แต่งงานเพื่อผลประโยชน์แต่หัวใจกลับทรยศ ระหว่างนางงามผู้มีข่าวฉาว และชายหนุ่มผู้ไม่เชื่อในความรัก วิวาห์ครั้งนี้...จะลวงรัก หรือฝากรักไว้ในหัวใจของเธอและเขา
รัก,ดราม่า,ชาย-หญิง,ไทย,ครอบครัว,อ่านฟรี,นางงาม,นางเอกสวยมาก,พระเอกเย็นชา,พระเอกขี้หึง,นางเอกสู้ชีวิต,ไม่นอกกายนอกใจ,จบดี ,สัญญา,แต่งงาน,ลูกแฝด,เด็กแฝด,มีลูก,นิยายรักชายหญิง,นิยายรัก,ดราม่า,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
ฝากรักวิวาห์ลวง [อ่านฟรีจนจบ]แต่งงานเพื่อผลประโยชน์แต่หัวใจกลับทรยศ ระหว่างนางงามผู้มีข่าวฉาว และชายหนุ่มผู้ไม่เชื่อในความรัก วิวาห์ครั้งนี้...จะลวงรัก หรือฝากรักไว้ในหัวใจของเธอและเขา
ฝากรักวิวาห์ลวง
ตอนที่ 10 ภรรยาในนาม
'ภรรยา' สถานะ ในกระดาษ
เพื่อประกาศ ความสัมพันธ์ ฉันชายหญิง
เพียงในนาม ตามกำหนด บทอ้างอิง
คุมใจนิ่ง อย่าเผลอรัก ผลักเข้าไฟ
นี่ไม่ใช่คืนแรกของเมณิชาในคฤหาสน์ลัวร์ แต่เป็นคืนแรกในสถานะใหม่...
“ภรรยา”
คำเรียกสั้น ๆ ที่จดอยู่บนกระดาษ A4 ของทะเบียนสมรส คำที่เปลี่ยนทุกสถานะในชีวิตเธอในพริบตาเดียว และทำให้ตอนนี้เธอมานั่งอยู่ในห้องหรูหรา ข้างเตียงใหญ่ที่ไม่ใช่ของเธอ กับผู้ชายที่ไม่ใช่ของเธอ
ใบหน้าสวยเรียบเฉยแม้ในใจจะเหนื่อยล้า ทั้งจากความวุ่นวายของงานแต่ง งานสื่อ การแสดงบทบาท
และที่เหนื่อยที่สุดคือ ต้องวางตัวให้พอดีกับสถานที่ไม่ชัดเจนระหว่างเธอกับเขา
หลังจากจดทะเบียนที่เขตในช่วงเช้า เธอก็ถูกภวินพากลับมาส่งที่คฤหาสน์โดยไม่มีคำพูด หรือคำถามใดระหว่างคนทั้งสอง
ใบหน้าคมยังคงนิ่งเฉียบและเรียบเฉย เขาจ้องหน้าเธอครู่หนึ่ง ก่อนจะพูดกับเธอสั้น ๆ
“คืนนี้ฉันอาจกลับดึก”
เขาไม่ได้อธิบายอะไรต่อ แต่ ภวิน ลัวร์ เป็นผู้ชายที่ไม่จำเป็นต้องอธิบายอะไรกับใครอยู่แล้ว
แม้แต่กับ “ภรรยาในนาม” อย่างเธอ
เธอเองก็ไม่ได้ถามอะไรกลับ เขาขึ้นรถออกไปทันทีที่จอดรถ แล้วส่งเธอไว้ตรงหน้าประตู
เมณิชายิ้มบาง ๆ พลางพ่นลมหายใจ และคิดในใจอย่างโล่งอก
‘กลับดึกก็ดี ฉันจะได้ไม่ต้องปั้นหน้ามากนัก’
เมื่อเข้าไปในห้องนอนใหญ่ที่ถูกจัดไว้เป็นพิเศษสำหรับคู่แต่งงาน เมณิชาก็เอนตัวลงบนเตียงใหญ่ เปิดหนังสือที่อ่านค้างไว้ เพื่อคั่นเวลาและคลายความเหงา
จนกระทั่ง...
22.35 น.
ไฟหน้าคฤหาสน์เปิดขึ้นอีกครั้งเมื่อรถยนต์คันหรูของเขาเคลื่อนเข้ามาจอดหน้าบันไดหินอ่อน
ภวินในเสื้อเชิ้ตสีขาว และสูทสีเทาเข้มก้าวลงจากรถด้วยท่าทีปกติ เสื้อเชิ้ตยังคงเรียบไร้รอยยับ แม้เนกไทจะมีหลุดลุ่ยออกมาบ้าง
ไม่มีใครสังเกตว่าใบหูของเขาแดงจัด และฝีเท้าดูเหมือนจะหนักกว่าปกติ เขาดื่มไปไม่น้อย เพื่อให้เกียรติและแสดงความจริงใจต่อคู่ค้า ในการเจรจาธุรกิจ
...เพราะเขาเมาแบบมีเกียรติ และยังเก็บอาการได้เฉียบขาด
แต่เมื่อประตูห้องนอนเปิดออก... และทันทีที่เสียงปิดประตูดัง “ปัง” เนกไทของเขาก็ปลิวไปแบบไร้ทิศทาง
เมณิชาที่นั่งอ่านหนังสืออยู่บนเตียงเงยหน้าขึ้น
"กลับมาแล้วเหรอคะ"
ชายหนุ่มไม่ได้ตอบ เขาเพียงเดินมาทิ้งตัวลงบนโซฟาหนังที่ปลายเตียง พร้อมเสียงถอนหายใจยาวเหยียด
"ให้ตายสิ... เสี่ยมงคลแม่งพูดไม่หยุดเลย"
เขาพูดพลางหัวเราะเบา ๆ
เสียงหัวเราะที่เธอไม่เคยได้ยินจากเขามาก่อน มันไม่ได้เย็นชา แต่มันดูซุกซน และดูเด็กกว่าอายุจริงของเขามาก
"เมาเหรอคะ?"
เธอถามน้ำเสียงเรียบ แต่สายตากวาดมองแก้มแดง ๆ ของเขาเล็กน้อย
ภวินหันมามองเธอ แล้วพูดอย่างหน้าตาย
"เปล่า แค่อารมณ์ดี"
"อารมณ์ดีจนเดินชนแจกันหน้าห้อง"
เธอยกคิ้วถามทีเล่นทีจริง
เขาหัวเราะในลำคอ ก่อนจะโน้มตัวเอนลงบนเบาะโซฟายาว ขาข้างหนึ่งที่ยาวเกินโซฟาห้อยลงมา แตะพรมอย่างไร้แบบแผน
"ก็…แค่สะดุดนิดหน่อย"
เมณิชาลุกขึ้น เดินไปเตรียมผ้าชุบน้ำอุ่น เดินเข้ามาหาร่างสูง
"ให้ฉันช่วยไหมคะ"
ภวินหลับตา แสร้งพูดด้วยเสียงยานคาง
"เธอไม่กลัวฉันทำอะไรเหรอ... เรานอนห้องเดียวกันนะ"
"ค่ะ กลัวค่ะ"
เธอตอบสีหน้าเรียบ ดูห่างไกลกับความรู้สึกที่สื่อออกมาเป็นคำพูด และจึงพูดเบาๆ หักมุมในประโยคท้าย
"แต่ถ้าคุณเมาได้แค่นี้ ฉันก็ไม่กลัวแล้วล่ะ"
เสียงหัวเราะของเขาหลุดออกมาอีกครั้ง คราวนี้เธอเห็นเขาหัวเราะจนตาหยี ใบหน้าคมเฉียบที่เคยดูเยือกเย็นกลับกลายเป็นเด็กผู้ชายจอมดื้อคนหนึ่ง
เมณิชาถอนหายใจ ย่อตัวลงนั่งข้างโซฟา เธอใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดแผ่ว ๆ ที่ข้างแก้มคมได้รูปของเขา
ผิวนั้นอุ่นจัด ลมหายใจร้อนระอุเป่ารดหลังมือเธอเบา ๆ
"ภรรยาในนามดูแลดีจัง..."
เขาพึมพำเบา ๆ ดวงตาคมที่ตอนนี้ฉายแววอ่อนโยน ลอบมองใบหน้าหวานของหญิงสาวอยู่ ..อาจเป็นเพราะเธออยู่ใกล้เขาเกินไป
"ถ้าเป็นของจริง...จะดูแลดีแค่ไหนนะ"
คำพูดนั้นเบา… แต่ชวนตระหนก เมณิชาชะงักมือในทันที หัวใจเธอเต้นแรง ...แววตาเขาไม่เหมือนคนเมาเลยสักนิด
หรือเขากำลังทดสอบเธอ
"พูดมากจังเลยนะคะ ..ตอนเมา"
"เธอไม่เคยเห็นฉันตอนดีใจสินะ"
เขายกมือขึ้นทาบมือเธอที่อยู่บนแก้มเขา นิ้วเรียวยาวทั้งเย็น และใหญ่กว่านิ้วของเธอ จนกุมมือของเธอได้อย่างแนบแน่น จนหญิงสาวไม่กล้าขยับ
สัมผัสนั้นอ่อนโยน ..บางเบา แต่กลับเหมือนตอกหนักๆ เข้าไปในหัวใจของเธอ ..จนสั่นไหว
เมณิชาเผลอจ้องตาเขากลับ...
แววตาที่เคยคมดุดัน บัดนี้กลับอ่อนโยนอย่างไม่น่าเชื่อ
"คุณ…ควรนอนพัก"
"ฉันพักอยู่ตรงนี้ไง" เขาตอบ
"...กับเธอ"
เสียงหัวใจของเธอกลายเป็นเสียงเดียวที่เธอได้ยินในวินาทีนี้
ใบหน้าหล่อเหลาของเขาอยู่ใกล้จนเธอได้กลิ่นไวน์จากลมหายใจจางๆ และเริ่มชัดขึ้นเมื่อเขาเหมือนจะโน้มใบหน้าเข้ามาใกล้ๆ
สิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างพวกเขานิ่งสนิท...ราวกับโลกทั้งใบหยุดเคลื่อนไหว
ใบหน้าของทั้งสองโน้มเข้าหากัน ราวกับมีแรงดึงดูด ริมฝีปากหยักหยุดค้าง ตรงจุดกึ่งกลางระหว่างแก้มกับมุมปากอวบอิ่ม
เมณิชาปิดเปลือกตาโดยไม่รู้ตัว มือเธอเผลอกำผ้าชุบน้ำแน่น จนหยดน้ำถูกบิดออก เปียกชุ่มไปทั่วแผงอกแกร่ง
วินาทีนี้ ..คงไม่มีอะไรหยุดสิ่งที่เกิดขึ้นได้
แต่...
ติ้ง!
เสียงแจ้งเตือนจากโทรศัพท์มือถือบนหัวเตียงดังขึ้น ที่ต้องบอกว่าไม่ถูกจังหวะนักสำหรับเขา แต่เป็นจังหวะช่วยชีวิตสำหรับเธอ
คนทั้งคู่ชะงัก ต่างมองตากัน ระยะห่างเพียงเล็กน้อยนั้น ค่อย ๆ ผลักคนทั้งสองให้ถอยออกห่างออกจากกัน
"คุณควรไปอาบน้ำ"
เธอพูดเสียงเรียบ กลบความสั่นไหวที่กำลังตีรัวอยู่ในอก และรีบพูดเสริมต่อ เพื่อโน้มน้าวอีกฝ่าย ในขณะที่พยายามหลบสายตาของเขาไปด้วย
"เดี๋ยวฉันจะจัดหมอนให้"
ภวินพยักหน้าช้า ๆ ลุกขึ้นอย่างอึดอาด ราวกับจะแกล้งหยอกล้อเธอเล่น ก่อนจะหันมากระซิบเบา ๆ
"คืนนี้ยังอีกยาวไกล"
แล้วเดินเข้าห้องน้ำไป ทิ้งเธอไว้กับหัวใจที่เต้นรัวไม่เป็นจังหวะ
คืนนี้.. อาจไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่บางอย่างได้ก่อตัว และเธอเริ่มรู้แล้วว่า สัญญาวิวาห์ระหว่างเขากับเธอ สถานการณ์ไหนอันตรายที่สุด...
*****