บัตรเชิญสีดำพาพวกเขาเข้าสู่อควาเรียมที่ไม่มีในแผนที่ 13 กฎห้ามละเมิด…แต่เมื่อทำตาม พวกเขากลับเริ่มหายไปทีละคน
ระทึกขวัญ,ผู้ใหญ่,จิตวิทยา,ยุคปัจจุบัน,ไทย,พล็อตสร้างกระแส,แฟนตาซี,สยองขวัญ,เอาตัวรอด,เอาชีวิตรอด,RulesofHorror,horror,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
วิธีการเป็นผู้รอดชีวิตจาก 13 กฎเหล็กของอควาเรียมต้องห้ามบัตรเชิญสีดำพาพวกเขาเข้าสู่อควาเรียมที่ไม่มีในแผนที่ 13 กฎห้ามละเมิด…แต่เมื่อทำตาม พวกเขากลับเริ่มหายไปทีละคน
13 กฎเหล็กที่ห้ามละเมิด…แม้จะไม่รู้ว่าทำไม
เมื่อกวินและอีก 11 คนได้รับบัตรเชิญสีดำลึกลับ พวกเขาถูกพาไปยัง “อควาเรียมต้องห้าม” ที่ไม่ปรากฏอยู่ในแผนที่โลก
ประตูถูกล็อก
กฎถูกประกาศ
และทุกการละเมิด… คือการแลกด้วยความตาย
แต่ยิ่งพวกเขาเชื่อฟัง พวกเขายิ่งสูญเสียความเป็นตัวเอง และเมื่อกฎข้อสุดท้ายคือ “จงอย่าท้าทายกฎ” บางคนก็เริ่มสงสัยว่า
ถ้าไม่ฝ่าฝืน…เราจะรอดได้อย่างไร?
ความเงียบงันเข้าปกคลุมอีกครั้งหลังจากเจมส์หมดสติไป ร่างกายของเขานอนแน่นิ่งอยู่บนพื้นผิวหินอ่อนที่เย็นเฉียบ ผิวหนังซีดเผือดจนแทบเป็นสีขาว ดวงตาที่เคยเต็มไปด้วยความขี้เล่นบัดนี้ปิดสนิทไร้แวว และมีลมหายใจแผ่วเบาจนแทบไม่ได้ยิน แสงสีส้มและชมพูจากตู้ปะการังสะท้อนบนใบหน้าของเขา ทำให้ร่องรอยของเส้นเลือดฝอยที่ปูดโปนดูน่ากลัวยิ่งขึ้น
“เขา... จะไม่เป็นอะไรใช่ไหม?” พลอยถามเสียงสั่น ใบหน้าของเธอยังคงซีดเผือดจากความเจ็บปวดจากรอยไหม้บนฝ่ามือ แต่ความเป็นห่วงเพื่อนสมนุษย์ด้วยกันมีมากกว่า “เขาจะกลายเป็นเหมือน... เหมือนปลาพวกนั้นใช่ไหม?” เธอชี้ไปที่ปลาที่มีดวงตาสีแดงฉานในตู้ปะการัง
แพรวาคุกเข่าลงข้างเจมส์ เธอเอามือแตะชีพจรที่ข้อมือของเขาเบาๆ “เขายังมีชีวิตอยู่” เธอกล่าวเสียงเครือ “แต่ฉันไม่รู้ว่ากำลังเกิดอะไรขึ้นกับเขา” แพรวารู้สึกถึงความสิ้นหวังที่เริ่มกัดกินหัวใจ เธอไม่เคยคิดว่าการค้นหาความจริงเกี่ยวกับอดีตของพ่อจะนำพาเธอมาสู่สถานการณ์ที่น่าสะพรึงกลัวเช่นนี้ “เราต้องหาทางช่วยเขา”
กวินมองไปที่เจมส์ด้วยความรู้สึกผิดชอบชั่วดี เขาคือผู้นำของกลุ่มนี้ และนี่คือผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นกับเพื่อนของเขา “เราต้องพาเขาไปที่ที่ปลอดภัย” กวินกล่าว ก่อนจะหันไปมองอิฐ “นายคิดว่าเราควรไปที่ไหนดีที่สุด?”
อิฐยังคงนิ่งเงียบ ดวงตาของเขาจับจ้องไปที่เจมส์ ก่อนจะกวาดสายตาไปรอบๆ ราวกับกำลังประเมินสถานการณ์ “โซนอื่นอาจจะอันตรายกว่า” อิฐตอบด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ “บางที... เราควรหาที่ซ่อนตัว” เขาชี้ไปที่ทางเดินเล็กๆ ที่นำไปสู่โซนอื่น ซึ่งเป็นทางเดินที่มืดกว่าและดูเหมือนจะไม่ค่อยมีคนใช้งาน
มิกิที่เพิ่งซ่อนมือถือลงไปในกระเป๋าเสื้อ หันมามองเจมส์ด้วยความตกใจ “นี่มัน... เกินกว่าที่เราจะรับมือไหวแล้วนะ” เธอพึมพำ น้ำเสียงของเธอดูสั่นเครือ แตกต่างจากยูทูบเบอร์สาวผู้กล้าหาญที่เคยเป็น เธอคิดในใจว่าแม้แต่คอนเทนต์สุดไวรัลก็อาจไม่คุ้มกับชีวิตที่ต้องแลกไป
ต้นยังคงตั้งหน้าตั้งตาจดบันทึกทุกรายละเอียดลงในสมุดของเขา แทนการถ่ายภาพ สีหน้าของเขาจริงจังและเคร่งขรึม “การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับเจมส์... มันเป็นไปอย่างรวดเร็วมาก” เขาพึมพำ “เหมือนกับว่า อควาเรียมกำลัง... ดูดกลืนความเป็นมนุษย์ออกไปจากเขา”
ฟ้าเดินเข้าไปใกล้เจมส์อีกครั้ง เธอยื่นมือออกไปเหนือร่างของเขา พลังจิตของเธอทำให้เธอสัมผัสได้ถึงกระแสพลังงานที่ปั่นป่วนภายในร่างกายของเจมส์ “มันคือพลังงานที่แข็งแกร่งมาก... คล้ายกับน้ำ... แต่ก็ไม่ใช่แค่คลื่นน้ำธรรมดา มันคือสิ่งที่กำลังเปลี่ยนแปลงเขา”
ลุงแดงถอนหายใจเฮือกใหญ่ เขานั่งลงข้างๆ เจมส์ พลางลูบผมของเจมส์เบาๆ “น่าสงสาร... เด็กคนนี้ไม่น่ามาเจอเรื่องแบบนี้เลย” ลุงแดงพึมพำ “อควาเรียมแห่งนี้... มันเคยกลืนกินผู้คนมามากมาย”
ทุกคนหันมามองลุงแดงเป็นตาเดียว คำพูดของเขาสร้างความสงสัยให้ปรากฏอยู่ในแววตาของทุกคน ฟังดูเหมือนลุงแดงจะรู้จักที่นี่มากกว่าใคร
“ลุงหมายความว่าไงครับ” กวินถาม
“ทุกคนจะรู้เอง เมื่อถึงเวลา...”
ลุงแดงบอกเพียงแค่นั้น ทุกคนหันมองหน้ากันอย่างงุนงง เมื่อเห็นว่าไม่น่าจะได้ข้อมูลอะไรเพิ่มเติมไปมากกว่านี้ กวินจึงตัดสินใจหันไปบอก แพรวาให้ช่วยกันพยุงร่างของเจมส์ขึ้นมาอย่างทุลักทุเล ร่างของเจมส์หนักกว่าที่คิด พวกเขาค่อยๆ เดินไปตามทางที่อิฐชี้ไป ซึ่งเป็นทางเดินที่ค่อนข้างแคบและมืดสลัว แสงจากตู้ปลาลดน้อยลง ทำให้บรรยากาศยิ่งอึมครึม
พวกเขามาถึงโซนใหม่ที่ป้ายบอกว่า "อุโมงค์ใต้สมุทร" มันเป็นอุโมงค์กระจกขนาดใหญ่ที่ทอดยาวออกไปราวกับจะพาพวกเขาดำดิ่งสู่ใต้ทะเลลึก รอบๆ ตัวคือผืนน้ำสีน้ำเงินเข้มที่เต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลลึกที่ไม่คุ้นตา ปลาบางชนิดมีดวงตาที่เรืองแสงได้ในความมืด บางชนิดมีรูปร่างประหลาดราวกับหลุดออกมาจากฝันร้าย
ขณะที่ทุกคนเดินผ่านอุโมงค์ พลอยซึ่งยังคงรู้สึกเจ็บปวดจากรอยไหม้ที่มือ ก็พยายามจะเบี่ยงเบนความสนใจด้วยการมองดูสัตว์น้ำรอบๆ ตัว เธอเห็นปลาตัวเล็กๆ สีสันสดใสฝูงหนึ่งว่ายวนอยู่ใกล้กระจก ดวงตาของพวกมันดูหิวโหย “ดูสิ! พวกนี้น่ารักจังเลย!” พลอยเอ่ยขึ้นด้วยความไร้เดียงสา
เธอเอื้อมมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกงหยิบขนมปังแผ่นเล็กๆ ที่เธอพกมาเพื่อกินรองท้อง เธอแกะซองออกในขณะที่จ้องมองฝูงปลาเหล่านั้น “ทำไมพวกมันดูหิวจัง” พลอยพึมพำก่อนจะเริ่มฉีกขนมปังเป็นชิ้นเล็กๆ และยื่นมือออกไปที่กระจก ราวกับจะให้อาหารปลาเหล่านั้น
“พลอย! หยุดเดี๋ยวนี้นะ!” กวินร้องเตือนเสียงดัง แต่ไม่ทันแล้ว
ขนมปังชิ้นเล็กๆ หลุดออกจากมือของพลอยและลอยผ่านกระจกอุโมงค์เข้าไปสู่ผิวน้ำในตู้ปลา
ทันใดนั้น เสียงกระซิบที่เคยดังแผ่วเบา ก็ดังขึ้นอย่างเกรี้ยวกราดและรุนแรงไปทั่วทั้งอุโมงค์
“ห้ามให้อาหารปลานอกเหนือจากที่จัดเตรียมไว้!”
เสียงสังเคราะห์ของอควาเรียมประกาศกร้าว มันลั่นดังราวกับเสียงฟ้าร้องคำราม ทำเอาพลอยขนลุกซู่ทันทีที่ได้ยิน
ปลาตัวเล็กๆ สีสันสดใสที่พลอยเพิ่งให้อาหารไป บัดนี้เริ่มว่ายวนอย่างบ้าคลั่ง ดวงตาของพวกมันเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำ จากที่เคยดูน่ารัก บัดนี้พวกมันดูดุร้ายและหิวโหยอย่างไม่น่าเชื่อ!
น้ำในตู้ปลาเริ่มเปลี่ยนเป็นสีดำเข้มอย่างรวดเร็ว ราวกับมีหมึกสีดำขนาดใหญ่ถูกปล่อยออกมา ปิดบังทัศนียภาพทั้งหมด จนแทบมองไม่เห็นอะไรเลย
แล้วสิ่งที่น่าสะพรึงกลัวกว่านั้นก็เกิดขึ้น!
ปลาในตู้จำนวนมาก ไม่ใช่แค่ตัวเล็กๆ แต่ยังมีปลาขนาดใหญ่ที่ซ่อนอยู่ในความมืดมิด พวกมันเริ่มที่จะพยายามกระโจนออกจากน้ำ! ปลาฝูงใหญ่ หลากหลายขนาดกำลังพุ่งชนกระจกอุโมงค์อย่างบ้าคลั่ง เสียงกระแทกดังสนั่นหวั่นไหวราวกับอุโมงค์กำลังจะแตกออก! บางตัวกระโจนขึ้นมาถึงระดับศีรษะของพวกเขา อ้าปากกว้างขณะพุ่งชนกระจกราวกับต้องการจะขย้ำเข้าที่หัวของพวกเขา ดวงตาแดงก่ำที่จ้องมองมาเต็มไปด้วยความหิวโหยและดุร้าย!
“กรี๊ดดดดดดด!” พลอยกรีดร้องสุดเสียง เธอถอยหลังพรวดพราดด้วยความหวาดกลัว ใบหน้าของเธอซีดเผือดกว่าเดิม
กวินรีบดึงพลอยเข้ามากอดไว้แน่น เพื่อปกป้องเธอจากปลาที่กำลังคลั่ง แพรวาเองก็รีบเข้ามายืนบังพลอยอีกชั้นหนึ่ง ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความตื่นตระหนก แต่ก็ยังคงความมุ่งมั่นที่จะปกป้องเพื่อน
“นี่มันบ้าชัดๆ!” เจมส์ที่หมดสติไป อยู่ๆ บัดนี้ก็เริ่มลืมตาขึ้นแล้วเอ่ยโพล่งออกมา ดวงตาของเขาดูเลื่อนลอยเล็กน้อย แต่เขารับรู้ถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นได้ เขาพยายามจะลุกขึ้นยืน แต่ร่างกายของเขายังคงอ่อนแรง
มิกิถึงกับปล่อยมือถือที่แอบถ่ายอยู่ เธอผวาถอยหลังไปชนกับต้นที่อยู่ข้างหลัง “นี่มันไม่สนุกแล้วนะ!” มิกิร้องเสียงหลง “พวกมันพยายามจะฆ่าเรา!”
ต้นเองก็ตกใจไม่แพ้กัน เขามองไปที่ปลาที่กำลังคลั่งด้วยแววตาหวาดกลัว “มันไม่ใช่แค่ปลาธรรมดาแล้ว พวกมันเหมือนถูกควบคุม... ให้โจมตีเรา!”
อิฐยังคงยืนนิ่ง เขามองไปที่น้ำสีดำในตู้ปลาด้วยความสงสัย “การเปลี่ยนแปลงของน้ำ... นี่คือผลจากการละเมิดกฎ” เขาเอ่ยพูดก่อนจะหันไปมองรอยไหม้บนมือของพลอย ซึ่งบัดนี้ดูเหมือนจะเด่นชัดขึ้นและมีประกายสีแดงเรืองรองเล็กน้อย
ลุงแดงขยับเข้ามาใกล้กลุ่มมากขึ้น ใบหน้าของเขาดูซีดเซียว “พวกมันกำลังหิว... ดูเหมือนกระหาย... บางอย่าง”
ตึง!!!
ตัง!!!!
เสียงกระแทกของปลาที่พุ่งชนอุโมงค์ยังคงดังไม่หยุดหย่อน แรงสั่นสะเทือนทำให้พวกเขาทรงตัวลำบาก ราวกับว่าอุโมงค์กระจกกำลังจะพังทลายลงมาในอีกไม่ช้า
“เราต้องหนี!” กวินร้องเสียงดัง เขาตัดสินใจอย่างรวดเร็ว “ไปทางนี้!” เขาชี้ไปทางปลายอุโมงค์ที่ยังคงมองเห็นแสงสลัวๆ อยู่
ทุกคนรีบวิ่งหนีอย่างไม่คิดชีวิต เสียงกรีดร้องของพลอยดังระงมขณะวิ่ง เสียงปลาที่พุ่งชนกระจกดังอยู่ไม่ห่าง เจมส์เองก็พยายามวิ่งตามไปอย่างทุลักทุเล ร่างกายที่อ่อนแรงทำให้เขาต้องพึ่งการพยุงจากกวินและ แพรวาเป็นครั้งคราว
ขณะที่พวกเขากำลังวิ่งผ่านอุโมงค์ พลอยรู้สึกถึงความเจ็บปวดที่มือ รอยไหม้บนฝ่ามือของเธอกำลังเต้นระริกและมีเลือดซึมออกมาเล็กน้อย เมื่อเธอหยุดพักหายใจ เธอก็สังเกตเห็นว่าที่ปลายเท้าของเธอมีน้ำสีดำคล้ำปนกับคราบเมือกสีแดงบางๆ ไหลออกมาจากรอยร้าวเล็กๆ บนพื้นอุโมงค์ “อะไรน่ะ...” เธอพึมพำออกมาด้วยความสงสัย
ไม่มีใครสังเกตเห็นสิ่งนี้ เพราะทุกคนต่างจดจ่ออยู่กับการหนีเอาชีวิตรอด
พวกเขาพุ่งตัวออกมาจากอุโมงค์ใต้สมุทรอย่างรวดเร็ว และเข้ามาในโซนที่ดูเหมือนจะเป็นทางเดินกว้างๆ ที่มีทางแยกหลายทาง แสงไฟที่นี่ดูสว่างกว่าเล็กน้อย และเสียงปลาที่กำลังคลั่งก็จางหายไป
ทุกคนต่างหอบหายใจด้วยความเหนื่อยล้าและหวาดกลัว เจมส์ทรุดลงกับพื้นทันทีที่พ้นจากอุโมงค์ ส่วนพลอยก็ตัวสั่นไม่หยุด
“นี่มันไม่ใช่เรื่องล้อเล่นแล้วนะทุกคน” มิกิกล่าวเสียงสั่น “กฎพวกนี้มันกำลังเล่นงานเราจริงๆ”
“ใช่” ต้นเสริม “และผลลัพธ์มันกำลังรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ”
แพรวามองไปที่มือของพลอยอีกครั้ง รอยไหม้รูปตราประทับนั้นบัดนี้เด่นชัดขึ้น และดูเหมือนจะมีเส้นใยบางๆ คล้ายรากพืชสีแดงเข้มแตกแขนงออกมาจากรอยนั้น “พลอย... เธอต้องไปให้หมอตรวจ” แพรวาบอกด้วยความเป็นห่วง
“หมอ? ที่นี่ไม่มีหมอหรอกนะ” กวินกล่าวเสียงเครือ “เราต้องหาทางออกไปจากอควาเรียมนี้ให้ได้ก่อน”
อิฐเดินเข้ามาใกล้พลอย เขาใช้มือแตะที่มือของพลอยเบาๆ เธอสะดุ้งเล็กน้อย “รอยตราประทับนี้... เหมือนกับสิ่งมีชีวิตบางชนิดที่เคยถูกค้นพบในแหล่งน้ำโบราณ”
“มันคืออะไร” แพรวาเอ่ยถาม สีหน้าเต็มไปด้วยความสงสัย
“ฉันก็จำชื่อเรียกของมันไม่ได้ แต่มันเป็นสัญลักษณ์ของการเปลี่ยนแปลง”
ลุงแดงมองไปที่อิฐด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความสงสัย “นายดูรู้เรื่อง อะไรๆ เยอะกว่าที่พวกเราคิดนะอิฐ” ลุงแดงกล่าว
อิฐไม่ตอบ เขาเงยหน้าขึ้นมองเพดานของอควาเรียม ซึ่งดูเหมือนจะสูงเสียดฟ้า มองไม่เห็นจุดสิ้นสุด “ทุกอย่างมีเหตุผลของมัน ถ้าเราเข้าใจมัน เราจะหาคำตอบได้เอง”
เสียงกระซิบที่เคยเป็นเพียงเสียงแผ่วเบา บัดนี้เริ่มดังขึ้นอีกครั้ง คราวนี้มันไม่ใช่แค่เสียงกระซิบ มันเป็นเสียงที่ดูเหมือนจะกำลังร้องเพลงที่ไพเราะและชวนฝัน แต่ก็แฝงไว้ด้วยความเศร้าโศกและอันตราย
"จงเดินหน้าต่อไป... สู่ความจริงที่ซ่อนเร้น... สู่การเปลี่ยนแปลง... ที่ไม่อาจหลีกเลี่ยง..."
เสียงเพลงนั้นก้องกังวานไปทั่วทั้งอควาเรียมไตรตัน ชักนำพวกเขาให้เดินลึกเข้าไปในเขาวงกตแห่งความลับ และนำพาพวกเขาเข้าใกล้ชะตากรรมที่ไม่มีใครอยากเผชิญหน้า
ทุกคนต่างตระหนักแล้วว่า การเอาชีวิตรอดจาก 13 กฎเหล็กนี้ ไม่ใช่แค่การทำตามกฎ แต่คือการต่อสู้กับสิ่งที่มองไม่เห็นที่กำลังพยายามกลืนกินพวกเขาไปทีละคน และเวลาของพวกเขาก็เหลือน้อยลงทุกที