อบิเกล เด็กที่มีชีวิตที่ไม่เหมือนใคร เธอต้องตะลุยไปตามสถานที่ต่างๆ กับอาของเธอจนกระทั่งวันหนึ่งที่กับมาบ้านแล้วเธอก็ได้พบกับจดหมายที่เธอไม่คาดคิด จดหมายนี่จะเปลี่ยนชีวิตของเธอที่เธอไม่รู้จักอีกมากมาย
แฟนตาซี,ชาย-หญิง,รั้วโรงเรียน,ตะวันตก,อื่นๆ,แฟนฟิค,แฟนฟิคแฮร์รี่พอตเตอร์,เวทมนตร์,ฮอกวอตส์,รุ่นลูก,คาถา,แฮร์รี่พอตเตอร์,เด็กหญิงผู้รอดชีวิต,YukiCoCo,แฟนตาซีน,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
[Fanfiction Harry Potter รุ่นลูก] เด็กหญิงผู้รอดชีวิตอบิเกล เด็กที่มีชีวิตที่ไม่เหมือนใคร เธอต้องตะลุยไปตามสถานที่ต่างๆ กับอาของเธอจนกระทั่งวันหนึ่งที่กับมาบ้านแล้วเธอก็ได้พบกับจดหมายที่เธอไม่คาดคิด จดหมายนี่จะเปลี่ยนชีวิตของเธอที่เธอไม่รู้จักอีกมากมาย
++คำอธิบายจากนักเขียน++
สวัสดีทุกคนนะคะ ขอต้อนรับสู่อีกเรื่องที่เป็นแนวนิยายฟิครุ่นลูกอีกเรื่อง
เรื่องนี้ทุกคนก็น่าจะรู้จักก็คือเรื่อง แฮร์รี่ พอตเตอร์ ผู้เขียน เจ.เค.โรว์ลิง
เนื้อเรื่องนิยายครั้งนี้ก็เหมือนเคยไรท์อยากสนองฮีทของตัวเองเลย
สร้างเรื่องนี้ขึ้นแต่งรุ่นลูกของแฮร์รี่ขึ้น อันนี้จะแตกแขนงจากละครเวทีอย่างเรื่องเด็กต้องสาป
มาอีกทีเหมือนโลกคู่ขนามอีกโลกหนึ่ง เนื้อเรื่องอาจจะมีปวดตับมั้งหรือเปล่านะ
แต่ถ้าใครไม่ชอบก็ขอประทานอภัยกับเนื้อเรื่องที่ทางไรท์ต้องการนะคะ
บทนำของเรื่อง
อบิเกล เด็กสาวที่มีชีวิตที่ไม่เหมือนใคร เธอนั้นได้เดินทางไปกับอาของเธอโดยไม่รู้ว่าต้องออกเดินทางเพราะไร จนพวกเขาตั้งหลักได้แล้วก็กลับมายังลอนดอนอีกครั้งและใช้ชีวติจนเวลาผ่านไปนานจนอบิเกลได้อายุ 11 ปี พวกเขากลับมาจากทำงานแล้วกลับมาบ้าน แต่แล้วอบิเกลต้องดีใจที่เธได้ จดหมายจากโรงเรียนเวทมนตร์ ฮอกวอตส์ แต่เธอไม่รู้ว่าชีวิตของเธอกำลังจะเปลี่ยนไป เมื่อเข้าสู้โรงเรียนแห่งนั้น
เรื่องนี้เชื่อมโยงกับโลกเทพปกรณัมกรีกในนิยายแฟนฟิคของเรา
อย่างเรื่อง สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ นะคะ
ไปติดตามกันได้นะ
ปล. เรื่องนี้เป็นนิยายฟรี ไม่อาจะคาดเดาในวันที่จะลงได้
ตอนที่ 20 ไม่อยากแย่งตำแหน่งกับหมา
อาทิตย์กำลังตกดินเหล่านักเรียนกำลังเดินทางกันไปยังห้องโถงใหญ่เพื่อเตรียมทานอาหารเย็น วันนี้เป็นมื้ออาหารที่น่าทานอีกวัน อบิเกลจ้องมองอาหารตรงหน้าอยู่สักพักก่อนจะมีคนชวนเธอคุยถึงเรื่องวันนี้มีวิชาที่ไม่เข้าใจ อบิเกลก็พูดแนะนำเพื่อนบ้านตัวเองก่อนจะหันมาเตรียมตักอาหารแต่ว่าบนจานของเธอก็มีอาหารเต็มจานอีกแล้วก่อนที่เธอจะหันไปมองพวกเพื่อน ๆ ที่หลบหน้าเธอทันที ยกเว้นสกอร์เปียสที่เอาแต่จ้องมองเธอด้วยสายตาอ้อนว่าขอให้เธอทานอาหารตรงหน้า
“อย่ามองแบบนั้นสิ”
“ทำไมล่ะ? อบิเกลดูผอมมากเลยนะ ต้องกินเยอะ ๆ”
“นายอยากเห็นฉันอ้วนหรือไง?”
“ไม่นะ...”
“งั้นอย่าตักให้ฉันเยอะ อาหารตรงหน้าฉันกินหมดได้ก็ตามที แต่ก็ไม่อยากกินเยอะจนอิ่มเกินไปนะ”
“จ้า~” พวกเพื่อนสาวต่างขานพร้อมกัน
อบิเกลได้แต่ส่ายหน้าเรื่องอาหารนี้เธอคงต้องกินเพื่อให้ตัวเองหุ่นพอดีก่อนที่เพื่อน ๆ จะคิดว่าเธอผอมแห้งเกินไป ระหว่างที่กำลังนั่งกินข้าวอยู่นั้นความรู้สึกบางอย่างพุ่งตรงมาทางนี้ ทำให้อบิเกลหันหน้าไปด้านข้างขวามือ ก่อนจะเห็นว่าพวกรุ่นพี่ที่อยู่ท้าย ๆ หันหน้าหลบไปกินข้าวต่อ ทำให้อบิเกลสงสัยว่าเช้าเย็นพวกรุ่นพี่กลุ่มนี้ต้องการอะไรถึงมองมาทางพวกเธอตลอดทำให้สงสัยว่าพวกเขาจะเอาอะไรจากกลุ่มพวกเธอไหม เวลาผ่านไปนั้นทุกคนต่างพากันกลับบ้านของตนเองกัน
เด็กบ้านสลิธีรินแต่ละคนเดินไปยังชั้นล่างไปยังบ้านพักของตนเองกัน ทุกคนต่างเข้าไปยังประตูงูบางคนกลัวก็รีบวิ่งกันสุดชีวิต อบิเกลเดินตามทุกคนเข้าไปก่อนที่จะมารอที่ขั้นบันไดลงไปยังห้องนั่งเล่น พวกลูน่าต่างมองอีกฝ่ายกำลังรอใครอยู่นั้นเองทำให้พวกเขายืนอยู่ขั้นบันไดขั้นสุดท้ายด้านล่าง กันอย่างสงสัยจนอบิเกลเห็นคนกลุ่มที่เธอต้องการจะเจอกำลังเดินเข้ามาเธอก็เอ่ยพูดขึ้นมา
“ขอคุยด้วยหน่อยค่ะ!!”
“หือ!?”
ทุกคนที่กำลังเดินเข้ามานั้นต่างพากันหันไปมองก็ตกใจเล็กน้อยที่เด็กคนหนึ่งมาขอคุยกับพวกเขา
“เมอร์รัล...”
“มีอะไรอยากคุยกับพวกพี่เหรอ?”
“พวกพี่มองพวกเด็กปี 1 ทำไมคะ?”
“หือ? เธอคิดไปเองหรือเปล่า?”
“ไม่นะคะ สำหรับคนที่ทำงานมาหลายปีอย่างหนู รู้ได้ค่ะว่าสายตาของพวกพี่นั้นกำลังมองมาทางพวกปี 1”
“สายตาพวกเราไม่น่าไว้ใจขนาดนั้นเลยเหรอ?”
“อันนี้ไม่แน่ใจเลยแฮะ...”
พวกรุ่นพี่ต่างพูดคุยกันอย่างละอายหน่อย ๆ ที่โดนจับทางได้ว่าแอบมอง ก่อนที่คามิวจะออกมาหาอบิเกล
“เมอร์รัล พวกเราไม่ได้ตั้งจะมองพวกเด็ก ๆ นะ แต่แค่ว่า...”
“แค่ว่าอะไรคะ?” อบิเกลยกคิ้วจ้องมองรุ่นพี่คามิวที่ออกมาแก้ตัว
“ฉันอธิบายให้เอง”
เสียงหนึ่งเอ่ยขึ้นทุกสายตาหันไปมองเจ้าของเสียงที่กำลังเดินออกมา อบิเกลจ้องมองเจ้าของเสียงก็ได้เห็นรูปลักษณ์ของอีกฝ่าย เขาเป็นชายรูปร่างโปร่งสูง ผมสีดำหยักศกหน้าม้าตกข้างขวาข้างซ้ายก็เปิดโล่งปัดไปด้านข้าง รอยยิ้มบอกใบหน้าดูไม่เหมือนคนบ้านสลิธีรินที่ดูเจ้าเล่ห์เหมือนแม็กนัส แต่อีกฝ่ายดูนุ่มฟูอย่างกับลูกหมายังไงยังงั้น แต่ถึงอีกฝ่ายจะหล่อแต่อาสก็อตของเธอหล่อกว่าอีกนั้นล่ะ แต่ว่าเพราะอบิเกลจ้องอีกฝ่ายอยู่นานไปนั้นทำให้สกอร์เปียสมองรุ่นพี่ระหว่างเธอหลายรอบจนเขานั้นยกมือขึ้นมาสัมผัสที่ดูเอ่อ ๆ ของเขา
‘ควรเปลี่ยนทรงผมดีไหมนะ?’ สกอร์เปียสคิด
อบิเกลกอดอกมองอีกฝ่ายที่กำลังเดินมาหาก่อนที่เขานั้นจะยกยิ้มให้แล้วกล่าวพูดต่อ
“ขอโทษกับความเสียมารยาทของพวกเรานะ เมอร์รัล”
“ค่ะ แต่ว่ามองพวกปีหนึ่งทำไมคะ?”
“พวกเราไม่ได้มองเด็ก ๆ หรอกนะ แต่ว่า...” ชายหนุ่มกล่าวพร้อมกับชี้มาทางอบิเกล “คนที่เรามองคือเธอ เมอร์รัล”
“หนู?!”อบิเกลตาลุกวาวมองอีกฝ่ายที่กล่าวถึงเธอ “แล้วมองหนูทำไม? รุ่นพี่”
“ชาร์ลี ฉันชื่อว่า ชาร์ลี แอนเดอร์สัน อยู่ปี 7”
“ค่ะ รุ่นพี่ชาร์ลี...เอ่อ...แล้วมองหนูทำไมคะ?”
“เอ่อ...ก็อย่างที่เธอรู้ว่าก่อนหน้านั้นเธอกับเด็กบ้านกริฟฟินดอร์แข่งกันในชั่วโมงเรียนขี่ไม้กวาด พวกเด็กปี...เอ่อ...ปีอะไรนะ?”
“พวกพี่ปี 6 ค่ะ”
“ใช่ พวกพี่ปี 6”
“แล้วทำไมคะ?”
“พอดีพวกนั้นมาเหล่าให้ฟังถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตอนแรกฉันไม่เชื่อเท่าไหร่จนพวกนั้นบางคนแอบใช้ลูกแก้วเวทมนตร์ บันทึกมาให้ฉันดู”
อบิเกลได้ยินแบบนั้นเธอรู้สึกไม่ดีชอบกล “พวกพี่จะ...ลงโทษหนูเหรอ?”
“ไม่ ๆ อบิเกล เราไม่มีอำนาจแบบนั้น แต่ว่าพวกเราเห็นศักยภาพของเธอแล้วนั้น...” คามิวหันไปมองชาร์ลีที่พยักหน้าก่อนจะมองอบิเกลต่อ
“พวกเราเลยมีความคิดบางอย่างขึ้นมานะ”
อบิเกลจ้องมองรุ่นพี่ทั้งหลายอย่างสงสัยว่าพวกเขานั้นมีความคิดอะไร แต่การที่เหล่ารุ่นพี่กลุ่มนี้อยู่ตรงหน้าของอบิเกลก็ทำให้หลายคนต่างจับตามอง เพราะพวกเขาทุกคนคือคนที่ชื่อเสียงในบ้านสลิธีริน แม็กนัสกำลังสนทนากับเพื่อน ๆ ก็สังเกตเห็นว่าทุกคนต่างมองไปแถวบันไดก็เห็นกลุ่มคนที่เขารู้จักกำลังคุยกับเจ้าเด็กที่เขาเกลียดขี้หน้ามาก ๆ เขาเดินไปกับเพื่อน ๆ ของเขาตรงดิ่งไปดูว่าพวกนั้นกำลังคุยอะไร พวกชาร์ลีมองอบิเกลก่อนจะพูดบางอย่างออกมาโดยตรง
“พวกเราอยากให้เธอมาเป็นนักเล่นควิดดิชให้บ้านเรานะ”
“นักเล่นควิดดิช?”
อบิเกลจ้องด้วยความสงสัยว่าพวกรุ่นพี่คิดอะไรถึงอยากให้เธอเป็นนักเล่นควิดดิช ถึงเธอจะโดนเพื่อน ๆ กล่อมใส่หัวทุกวันแต่ก็ไม่ได้สนใจสักนิด แต่สิ่งที่ไม่ได้สนใจกับพุ่งเข้าหาอย่างเดียวจนเธออยากจะบ้า สายตาของเธอหันไปมองเพื่อน ๆ แต่ละคนที่ตาลุกวาวกันที่เห็นเพื่อนของตนเองได้รับการเชิญชวนให้เป็นนักเล่นควิดดิช ส่วนนักเรียนบางกลุ่มได้ยินก็ซุบซิบอย่างอิจฉา แต่ทว่าแม็กนัสที่ได้ยินก็ตาลุกวาวเช่นเดียวกันแต่เป็นอาการที่กำลังอารมณ์ขึ้นพุ่งสูงกับสิ่งที่ได้ยิน
“แล้วก็มีตำแหน่งที่เหมาะกับเธออยู่พอดีเลยล่ะ” ชาร์ลีกล่าว
“ตำแหน่ง?” อบิเกลขมวดคิ้วด้วยความรู้สึกตงิด ๆ ใจว่าตำแหน่งที่ว่านั้นคงไม่ใช่อย่างที่คิด
“ใช่ เธอเหมาะเป็นกับตำแหน่งซีกเกอร์ที่สุด”
“ไม่!!”
แม็กนัสตะโกนเสียงดังก้องไปทั้งห้องนั่งเล่นจนทุกคนต่างหันไปมองเจ้าของเสียงที่ตะโกนออกมา แม็กนัสกำลังเดินขึ้นมาพาพวกชาร์ลีทันที
“พวกแกจะเอาฉันออกจากกลุ่มงั้นเหรอ? ชาร์ลี!!”
“ฉันไม่ได้จะให้นายออก แม็กนัส!!”
“แต่แก!!” แม็กนัสชี้มาทางอบิเกลจนเธอนั้นอยากงับนิ้วอีกฝ่ายที่ชี้หน้าเธอที่สุดตอนนี้ “ชวนยัยเด็กนี้ในตำแหน่งที่ฉันกำลังดำรงอยู่เนี่ยนะ!!”
อบิเกลตาโตทันทีอีกฝ่ายมีตำแหน่งในกลุ่มนักเล่นควิดดิชด้วยแถมเป็นตำแหน่งที่ดูไม่ได้เหมาะกับอีกฝ่ายเลยสักนิด แต่เธอก็ไม่ได้สนใจตำแหน่งที่รุ่นพี่จะให้เท่าไหร่ แต่เธออยากฟังว่าอีกฝ่ายจะพูดอะไรต่อ
“ก็แค่ตัวสำรอง แม็กนัส เกิดนายไม่สามารถลงได้ก็ยังมีอบิเกลช่วยอีกแรงไง”
“ไม่!! ตำแหน่งของฉันไม่ควรมีตัวสำรองหรือใครมาแทน!! ถ้าพวกแกกล้าทำแบบนั้นฉันจะเล่นงานพวกนายหนักกว่าทุกที!!”
ทุกคนได้ยินคำขู่นั้นก็ชะงักไปเลย ใครที่โดนแม็กนัสหมายหัวเอาไว้ก็มีแต่ต้องเจอชะตากรรมอันแย่ที่สุด แต่คำขู่นั้นไม่ได้ผลกับอบิเกลเธอได้แต่ส่ายหน้าอย่างเบื่อหน่ายกับคนตรงหน้าจนอีกฝ่ายเห็นว่าเธอกำลังทำท่าทางแบบนั้นใส่เขา นั้นทำให้เขาต้องหันขวับกลับมามองอีกฝ่าย
“แก!! ส่ายหัวหมายความว่าไง!?”
“หือ?”อบิเกลกอดอกมองด้วยสายตาเย็นชาใส่อีกฝ่าย “ก็แค่ส่ายหัวให้กับความปัญญาอ่อนของผู้ชายคนหนึ่งเท่านั้นเอง”
“แกว่าไงนะ!?”
“ถ้าเก่งจริง? รุ่นพี่แม็กนัส การที่อยู่ตำแหน่งนั้นได้ก็ต้องอยู่ให้ได้ตลอดสิ การที่พวกรุ่นพี่หาคนมาแทน ก็แปลว่านายไม่สมควรจะดำรงตำแหน่งนี้อีก!!!”
แม็กนัสรู้สึกเลือดขึ้นหน้ากับคำพูดของอีกฝ่าย แต่ทุกตะลึงกับคำพูดอีกฝ่ายที่กล่าวออกมาว่าช่างใจกล้าต่อกรกับอีกฝ่ายสุด ๆ นักเรียนบางกลุ่มซุบซิบถึงคำพูดของอบิเกลว่าจริงที่สุด เพราะตลอดสี่ปีมานี้แม็กนัสไม่เคยทำให้บ้านชนะสักครั้งก็เป็นเหตุผลที่พวกรุ่นพี่ชาร์ลีหาคนมาแทนที อบิเกลได้ยินเสียงซุบซิบก็เข้าใจล่ะว่าทำไมพวกพี่ ๆ หาคนมาแทนแม็กนัส เธอหันไปหาพวกรุ่นพี่ที่คุยกับเธอตอนแรก
“ขอบคุณสำหรับคำชวนนะคะ รุ่นพี่ชาร์ลี แต่...หนูไม่อยากแย่งตำแหน่งจากคนบ้าเท่าไหร่”
“แกเรียกใครว่าคนบ้า!”
“คนบ้าที่กำลังตะโกนเป็นหมาหวงของอยู่นี่ไง!!”
นักเรียนบางคนกับหัวเราะกับคำพูดของอบิเกลที่ปากกล้าว่าแม็กนัสได้ นั้นทำให้เจ้าตัวรู้สึกอับอายยิ่งนักโดนทั้งคนหัวเราะทั้งโดนเจ้าเด็กตรงหน้าหยามศักดิ์ศรีของเขาตอนนี้ นั้นทำให้เขายกมือขึ้นมาเตรียมจะง้างมัดใส่อบิเกลที่อยู่ตรงหน้าทันที
“ไอ้เด็กเปรตนี้!!!”
“อบิเกล ระวัง!!” สกอร์เปียสกำลังจะวิ่งตรงเข้าไปช่วยอีกฝ่าย
อบิเกลจ้องมองภาพตรงหน้าที่กำลังพุ่งตรงเข้ามา เธอหลบไปด้านข้างอย่างรวดเร็วเหมือนภาพตรงหน้าของเธอมันช้า ๆ ก่อนที่เธอจะหมุนตัวสองสามรอบพร้อมกับจับแขนอีกฝ่ายแล้วใช้หลังของเธอดันตัวอีกฝ่ายขึ้นเล็กน้อย ใช้น้ำหนักของอีกฝ่ายให้เป็นประโยชน์พร้อมกับดึงตัวอีกฝ่ายทุ่มไปข้างหน้าทันที
“ย้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก!!”
“อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกก!!!”
ตึง!!!
เสียงตึงดังก้องไปทั้งห้องนั่งเล็กใหญ่ ทุกคนที่เห็นเหตุการณ์นี้ต่างตกตะลึงกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ร่างของแม็กนัสข้ามขั้นบันไดตกไปอยู่ที่พื้นชั้นล่างที่ทุกคนอยู่ พวกเพื่อนของแม็กนัสรีบพุ่งตรงเข้ามาหาแล้วเรียกอีกฝ่ายแต่สงบไปแล้วก่อนที่หนึ่งในนั้นที่เป็นหญิงสาวจะจ้องมองเธออย่างอาฆาตก่อนจะช่วยกันพยุงแม็กนัสออกจากตรงนั้น ทุกคนต่างมองกันก่อนที่ทุกสายตาจะมองมาที่อบิเกล เธอกำลังปัดฝุ่นความสกปรกของอีกฝ่ายออก แล้วเสกผมที่ตกขึ้นนั้นทำให้บางคนเห็นแล้วรู้สึกว่าเด็กตัวเล็กตรงหน้าโคตรหล่อ อบิเกลหันกลับไปหารุ่นพี่ก่อนจะย่อตัวให้
“ขอบคุณที่ให้คำตอบนะคะ งั้นหนูขอตัวกลับห้องนะคะ”
อบิเกลกล่าวจบก็เดินลงบันไดไปหาเพื่อน ๆ พวกเขาต่างแยกย้ายกันไปฝั่งชายหญิง สกอร์เปียสจ้องมองเพื่อนสาวของเขากำลังเดินไปยังหอพัก ทั้งหกคนพากันเดินจนถึงทางเดินยาว พวกสาว ๆ ต่างพากันมาดักข้างหน้าอบิเกลทันที
“อบิเกลเมื่อกี้อะไรกัน!?”
“ทุบตัวผู้ชายตัวใหญ่แบบนั้นได้ไง?”
“ใช่ ๆ พ่อฉันตัวเล็กเท่าหมอนั้นฉันยังขยับตัวเขาไม่ได้เลยนะ” เอวากล่าว
อบิเกลตกใจกับสาว ๆ ที่ตะลึงถึงสิ่งที่เกิดขึ้น ก่อนที่เธอจะตอบพวกเธอทั้งหมด“ก็...อาสก็อตสอนนะ เขาอยากให้ฉันป้องกันตัวในแบบที่มักเกิ้ลใช้กันนะ”
“การป้องกันตัวเหรอ?”
“ฉันเคยเห็นนะ ตอนไปเที่ยวชอบมีพวกที่เข้ามาทำร้ายคนตามถนน แต่บางคนก็จัดการเองได้ด้วยท่าแปลก ๆ ที่เรียกว่าท่าป้องกันตัว”
“ตอนแรกฉันก็คิดนะว่าเราเป็นพ่อมดแม่มดคงไม่ต้องใช้หรอก เพราะมีไม้กายสิทธิ์ แต่ว่าเมื่อกี้...” เอวานึกถึงภาพที่แม็กนัสจะทำร้ายอบิเกล
“ใช่ไหมล่ะ? ถึงเราจะมีไม้กายสิทธิ์ก็จะมีคนทำแบบเดียวกับมักเกิ้ลใส่เรา ถ้าเราไม่เรียนรู้สิ่งแปลก ๆ ไว้ก็ไม่ได้เสียหายนี้เนอะ~”
“จริงของอบิเกล แบบนี้ฉันต้องเปิดโลกกว้างของตัวเองมากขึ้นแล้วล่ะ”
“ใช่ ๆ”
“แต่ว่า...” เจนน่าเอ่ยพูดขึ้นจนทุกคนหันไปมอง
“มีอะไรเหรอ?”
"อบิเกลไม่กลัวหมอนั้นกลับมาเล่นงานเหรอ?" เจนน่าเอ่ยถามเพราะว่าอีกฝ่ายคงไม่รามือแน่ ๆ
“ฉันไม่สนใจหรอก” อบิเกลกล่าวขึ้นมาด้วยสีหน้านิ่ง ๆ “พวกนั้นอยากมาหาเรื่องเอง เมื่อกี้ฉันก็ไม่ได้ทำอะไร”
“นอกจากทุ่มตัวอีกฝ่ายเนี่ยนะ”
“ก็นะ...”
“แต่ว่าหมอนั้นเป็นอะไรก็ไม่รู้จู่ ๆ ก็เข้ามาหาเรื่องอบิเกลที่ได้รับข้อเสนอ วันนี้มีแต่ปัญหาจริง ๆ เมื่อก่อนหน้าก็เจ้าบ้าฮิวโก้ เมื่อเช้าก็อาจารย์บริตนีย์ แล้วตอนนี้ล่ะ แม็กนัส มีแต่คู่กรณีเดิม ๆ ของอบิเกลทั้งนั้น”
“ช่างเถอะ คิดเยอะปวดหัวกันเปล่า ๆ” อบิเกลยักไหล่ก่อนจะนึกบางอย่างได้ “อ๊ะ...ลืมขอบคุณสกอร์เปียสเลย...”
“ขอบคุณหมอนั้นทำไมนะ?”
“จริงสิ อบิเกลทำไมไปสนิทกับคนบ้านมัลฟอยกัน เธอไม่รู้เหรอว่าหมอนั้นเป็นไง?”
“ฉันรู้ แต่ว่า...นั้นอดีตของพ่อเขาไม่ใช่ตัวเขา เราจะอดีตพ่อแม่มาทำร้ายชีวิตคนคนหนึ่งเหรอ?”
“อ๊ะ...ขอโทษนะ...”
“ไม่เป็นไร...”
“ไว้พรุ่งนี้ค่อยไปขอบคุณเขาก็ได้นะ อบิเกล เรายังอยู่ด้วยกันอีกนานจริงสิ พรุ่งนี้เช้ามีเรียนที่ลูน่าชอบไม่ใช่เหรอ?”
“วิชาที่ฉันชอบ?” ลูน่าชี้นิ้วมาที่ตัวเอง
“วิชาสมุนไพรศาสตร์ไงล่ะ~” ทั้งห้าคนกล่าวพร้อมกัน
“จริงด้วย ฉันจะได้เจอพ่อแล้ว~” ลูน่ายิ้มอย่างดีใจหลังจากวันแย่ ๆ มาวันนี้เธอจะได้เจอหน้าพ่อสักที
“ดูทำท่าทางนั้นสิ ลูน่านี่น่ารักจริง ๆ”
ทุกคนต่างหัวเราะชอบใจกับท่าทางอีกฝ่าย ก่อนที่พวกเธอจะเปิดประตูเข้าไปในห้องพัก อบิเกลที่กำลังจะเดินเข้าไปคนสุดท้าย เธอภาวนาขอให้พรุ่งนี้ไม่มีปัญหาอะไรเกิดขึ้นเหมือนวันนี้ละกัน เธอปิดบานประตูห้องพวกเธอด้วยความเงียบสงัด
กลิ่นอายของธรรมชาติยามเช้ากำลังเข้าสู่ปอดเล็ก ๆ ของเด็กน้อยทั้งหลายก่อนจะมีคนหนึ่งจามออกมา นั้นทำให้เด็กหญิงทั้งหกมองเจ้าของเสียงที่จาม สกอร์เปียสกำลังหยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาปิดจมูกของเขาที่ไม่ค่อยถูกกับความอับชื้นภายในโรงเพาะชำของโรงเรียนเท่าไหร่ ปกติที่เขาจะไปอยู่ก็มีเพียงห้องนอนหรือไม่ก็ห้องสมุดที่เขาชอบเท่านั้น สกอร์เปียสเอาหน้าผิดจมูกเพื่อป้องกัน อบิเกลก็เดินเข้ามาดูระหว่างที่กำลังเดินมาที่ยืนประจำ
“นายไหวนะ? นายไม่ถูกกับความชื้นที่นี่ไม่ใช่หรือไง?”
“ไม่เป็นไร...ฉันแค่แพ้อากาศเท่านั้น พอจากข้างนอกร้อนอยู่แล้วมาเจอความชื้นที่นี่อีก...”
“ไม่ไหวบอกนะ เดียวฉันจะปรุงยารักษาการแพ้อากาศให้”
“ไม่ต้องห่วงฉันมียาอยู่นะ ขอบคุณที่ห่วงฉันนะ”
“แน่ล่ะ นายเป็นเพื่อนฉันนี่น่า~” อบิเกลยิ้มให้อีกฝ่ายอย่างชอบใจ
“อยากเล่นมุกบางอย่างเลย...แต่อบิเกลนั้นตัดหน้าว่าเป็นเพื่อนกันซะงั้น...” เอวาเอ่ยพูดขึ้น ทำเอาทุกคนหันไปมอง
“ห้ามเล่นมุกนั้นเด็ดขาดนะ” ลูน่าหันไปหาเพื่อนสาวที่จะเล่นมุกแป้กอีกแน่ ๆ
“หึ ๆ รอก่อนฉันจะเล่นมุกนั้นในสักวัน”
ทุกคนต่างมองเอวาด้วยสายตาอันน่าสงสัยว่าจะเล่นมุกอะไร มีเพียงลูน่าที่รู้ว่าเพื่อนสาวของเธอจะเล่นมุกอะไร อบิเกลได้แต่ส่ายหัวเบา ๆ ก่อนจะมองสกอร์เปียส
“ขอบคุณนะ”
สกอร์เปียสหันมามองอีกฝ่ายอย่างสงสัยว่าขอบคุณเขาทำไม “ขอบคุณฉันทำไม?”
“ที่เตือนฉันเรื่องเจ้ารุ่นพี่นั้นจะชกฉันนะ” อบิเกลกล่าวพร้อมกับรอยยิ้มอันสดใส
“อ๊ะ...”
สกอร์เปียสมองอีกฝ่ายเขาหันหน้าหลบไปอีกทาง เขาไม่รู้ทำไมพอมองอีกฝ่ายแล้วเขารู้สึกใบหน้าร้อนไปหมด พวกสาว ๆ เห็นท่าทางของทั้งสองทำให้พวกเขานั้นแอบยิ้มกรุบกริบหน่อย ๆ ระหว่างนั้นก็มีชายร่างสูงกำลังเดินเข้ามาภายในโรงเพาะชำพร้อมกับชุดคล้ายคนสวยที่ดูไม่เหมาะกับเขาเลยแม้แต่น้อย เขาเหมาะกับชุดสูทมากกว่า ลูน่าหันไปมองก็ยิ้มอย่างดีใจที่เห็นชายตรงหน้า ก่อนที่ชายคนนั้นจะเข้ามาพร้อมกับกระถางใหม่หนึ่ง เขายกยิ้มให้เด็ก ๆ ที่ยิ้มให้เขาก่อนที่เขาจะกล่าวออกมา
“สวัสดียามเช้าเด็ก ๆ”
“สวัสดีค่ะ/ครับ อาจารย์ลองบัตท่อม”
“เอาล่ะวันนี้เป็นอีกวันที่พวกเธอมาเรียนวิชาสมุนไพรศาสตร์ แต่วันนี้ฉัน...มีปริศนามาให้เล่นกัน!!”
จบตอนที่ 20 โปรดติดตามตอนที่ 21 ต่อไป