แต่งงานเพื่อผลประโยชน์แต่หัวใจกลับทรยศ ระหว่างนางงามผู้มีข่าวฉาว และชายหนุ่มผู้ไม่เชื่อในความรัก วิวาห์ครั้งนี้...จะลวงรัก หรือฝากรักไว้ในหัวใจของเธอและเขา
รัก,ดราม่า,ชาย-หญิง,ไทย,ครอบครัว,อ่านฟรี,นางงาม,นางเอกสวยมาก,พระเอกเย็นชา,พระเอกขี้หึง,นางเอกสู้ชีวิต,ไม่นอกกายนอกใจ,จบดี ,สัญญา,แต่งงาน,ลูกแฝด,เด็กแฝด,มีลูก,นิยายรักชายหญิง,นิยายรัก,ดราม่า,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
ฝากรักวิวาห์ลวง [อ่านฟรีจนจบ]แต่งงานเพื่อผลประโยชน์แต่หัวใจกลับทรยศ ระหว่างนางงามผู้มีข่าวฉาว และชายหนุ่มผู้ไม่เชื่อในความรัก วิวาห์ครั้งนี้...จะลวงรัก หรือฝากรักไว้ในหัวใจของเธอและเขา
ฝากรักวิวาห์ลวง
ตอนที่ 29 เหยี่ยวหวงรัง
เหยี่ยวผายปีก บินหลีกไฟ ภัยรุกป่า
แหวกลัดฟ้า ฝ่าผืนดิน สู่ถิ่นหมาย
หวงที่สุด ดุจชีวิต แทบสิ้นวาย
รังดวงใจ เกือบลับหาย ใต้เตาเพลิง
เสียงเปิดแฟ้มและคลิกเมาส์ในห้องทำงานส่วนตัวของภวิน ดังสลับกับเสียงถอนหายใจหนัก ๆ ทำลายความเงียบด้วยความร้อนรนไปจนหมดสิ้น
เขานั่งอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ เพื่อดูข้อมูลกล้องวงจรปิดของสถานีขนส่งกรุงเทพ ราวกับเป็นเจ้าของพื้นที่ ...ด้วยอำนาจเงียบที่ไม่มีใครกล้าปฏิเสธ
คลิปจากกล้องมุมสูงแสดงภาพแบบขาวดำ เทปถูกกดเลื่อนถอยหลังสลับเดินหน้า ซ้ำไปซ้ำมาหลายรอบ
ดวงตาคมกริบกวาดดูอย่างไม่กะพริบ
ร่างหญิงสาวในเสื้อคลุมยาวปิดมิดชิด อุ้มเด็กหญิงตัวน้อยข้างหนึ่ง และจูงมือเด็กชายอีกคนหนึ่งไว้แน่น เดินตรงไปยังรถตู้คันสีเทา
เขารู้…ถึงจะมีหมวกปิดไปครึ่งหน้า ถึงภาพที่บันทึกจะไม่ชัด
แต่นั่นคือเธอ...
เขากดหยุดภาพทันที ขยายภาพจนเห็นชายอีกคนที่นั่งรอในรถ เมื่อประตูรถเลื่อนเปิด
เสี้ยวหน้าด้านข้างในเงามืด ...ที่เหมือนเคยเห็น ไม่ต้องใช้เวลาคิดนาน เพราะลึก ๆ เขาเดาชื่อของคนนั้นไว้ในใจอยู่แล้ว
ภวินกัดกรามแน่น เลือดทั้งขึ้นหน้าและคั่งในอก
เธอไปกับเขา...
แม้จะไม่มีภาพโอบกอดชัดเจน และไม่มีเสียงพูด แต่แค่ภาพนั้น มันก็ราวกับเขาถูกตบหน้า
เขาหยิบมือถือขึ้นทันที แล้วกดโทรออกหาเบอร์ ที่เขาไม่คิดว่าจะมีเรื่องให้เสวนาด้วยอีก
“ณัฐกฤษ!”
เขากรอดชื่อผ่านไรฟัน
เสียงสัญญาณดังเพียงสองครั้ง ก่อนจะมีเสียงตอบรับ
“สวัสดีครับ”
“นายอยู่ที่ไหน?” เสียงของภวินกดต่ำ และเต็มไปด้วยแรงโทสะ
ปลายสายเงียบไปอึดใจ ก่อนจะตอบกลับอย่างใจเย็น เมื่อรู้ว่าปลายสายคือคนที่เขาเผลอไปเหยียบจมูก โดยไม่ได้ตั้งใจ
“คุณคงรู้แล้ว!”
“เธอไปกับนายจริง ๆ”
“ผมช่วยเธอ...ก็แค่นั้น”
“แค่ช่วย? หรือว่าพวกนายสองคนกำลังจะเริ่มต้นชีวิตใหม่กันแล้ว!”
ภวินคำราม ร่างกำยำเต็มไปด้วยความโกรธที่พุ่งสูงขึ้นทุกขณะ
“เธอหนีฉันไปหานาย ทั้งที่เธออยู่กับฉัน อยู่ในบ้านฉัน! แล้วลูก... เด็กสองคนนั่น พวกเขาก็ถือเป็นลูกของฉัน!”
“เพราะแบบนั้นไง เธอถึงต้องไป”
ณัฐกฤษตอบเสียงเคร่ง
“เธอไม่ได้ทิ้งคุณ ...แต่เธอกำลังปกป้องคุณ”
“จากอะไร?”
น้ำเสียงของภวินเริ่มสั่น ไม่ใช่เพราะความกลัว...แต่เพราะความรู้สึกสูญเสียที่เริ่มลามลึกในใจ เพราะเขาหรือ...ที่ทำให้เมณิชาต้องหนี
“จากคนที่พร้อมจะทำร้ายคุณ...ผ่านเธอ ผ่านเด็กทั้งสอง” ณัฐกฤษพูดเนิบช้า ชัดถ้อยชัดคำ
“แล้วนายกับเมย์เป็นอะไรกัน ...เธอถึงเลือกไปกับนาย”
ปลายสายเงียบไปอีกครั้ง ก่อนจะตอบอย่างหนักแน่น
“ผมไม่เคยเป็นอะไรในชีวิตเธอเลย นอกจากเพื่อนคนหนึ่งที่หวังดีกับเธอ...ก็เท่านั้น”
ภวินกำโทรศัพท์แน่นจนเส้นเลือดที่ข้อมือปูด
หัวใจที่เคยร้อนรุ่ม กลับเย็นชาวาบขึ้นมาด้วยความว่างเปล่า
ความจริงที่เจ็บยิ่งกว่าการจากไป
คือการที่เธอไม่เคยเลือกให้เขาได้ยืนเคียงข้าง แม้ในตอนที่เธอกำลังหวาดกลัว
"แล้วตอนนี้เมย์กับเด็ก ๆ อยู่ที่ไหน?"
แววตาของเขาแดงก่ำ สายตาคมยังคงจับจ้องไปที่ภาพนิ่งของเธอบนหน้าจอคอมตรงหน้า
'เธอหนีฉัน...แต่เธอกลับบอกว่าทำเพื่อฉัน'
เสียงในหัวตอกย้ำซ้ำ ๆ
...หรือที่จริง เธอไม่เคยเชื่อใจเขาเลย
หลังจากได้ข้อมูลจากณัฐกฤษ ภวินก็ปรับอารมณ์ให้กลับมาสงบเยือกเย็นเช่นปกติ เขาต้องใช้สมาธิเพื่อทบทวนอะไรหลายอย่าง
ชายหนุ่มหยิบกล่องเอกสารเล็กจากลิ้นชักซ้ายมือ ที่เคยเก็บแฟ้มความลับไว้ตั้งแต่สี่ปีก่อน
ท่ามกลางความว่างเปล่าในหัวใจ ที่กำลังถูกแซะออกทีละชั้น
...แล้วเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น
“เข้ามา” เขาตอบอย่างอ่อนล้า
คนรับใช้ถือซองสีน้ำตาลเข้ามาส่งให้
“มีคนฝากไว้ที่ รปภ. ค่ะ ไม่มีชื่อ ไม่มีที่อยู่”
“ใคร?” เขาขมวดคิ้ว
“ไม่ทันเห็นค่ะ เหมือนวางไว้แล้วก็รีบไปเลย”
ภวินรับซองนั้นมา สายตาเริ่มเฉียบขึ้นอีกครั้ง ความระแวดระวังฉายชัดในดวงตาสีเข้ม
เขาเปิดซองนั้นออกอย่างไม่รอช้า ภายในมีแค่แผ่นกระดาษแผ่นหนึ่ง
แต่เมื่อเขาเห็นมัน...หัวใจกลับกระตุกโหว
ภาพอัลตร้าซาวด์จากคลินิกเอกชนในกรุงเทพ ลงวันที่เมื่อ 4 ปีที่แล้ว และตรงหัวกระดาษ มีชื่อชัดเจน
ชื่อแม่: พิมพ์ขวัญ มหาวงษ์ (ครรภ์แฝด)
..สองหัวใจเล็ก ๆ
...สองชีวิตในครรภ์ที่ถูกบันทึกไว้ในภาพขาวดำภาพนั้น
มือของภวินค่อย ๆ วางกระดาษลงบนโต๊ะ ดวงตาแดงจัด ริมฝีปากขบแน่น
ภาพนั้น...ทำให้ทุกสิ่งในอดีตหวนกลับมา
คืนวันเกิดของเขา และแววตาของหญิงสาวในความลับ
ความอบอุ่นเพียงคืนเดียว ที่ไม่เคยเลือนหายจากหัวใจ
"เธอไม่ได้หนี..."
น้ำเสียงของเขาแผ่วเบา แต่มั่นใจในสิ่งที่คิด
“ตอนนั้น...เธอไม่ได้หนีฉัน…เธอกำลังรอฉันต่างหาก”
เสียงสะท้อนในห้องกว้างยังคงดังก้องหลังคำพูดสุดท้ายนั้นจบลง
เธอรอเขา แต่เขากลับช้าเกินไป
แล้ว...ฉับพลันเขาก็เริ่มประติดประต่อ
หรือว่า 'พิมพ์ขวัญ' กับ 'พิมพ์ญดา' จะเป็นคนเดียวกัน
ในใจของภวิน…
เริ่มมีประกายบางอย่าง แสงเล็ก ๆ ที่จะไม่ยอมให้เธอหายไปอีกครั้ง
…เขาจะตามหาเธอ
…และครั้งนี้ เขาจะไม่ยอมเสียเธอไป
ไม่ว่าเบื้องหลังจะมีใครคอยไล่ล่าเธอ ไม่ว่าเธอจะหลบเขาไปไกลแค่ไหน
เขา…จะพาเธอกลับมา พร้อมเด็กทั้งสองคน
...ลูกของเขา
โรงเรียนประถม
เมณิชาสวมเสื้อเชิ้ตสีครีมเรียบง่าย กับกางเกงผ้าเนื้อเบา เดินเท้าเข้ามาในบริเวณโรงเรียนเหมือนเช่นทุกวัน
แต่ฝีเท้าของเธอชะงักกึก เมื่อมองไปยังแผงขายขนม ที่เคยมีแม่ค้าคนเดิมยืนประจำอยู่เสมอ
วันนี้...กลับมีชายสองคนแทนที่
หนึ่งในนั้นสวมเสื้อเชิ้ตติดกระดุมเกือบถึงคอ อีกคนใส่แจ็กเก็ตคลุมร่างทั้งที่แดดยังแรง
ทั้งคู่ไม่ยิ้ม ไม่คุยกับเด็ก ไม่เข้ากับบรรยากาศแม้แต่นิดเดียว
เมณิชาหรี่ตามองแผงขนมนั้นอย่างระแวดระวัง หัวใจเต้นแรงขึ้นอย่างไม่มีเหตุผล
เมื่อเธอเดินเข้าใกล้โรงเรียนมากขึ้น เธอก็เห็นภาพที่ทำให้หัวใจแทบหยุดเต้น
แม่ค้าคนนั้น หญิงวัยกลางคนร่างท้วม ที่เธอจำได้ว่าเคยแอบถ่ายรูปเธอครั้งก่อน
กำลังยืนอยู่หน้าอาคารเรียน พูดคุยอะไรบางอย่างกับครูประจำชั้นของน้องพีร์
ข้างตัวครู...คือน้องพีร์กับน้องพราวที่กำลังยืนอยู่เงียบ ๆ เหมือนกำลังรออะไรสักอย่าง
มือเล็กของน้องพราวจับมือพี่ชายไว้แน่น ริมฝีปากเล็กขยับเหมือนจะพูด แต่ไม่มีใครสนใจฟัง
หัวใจเมณิชาหล่นวูบ เธอรีบก้าวเท้าถี่ขึ้น
และทันทีที่เธอเห็นว่าครูกำลังจะส่งลูกทั้งสอง ให้ไปกับแม่ค้าคนนั้น
เธอก็พุ่งตัวออกวิ่งเต็มแรง พร้อมเปล่งเสียงก้องไปทั่วลานโรงเรียน
“อย่าค่ะ! อย่าให้ไปกับเขา!!”
เสียงนั้นดังมากพอจะทำให้ทั้งครู ทั้งแม่ค้า และเด็ก ๆ หันขวับ
เสียงกรีดร้องของเมณิชาเต็มไปด้วยความตื่นตระหนก ปนเสียงสะอื้นที่เกือบจะควบคุมไม่ได้
เธอวิ่งเข้าไปโอบร่างของลูกทั้งสองไว้แน่น หัวใจเต้นโครมคราม เหงื่อผุดเต็มหน้าผาก ทั้งที่อากาศไม่ได้ร้อนนัก
“พวกเขาเป็นลูกฉันค่ะ...ห้ามใครพาไปทั้งนั้น!”
ครูประจำชั้นสะดุ้งรีบถอยหนึ่งก้าว พลางยกมือขึ้นเป็นเชิงบอกให้เมณิชาสงบใจลง
“คุณเมย์ไม่ต้องตกใจนะคะ! แม่ค้าคนนี้แค่จะขอถ่ายรูปกับน้องพีร์น้องพราวเท่านั้นเองค่ะ”
เสียงครูสั่นเล็กน้อยเพราะเพิ่งสัมผัสได้ว่า ทำให้ผู้ปกครองไม่สบายใจ ส่วนแม่ค้าร่างท้วมก็รีบพยักหน้าสนับสนุนคำพูดของครู และยิ้มกลบเกลื่อน
“ใช่ค่ะ ๆ ป้าแค่เห็นทั้งสองคนน่ารักดี ก็เลยอยากขอถ่ายรูปไปให้ลูกสาวดู พอดีลูกสาวป้ากำลังท้องอยู่ค่ะ”
เมณิชาไม่ตอบ รับรู้ได้ทันทีว่านี่ไม่ใช่เรื่องปกติ
เธอกระชับอ้อมแขนแน่นขึ้น ดวงตาหวานเปลี่ยนเป็นคมกริบราวกับเหยี่ยว ที่ปกป้องรังด้วยความความระแวดระวัง
ไกลออกไปที่แนวรั้วโรงเรียน ชายแปลกหน้าสองคนที่ยืนคุมแผงหันมองเหตุการณ์ ก่อนสื่อสายตากันอย่างรวดเร็ว แล้วหมุนตัวผละไปอย่างเงียบ ๆ ในละแวกฝูงชน
เมณิชาจ้องตามแผ่นหลังพวกเขาจนลับตา รู้ดีว่าภัยกำลังไล่มาใกล้เกินคาด…
*****