือแลกด้วยทุกสิ่งในชีวิต
...เขาก็จะต้องตามหาเมณิชา และลูกให้เจอ
และไม่ว่าใครก็ตามที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้
...เขาจะไม่ปล่อยมันไว้
*****
ตอนต่อไปอาจไม่ได้ลงทุกวันนะคะ
เพราะตอนที่เขียนไว้ในสต๊อกหมดแล้วค่ะ
ใกล้จบทีไร ..เขียนยากทุกที
^^
รักทุกคนที่ติดตามอ่าน
และแวะมาแลกเปลี่ยนคอนเม้นต์นะคะ
จุ๊บุ...จุ๊บุ...