อบิเกล เด็กที่มีชีวิตที่ไม่เหมือนใคร เธอต้องตะลุยไปตามสถานที่ต่างๆ กับอาของเธอจนกระทั่งวันหนึ่งที่กับมาบ้านแล้วเธอก็ได้พบกับจดหมายที่เธอไม่คาดคิด จดหมายนี่จะเปลี่ยนชีวิตของเธอที่เธอไม่รู้จักอีกมากมาย
แฟนตาซี,ชาย-หญิง,รั้วโรงเรียน,ตะวันตก,อื่นๆ,แฟนฟิค,แฟนฟิคแฮร์รี่พอตเตอร์,เวทมนตร์,ฮอกวอตส์,รุ่นลูก,คาถา,แฮร์รี่พอตเตอร์,เด็กหญิงผู้รอดชีวิต,YukiCoCo,แฟนตาซีน,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
[Fanfiction Harry Potter รุ่นลูก] เด็กหญิงผู้รอดชีวิตอบิเกล เด็กที่มีชีวิตที่ไม่เหมือนใคร เธอต้องตะลุยไปตามสถานที่ต่างๆ กับอาของเธอจนกระทั่งวันหนึ่งที่กับมาบ้านแล้วเธอก็ได้พบกับจดหมายที่เธอไม่คาดคิด จดหมายนี่จะเปลี่ยนชีวิตของเธอที่เธอไม่รู้จักอีกมากมาย
++คำอธิบายจากนักเขียน++
สวัสดีทุกคนนะคะ ขอต้อนรับสู่อีกเรื่องที่เป็นแนวนิยายฟิครุ่นลูกอีกเรื่อง
เรื่องนี้ทุกคนก็น่าจะรู้จักก็คือเรื่อง แฮร์รี่ พอตเตอร์ ผู้เขียน เจ.เค.โรว์ลิง
เนื้อเรื่องนิยายครั้งนี้ก็เหมือนเคยไรท์อยากสนองฮีทของตัวเองเลย
สร้างเรื่องนี้ขึ้นแต่งรุ่นลูกของแฮร์รี่ขึ้น อันนี้จะแตกแขนงจากละครเวทีอย่างเรื่องเด็กต้องสาป
มาอีกทีเหมือนโลกคู่ขนามอีกโลกหนึ่ง เนื้อเรื่องอาจจะมีปวดตับมั้งหรือเปล่านะ
แต่ถ้าใครไม่ชอบก็ขอประทานอภัยกับเนื้อเรื่องที่ทางไรท์ต้องการนะคะ
บทนำของเรื่อง
อบิเกล เด็กสาวที่มีชีวิตที่ไม่เหมือนใคร เธอนั้นได้เดินทางไปกับอาของเธอโดยไม่รู้ว่าต้องออกเดินทางเพราะไร จนพวกเขาตั้งหลักได้แล้วก็กลับมายังลอนดอนอีกครั้งและใช้ชีวติจนเวลาผ่านไปนานจนอบิเกลได้อายุ 11 ปี พวกเขากลับมาจากทำงานแล้วกลับมาบ้าน แต่แล้วอบิเกลต้องดีใจที่เธได้ จดหมายจากโรงเรียนเวทมนตร์ ฮอกวอตส์ แต่เธอไม่รู้ว่าชีวิตของเธอกำลังจะเปลี่ยนไป เมื่อเข้าสู้โรงเรียนแห่งนั้น
เรื่องนี้เชื่อมโยงกับโลกเทพปกรณัมกรีกในนิยายแฟนฟิคของเรา
อย่างเรื่อง สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ นะคะ
ไปติดตามกันได้นะ
ปล. เรื่องนี้เป็นนิยายฟรี ไม่อาจะคาดเดาในวันที่จะลงได้
ตอนที่ 16 ฝึกการบิน
ดวงตาสีเขียวกำลังจับจ้องสถานการณ์ตรงหน้าเมื่อรุ่นพี่บ้านเรเวนคลอกำลังไล่ล่าบ้านสลิธีรินอย่างโกลาหล เหล่าคณาจารย์กับเหล่านักเรียนปีหนึ่งกำลังจ้องมองด้วยสีหน้างุนงงว่าการกระทำอันไร้สาระนี้ ทั้งสองบ้านพอเข้าประชิดตัวนั้นก็เริ่มการปะทะทางร่างกายกันตั้งแต่เตะ ต่อย กัด ข่วน ดึงผม จนไม่เหลือสภาพความเป็นผู้ดีกันเลย ศาสตราจารย์ใหญ่จ้องมองอยู่ไม่นาน เธอก็ยกไม้กายสิทธิ์ขึ้นพวกรุ่นพี่อีกสองบ้านที่ไม่เกี่ยวข้องเห็นศาสตราจารย์ยกไม้กายสิทธิ์ก็ทำการหลบกันทันทีจนปีหนึ่งแต่ละคนมองว่าอะไร ก่อนที่ศาสตราจารย์ใหญ่จะสะบัดไม้กายสิทธิ์เสกคาถาบางอย่างออกมาทำให้บริเวณที่พวกปีห้าที่กำลังต่อสู้กันนั้นหยุดนิ่งไปอย่างรวดเร็ว เหล่าปีห้าทั้งหลายต่างขยับดวงตามองไปอย่างงุนงง เพราะร่างกายพวกเขาขยับไม่ได้เลย
“หยุดกันแล้วสินะ…”
ศาสตราจารย์มักกอนนากัลกล่าวเหล่าปีห้าทั้งสองบ้านไม่มีคนตอบกลับ
“ฉันลืมไปว่าพวกเธอตอนนี้ไม่สามารถตอบได้”
เสียงฝีเท้ากำลังก้าวไปข้างหน้าตรงหน้าเด็ก ๆ ทั้งหลายทำเอาพวกเขามองกันอย่างสงสัยว่าอาจารย์จะทำอะไรกัน ศาสตราจารย์มักกอนนากัลจ้องมองเด็กทั้งสองกลุ่มก่อนจะเอ่ยพูดขึ้น
“พวกเธอน่าจะรู้นะว่าการกระทำครั้งนี้รุนแรงกว่าที่ฉันเห็น งั้นคงต้องเชิญพวกเธอไปห้องอาจารย์ใหญ่ทั้งหมดนี้!!”
“!!”
พวกปีห้าทั้งสองบ้านต่างตาลุกวาวอย่างตกใจว่าตนเองกำลังจะโดนพาไปยังห้องอาจารย์ใหญ่ ศาสตราจารย์มักกอนนากัลหันไปมองเหล่าคณาจารย์ที่ตามเธอมา
“อาจารย์ประจำบ้านทั้งสองบ้านก็ตามมาด้วย!!”
“ครับ...ศาสตราจารย์มักกอนนากัล”
รองศาสตราจารย์บลัดเวิร์ทตอบอย่างเข้าใจ เขาเป็นอาจารย์ประจำชั้นของบ้านเรเวนคลอคงต้องตามด้วย แต่อีกคนไม่ได้เข้าใจเมื่อได้ยินว่าตนเองต้องตามไปด้วย แล้วครั้งก่อนเธอพึ่งโดนไปแล้วครั้งนี้เธอกำลังจะโดนอีกรอบ
“อาจารย์ใหญ่ค่ะ แต่ว่า...เรื่องนี้มัน...!!”
“ไม่มีแต่อาจารย์มิลเกรด คุณก็เห็นและได้ยินคำพูดพวกนั้นว่าเด็กพวกนี้วางแผนกจะลงมือกับใครสักคน แต่ว่าบ้านเรเวนคลอกับโดนลูกหลง เด็กคุณสร้างปัญหาคุณที่เป็นอาจารย์ต้องรับผิดชอบเช่นกัน!! ตามฉันมา!!”
ศาสตราจารย์มักกอนนากัลกล่าวจบก็โบกไม้กายสิทธิ์อีกครั้งทำให้พวกรุ่นพี่ที่ขยับร่างกายไม่ได้นั้นเริ่มขยับร่างกายแล้วเดินตามอีกฝ่ายที่เดินนำ พวกแม็กนัสต่างโวยวายอย่างไม่พอใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น อาจารย์มิดเกรดได้ยินแบบนั้นสายตาของเธอก็หันไปมองบุคคลที่เป็นต้นเหตุที่เด็กของเธอต้องโดนเข้าห้องอาจารย์ใหญ่รอบสอง อบิเกลจ้องมองสายตาของอาจารย์ที่จ้องมองเธอ นั้นทำให้เธอยกยิ้มให้ด้วยสีหน้าใสซื่อก่อนที่อาจารย์จะอารมณ์ฉุนเฉียวออกไป
อบิเกลไม่สนใจอยู่แล้วว่าอีกฝ่ายจะมีความขัดแย้งอะไรกับเธอ แต่เธอก็ไม่ชอบอีกฝ่ายแบบสุด ๆ ทำให้เธอนึกถึงกลุ่มคนที่ไล่ล่าเธอสมัยเด็ก ๆ ถ้าอีกฝ่ายเป็นพวกเดียวกับกลุ่มนั้นเธอจะส่งอีกฝ่ายเข้าคุกอัซคาบันไปเลย ตอนนี้เหลือเพียงน้องปีหนึ่งกับอาจารย์ประจำวิชาปรุงยา เวลาก็เลยไปเกือบครึ่งชั่วโมงแล้วสิ่งที่อาจารย์ซลักฮอร์นอยากให้เด็ก ๆ ทำก็ต้องใช้เวลาเยอะเสียด้วย เขาเลยหันไปหาเด็ก ๆ แล้วตบมือสองสามครั้งจนเด็ก ๆ หันมามอง
“เด็ก ๆ วันนี้ยกเลิกคลาสของฉันไปก่อนนะ!!”
“ห๊า!!!!”
“ไม่มีห๊า แต่มีการบ้านกลับไปอ่านหนังสือหน้าที่ 1 ใหม่อีกครั้งทบทวนเรื่องวัตถุดิบ คลาสหน้าฉันจะให้พวกเธอปรุงยาสูตรหนึ่งดู เอาล่ะเตรียมไปเรียนวิชาต่อไปได้”
“โธ่~”
พวกปีหนึ่งต่างร้องโหด้วยความผิดหวังและเซ็งที่มีการบ้านที่ต้องกลับไปทบทวน พวกเขาเตรียมตัวไปเรียนอีกวิชาสุดท้ายของวันนั้นก็คือวิชาการบิน ภายในห้องไม่เหลือใครแล้วนั้นอบิเกลหยิบไม้กายสิทธิ์ขึ้นมาโบกไปมาคราบเลือดและสิ่งของที่กระจายกำลังก่อตัวกันออกจากพื้นและสิ่งรอบข้างลงไปยังถังหนึ่ง อาจารย์ซลักฮอร์นเห็นเด็กน้อยกำลังเก็บกวาดของให้เขานั้น
“เธอไม่ต้องเสียเวลาก็ได้ คุณเมอร์รัล ฉันทำเองได้”
อบิเกลได้ยินแบบนั้นก็เงยหน้าขึ้นมาดูอาจารย์ที่กำลังเดินตรงมาหาเธอ “ไม่เป็นไรค่ะ อาจารย์ เรื่องแค่นี้เอง อีกอย่าง...มันก็เหมือนความผิดหนู...เพราะหนูเคยมีปัญหากับพวกเขา นั้นทำให้พวกเขาวางแผนเล่นงานหนู แต่บ้านเรเวนคลอก็ต้องมาโดนลูกหลง”
“ทำไมเธอคิดแบบนั้นว่าพวกนั้นจะรังแกเธอ?”
“อาจารย์ไม่ได้ยินคำพูดพวกนั้นเหรอคะ? พวกนั้นต้องการแกล้งหนู...เพราะหนูทำให้พวกนั้นโดนอาจารย์ใหญ่เรียกเข้าห้อง แล้วครั้งนี้ก็อีก...เชื่อได้ค่ะ พวกนั้นไม่เลิกราง่าย ๆ”
อาจารย์ซลักฮอร์นมองเด็กน้อยช่างไม่สมกับเป็นเด็กบ้านสลิธีรินสุด ๆ “เธอเหมือนอยู่ผิดบ้านเลยนะ”
“ว่างั้นเหรอคะ? บางทีหนูอาจจะเหมาะกับบ้านนี้ก็ได้ค่ะ เพราะว่าพวกนั้นถึงจะถึงจะเล่นงานหนูยังไง หนูก็จะโต้ตอบทุกครั้งค่ะ!!”
“อย่างที่เธอส่งเจ้าตัวปากเป็ดเข้าไปแอบฟังพวกนั้นคุยน่านะ?”
“ค่ะ~”
“ฉลาดแกมโกง...ดักหน้าพวกนั้นก่อน...เธอช่างเป็นเด็กต่างจากที่ฉันคิดจริง ๆ”
“ตามนั้นค่ะ...” อบิเกลรู้สึกสะใจที่โต้ตอบพวกที่ไม่หวังดีกับเธอได้ ก่อนที่สกอร์เปียสจะโผล่หน้ารออยู่ที่ประตูทางเข้าห้อง เธอเห็นแบบนั้นก็โค้งให้อาจารย์ทันที "หนูขอตัวไปเรียนต่อนะคะ อาจารย์ซลักฮอร์น"
“อ๊ะ! ไปเลย ๆ โชคดีเด็กน้อย!!”
อาจารย์ซลักฮอร์นจ้องมองเด็กน้อยออกจากห้องเหลือเพียงแค่เขากับห้องว่างเปล่าที่ได้รับการเก็บกวาดเหมือนไม่มีเรื่องเมื่อกี้เกิดขึ้น แต่หลังจากนี้เขาคงได้เห็นเรื่องต่าง ๆ ที่มีเด็กหญิงเป็นหนึ่งในหัวข้อหลักเป็นแน่ อบิเกลเดินไปตามทางโดยมีสกอร์เปียสเดินตามอยู่ข้าง ๆ ทั้งสองคนเดินกันโดยมีเพียงเสียงรอบข้างและเสียงฝีเท้าของทั้งสองคน วันนี้มีแต่เรื่องเข้าหาอบิเกลตั้งแต่ก่อนหน้าที่ฮิวโก้มาแซะและครั้งนี้พวกแม็กนัสวางแผนจะให้เธอบาดเจ็บ แต่คนอื่นโดนลูกหลงแทนนั้นทำให้อบิเกลดูไม่พอใจมาก ๆ จนสกอร์เปียสต้องเอ่ยพูดขึ้น
“เอ่อ...เมื่อกี้เป็นเหตุการณ์ที่แย่มากเลยนะ ทำเอาคนบาดเจ็บสาหัสแบบนั้นนะ”
อบิเกลได้ยินอีกฝ่ายกล่าวอารมณ์มันก็พุ่งขึ้นมา “ใช่!! พวกนั้นเล่นแรงเกินไป!! คิดว่าการกระทำที่ตัวเองทำกันนั้นมันเล็กน้อยเหรอ? ทำอย่างกับคนไม่สามารถตรวจสอบได้ว่าใครทำ?”
“จริงของเธอ...”
“รู้ทั้งรู้นะว่าโลกนี้คือโลกเวทมนตร์ไม่ใช่โลกกว้างที่มีแต่มักเกิ้ล!!”
“ใช่ มักเกิ้ลเป็นแค่มนุษย์ที่ไร้เวทมนตร์ต่างจากเรา”
“มันก็จริง แต่ถ้าเราไร้ไม้กายสิทธิ์ก็ไม่ต่างจากมักเกิ้ล!!”
“อ๊ะ...มันก็...”
สกอร์เปียสมองอีกฝ่ายที่พูดอะไรที่ดูเป็นผู้ใหญ่มาก ๆ จนเขารู้สึกแปลกใจว่าอีกฝ่ายนั้นเป็นเด็กอายุสิบเอ็ดแน่ ๆ เหรอ ทั้งสองคนมองหน้ากันก่อนจะเดินต่อไปตามทางจนมาถึงสนามหญ้าลานกว้างใหญ่ที่มีเหล่านักเรียนและอุปกรณ์สำหรับการฝึกขี่ไม้กวาดเต็มไปหมด เด็กบางกลุ่มกำลังไปหยิบอุปกรณ์ป้องกันระหว่างขี่ไม้กวาด บางคนกำลังเตรียมตัวไปหยิบไม้กวาด แต่หางตาของอบิเกลก็เห็นเหตุไม่คาดคิดอีกแล้ว พวกลูน่ากำลังจะไปหยิบไม้กวาดที่เรียงกันอยู่ที่แท่นวาง เด็กหญิงที่เนกไทสีแดงที่บ่งบอกถึงสีของบ้านว่าเป็นเด็กบ้านกริฟฟินดอร์สองสามคนกำลังเดินตรงไปที่แท่นวางไม้กวาดก็เดินตรงกันเข้าไปจะหยิบไม้กวาดที่ลูน่ากำลังจะหยิบก็ชนลูน่าจนล้มทันที
“โอ๊ย!!!”
“ลูน่า!!” แพนซี่กับฟาร่ารับเข้าไปดูอีกฝ่ายทันที
“ไม่เป็นไรนะ?”
“อืม...” ลูน่าพยักหน้าแต่ก็แสบตรงที่กระแทกมากกว่า
อบิเกลเห็นก็ฉุนขาดทันทีว่าทำไมพวกกริฟฟินดอร์แต่ละคนถึงชอบมาหาเรื่องบ้านเธอ อบิเกลกำลังจะเดินไปก็โดนสกอร์เปียสจับแขนไว้
“สกอร์เปียส!!”
“รอดูสิ!!”
สกอร์เปียสกล่าวแบบนั้นอบิเกลก็มองอย่างสงสัยก่อนจะกลับไปมองต้นทางก็เห็นเอวาเริ่มโวยวายขึ้นมา
“นี่!! ไม้กวาดมีเยอะแยะไม่เอาตรงหน้าตัวเอง ห๊ะ!! แล้วชนคนอื่นขอโทษกันมั้งไหม?” เอวาตะโกนใส่ผู้หญิงบ้านกริฟฟินดอร์ที่เดินกันเข้ามาผลักเพื่อนเธอจนล้ม
“อะไร?”หนึ่งในสามสาวจับไม้กวาดแล้วกอดอกมองอีกฝ่าย "ก็แค่หยิบไม้กวาดเอง แล้วอีกอย่างไม้กวาดอันนี้น่าใช้กว่า"
“ว่าไงนะ!?”
“ไม่ได้ยินหรือไง!? ว่าอันตรงหน้าของยัยนั้นมันดีกว่า เพื่อนฉันถึงจะเอา ทำไมมีปัญหาหรือไง!?”
“ยัยนี้!!!” เอวารู้สึกปรี๊ดขึ้นมาทันที เธออยากจะสร้างระเบิดปาใส่หัวพวกนี้สุด ๆ เอวาถกแขนเสื้อทันที “โคตรมีเลยล่ะ!!!”
“จะเอาหรือไง!?”
“ก็มาสิ!!”
“เอวา!!” พวกเพื่อน ๆ ต่างมองอีกฝ่ายที่กำลังจะต่อสู้กับบ้านกริฟฟินดอร์
เจนน่ารีบวิ่งเข้าไปกอดแขนอีกฝ่ายทันที “หยุดนะ เอวา เดียวบ้านเราจะโดนหักคะแนนนะ!!”
“ฉันไม่สนใจ!! ยัยนั้นทำลูน่าล้มก็ต้องขอโทษสิเว้ย!!”
“พวกบ้านสลิธีรินเป็นพวกห่วงเพื่อนกันด้วยเหรอ? พวกที่จะโตมาเป็นพวกคนต่ำ ๆ ในโลกมืดนี้ น่าสมเพชนะ!!”
เจนน่าได้ยินแบบนั้นอยากปล่อยเอวาออกไปจริง ๆ อบิเกลที่อยู่ห่างออกไปไม่กี่ก้าวนั้นได้ยินก็อยากกระโจนเข้าไป แต่แล้วก็มีหญิงสาวผมสีเงินกำลังเดินผ่านเธอไป อบิเกลเห็นก็จำได้เลยว่าอีกฝ่ายคืออาจารย์สอนวิชาการบิน แอนเดรีย ฮูช พวกสาว ๆ บ้านกริฟฟินดอร์เห็นอาจารย์กำลังเดินมา พวกเธอจะทำตัวอ่อนแอว่าอีกบ้านทำร้ายพวกเธอก่อน แต่ว่าอาจารย์ก็พูดบางอย่างออกมา
“ไม่มีคนสอนหรือไง?”
“เอ๊ะ!?” เด็ก ๆ ทั้งแปดคนตรงนั้นต่างมองอีกฝ่ายที่พูดบางอย่างออกมา
“อาจารย์ค่ะ...พวกบ้านสลิธีริน…”
“ฉันถามพวกเธออยู่นะ เด็กบ้านกริฟฟินดอร์!!”
“เอ๊ะ!?”
”ไม่มีคนสอนหรือไง? แย่งของจากตรงหน้าคนอื่นแถมยังทำคนอื่นบาดเจ็บอีก!!”
“หนู...”
อาจารย์แอนเดรียเดินมาหาลูน่าที่กำลังพยายามลุกขึ้น “ไม่เป็นไรนะ คุณลองบัตท่อม”
“อ๊ะ...ค่ะ อาจารย์ หนูไม่เป็นอะไรค่ะ...”
“หึ ตอนเข้ามาก็บาดเจ็บ ตอนนี้ก็บาดเจ็บอีก เธอนี่เกิดเรื่องทุกครั้งเหมือนพ่อเธอเลยนะ”
“อ๊ะ...พ่อเหรอคะ...แฮะ...ไม่หรอกค่ะ...” ลูน่าทำสีหน้าเกร็ง ๆ เธอคิดว่าตัวเองนั้นไม่ได้เหมือนพ่อขนาดนั้น
อาจารย์แอนเดรียมองอีกฝ่ายก่อนจะลูบหัวเบา ๆ ก่อนจะหันไปมองพวกเด็กบ้านกริฟฟินดอร์ “ว่าไง? คุณอีฟ”
“หนู...หนูไม่ผิดสักหน่อย!!”
แอนเดรียได้ยินแบบนั้นก็ได้แต่ถอนหายใจ “ยังจะปฏิเสธอีกงั้นเหรอ? หักคะแนนบ้านกริฟฟินดอร์ 5 แต้ม!!”
“ห๊า!?”
“อาจารย์!!”
“เงียบ!! เลิกก่อความวุ่นวายได้แล้ว! ถ้าบ้านกริฟฟินดอร์อยากวางอำนาจกัน เอาไปใช้ในวิชาป้องกันตัวละกัน!!” อาจารย์แอนเดรียกล่าวก่อนจะหันไปหาเด็ก ๆ ทุกคน “ทุกคนรวมตัว!! วันนี้มีฝึกให้พวกเธอบินกันนะ!!”
“ครับ/ค่ะ!!”
นักเรียนทุกคนต่างพากันเดินตรงไปรวมตัวตามอาจารย์ที่เดินนำไป สกอร์เปียสหันไปมองอบิเกลเหมือนบอกว่าเป็นไงที่เขาบอกว่าให้รอดู อบิเกลจ้องมองอีกฝ่ายก็ยักไหล่เล็กน้อย การที่เธอเข้าไปหยุดมากอาจจะเพิ่มฉนวนก็ได้ เธอเดินตรงไปหาพวกเพื่อน ๆ ทั้งห้าคน พวกนั้นเธอเห็นอบิเกลกับสกอร์เปียสก็พากันยิ้มและพูดเรื่องอื่นแทนเรื่องที่เกิดขึ้นจนพวกเธอมารวมตัวกับคนอื่น ๆ อาจารย์
“วันนี้เป็นอีกวันที่พวกคุณได้ฝึกการควบคุมไม้กวาดของตนเองแล้ว ตอนนี้ถึงเวลาที่พวกเธอนั้นจะต้องควบคุมการบินของตนเอง” อาจารย์แอนเดรียกล่าวจนเด็ก ๆ ต่างตื่นเต้นกัน ก่อนที่เธอจะยกมือขึ้นทำให้ทุกคนหยุดเงียบ “อย่ามัวแต่ส่งเสียงมาเริ่มกันเลย!!”
“ครับ/ค่ะ!”
ทุกคนขานตอบก่อนจะจับไม้กวาดตัวเองแล้วเตรียมทะยานสู้ท้องฟ้า อบิเกลมองทุกคนที่กำลังลอยตัวอยู่บนอากาศ มันเป็นอะไรที่รู้สึกอิสระมาก ๆ เมื่อขึ้นไปสู่ท้องฟ้ากว้างใหญ่ เธอก็เคยครั้งแรกที่ตัวเองได้บินจนหยุดไม่ได้ ทำให้อยากให้ตัวเองมีปีกมาก ๆ จะได้โลดแล่นอยู่บนอากาศ จนกระทั่งสกอร์เปียสบินมาอยู่ตรงหน้าของเธอ
“รออะไรอยู่!? อบิเกล” สกอร์เปียสถามเธอ “ขี่ตามมาเร็ว!!”
อบิเกลหัวเราะเบา ๆ “รอหน่อยสิ...ฉันกำลังมองสถานการณ์อยู่...”
อบิเกลกล่าวแบบนั้นก็มองดูว่าตอนนี้จะมีอะไรจนเธอเห็นว่าสามสาวที่มีปัญหากับพวกลูน่ากำลังซุบซิบบางอย่างแถมยังมีอีกคนที่กำลังเคืองคำพูดเธอไม่กี่ชั่วโมงที่แล้วอยู่อีกคน นั้นทำให้เธอต้องรวบรวมสมาธิเตรียมตัวให้พร้อม เธอจับไปที่ไม้กวาดแล้วก้าวขาข้ามมันแล้วนั่งบนด้ามไม้กวาดเตรียมตัวลอยขึ้น ไม้กวาดกำลังพาเธอลอยขึ้นสู่พื้น สกอร์เปียสเห็นแบบนั้นก็ยิ้มอย่างชอบใจที่อีกฝ่ายบินมาหาเขาแล้วเตรียมตัวกันไปจุดที่อาจารย์ขีดเส้นบนพื้นให้ ทุกคนต่างพากันรอยไปอยู่หลังเส้นกันแต่ก็เบียดกันจนบางคนก็มาอยู่ด้านหลัง อาจารย์ไม่ได้มองอะไรก่อนจะเริ่มกล่าวต่อ
“เมื่อพวกเธออยู่หลังเส้นแล้ว เราจะเริ่มการฝึกควบคุมการบิน พวกเธอจะต้องบินวนรอบสนามแห่งนี้ ห้ามสูงเกินทางเดินรอบข้างเด็ดขาด!! ไม่งั้นพวกเธอบาดเจ็บอาจจะต้องไปนอนกินยาที่ห้องพยาบาล พวกเธอคงไม่อยากกินยาขม ๆ หรอกนะ!!”
“ยี้!!!”
นักเรียนแต่ละคนได้ยินก็รู้สึกไม่อยากปวดขึ้นมาทันที อบิเกลได้ยินก็ไม่ชอบกินยาเหมือนกัน เธอกำลังประมวลผลคำพูดก่อนหน้าของอาจารย์ ก่อนจะลอยขึ้นอยู่เหนือทุกคนที่ลอยอยู่เหนือพื้นไม่กี่เซน ทุกคนต่างมองเธอที่ลอยตัวอยู่เหนือคนอื่น อบิเกลก้มมองทุกคนเล็กน้อยก่อนจะหันไปหาอาจารย์
“คนมันแออัดนี่น่า หนูเลยขึ้นมาอยู่ข้างบนดีกว่า ไม่ได้เหรอคะ?”
“ได้สิ อาจารย์ไม่ได้ขัดนะ”
“ขอบคุณค่ะ~”
อบิเกลยิ้มเยาะเล็กน้อยทำให้พวกที่อยู่ข้างหน้าไม่ชอบใจสักหน่อย แต่บางคนที่ไม่ชอบความแออัดจากข้างล่างก็ตรงดิ่งกันมาอยู่ข้างบนกับอบิเกล ทุกคนตั้งท่าเตรียมตัวที่จะพุ่งตรงออกนอกเส้นชัย อาจารย์แอนเดรียก็มายืนอยู่ข้างหน้ามองทุกคนว่าแต่ละคนพร้อมกันหรือยังก่อนที่จะเตรียมตัวยกมือขึ้นเหนือหัวของเธอ
“เตรียมพร้อมมมมม! ไปปปปปปปปปปป!!!”
สิ้นเสียงชั่ววินาทีทุกคนต่างพุ่งตรงไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วอย่างกับคนจะวิ่งไปถึงเส้นชัย อบิเกลยังไม่พุ่งออกไปข้างหน้าทำเอาสกอร์เปียสที่พุ่งตรงไปนั้นก็มองหาเธอก่อนจะเห็นว่าเธอยังลอยอยู่ที่เดิม อบิเกลเอียงคอมองก่อนจะหันไปหาอาจารย์ที่ยังมองว่าเธอยังไม่ไปเหรอ
“อาจารย์ยังไม่บอกทุกคนสินะคะว่าต้องบินกี่รอบนะ?”
“อ๊ะ!!!” อาจารย์แอนเดรียรีบจะจับนกหวีดจนล้นไปหมดก่อนจะยกขึ้นมาเบาให้เด็ก ๆ หยุดบิน
ปรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!!
ทุกคนที่ได้ยินต่างหยุดการบินของตนเองทันทีบางคนเบรกยังไม่เป็นก็บินไปข้างหน้าอย่างไม่คิดอะไรจนต้องมีเพื่อนตามไปหยุด ก่อนที่อาจารย์แอนเดรียจะตะโกนออกไป
“ทุกคนนนนน!! ขอโทษนะ อาจารย์ลืมบอกว่าต้องบินทั้งหมด 3 รอบ!! แล้วรอบสุดท้าย!! ต้องบินเข้าห่วงวงกลมตัวนี้!!”
ทุกคนที่อยู่ไกลไม่ได้ยินเสียงเธอเท่าไหร่จนอบิเกลมองออกไปไกล ๆ ก็รู้ว่าอาจารย์ไม่ใช่คาถากระจายเสียงคงไม่มีคนรับรู้แน่ ๆ ก่อนที่เธอจะหยิบไม้กายสิทธิ์ของตนเองออกมาแล้วจี้กับต้นคอของเธอ แล้วเริ่มพูดออกมา
“ทุกคนฟัง!!”
พวกปีหนึ่งต้องเอามือปิดหนูกับการเปล่งเสียงของอีกฝ่ายที่ดังจนมาถึงคนที่อยู่ไกล ๆ ทำให้บางคนที่อยู่ในห้องเรียนต่างสนใจขึ้นมา
“อาจารย์ฮูชบอกว่าต้องบินให้ครบ 3 รอบแล้วรอบสุดท้ายให้บินเข้าไปที่ห่วงวงกลมนั้นก็ถือว่าผ่านการฝึก!! เข้าใจกันไหม!?”
“โอ๊ส!!”
“เข้าใจแล้ว!!”
อาจารย์แอนเดรียมองไปที่อบิเกลที่ช่วยเธอกระจายเสียงให้ เพราะเธอนั้นไม่ค่อยถนัดคาถากระจายเสียงเท่าไหร่
“ขอบใจมาก คุณเมอร์รัล”
“ไม่มีปัญหาค่ะ”
“งั้นทุกคน!! บินต่อได้!!”
อาจารย์แอนเดรียตวัดมือลงอีกครั้งทุกคนเห็นแบบนั้นก็บินต่อทันที อบิเกลเห็นว่าทุกคนกำลังบินวนกลับมาหาเธอเป็นรอบแรก แต่ว่ามีหนึ่งในนั้นบินไปแล้วยังหันมามองเธอด้วยสีหน้าเยาะเย้ยใส่
“ไง เจ้าลูกฆาตกร!! บินไม่ขึ้นหรือไง!?”
“!!!”
อบิเกลได้ยินแบบนั้นก็ทำให้เธอโกรธจนเส้นเลือดสามารถผูกย่นเข้าหากันได้ทันที จนอาจารย์แอนเดรียได้ยินแบบนั้นก็ถอนหายใจ
“เป็นฉันจะพุ่งชนเด็กนั้นเลยล่ะนะ”
“หึ...ไม่ใช่อาจารย์คิดคนเดียวค่ะ...”
อบิเกลก้มโค้งจนร่างกายอยู่แนวเดียวกับไม้กวาด รอบตัวเธอเริ่มมีบรรยากาศที่ตึงเครียดเหมือนแรงดึงดูดรอบตัวเปลี่ยนไปจนอาจารย์แอนเดรียสำหรับได้ ก่อนที่อบิเกลจะพุ่งตรงไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว อาจารย์แอนเดรียไม่เคยเห็นใครบินออกจากเส้นชัยได้รวดเร็วแบบนั้น
“สุดยอด...เด็กคนนี้...ฉันต้องทำให้เด็กคนนี้เป็นเด็กปั้นของฉันให้ได้!!!”
จบตอนที่ 16 โปรดติดตามตอนที่ 17 ต่อไป