เด็กสาวเรียนปีหนึ่งสาขาท่องเที่ยวได้ตกหลุมรักรุ่นพี่ปีสามสาขาการบิน แต่รุ่นพี่กลับไม่สนใจเธอ แต่มีบางอย่างทำให้รุ่นพี่สนใจเธอขึ้นมาและอยากดูแลเธอไปตลอด
รัก,ชาย-หญิง,วัยว้าวุ่น,ไทย,รักมหาลัย,รักหวานแหวว,รักโรแมนติด,รักในมหาลัย,รักโรแมนซ์,รักวัยรุ่น,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
เผลอรัก เจ้าเวหาเด็กสาวเรียนปีหนึ่งสาขาท่องเที่ยวได้ตกหลุมรักรุ่นพี่ปีสามสาขาการบิน แต่รุ่นพี่กลับไม่สนใจเธอ แต่มีบางอย่างทำให้รุ่นพี่สนใจเธอขึ้นมาและอยากดูแลเธอไปตลอด
นิยายรักหวานแหววที่จะสื่อถึงเด็กสาวรูปร่างหน้าตาดีกว่าเมื่อก่อน เธอได้เข้าเรียนมหาวิทยาลัยปีหนึ่ง ภาคสาขาท่องเที่ยว พ่อแม่เริ่มเป็นห่วงความปลอดภัยแต่เธอคิดดีแล้วที่จะอยู่คนเดียวในหอพักนี้ วันหนึ่งเธอได้ตกหลุมรักรุ่นพี่ปีสาม ภาควิชาการบิน รุ่นพี่ไม่สนใจเธอแต่ได้มีบางอย่างในจิตใจของเธอทำให้รุ่นพี่ชอบแล้วอยากเป็นแฟนเธอสักครั้ง เมื่อทั้งคู่ได้คบรักกันก็ได้มีอุปสรรคมาขวางกั้นแต่ทั้งสองรอดมาได้และตกลงแต่งงานกัน
สองเดือนต่อมาสายการบินเริ่มเปิดประชุมรวมกัน เหล่าพนักงานต้อนรับ นักบินและพนักงานในบริษัทสายการบินหยุดทำงาน เพราะต้องเข้าร่วมประชุมกันทุกคน เมเปิ้ลไม่พอใจอย่างมากที่จัดงานแบบนี้ เธอคิดว่าทำไมไม่ให้หัวหน้าแต่ละฝ่ายไปประชุมแทนแล้วมาบอกลูกน้องทีหลัง
ถ้าบอกไปตามนั้นก็ไม่มีใครฟังหรอก เมเปิ้ลบ่นพึมพำ ซันไชน์ซึ่งกำลังแต่งหน้าอยู่ได้ยินเสียงพึมพำจากเมเปิ้ล ถามว่า"เป็นอะไรของเธอ" เมเปิ้ลหันมาสีหน้าโกรธแล้วตอบว่า "เปล่า..ฉันแค่บ่นเท่านั้น..อย่าสนใจเลย"
"เอาเถอะนะ..เมเปิ้ล...ฉันรู้นะเธอบ่นพึมพำว่าอะไร..ฉันคิดว่า ถ้าเราพูดไปก็ไม่มีประโยชน์..ผู้ใหญ่เขาไม่ฟังเราหรอก สุดท้ายเราก็ต้องไปทนนั่งฟังเขาอยู่ดี"
เมเปิ้ลเปิดโทรศัพท์ เล่นโซเชียลไปสักพักเห็นโพสต์สายการบินของตนเอง โพสต์รูปโปสเตอร์บอกวันที่เวลา เวลาเป็นเวลาจนถึงช่วงบ่ายแต่เมเปิ้ลเห็นสิ่งหนึ่งซึ่งไม่โอเคเป็นอย่างมากนั่นคือ วิทยากรที่มาบรรยายเป็นพี่จอมทัพ เมเปิ้ลคิดหนักและหันไปมองซันไชน์อีกที
ซันไชน์กำลังแต่งหน้ายังไม่เสร็จ เห็นภาพหางตา เมเปิ้ลมองมาที่เธออีกครั้ง ซันไชน์แปลกกับเธอ หันไปพูดกับเมเปิ้ลอีกรอบว่า "เมเปิ้ล..เธอเป็นอะไรอีกล่ะ" ซันไชน์ดุเมเปิ้ล
"เธอดูนี่.." เมเปิ้ลยื่นโทรศัพท์ให้ซันไชน์ดู
"อ๋อ..โปสเตอร์ของงานนี่"
"นี่เธอดู..ชื่อวิทยากร"
"รุ่นพี่คนนั้นนี่...อาจจะได้รางวัลมาก็ได้นะ..ถึงได้ขึ้นมาพูดไง"
"มันไม่ใช่ล่ะนะ" เมเปิ้ลสะพายกระเป๋า เก็บของ ลากมือซันไชน์ออกไปจากห้อง ลงมาข้างล่าง
"โอ๊ย..เมเปิ้ล..จะลากฉันมาทำไม..หน้าเละหมดแล้ว"
"นี่ฟังให้ดี..ถ้าเราเข้าห้องประชุมไปขอให้นั่งหลังสุดนะ"
"ไม่...ฉันมองไม่เห็น"
"เชื่อฉัน...เธอจะฟังอะไรมากมาย" ซันไชน์สลัดมือออกจากเมเปิ้ล
"ฟังนะ..เมเปิ้ล..ตอนนี้เราโตแล้ว..อย่าทำเป็นฟังไม่รู้เรื่อง..เราต้องจดทุกถ้อยคำที่เขาพูด อย่างน้อยก็มีประโยชน์ บางทีเราอาจจะใช้วิธีแบบเขามาทำงานก็จะสร้างผลดีให้กับบริษัทได้นะ"
เมเปิ้ลหน้านิ่งไปชั่วครู่ ซันไชน์พาเมเปิ้ลกลับห้อง เมเปิ้ลนั่งรอซันไชน์แต่งหน้าจนเสร็จ ทั้งสองออกไปรอรถพร้อมกัน รถเมล์มารอ ซันไชน์และเมเปิ้ลขึ้นรถเมล์ไปด้วยกัน เดินทางถึงห้องประชุม ห้องดูกว้างใหญ่ โต๊ะเก้าอี้เรียงยาวเป็นแถว มีของเบรกวางอยู่ที่โต๊ะทุกตัว เมเปิ้ลและซันไชน์เดินเข้าไปลงทะเบียนและเลือกนั่งข้างหน้าแถวสี่
ประชุมเริ่มต้นขึ้น วิทยากรทักทายแขกทุกท่านและเริ่มพูดบรรยาย เมเปิ้ลรู้สึกไม่สบายใจ ความรักครั้งเก่ายังสะสมในหัว เธอพยายามมองไปที่ซันไชน์เพื่อหลบสายตา ส่งสายตาประมาณว่าพาออกไปจากที่นี่ คิดอย่างนั้นแต่บอกไม่ได้ ซันไชน์เห็นเมเปิ้ลจึงจับมือเธอ กำอย่างแน่นพร้อมบอกด้วยเสียงเบาว่า"อดทนต่อไปนะ วิทยากรบรรยายแค่ไม่กี่ชั่วโมงก็เสร็จ
สามชั่วโมงผ่านไปการบรรยายของจอมทัพเสร็จสิ้นลง
"เอาล่ะครับ ลำดับต่อไปจะเป็นช่วงพักเบรค รับประทานอาหารกลางวันกันนะครับ...ตอนบ่ายจะเป็นการพบวิทยากรอีกท่านมาบรรยายนะครับ" แขกทุกคนอํ้าอึ้งกับคำพูดของพิธีกร
เมเปิ้ลโล่งอกที่คิดว่าพี่จอมทัพไม่บรรยายอีก แต่ซันไชน์รู้สึกแปลกที่พิธีกรพูด แขกที่เชิญมาต่างพูดกระซิบกันว่า "อะไรของเขานะ ในโปสเตอร์ไม่ได้บอก"
"ต่อไปใครเป็นวิทยากร..ทำไมไม่มีในโปสเตอร์.." ซันไชน์พูดขึ้น เมเปิ้ลตกใจกับคำที่ซันไชน์พูด
"ฉันไม่รู้..ใช่..เขาคือใคร..ฉันลืมคิด"
"ฉันขอดูโปสเตอร์อีกรอบได้ไหม" เมเปิ้ลยื่นรูปโปสเตอร์ให้ซันไชน์ดู
มาถึงช่วงเวลารับประทานอาหารกลางวัน อาหารถูกยกมาในห้องประชุมทำให้หลิ่นหอมอบอวชวนหลงใหล ทันใดนั้นเองเมเปิ้ลไม่รีรออะไร รีบเดินออกไปต่อแถวเพื่อรับอาหารกลางวันทันทีจนซันไชน์ห้ามไม่ทัน
หลังจากตักอาหารเสร็จ ซันไชน์และเมเปิ้ลเลือกที่นั่งประชุมเมื่อเช้า เนื่องจากรู้สึกว่ากินง่ายกว่า หลังจากกินเสร็จทั้งคู่ได้พูดคุยกันเล็กน้อยโดยซันไชน์พูดขึ้นว่า"ฉันคิดว่า..พิธีกรโกหกพวกเรา"
"อย่างไร..." เมเปิ้ลแววตาสงสัย
"คืออย่างนี้..วิทยากรมีแค่คนเดียวคือพี่จอมทัพ ถูกแล้ว แต่ฉันไม่เข้าใจทำไมต้องโกหกด้วย..เพื่ออะไรกัน"
"นั่นดิ..หรือว่า..เพื่อให้ฉันสบายใจ"
"คิดว่าอย่างนั้น...พี่จอมทัพอาจจะบอกพิธีกรไว้ก่อน"
"ลองไปถามพิธีกรกันดูไหม"
"เอาดิ..ไปเลย"
ทั้งคู่เก็บจานข้าวของตนเองไปให้แม่บ้าน เดินออกไปจากห้องประชุมเพื่อตามหาพิธีกรที่ประกาศเมื่อเช้า แต่แล้วทั้งสองเดินหาจนเมื่อยแขนเมื่อยขาจนหมดเเรง ก็ไม่พบวิทยากรคนนั้นสักที