บัตรเชิญสีดำพาพวกเขาเข้าสู่อควาเรียมที่ไม่มีในแผนที่ 13 กฎห้ามละเมิด…แต่เมื่อทำตาม พวกเขากลับเริ่มหายไปทีละคน

วิธีการเป็นผู้รอดชีวิตจาก 13 กฎเหล็กของอควาเรียมต้องห้าม - 8 กฎข้อที่ 6 ห้ามถ่ายภาพหรือวิดีโอใดๆ ภายในอควาเรียม โดย ณัฐปภานนท์ @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ระทึกขวัญ,ผู้ใหญ่,จิตวิทยา,ยุคปัจจุบัน,ไทย,พล็อตสร้างกระแส,แฟนตาซี,สยองขวัญ,เอาตัวรอด,เอาชีวิตรอด,RulesofHorror,horror,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

วิธีการเป็นผู้รอดชีวิตจาก 13 กฎเหล็กของอควาเรียมต้องห้าม

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ระทึกขวัญ,ผู้ใหญ่,จิตวิทยา,ยุคปัจจุบัน,ไทย

แท็คที่เกี่ยวข้อง

พล็อตสร้างกระแส,แฟนตาซี,สยองขวัญ,เอาตัวรอด,เอาชีวิตรอด,RulesofHorror,horror

รายละเอียด

วิธีการเป็นผู้รอดชีวิตจาก 13 กฎเหล็กของอควาเรียมต้องห้าม โดย ณัฐปภานนท์ @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

บัตรเชิญสีดำพาพวกเขาเข้าสู่อควาเรียมที่ไม่มีในแผนที่ 13 กฎห้ามละเมิด…แต่เมื่อทำตาม พวกเขากลับเริ่มหายไปทีละคน

ผู้แต่ง

ณัฐปภานนท์

เรื่องย่อ

13 กฎเหล็กที่ห้ามละเมิด…แม้จะไม่รู้ว่าทำไม

เมื่อกวินและอีก 11 คนได้รับบัตรเชิญสีดำลึกลับ พวกเขาถูกพาไปยัง “อควาเรียมต้องห้าม” ที่ไม่ปรากฏอยู่ในแผนที่โลก

ประตูถูกล็อก

กฎถูกประกาศ

และทุกการละเมิด… คือการแลกด้วยความตาย

แต่ยิ่งพวกเขาเชื่อฟัง พวกเขายิ่งสูญเสียความเป็นตัวเอง และเมื่อกฎข้อสุดท้ายคือ “จงอย่าท้าทายกฎ” บางคนก็เริ่มสงสัยว่า

ถ้าไม่ฝ่าฝืน…เราจะรอดได้อย่างไร?

สารบัญ

วิธีการเป็นผู้รอดชีวิตจาก 13 กฎเหล็กของอควาเรียมต้องห้าม-Prologue บทนำ,วิธีการเป็นผู้รอดชีวิตจาก 13 กฎเหล็กของอควาเรียมต้องห้าม-1 บัตรเชิญปริศนา,วิธีการเป็นผู้รอดชีวิตจาก 13 กฎเหล็กของอควาเรียมต้องห้าม-2 การสำรวจอควาเรียม,วิธีการเป็นผู้รอดชีวิตจาก 13 กฎเหล็กของอควาเรียมต้องห้าม-3 กฎข้อที่ 1 ห้ามแตะกระจกของตู้ปลา,วิธีการเป็นผู้รอดชีวิตจาก 13 กฎเหล็กของอควาเรียมต้องห้าม-4 กฎข้อที่ 2 ห้ามให้อาหารปลานอกเหนือจากที่จัดเตรียมไว้,วิธีการเป็นผู้รอดชีวิตจาก 13 กฎเหล็กของอควาเรียมต้องห้าม-5 กฎข้อที่ 3 ห้ามพูดชื่อสัตว์น้ำที่เห็นในตู้เสียงดัง,วิธีการเป็นผู้รอดชีวิตจาก 13 กฎเหล็กของอควาเรียมต้องห้าม-6 กฎข้อที่ 4 ห้ามเดินกลับไปทางเดิมที่เดินผ่านมาแล้ว,วิธีการเป็นผู้รอดชีวิตจาก 13 กฎเหล็กของอควาเรียมต้องห้าม-7 กฎข้อที่ 5 ห้ามมองเข้าไปในตู้ที่ไม่มีปลา,วิธีการเป็นผู้รอดชีวิตจาก 13 กฎเหล็กของอควาเรียมต้องห้าม-8 กฎข้อที่ 6 ห้ามถ่ายภาพหรือวิดีโอใดๆ ภายในอควาเรียม,วิธีการเป็นผู้รอดชีวิตจาก 13 กฎเหล็กของอควาเรียมต้องห้าม-9 กฎข้อที่ 7 ห้ามถามคำถามเกี่ยวกับอดีตของอควาเรียม,วิธีการเป็นผู้รอดชีวิตจาก 13 กฎเหล็กของอควาเรียมต้องห้าม-10 การรวมตัวและแผนเอาชีวิตรอด,วิธีการเป็นผู้รอดชีวิตจาก 13 กฎเหล็กของอควาเรียมต้องห้าม-11 กฎข้อที่ 8 ห้ามอยู่ในโซนสัตว์น้ำคนเดียว,วิธีการเป็นผู้รอดชีวิตจาก 13 กฎเหล็กของอควาเรียมต้องห้าม-12 กฎข้อที่ 9 ห้ามเปิดประตูที่ปิดอยู่,วิธีการเป็นผู้รอดชีวิตจาก 13 กฎเหล็กของอควาเรียมต้องห้าม-13 กฎข้อที่ 10 ห้ามพูดถึงโลกภายนอก,วิธีการเป็นผู้รอดชีวิตจาก 13 กฎเหล็กของอควาเรียมต้องห้าม-14 การค้นพบของอิฐ,วิธีการเป็นผู้รอดชีวิตจาก 13 กฎเหล็กของอควาเรียมต้องห้าม-15 กฎข้อที่ 11 ห้ามสัมผัสน้ำในตู้ปลา

เนื้อหา

8 กฎข้อที่ 6 ห้ามถ่ายภาพหรือวิดีโอใดๆ ภายในอควาเรียม

การเปลี่ยนแปลงที่น่าสะพรึงกลัวของฟ้าที่เริ่มพูดถึงอีกตัวตนหนึ่ง และไม่ยอมรับความเป็นตัวเอง ทำให้ทุกคนตกอยู่ในความหวาดกลัวที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น แสงสลัวจากตู้ปลาในทางเดินยังคงส่องกระทบใบหน้าของพวกเขา เผยให้เห็นแววตาที่เต็มไปด้วยความตื่นตระหนกและสิ้นหวัง ความหวาดกลัวต่อกฎของอควาเรียมไตรตันนั้นเพิ่มพูนขึ้นทุกขณะ ทุกวินาที ทุกลมหายใจ เพราะมันไม่ได้เพียงแค่พรากชีวิต แต่เปลี่ยนแปลงพวกเขาให้กลายเป็นบางสิ่งที่ไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป

กวินประคองร่างของฟ้าที่ยังคงหมดสติอยู่ เขาพยายามเรียกชื่อเธออีกครั้ง แต่ฟ้าไม่ตอบสนอง มีเพียงดวงตาที่ล่องลอยและเต็มไปด้วยความลึกลับราวกับมีบางสิ่งครอบงำอยู่ “ฟ้า...เธอต้องกลับมานะ” กวินพึมพำ น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความเจ็บปวด เขาอดเป็นห่วงบูมที่หายตัวไปไม่ได้ แม้ว่าจะมีหลายครั้งที่ไม่ค่อยชอบท่าทีของอีกฝ่าย แต่ในฐานะเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน เขาก็ไม่อยากให้บูมต้องมาเจอกับโชคชะตาอันโหดร้ายแบบนี้ ไหนจะเจมส์ที่ตอนนี้อยู่ในสภาพว่างเปล่า และมิกิที่สูญเสียการได้ยินไปแล้ว “ฉันอยากพาทุกคนออกไปจากที่นี่”

พลอยนั่งคุดคู้อยู่ข้างๆ ร่างของฟ้า ใบหน้าของเธอยังคงซีดเผือด ส่วนรอยตราประทับบนฝ่ามือก็ยังคงเรืองแสงเล็กน้อย เธอมองไปที่ฟ้าด้วยความหวาดกลัว “เธอกลายเป็นอะไรไปแล้ว... เราทุกคนจะต้องกลายเป็นเหมือนพวกเขางั้นเหรอ?”

แพรวากอดปลอบพลอย เธอเองก็รู้สึกหมดหนทางไม่ต่างกัน “เราต้องหาทางออกไปจากที่นี่ให้ได้ ไม่ว่าจะด้วยวิธีไหนก็ตาม” น้ำเสียงของเธอเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น แต่ก็แฝงไว้ด้วยความสิ้นหวัง

มิกิที่อยู่ในสภาพเงียบงัน บัดนี้เธอก็เริ่มมีอาการแปลกๆ มากขึ้น เธอเดินวนไปมารอบๆ กลุ่มอย่างเชื่องช้า ดวงตาของเธอยังคงล่องลอยและว่างเปล่า แต่บางครั้งเธอก็จะหยุดนิ่ง จ้องมองไปยังจุดหนึ่งอย่างไม่มีเหตุผล ราวกับว่าเธอกำลังเห็นบางสิ่งบางอย่างที่ไม่มีใครมองเห็น

ต้นยังคงจดบันทึกทุกสิ่งอย่างละเอียดในสมุดของเขา ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความเคร่งเครียดและสับสน “การเปลี่ยนแปลงของฟ้า...มันต่างออกไปจากเจมส์และมิกิ เหมือนกับว่าอควาเรียมกำลังทดลองกับเราในรูปแบบที่แตกต่างกันออกไป” เขามองไปยังโทรศัพท์มือถือที่อยู่ในกระเป๋าเสื้อของเขา ความต้องการที่จะบันทึกหลักฐานทุกอย่างยังคงแรงกล้า แม้จะถูกเตือนเรื่องกฎข้อ 6 มาแล้วก็ตาม

อิฐเดินเข้ามาใกล้ฟ้า เขาวางมือลงบนหน้าผากของฟ้าเบาๆ “พลังงานที่นี่กำลังผสานเข้ากับจิตใจของเธอ มันไม่ได้ฆ่า... แต่มันควบคุม” เขามองไปที่ตู้ปลาว่างเปล่าที่ฟ้ามองเข้าไปเมื่อครู่ “การมองเข้าไปในความว่างเปล่า... ทำให้ความว่างเปล่านั้นเข้ามาครอบงำจิตเธอ”

“เราจะทำยังไงกันดี?” กวินถามขึ้นมา น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความอ่อนล้า เขาไม่รู้ว่าจะนำพาเพื่อนๆ ไปทางไหนต่อ เจ้าหน้าที่ชายผู้นั้นยังคงยืนนิ่ง ไม่ไหวติง แต่ดวงตาของเขากลับมีประกายสีแดงเรืองรองวูบไหวถี่ขึ้น ราวกับว่าเขากำลังสนุกกับสิ่งที่เกิดขึ้น

“เราต้องหาทางออกเดี๋ยวนี้!” แพรวากล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “ฉันจะไม่ยอมให้มันทำอะไรใครอีกแล้ว”

พวกเขาตัดสินใจเดินหน้าต่อไปตามทางเดินที่ทอดยาวออกไป ราวกับไม่มีที่สิ้นสุด บรรยากาศยังคงมืดสลัวและเต็มไปด้วยความน่าขนลุก เสียงน้ำไหลเอื่อยๆ ไม่ได้ช่วยให้พวกเขารู้สึกผ่อนคลายเลยสักนิด

ทุกคนพากันเดินผ่านโซนต่างๆ ที่ดูแปลกตามากขึ้นเรื่อยๆ บางโซนมีตู้ปลาที่ดูเหมือนจะเชื่อมต่อกันอย่างไร้รอยต่อ บางโซนมีแสงไฟที่ผิดปกติ และบางโซนก็เต็มไปด้วยเงาตะคุ่มของสิ่งมีชีวิตที่ไม่คุ้นตา

ขณะที่พวกเขากำลังเดินผ่านทางเดินที่ค่อนข้างแคบแห่งหนึ่ง สายตาของต้นก็เหลือบไปเห็นบางสิ่งที่ทำให้เขาต้องหยุดชะงัก มันเป็นตู้ปลาขนาดใหญ่ที่ถูกซ่อนอยู่หลังผนังที่ดูเก่าแก่ และมีแสงไฟสลัวๆ ส่องออกมาจากภายใน ตู้ปลานั้นดูเหมือนจะเป็นแหล่งพลังงานหรือสิ่งมีชีวิตบางอย่างที่กำลังเรืองแสงอยู่ภายใน และที่น่าตกใจที่สุดคือ... ต้นรู้สึกเหมือนมองเห็นภาพเคลื่อนไหวบางอย่างภายในตู้ปลานั้นด้วยตาเปล่า!

“ดูนั่นสิ!” ต้นพึมพำด้วยความตื่นเต้นปนหวาดกลัว “มันเหมือน... มีอะไรบางอย่างอยู่ในนั้น!” เขาพยายามจะยกมือถือขึ้นมาเพื่อบันทึกภาพสิ่งที่เขาเห็น

“ต้น! หยุดเดี๋ยวนี้นะ!” กวินร้องเตือนเสียงดัง เขานึกถึงกฎข้อ 6 ที่ถูกประกาศไปแล้ว “จำไม่ได้เหรอ! ห้ามถ่ายภาพหรือวิดีโอใดๆ ภายในอควาเรียม!”

“แต่ผมต้องบันทึกมันไว้!” ต้นตอบกลับด้วยน้ำเสียงกระสับกระส่าย แววตาของเขาเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นที่จะเก็บภาพ “นี่อาจเป็นกุญแจสำคัญที่จะไขความลับของที่นี่ได้!”

แต่ไม่ทันแล้ว ต้นได้ยกโทรศัพท์ขึ้นมาและกดปุ่มถ่ายภาพไปแล้ว!

แสงแฟลชสว่างวาบขึ้น ท่ามกลางความมืดมิดของอควาเรียมไตรตัน และนั่นเป็นสัญญาณบ่งบอกว่ามีคนละเมิดกฎเหล็กอีกครั้ง

ไม่ทันขาดคำแสงไฟจากตู้ปลาขนาดใหญ่ที่ต้นถ่ายภาพก็ส่องสว่างจ้าขึ้นอย่างรวดเร็ว แสงนั้นพุ่งตรงเข้ามาที่มือถือของต้น ลำแสงนั้นเคลื่อนไหวเหมือนสายน้ำเข้าไปในโทรศัพท์เครื่องนั้น หากใครได้ดูภาพยนตร์ไซไฟบ่อยๆ คงรู้ดีว่านี่คือการถ่ายโอนพลังงานบางอย่างระหว่างตู้ปลากับมือถือของช่างภาพหนุ่ม

สิ่งที่ชวนขนหัวลุกปรากฏขึ้น เมื่อหน้าจอโทรศัพท์ของต้นที่เคยเป็นสีดำ บัดนี้กลับแสดงภาพที่น่าสะพรึงกลัวออกมา! ภาพนั้นไม่ใช่สิ่งที่ต้นเห็นด้วยตาเปล่า แต่มันเป็นภาพของเงาปริศนาขนาดมหึมาที่มีดวงตาเรืองแสงสีแดงก่ำ กำลังเคลื่อนไหวอย่างบ้าคลั่งอยู่ภายในตู้ปลา! และที่น่าตกใจที่สุดคือ... ในภาพนั้นยังมีสิ่งมีชีวิตที่ไม่ควรมีอยู่ พวกมันมีรูปร่างแปลกประหลาด น่าเกลียดน่ากลัว ราวกับปีศาจจากใต้ทะเลลึก!

"กฎข้อที่ 6... ห้ามถ่ายภาพหรือวิดีโอใดๆ ภายในอควาเรียม!"

เสียงสังเคราะห์ของอควาเรียมประกาศก้อง ราวกับจะตอกย้ำถึงความผิดพลาดของต้น!

“ฉิบหายแล้ว!! ไม่น่าเลยกู...” ต้นอุทานสุดเสียง เขาเขย่าโทรศัพท์ในมืออย่างบ้าคลั่ง พยายามจะกดลบภาพเหล่านั้นออกไป แต่ภาพนั้นกลับชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ และดูเหมือนว่าสิ่งมีชีวิตในภาพกำลังจ้องมองมาที่เขา!

“ต้น! นายเป็นอะไรไป!” แพรวาร้องเรียกด้วยความตกใจ เธอมองไปที่หน้าจอโทรศัพท์ของต้น แต่สิ่งที่เธอเห็นมีเพียงภาพของเงาและสิ่งมีชีวิตที่ไม่ชัดเจน ราวกับว่าภาพนั้นถูกบิดเบือนไว้ใช้สำหรับต้นคนเดียว

แผลของพลอยปล่อยเมือกแดงออกมาอีกครั้ง มันสร้างความปวดแสบปวดร้อนให้บริเวณนั้น เธอพยายามที่จะควบคุมความรู้สึกเจ็บปวดเพราะไม่อยากให้สถานการณ์วุ่นวายไปมากกว่านี้

ส่วนมิกิก็เริ่มส่งเสียงครางเบาๆ ราวกับว่าเธอกำลังได้ยินเสียงกรีดร้องของต้นผ่านการรับรู้บางอย่างที่ไม่มีใครเข้าใจ ร่างกายของเธอสั่นกระตุกอย่างน่าผวา ปากของเธออ้ากว้างจนสุดขากรรไกร แต่ไร้ซึ่งเสียงใดเล็ดลอดออกมา

ฟ้าที่กำลังเหม่อลอย บัดนี้ดวงตาของเธอกลับเบิกกว้างขึ้นเล็กน้อย เธอมองไปที่ต้นด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความรู้สึกบางอย่างที่ยากจะอธิบาย ราวกับว่าเธอเห็นสิ่งเดียวกันกับที่ต้นเห็น

อิฐเดินเข้ามาใกล้ต้น เขามองไปที่หน้าจอโทรศัพท์ของต้นด้วยความสนใจ “การถ่ายภาพ... คือการบันทึกความจริง แต่มันกำลังบิดเบือนความจริงของเขา” เขาสังเกตเห็นว่าดวงตาของต้นเริ่มมีประกายแปลกๆ คล้ายกับดวงตาของปลาบางชนิดที่เขามองเห็นในตู้ก่อนหน้านี้

“เขาได้เห็น... ความจริงที่ไม่มีใครควรเห็นแล้ว” ลุงแดงอธิบายต่อ “และตอนนี้... มันกำลังใช้ความจริงนั้นบิดเบือนจิตใจเขา”

อาการของต้นเริ่มแย่ลงเรื่อยๆ เขากรีดร้องอย่างต่อเนื่อง พยายามจะทำลายโทรศัพท์ในมือของเขา เขาทุบโทรศัพท์กับพื้นอย่างบ้าคลั่งจนมันแตกละเอียดเป็นเสี่ยงๆ แต่ภาพของเงาและสิ่งมีชีวิตประหลาดยังคงฉายซ้ำอยู่ในดวงตาของเขา! เขากรีดร้องซ้ำๆ ว่า “มันตามมา! มันตามมา!”

สุดท้ายต้นก็เลิกอาละวาด ไม่ใช่เพราะอาการดีขึ้น แต่เป็นเพราะว่าเขาทรุดตัวลงกับพื้นแล้วหมดสติไป ร่างกายของเขากระตุกเล็กน้อย ดวงตาของเขายังคงเบิกกว้าง แต่ไร้แวว และที่น่าตกใจที่สุดคือ... เมื่อเขาลืมตาขึ้นอีกครั้ง ดวงตาของเขากลับเต็มไปด้วยเส้นเลือดฝอยแดงก่ำ แววตาเต็มไปด้วยความคลุ้มคลั่งและหวาดระแวง เขาเริ่มพูดจาไม่รู้เรื่อง และพยายามทำลายทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่รอบตัว ราวกับว่าเขากำลังถูกภาพหลอนเหล่านั้นตามหลอกหลอนอยู่ตลอดเวลา!

“ต้น! นายเป็นอะไรไป!” กวินเขย่าตัวต้นเบาๆ แต่ต้นกลับมองเขาด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัวและพยายามจะทำร้ายเขา

“อ๊ากกก!!” ต้นหวีดร้องแล้วเหวี่ยงหมัดเข้าที่ใบหน้าของกวินเต็มแรง

กวินเหวี่ยงตัวหลบได้ทันพลางร้องอุทานออกมาด้วยความตกใจ “เชี่ย!!!”

แพรวาถึงกับเข้าไปช่วยดึงกวินให้ถอยห่างออกมาอย่างพรวดพราด “ต้น... เขากลายเป็นคนบ้าไปแล้ว” แพรวากล่าวด้วยน้ำเสียงเครือ

อิฐมองไปที่ต้นด้วยความเข้าใจ “ต้นสูญเสียการรับรู้ความจริงไปแล้ว”

ลุงแดงถอนหายใจยาว แววตาไร้ซึ่งความหวั่นไหวทางอารมณ์ “เขาได้กลายเป็น... ผู้ถูกหลอกหลอน เป็นส่วนหนึ่งของความจริงที่บิดเบือนของ อควาเรียม”

“ลุงแดงนี่ดูรู้อะไรเยอะดีนะครับ แต่คงดีกว่านี้ถ้าลุงพูดอะไรออกมาให้มันชัดเจนสักที!” กวินเริ่มหัวเสีย เพราะจากที่เขาฟังมาหลายรอบ ลุงแดงเหมือนจะชินชากับสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้าเหลือเกินราวกับเคยเห็นเรื่องพวกนี้มาก่อนแล้ว

“ทุกคนจะรู้เมื่อถึงเวลา” ลุงแดงยังคงตอบเพียงแค่นั้น ยิ่งทำให้คนฟังหัวร้อนมากกว่าเดิม

“โว้ยยย!!!” กวินแหกปากตะโกนลั่นด้วยความโมโห น้ำตาคลอหน่วยขึ้นด้วยความโกรธ เขาไม่พอใจที่ลุงแดงไม่ได้ช่วยคลายปริศนาให้สิ่งที่เกิดขึ้นเลย ทั้งที่ลุงก็ดูจะรู้เรื่องราวมากมายเกี่ยวกับที่นี่ แต่ก็นั่นแหละ มันเป็นสิทธิ์ของลุงที่จะตอบแบบนั้น ไม่ว่าใครก็กลัวตายกันหมด หากลุงเลือกบอกพวกเขาออกมาตรงๆ อาจจะเกิดผลร้ายกับชีวิตที่เหลืออยู่ของลุงก็ได้

“แปลว่าลุงรู้อะไรเกี่ยวกับที่นี่จริงๆ ใช่ไหมครับ”​ อิฐย้ำถาม แต่ลุงแดงเงียบ ไม่ตอบอะไร

เสียงสังเคราะห์ของอควาเรียมประกาศขึ้นมาอีกครั้ง คราวนี้มันเป็นเสียงที่เย็นยะเยือกและเต็มไปด้วยการเย้ยหยัน

“หนึ่ง... ถูกกลืนกิน สอง... ถูกพราก สาม... ถูกบิดเบือน สี่... ถูกลบเลือน ห้า... ถูกแบ่งแยก หก... ถูกหลอกหลอน"

"ยินดีต้อนรับ สู่การเป็นส่วนหนึ่งของไตรตัน ผู้เฝ้ารอคอยตลอดกาล..."