แต่งงานเพื่อผลประโยชน์แต่หัวใจกลับทรยศ ระหว่างนางงามผู้มีข่าวฉาว และชายหนุ่มผู้ไม่เชื่อในความรัก วิวาห์ครั้งนี้...จะลวงรัก หรือฝากรักไว้ในหัวใจของเธอและเขา
รัก,ดราม่า,ชาย-หญิง,ไทย,ครอบครัว,อ่านฟรี,นางงาม,นางเอกสวยมาก,พระเอกเย็นชา,พระเอกขี้หึง,นางเอกสู้ชีวิต,ไม่นอกกายนอกใจ,จบดี ,สัญญา,แต่งงาน,ลูกแฝด,เด็กแฝด,มีลูก,นิยายรักชายหญิง,นิยายรัก,ดราม่า,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
ฝากรักวิวาห์ลวง [อ่านฟรีจนจบ]แต่งงานเพื่อผลประโยชน์แต่หัวใจกลับทรยศ ระหว่างนางงามผู้มีข่าวฉาว และชายหนุ่มผู้ไม่เชื่อในความรัก วิวาห์ครั้งนี้...จะลวงรัก หรือฝากรักไว้ในหัวใจของเธอและเขา
ฝากรักวิวาห์ลวง
ตอนที่ 26 เงียบงันกลางใจ
ความเงียบงัน กีดสัมพันธ์ กั้นความรัก
ปากแข็งนัก อยากเอ่ยคำ ร่ำความหมาย
ในใจสาว แสนห่วงใย ภัยกล้ำกราย
กลางใจชาย ก็แสนรัก เปี่ยมภักดี
ค่ำคืนนี้...ภายในห้องนอนช่างดูเงียบงัน เสียงเครื่องปรับอากาศเบาหวิว กลายเป็นเสียงเดียวที่คั่นกลางระหว่างสองร่าง ที่นั่งห่างกันคนละฝั่งเตียง
ภวินถอดสูทวางพาดพนักเก้าอี้ หันมามองหญิงสาวที่กำลังนั่งพับเพียบ พับผ้าผืนเล็กในตักด้วยใบหน้าเรียบเฉย ไม่มองหน้าเขาเลยสักนิด
เมณิชาก้มหน้าเงียบ ไม่พูดไม่จา และไม่อธิบายใด ๆ แม้แต่เรื่องที่เกิดขึ้นกับณัฐกฤษ
ภวินเองก็อยากจะพูด... แต่คำพูดมันติดอยู่ที่คอ เหมือนบางสิ่งที่ขวางอยู่ระหว่างเขากับเธอ มันแน่นหนาเสียจนยากจะฝ่า
น้องพีร์กับน้องพราว เพิ่งถูกส่งเข้านอนที่ห้องข้าง ๆ แม้จะร่าเริงก่อนนอนอย่างเคย แต่เมณิชากลับยกเหตุผลว่า น้องพราวงอแง และอาจไม่สบาย อยากจะนอนกับเธอคืนนี้
"งั้นก็ตามใจ"
ภวินพูดเพียงสั้น ๆ ขณะปลดนาฬิกาออกจากข้อมือ แล้ววางไว้ที่โต๊ะหัวเตียง
“...ค่ะ” เมณิชาตอบสั้น ๆ
เธอลุกขึ้น หยิบหมอนใบเล็กกับตุ๊กตากระต่ายของลูก เดินออกจากห้องไปช้า ๆ โดยไม่แม้แต่จะหันกลับ
เสียงประตูปิดเบา ๆ ทิ้งภวินไว้ในความเงียบ พร้อมกับความรู้สึกบางอย่างที่บีบอยู่ในอก
เขาทิ้งตัวลงบนเตียง ฝ่ามือใหญ่ขยี้ขมับตัวเองแรง ๆ
“ทำไมถึงไม่บอกอะไรฉันเลย...เมณิชา”
เสียงในใจตะโกนออกมาอย่างขัดแย้ง
เช้าวันถัดมา
กลิ่นชาอบดอกมะลิอ่อน ๆ ลอยอยู่ในอากาศ ขณะที่คุณหญิงไอษดากำลังจิบชาช้า ๆ ใต้ร่มเงาไม้เลื้อยในสวนหลังเรือน
เมณิชาเดินเข้ามาหลังจากแม่บ้านไปเรียก สีหน้าของเธอนิ่งแต่ไม่เฉยชา เธอยกมือไหว้อย่างสุภาพ
“นั่งก่อนสิ เมณิชา” คุณหญิงเอ่ยเสียงเรียบ แต่แฝงความหมายลึก
“ค่ะ” หญิงสาวนั่งลงอย่างสงบ รอคำพูดจากผู้ใหญ่ตรงหน้า
ไอษดาวางถ้วยชาลงบนจานรอง เบือนสายตาไปยังแปลงดอกไม้ แล้วพูดช้า ๆ แต่ตรงไปตรงมา
“เธอกับภวิน...มีปัญหาอะไรกันหรือเปล่า”
เมณิชาชะงักเล็กน้อยก่อนจะตอบ
“ไม่มีอะไรค่ะ แค่เข้าใจผิดกันนิดหน่อยค่ะ”
“ไม่ใช่แค่เข้าใจผิดแน่ ๆ” น้ำเสียงของคุณหญิงเย็นลงเล็กน้อย
“เธอไม่ได้พูดอะไรกับภวินเลย ไม่อธิบาย ไม่ขอความช่วยเหลือ ทั้งที่เขา... ชัดเจนว่าห่วงเธอมาก”
เมณิชาเงียบ หัวใจเต้นแรงกับคำพูดนั้น แต่ยังคงรักษาสีหน้านิ่งเรียบเหมือนเดิม
“เมย์ขอบคุณในความเมตตาของคุณหญิงค่ะ”
คุณหญิงนิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะเปรยขึ้นเหมือนพูดกับตัวเอง
“เด็กสองคนนั้น...น้องพีร์กับน้องพราว ดูแล้วก็ฉลาด เรียบร้อย น่ารักจริง ๆ...โดยเฉพาะน้องพราว...หน้าตาเหมือนลูกสาวของฉันตอนเด็กอย่างกับแกะ”
ดวงตาของไอษดาเหลือบมองเมณิชานิ่ง ๆ
“น่าจะบังเอิญนะค่ะ แม่ของเมย์บอกว่า น้องพราวตอนแรกเกิด หน้าคล้ายคุณยายมาก แต่พอโตมาเรื่อย ๆ หน้าก็เริ่มเปลี่ยน...” เมณิชาตอบนิ่ง ไม่สบตาผู้อาวุโสกว่า
คุณหญิงไม่ถามต่อ แต่หยิบรูปถ่ายเด็กหญิงในกรอบเงินจากกล่องเล็กใกล้ตัวแล้วยื่นให้เมณิชาดู
ภาพนั้นคือรูปของ 'นริน' เมื่อตอนยังเด็ก อายุประมาณสามขวบ
และใช่... เหมือนน้องพราวแทบจะถอดแบบ
แล้วคุณหญิงก็เก็บรูปกลับไว้ที่เดิม ราวกับยังไม่ต้องการคำตอบในวันนี้
“เมื่อไหร่ก็ได้ ถ้าเธอพร้อมจะบอก ...และจำไว้ว่าฉันกับภวิน ช่วยเธอได้มากกว่าที่เธอคิด”
เมณิชานิ่งเงียบ หลุบสายตามองลงที่ถ้วยชาเบื้องหน้า เธอไม่ตอบอะไร นอกจากเอ่ยเบา ๆ ว่า
“เมย์จะจำไว้ค่ะ ขอบพระคุณ คุณหญิงมากนะคะ”
อีกด้านหนึ่ง
ภวินยืนพิงขอบหน้าต่างห้องทำงานมืดสลัว ดวงตาคมทอดมองออกไปยังสวนด้านล่างอย่างครุ่นคิด
เมื่อคืน เขาไม่ได้นอนเลยสักนาทีเดียว ในหัวเขาเต็มไปด้วยคำถามที่ยังไม่ได้คำตอบ
คำพูดประชดประชันของเมณิชาในตอนนั้น มันวนเวียนอยู่ในหัวไม่หยุด
"แล้วถ้าคุณณัฐเป็นพ่อของลูกฉันจริง ๆ ล่ะคะ... คุณจะทำยังไง?"
เขารับได้ทุกอย่าง ยกเว้นสิ่งเดียว คือ ณัฐกฤษเป็นพ่อของเด็กแฝด...
“ไม่… ต้องไม่ใช่เขา…” เขาพึมพำกับตัวเอง ก่อนจะกดโทรศัพท์หาลูกน้องคนสนิท
“สืบทุกอย่างเกี่ยวกับเมณิชาก่อนเข้าประกวด ย้อนกลับไปอย่างน้อยสี่ปี โดยเฉพาะเรื่องใบเกิดของเด็กแฝด หาให้ได้ว่าเธออยู่ที่ไหนตอนคลอดลูก แล้วใครเป็นพ่อของเด็ก”
เสียงจากปลายสายรับคำสั่งทันที ไม่มีคำถามใดเพิ่ม เพราะรู้ว่าภวินในโหมดนี้… ไม่ใช่ใครก็ขัดได้ง่าย ๆ
ไม่กี่ชั่วโมงต่อมา รายงานอย่างละเอียดก็มาถึงมือเขา
ใบเกิดเด็กออกที่อำเภอดอกคำใต้ ชื่อแม่คือ ‘พิมพ์ญดา มหาวงษ์’ ส่วนชื่อพ่อ…เว้นว่าง หลังคลอด เธอเปลี่ยนนามสกุลเป็น ‘เอื้อตระกูลวงศ์’ ตามอาของเธอ แล้วย้ายออกไปอยู่กับอาที่น่าน จนถึงก่อนการประกวดก็เปลี่ยนมาใช้ชื่อ ‘เมณิชา’
คนที่ออกใบเกิดและเปลี่ยนนามสกุลให้หญิงสาว สืบได้ว่าเป็นเพื่อนสนิทสมัยเด็ก ที่ตอนนั้นมีตำแหน่งเป็นผู้ช่วยนายทะเบียนบนอำเภอ
มือภวินที่ถือเอกสารอยู่ สั่นเล็กน้อยเมื่อสังเกตนามสกุลที่ถูกเปลี่ยนอย่างจงใจ หลังสลักชื่อลงบนสูติบัตร
เธอเปลี่ยนนามสกุลและย้ายออกไปทำไม เป็นไปไม่ได้ที่เธอจะยอมห่างจากลูก
เขาเดินตรงไปยังตู้เอกสารเหล็ก ที่ถูกล็อกแน่นในห้องทำงาน ปลดกล่องแฟ้มเก่าใบหนึ่งออกมา เปิดดูเอกสารที่เก็บอยู่ในส่วนลึกที่สุดของเขา...
“หญิงสาวในคืนวันเกิดปีที่ 25”
แฟ้มเอกสารลับของคนที่เขาสั่งให้ออกตามหาเมื่อสี่ปีก่อน
ข้างในนั้น...มีภาพเสี้ยวใบหน้า ที่เขาจำได้ขึ้นใจแม้วันเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน และชื่อของเธอ
'พิมพ์ขวัญ'
หรือจะเป็นแค่คนชื่อคล้าย...
แม้รูปร่างจะต่างกันมาก แต่ใบหน้าช่างละม้ายกับหญิงสาวที่เขาเผลอผูกพันลึกซึ้งในคืนวันนั้นไม่มีผิด
ดวงตากลมโตคู่นั้น ริมฝีปากเล็ก ๆ ที่ระริก ยามเมื่อถูกเขาสัมผัส …เขายังจำได้หมด
เขาทิ้งตัวลงกับเก้าอี้ รู้สึกเหมือนลมหายใจกำลังสั่นสะท้าน ภายในอกเหมือนมีคนกำลังตีกลอง ส่งสัญญาณว่าเขาใกล้จะพบจุดหมาย
เด็กแฝดคู่นั้น...ใช่ลูกของเขาไหม?
ขณะเดียวกัน ที่ห้องนอนเด็ก
เมณิชาเพิ่งกล่อมน้องพราวให้หลับ เธอนั่งอยู่ข้างเตียงเงียบ ๆ ดวงตาอบอุ่นจ้องมองลูกสาวที่หลับสนิท
ขณะที่มือกำลังจะเอื้อมไปหยิบโทรศัพท์วางบนโต๊ะหัวเตียง
ติ๊ง!
ข้อความใหม่เด้งขึ้นมาอีกครั้ง จากหมายเลขเดิม และคราวนี้...ไม่ใช่แค่ข้อความ แต่เป็นสายเรียกเข้า
เธอกดรับด้วยความลังเล เสียงปลายสายดังขึ้นทันที โดยไม่รอให้เธอทักทาย
“เธอกล้าดีมาก ที่ยังอยู่ใกล้เขาแบบนี้”
เสียงของแพทริเซียชัดเจนและเย็นยะเยือก
“อย่าคิดจะบอกภวินเรื่องอะไรทั้งนั้น เพราะถ้าเขารู้… เขาจะตาย”
“คุณขู่ฉัน?” เมณิชาถามเสียงเรียบ
“เปล่า ฉันแค่บอกความจริง ภวินกำลังจะถูกกระชากลงจากเก้าอี้ประธาน เรากำลังปูทางให้ผู้ถือหุ้นถอนความไว้วางใจจากเขา… และเธอคือจุดอ่อนเพียงหนึ่งเดียวของเขา ถ้าภาพของเธอกับลูกแฝด...ลูกที่ไม่มีพ่อ...ถูกเผยแพร่ในช่วงนี้”
เสียงหัวเราะเย้ยหยันของแพทริเซียดังลอดมาทางสาย
“กรรมการทุกคนจะมีข้ออ้างดี ๆ ในการโหวตปลดเขา แล้วหลังจากนั้น ทั้งคู่แข่ง ทั้งคนในบอร์ด ก็จะไม่ใช่แค่เขี่ยเขาออกจากตำแหน่ง แต่อาจจะทำอะไร... ที่ทำให้เขาไม่สามารถกลับมารับตำแหน่งได้อีก เธอก็รู้นี่ว่าวงการนี้ไม่ได้มีแต่ด้านสว่าง...”
เมณิชาเงียบ ดวงตาเริ่มแดง น้ำตารื้นขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว
“เธออยากให้เขาตายใช่ไหมล่ะ ถ้ายังไม่หายไปซะตอนนี้... เขาก็จะไม่มีวันรอด”
ติ๊ด!
เสียงปลายสายวางลงแบบไม่ให้เธอทันได้ตอบโต้อะไรอีก
เมณิชาวางโทรศัพท์ลงช้า ๆ
มองลูกสาวตัวน้อยที่หลับสนิทอยู่บนเตียง ใบหน้านั้นช่างบริสุทธิ์ ไร้เดียงสา ไม่รู้เลยว่าทั้งแม่และพ่อกำลังตกอยู่ในขุมนรกของเกมอำนาจ
เธอกัดฟันแน่น พึมพำเสียงเบาเหมือนคำสาบาน
“ถึงเขาจะคิดกับฉันยังไง...
แต่ฉันก็จะไม่ยอมให้เขาเป็นอะไร
แม้จะต้องผิดสัญญา...”
ใบหน้าของเมณิชาเปื้อนน้ำตา แต่แววตาแน่วแน่เด็ดเดี่ยว
เธอไม่ใช่ผู้หญิงที่ยอมพ่ายแพ้...
“ภวิน… คุณอาจจะเกลียดฉันในวันนี้ แต่ถ้าฉันหายไปจากชีวิตคุณ ...นั่นแปลว่า ฉันปกป้องทุกคน...รวมถึงคุณได้”
*****