อบิเกล เด็กที่มีชีวิตที่ไม่เหมือนใคร เธอต้องตะลุยไปตามสถานที่ต่างๆ กับอาของเธอจนกระทั่งวันหนึ่งที่กับมาบ้านแล้วเธอก็ได้พบกับจดหมายที่เธอไม่คาดคิด จดหมายนี่จะเปลี่ยนชีวิตของเธอที่เธอไม่รู้จักอีกมากมาย

[Fanfiction Harry Potter รุ่นลูก] เด็กหญิงผู้รอดชีวิต - ตอนที่ 10 เกือบตกเสียแล้ว โดย YukiCoCo @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

แฟนตาซี,ชาย-หญิง,รั้วโรงเรียน,ตะวันตก,อื่นๆ,แฟนฟิค,แฟนฟิคแฮร์รี่พอตเตอร์,เวทมนตร์,ฮอกวอตส์,รุ่นลูก,คาถา,แฮร์รี่พอตเตอร์,เด็กหญิงผู้รอดชีวิต,YukiCoCo,แฟนตาซีน,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

[Fanfiction Harry Potter รุ่นลูก] เด็กหญิงผู้รอดชีวิต

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

แฟนตาซี,ชาย-หญิง,รั้วโรงเรียน,ตะวันตก,อื่นๆ

แท็คที่เกี่ยวข้อง

แฟนฟิค,แฟนฟิคแฮร์รี่พอตเตอร์,เวทมนตร์,ฮอกวอตส์,รุ่นลูก,คาถา,แฮร์รี่พอตเตอร์,เด็กหญิงผู้รอดชีวิต,YukiCoCo,แฟนตาซีน

รายละเอียด

[Fanfiction Harry Potter รุ่นลูก] เด็กหญิงผู้รอดชีวิต โดย YukiCoCo @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

อบิเกล เด็กที่มีชีวิตที่ไม่เหมือนใคร เธอต้องตะลุยไปตามสถานที่ต่างๆ กับอาของเธอจนกระทั่งวันหนึ่งที่กับมาบ้านแล้วเธอก็ได้พบกับจดหมายที่เธอไม่คาดคิด จดหมายนี่จะเปลี่ยนชีวิตของเธอที่เธอไม่รู้จักอีกมากมาย

ผู้แต่ง

YukiCoCo

เรื่องย่อ

++คำอธิบายจากนักเขียน++

สวัสดีทุกคนนะคะ ขอต้อนรับสู่อีกเรื่องที่เป็นแนวนิยายฟิครุ่นลูกอีกเรื่อง

เรื่องนี้ทุกคนก็น่าจะรู้จักก็คือเรื่อง แฮร์รี่ พอตเตอร์ ผู้เขียน เจ.เค.โรว์ลิง

เนื้อเรื่องนิยายครั้งนี้ก็เหมือนเคยไรท์อยากสนองฮีทของตัวเองเลย

สร้างเรื่องนี้ขึ้นแต่งรุ่นลูกของแฮร์รี่ขึ้น อันนี้จะแตกแขนงจากละครเวทีอย่างเรื่องเด็กต้องสาป

มาอีกทีเหมือนโลกคู่ขนามอีกโลกหนึ่ง เนื้อเรื่องอาจจะมีปวดตับมั้งหรือเปล่านะ

แต่ถ้าใครไม่ชอบก็ขอประทานอภัยกับเนื้อเรื่องที่ทางไรท์ต้องการนะคะ


 

บทนำของเรื่อง

 

อบิเกล เด็กสาวที่มีชีวิตที่ไม่เหมือนใคร เธอนั้นได้เดินทางไปกับอาของเธอโดยไม่รู้ว่าต้องออกเดินทางเพราะไร จนพวกเขาตั้งหลักได้แล้วก็กลับมายังลอนดอนอีกครั้งและใช้ชีวติจนเวลาผ่านไปนานจนอบิเกลได้อายุ 11 ปี พวกเขากลับมาจากทำงานแล้วกลับมาบ้าน แต่แล้วอบิเกลต้องดีใจที่เธได้ จดหมายจากโรงเรียนเวทมนตร์ ฮอกวอตส์ แต่เธอไม่รู้ว่าชีวิตของเธอกำลังจะเปลี่ยนไป เมื่อเข้าสู้โรงเรียนแห่งนั้น

เรื่องนี้เชื่อมโยงกับโลกเทพปกรณัมกรีกในนิยายแฟนฟิคของเรา

อย่างเรื่อง สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ นะคะ

ไปติดตามกันได้นะ

 


ปล. เรื่องนี้เป็นนิยายฟรี ไม่อาจะคาดเดาในวันที่จะลงได้

สารบัญ

[Fanfiction Harry Potter รุ่นลูก] เด็กหญิงผู้รอดชีวิต-ตอนที่ 1 ความผิดพลาดที่เกือบตาย,[Fanfiction Harry Potter รุ่นลูก] เด็กหญิงผู้รอดชีวิต-ตอนที่ 2 ช็อปปิ้งก่อนเปิดเรียน,[Fanfiction Harry Potter รุ่นลูก] เด็กหญิงผู้รอดชีวิต-ตอนที่ 3 การพบหน้าที่โคตรอึดอัดใจ,[Fanfiction Harry Potter รุ่นลูก] เด็กหญิงผู้รอดชีวิต-ตอนที่ 4 อดีตของสก็อต,[Fanfiction Harry Potter รุ่นลูก] เด็กหญิงผู้รอดชีวิต-ตอนที่ 5 เพื่อนคนแรกของกันและกัน,[Fanfiction Harry Potter รุ่นลูก] เด็กหญิงผู้รอดชีวิต-ตอนที่ 6 เวลาคัดสรร,[Fanfiction Harry Potter รุ่นลูก] เด็กหญิงผู้รอดชีวิต-ตอนที่ 7 เล่นมาก็เล่นกลับ ,[Fanfiction Harry Potter รุ่นลูก] เด็กหญิงผู้รอดชีวิต-ตอนที่ 8 บ้านใหม่ เพื่อนร่วมห้องใหม่ ,[Fanfiction Harry Potter รุ่นลูก] เด็กหญิงผู้รอดชีวิต-ตอนที่ 9 ก่อเรื่องวันแรก,[Fanfiction Harry Potter รุ่นลูก] เด็กหญิงผู้รอดชีวิต-ตอนที่ 10 เกือบตกเสียแล้ว,[Fanfiction Harry Potter รุ่นลูก] เด็กหญิงผู้รอดชีวิต-ตอนที่ 11 เหตุร้ายยังไม่หมดไป,[Fanfiction Harry Potter รุ่นลูก] เด็กหญิงผู้รอดชีวิต-ตอนที่ 12 น่าเวทนาจริง ๆ,[Fanfiction Harry Potter รุ่นลูก] เด็กหญิงผู้รอดชีวิต-ตอนที่ 13 ห้องอาหาร,[Fanfiction Harry Potter รุ่นลูก] เด็กหญิงผู้รอดชีวิต-ตอนที่ 14 เพื่อนหรือบอดี้การ์ด

เนื้อหา

ตอนที่ 10 เกือบตกเสียแล้ว

ตอนที่ 10 เกือบตกเสียแล้ว

เสียงกรีดร้องดังก้องพร้อมกับเสียงคำรามของสัตว์ร้าย เสียงเหล่านั้นทำให้เล่าเด็ก ๆ ที่อยู่รอบฟาร์มสัตว์วิเศษต่างพากันตื่นตกใจกับเสียงร้องนั้น อบิเกลสะดุ้งตกใจเมื่อได้ยินเสียงกรีดร้องกับเสียงของสัตว์ที่คุ้นเคยจนเธอลุกขึ้นยืนเพื่อหาต้นเสียงว่าทางไหน สกอร์เปียสที่เห็นเพื่อนสาวมองหาต้นเสียงเขาก็มองหาเช่นกัน ก่อนที่จะมีเด็กสองคนที่วิ่งหนีมาจากทางโรงนาใหญ่ด้วยสภาพที่สะบักสะบอมกันออกมา 

 

“ช่วยด้วย!! ตัวนั้น...ตัวนั้นมันออกมาจากกรง!!” 

“พวกเราจะโดนมันฆ่าแล้ว!!” 

 

นักเรียนทุกคนได้ยินแบบนั้นก็จะมองหน้ากันอย่างหวาดกลัว สองคนนั้นวิ่งจนล้มลงกับพื้นอาจารย์แฮกริดรีบเข้ามาดู อบิเกลไม่รู้ว่าตัวอะไรที่กำลังมาก่อนที่จะมีเสียงเด็กร้องพร้อมเสียงคำรามนั้นดังมากอีกครั้ง ทุกคนต่างหันไปมองก็เห็นสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่กำลังกระโจนลงมาจากหลังคาโรงนา ทุกคนเห็นตัวมันก็ต่างกรีดร้องและวิ่งหนีออกจากตรงนั้น แต่อบิเกลยืนนิ่งเมื่อเห็นสิ่งมีชีวิตตัวนั้นรูปลักษณ์ที่คล้ายแมวขนาดใหญ่ตัวเท่าช้าง ขนอันหลากสี หางยาวสีแดงเป็นพวงส่ายไหวไปมาเหมือนงูขนาดใหญ่ 

 

“โซวู!!”

“มันคือตัวอะไรนะ!?” สกอร์เปียสเอ่ยถาม

“มันเป็นสัตว์วิเศษของจีนนะ เป็นสัตว์ดุร้ายสามารถข้ามมิติโผล่ที่ที่หนึ่งได้ด้วยการกระโดดเพียงก้าวเดียว ต้องระวังอย่าให้มันกระโดดหนีไปไหนเด็ดขาด!!” 

“ได้ยินแบบนั้นไม่น่าประทับใจเลยจริง ๆ”

 

ความรู้

โจวหวู หรือโซวู แต่จะเรียกยังไงเวลาฝรั่งออกเสียงจะอ่านกันว่า โซวู เลยเราจะใช้คำว่าโซวูในการเรียก โจวหวูนะคะ มันเป็นสัตว์วิเศษของจีนที่มีสีขนห้าสี รูปร่างคล้ายแมวขนาดใหญ่ยักษ์เท่าช้าง ซึ่งมีหางยาวสีแดงเป็นพวงส่ายไหวเหมือนงูขนาดใหญ่

 

สกอร์เปียสไม่อยากคิดเลยว่าถ้าเจ้านี้กระโดดออกจากจุดนี้แล้วบุกไปยังปราสาทฮอกวอตส์จะเป็นไง อบิเกลก้าวขาไปข้างหลังแล้วจับตัวเพื่อนชายเพื่อพาไปที่ปลอดภัยแต่หางตาของเธอก็เห็นสิ่งที่ไม่คาดคิดกำลังเกาะหลังของโซวูก่อนที่เจ้าตัวจะตะโกนร้องขอความช่วยเหลือ

“ใครก็ได้ช่วยด้วย!!!” 

“เจ้าหมอนั้น!! เพราะหมอนั้นแน่ ๆ ทำให้โซวูเป็นแบบนี้!” 

“ใคร!?” สกอร์เปียสได้ยินคำพูดอีกฝ่ายเขาก็เงยหน้ามองก็เห็นบุคคลที่เขาไม่คาดคิดจะอยู่ตรงนั้น “หมอนั้น!! อบิเกลอย่าไปช่วยหมอนั้นเลย เราหนีเถอะ!”

สกอร์เปียสจับแขนเธอให้หนีจากตรงนี้ก่อน แต่สถานการณ์แบบนี้เธอก็อยากหนีแต่ทว่าภายใต้จิตสำนึกของเธอกับสั่งการออกมาว่าให้ไปช่วยเหลือซะ เธอถอนหายใจก่อนจะหันไปออกคำสั่งกับอีกฝ่าย

“นายหนีไปก่อน สกอร์เปียส ฉันจะปล่อยให้คนเดือดร้อนลำบากไม่ได้หรอกนะ!”

“แต่ว่า!!” 

“ปล่อยเป็นหน้าที่ของหน่วยสัตว์วิเศษเถอะ!!” 

 

กล่าวจบอบิเกลก็หยิบไม้กวาดออกมาจากกระเป๋าคาดเอว เธอตวาดหมุนสองสามรอบก่อนจะขี่มันขึ้นไปกลางอากาศทันที สกอร์เปียสเห็นอีกฝ่ายทำแบบนั้นเขาก็รีบออกจากตรงนั้น อาจารย์แฮกริดสั่งให้เด็ก ๆ หนีออกจากตรงนี้แล้วกลับฮอกวอตส์ เขากำลังส่งตัวเด็ก ๆ แต่ก็เห็นเด็กชายบ้านมัลฟอยออกมาคนเดียว

 

“มัลฟอย! ยัยหนูเมอร์รัลล่ะ!?”

“อบิเกลกำลังไปช่วยเจ้าบ้านวีสลีย์ที่สร้างเรื่องขึ้นครับ! หมอนั้นเกาะอยู่บนหลังของโซวูนะครับ”

“ว่าไงนะ!?” 

 

คนเป็นอาจารย์ได้ยินแบบนั้นก็หันไปมองทางที่พวกเขาออกมา อบิเกลกำลังบินวนเพื่อจับทางว่าโซวูทันจะทำอะไร แต่สภาพของมันเหมือนสัตว์ที่กำลังบ้าคลั่งอย่างรุนแรง แต่ว่าสภาพแบบนี้เธอเหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อน ก่อนที่จะเห็นเงาหมอกสีดำอีกครั้ง ทำให้เธอนึกถึงสถานการณ์ก่อนหน้าที่เธอออกไปทำภารกิจกับอาสก็อต ตอนนั้นเธอก็เกือบโดนอีรัมเพนท์โจมตีใส่

 

“นี่มันเรื่องอะไรกัน!?” 

“อ๊ากกกกก ฉันได้ตกแน่ ๆ ช่วยด้วย!!” 

 

อบิเกลจ้องมองอีกฝ่ายที่โวยวายอยู่บนหลังของโซวู เธอทำหน้าเบื่อหน่ายจนไม่อยากรับรู้อะไรเกี่ยวกับอีกฝ่ายจริง ๆ แต่ว่าเรื่องของสัตว์วิเศษเธอคงปล่อยผ่านไปไม่ได้ ตอนนี้เธอกำลังคิดว่าจะจัดการกับโซวูยังไง เพราะว่ามันเป็นสัตว์ที่จับตัวยากเนื่องจากร่างกายอันใหญ่โตต่างจากเธอที่เป็นแค่เด็กอยู่ เธอกำลังนึกถึงคำสอนของอาสก็อตว่าจะจัดการกับโซวูได้ยังไง แต่เธอไม่มีเหยื่อล่อแล้วสถานการณ์ที่โซวูกำลังอาละวาดแบบนี้ยิ่งลำบากเข้าไปอีก โซวูกำลังคำรามด้วยความโกรธ แล้วท่าทางของมันกำลังเปลี่ยนไป อบิเกลสังเกตก็รับรู้ว่ามันกำลังจะวิ่งเพื่อหนีออกจากสถานที่ตรงนั้น

 

“แย่แล้ว!!” 

 

รอบตัวของโซวูเริ่มมีสายฟ้าสถิตเกิดขึ้น อบิเกลก็รีบจับไม้กวาดสุดแรงก่อนจะร่ายคาถาเร่งความเร็วพุ่งตัวไปข้างหน้าตรงดิ่งไปทางโซวูจนถึงระยะที่ใกล้ที่สุดตอนแรกเธอคิดว่าจะยื่นมือไปให้วีสลีย์จับเธอ แต่ความคิดนั้นต้องตัดทิ้งไปเพราะโซวูกำลังจะข้ามมิติไปที่อื่น เธอจึงทำการปล่อยมือจากไม้กวาดแล้วกระโดดลงบนตัวของโซวู ในนาทีนั้นเองโซวูรู้สึกถึงสิ่งแปลกปลอมบนหลังของมัน มันก็ทำการกระโดดไปมาเหมือนอยากจะสะบัดออก แต่เธอกับอีกฝ่ายจับไว้แน่นและแล้วสิ่งนั้นก็เกิดขึ้น โซวูกระโดดไปข้างหน้าก็มีประตูมิติเกิดขึ้นมันวิ่งเข้าไปในนั้นแล้วหายไปอย่างรวดเร็ว อบิเกลไม่รู้ว่าสัตว์วิเศษตัวนี้จะพาพวกเธอไปที่ไหนกัน

 

ทางด้านฮอกวอตส์อาจารย์แฮกริดพาเด็ก ๆ เข้าไปข้างในอย่างรวดเร็วอาจารย์ที่อยู่บริเวณนั้นต่างมองกันอย่างสงสัยแล้ววิ่งไปดู ก่อนที่พวกเขาจะถามอาจารย์แฮกริดว่าเกิดอะไรขึ้นก่อนจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในตอนนี้ พวกสกอร์เปียสกำลังเป็นห่วงอบิเกลว่าจะปลอดภัยกลับมาหรือเปล่า แต่ว่ามีเสียงบางอย่างคล้ายสายฟ้าดังขึ้นข้างบนเหนือหัวพวกเขา นักเรียนทุกคนที่อยู่บริเวณนั้นต่างเงยหน้ามองก่อนที่จะมีสิ่งบางอย่างโผล่มานั้นก็คือโซวูที่ข้ามมิติมา เหล่าเด็กนักเรียนต่างแตกตื่นหนีไปตามจุดต่าง ๆ อาจารย์บางท่านยกไม้กายสิทธิ์ออกมาก่อนที่อาจารย์แฮกริดจะสั่งห้าม เพราะจะทำให้โซวูโกรธมากขึ้นไปอีก ทุกคนได้ยินแบบนั้นก็ไม่รู้จะทำยังไงดี ก่อนที่จะมีคนหนึ่งเห็นบางอย่าง

 

“นั้นมีเด็กอยู่บนหลังของเจ้าตัวนั้นด้วย!!” 

“ว่าไงนะ!?” 

ทุกคนต่างเงยหน้าสังเกตก็เห็นร่างเล็กสองร่างกำลังพยายามเกาะหลัง ยิ่งทำให้พวกอาจารย์เห็นก็ตกใจ อาจารย์บางคนสั่งการให้เด็ก ๆ ไปเอาไม้กวาดมา แต่อาจารย์ลองบัตท่อมกับรู้สึกว่าไม่ทันการแน่ ๆ เขาจึงรีบวิ่งเข้าไปภายในตัวอาคารเรียนทันทีจนเด็กหนุ่มคนหนึ่งเห็นคนเป็นพ่อวิ่งไป

“พ่อ!!” 

“เชสเตอร์!! ไปดูน้องซะ!!”

“แต่ว่า!!”

“ไม่ต้องมาห่วงพ่อ!!”

 

เด็กหนุ่มผมน้ำตาลมองคนเป็นพ่อวิ่งขึ้นไปยังทิศที่น่าจะไปยังจุดที่สูงที่สุดในปราสาท ส่วนเขานั้นเดินออกจากตรงนั้นไปหาน้องสาวของเขาที่น่าจะกลัวกับสถานการณ์นี้ทันที สถานการณ์ข้างล่างกำลังวุ่นวายจนเหล่าอาจารย์นั้นกำลังหัวหมุนพอ ๆ กับอบิเกลที่กำลังพยายามจับขนของโซวูไม่ให้หลุดไม่งั้นเธอต้องตกแน่ ๆ แต่ทว่าอีกคนที่อยู่ข้าง ๆ เธอกำลังเหงื่อแตกไปหมดจนเปียกไปทั้งมือ แล้วเหงื่อนั้นทำให้เขามือลื่นจนมืดหลุดจากขนของโซวู

 

“อ๊ะ ไม่นะ!! ช่วยฉันด้วย!!”

“บ้าจริง!!” 

อบิเกลหันไปมองด้วยความตกใจที่อีกฝ่ายกำลังจะตก เธอรีบปล่อยมือของตนเองแล้วไถลไปตามขนของโซวูก่อนที่เธอจะจับมืออีกฝ่ายได้สำเร็จแล้วจับขนของโซวูอีกครั้ง เธอพยายามดึงตัวอีกฝ่ายขึ้นแต่ก็ลำบากเพราะอีกฝ่ายตัวหนักเกินไป

“นายก็ช่วยดึงตัวเองขึ้นหน่อยสิ!!” 

“ไม่ไหว! ฉันหมดแรงไปหมดแล้ว!!”

 

อบิเกลได้ยินแบบนั้นยิ่งไม่พอใจกว่าเดิมที่อีกฝ่ายไม่พยายามมากกว่านี้ เพราะมันทำให้เธอลำบากกว่าเดิมจนกระทั่งโซวูเริ่มกระโดดไปอีกจุดหนึ่ง ทำให้ตัวเธอที่กำลังพยุงอีกฝ่ายขึ้นนั้นต้องใช้มืออีกข้างจับขนโซวูให้แน่น ก่อนที่มันจะทรงตัวยืนในจุดที่เหมาะสม เธอดึงตัวอีกฝ่ายให้จับขนโซวูไว้ เธอยกไม้กายสิทธิ์ขึ้นแล้วร่ายคาถาบางอย่างออกมาจนจบโซวูก็เริ่มกระโดดอีกครั้งด้วยความรำคาญที่มีพวกเธออยู่ นั้นทำให้พวกเธอจับขนมันไม่ทันจนฮิวโก้มือลื่นอีกครั้ง อบิเกลก็ช่วยจับตัวอีกฝ่ายไว้ ฮิวโก้เริ่มกลัวว่าตัวเองจะตกเมื่อมองลงไปข้างล่าง

 

“อ๊ากกกกกก!! รีบ ๆ ทำอะไรสักอย่างหน่อยสิ!! ฉันจะตกแล้ว!!”

“เลิกบ่นสักที!! ฉันไม่ได้มีอุปกรณ์พร้อมจัดการกับสัตว์วิเศษตัวนี้นะ!! เจ้าบ้า!!” อบิเกลตะโกนใส่อีกฝ่ายที่เธอกำลังช่วยดึงขึ้นอยู่ “เพราะนาย! ถ้าไม่สร้างเรื่องทำให้มันหลุดออกมาก็คงไม่มีเรื่องนี้เกิดขึ้น”

“ใครว่ากัน! ฉันไม่ได้เป็นคนปล่อยมันออกมา จู่ ๆ กรงทุกอันก็เปิดออกมาเองหมด” 

“เชื่อตายล่ะ!!” 

“สาบานต่อพ่อมดเมอร์ลินเลย!! ฉันไม่ได้โกหก!!” ฮิวโก้ตะโกนออกมาด้วยความโกรธที่อีกฝ่ายไม่เชื่อเขา

“สาบานไปก็เท่านั้นหรอกน่า!!” 

ทั้งสองคนกำลังทะเลาะกันอยู่บนหลังของโซวู อาจารย์ลองบัตท่อมก็มาถึงหอคอยที่ใกล้กลับบริเวณที่สัตว์วิเศษอยู่ เขามองสักพักก่อนจะเห็นว่าเด็ก ๆ ยังดูบนหลังของโซวู เขาก็ตะโกนสุดเสียงเรียกเด็ก ๆ

“เมอร์รัล!! ฮิวโก้!!”

ฮิวโก้ได้ยินเสียงของคนรู้จักก็หันไปมอง “ลุงเนวิลล์!!” 

“เดียวลุงจะไปช่วย!!” 

อบิเกลมองอีกฝ่ายที่ตะโกนออกมาจนเธอส่ายหน้า แต่ไม่ทันแล้วเสียงของอาจารย์เนวิลล์ดังเกินไปจนโซวูหันไปสนใจอาจารย์ในทันใด

“อาจารย์หนีไป!!” 

“!!” เนวิลล์ได้ยินแบบนั้นก็ตาลุกวาว

โซวูตวัดตัวอย่างรุนแรงจนจุดที่พวกอบิเกลอยู่เกิดแรงเหวี่ยงที่รุนแรง มือของอบิเกลพยายามที่จะจับขนของมันไว้แน่ แต่ทว่าแรงเหวี่ยงที่รุนแรงเกิดไปบวกกับมือที่มีแต่เหงื่อทำให้ลื่นจนมือหลุดทันที

“อ๊ะ!!”

ทั้งสองคนถึงกับนิ่งไปชั่วขณะก่อนที่จะตาลุกวาวกับสถานการณ์ตรงหน้าอย่างตกใจที่ร่างกายของทั้งสองคนที่ลอยอยู่กลางอากาศกำลังจะตกลงสู่ด้านล่าง

“อ๊ากกกกกกกกกกกกก!!!” 

“เด็ก! เด็ก!” เนวิลล์ตะโกนออกมาอย่างเสียงดัง จนทำให้โซวูสนใจเขามากกว่า

 

ทุกคนที่เห็นสถานการณ์ตอนนี้ต่างกรีดร้องกันอย่างตกใจ พวกอาจารย์ที่เห็นสถานการณ์แบบนั้นพวกเขาต่างพากันหยิบไม้กายสิทธิ์ที่ถือกันขึ้นมา อบิเกลไม่เห็นว่าข้างล่างกำลังทำอะไรเธอกำลังภาวนาขอให้สิ่งที่ตัวเองเรียกก่อนหน้าให้มาช่วยเธอ เสี้ยววินาทีนั้นเองก็มีสิ่งบางอย่างพุ่งตรงมาทางเธออย่างรวดเร็วนั้นก็คือไม้กวาด เธอยืนมือไปจับไม้กวาดที่พุ่งมาอย่างรวดเร็ว พอจับได้เธอก็ปีนขึ้นไม้กวาดแล้วดึงอีกฝ่ายขึ้นมาซ้อนหลังเธออย่างรวดเร็ว ทุกคนเห็นแบบนั้นก็ต่างส่งเสียงอย่างดีใจ พวกอาจารย์เห็นแบบนั้นก็หยุดนิ่งแล้วก็โล่งใจที่เด็กมีไหวพริบที่เรียกไม้กวาดมา

 

ฮิวโก้นั่งซ้อนหลังอีกฝ่าย เขาก็โล่งใจที่ตัวเองนั้นปลอดภัยแล้ว “ปลอดภัยสักที” 

“อย่าพึ่งดีใจดีกว่านะ เรายังเหลือสิ่งที่นายทำเอาไว้นะ!!” 

“ว่าไงนะ!!” ฮิวโก้ได้ยินแบบนั้นก็ตาลุกวาวอย่างตกใจ “ฉันบอกแล้วไม่ได้ทำไง!!”

อบิเกลส่ายหัวอย่างไม่เชื่อที่อีกฝ่ายยังปฏิเสธ ก่อนจะพุ่งตรงไปหาอาจารย์ลองบัตท่อมที่กำลังจะโดนโซวูโจมตี เธอเข้าไปดันด้านหน้าสิ่งมีชีวิตตรงหน้าก่อนจะใช้คาถาป้องกัน เนวิลล์เห็นเด็ก ๆ ก็โล่งใจที่พวกเขาปลอดภัย

“เด็ก ๆ” 

“อาจารย์รับหมอนี้ไปที!!” อบิเกลจับชายคอเสื้อฮิวโก้ก่อนจะโยนให้อาจารย์ทันที

“อ๊ากกกกกกก!!” ฮิวโก้โดนอีกฝ่ายจับโยนอย่างไม่เห็นใจเลยจริง

“อ๊ะ!!” เนวิลล์รีบรับเด็กชายอย่างรวดเร็ว เขาไม่นึกว่าเด็กหญิงจะโยนเด็กชายมาให้เขา

“ยัยบ้า! กล้าโยนฉันแบบนี้เลยเหรอ? ถ้าตกจะเกิดอะไรขึ้น!!”

อบิเกลไม่สนใจคำพูดอีกฝ่าย เธอส่งตัวเกะกะกับการทำงานของเธอออกไป เธอรู้สึกถึงบางอย่างที่ไม่ระวังตัวเข้าให้คือการโจมตีของโซวูที่กำลังยกมือขึ้นมาพร้อมกรงเล็บที่กำลังจะตะปบเธอจากด้านหลัง พวกที่อยู่ข้างล่างเห็นสถานการณ์นั้น สกอร์เปียสเห็นสิ่งที่สัตว์วิเศษกำลังทำเขาก็ตะโกนออกมาอย่างเสียงดัง

“อบิเกล!! ด้านหลังงงงงงงงงงงง!!”

 

เสียงเตือนของเพื่อทำให้อบิเกลจับไม้กวาดไว้แน่นพร้อมกับเร่งความเร็วของไม้กวาดไปข้างหน้าจนสองคนตรงหน้าถึงกับตกใจแล้วหลบหนีกัน การโจมตีนั้นเฉียดไปแค่ปลายนิ้วเท่านั้น เธอพุ่งไปข้างหน้าจนทะลุไปอีกมุมของหอคอยสูงแล้ววนกลับมาหาโซวูอีกครั้ง มันคำรามอย่างโกรธเคืองที่พลาดการโจมตีเมื่อกี้ เธอเห็นสภาพมันเป็นแบบนั้นก็รู้สึกเลยว่าจะแก้ไขยังไงจะทำให้มันสงบยังไง ตอนนี้มันคิดจะโจมตีอย่างเดียว เธอต้องให้มันสนใจในเชิงเป็นมิตร แต่ตอนนี้เธอต้องทำให้มันสงบหรือไม่ก็สลบไปเลยจะดีกว่าเป็นขั้นตอนสุดท้ายที่เหล่าเจ้าหน้าที่อย่างเธอจะใช้ ถ้ามันควบคุมไม่ได้

 

‘คงต้องใช้ยาสลบหรือไม่ก็คาถาทำให้สลบ!!’ อบิเกลคิด

 

ความคิดกำลังแล่นอยู่นั้นโซวูกลับกระโจนเข้ามาจะโจมตีใส่เธอนั้นทำให้อบิเกลตกใจไปชั่วครู่ ก่อนที่มือของเธอจะรีบล้วงกระเป๋าเข้าไปหยิบขวดยาอย่างรวดเร็วก่อนจะขวางขวดยาใส่ทันที ขวดยาแตกกระจายเหมือนกระทบกับร่างกายของโซวูอย่างจังพร้อมกับเอฟเฟกต์ควันกระจายออกมากลางอากาศ ทุกคนเห็นสถานการณ์ตรงนั้นก็รีบวิ่งหนีเพราะไม่รู้ว่าสิ่งที่ระเบิดนั้นมันคืออะไร โซวูคำรามอย่างเจ็บปวดที่โดนสิ่งที่ไม่รู้จักโจมตีใส่มันทั้งแสบตาและมองไม่เห็น แต่พอมันสูดดมกลิ่นควันเข้าไปนั้นอาการบางอย่างก็เพิ่มขึ้นมันมึนงงกับสิ่งรอบข้างจนร่างกายมันหนักอึ้ง ดวงตาที่กำลังหลับอยู่ก็หนักอึ้งเรื่อย ๆ จนกระทั่งมันทรงตัวไม่อยู่ก็ล้มไปข้างหน้าพร้อมกับตกลงสู่ข้างล่างอย่างรวดเร็ว

 

“แย่แล้ว!!” อบิเกลเห็นแบบนั้นก็ยกไม้กายสิทธิ์ขึ้นมาทันที “วิงการ์เดียม เลวีโอซ่า!!” 

 

เมื่อร่ายคาถานั้นตัวของโซวูหยุดลง แล้วกำลังลอยอยู่เหนืออากาศ อบิเกลขยับไม้ตัวของมันค่อย ๆ ลอยขึ้นอย่างช้า ๆ อบิเกลโล่งใจที่โซวูไม่เป็นอะไร ทุกคนต่างชะโงกหน้าออกมาดูจากตามตึกตามจุดที่หลบซ่อน พวกเขาเห็นว่าสัตว์วิเศษกำลังลอยอยู่กลางอากาศก็ต่างส่งเสียงอย่างดีใจที่มีคนกำราบสัตว์วิเศษได้สำเร็จ อบิเกลมองคนข้างล่างที่กำลังส่งเสียงกันอย่างดีใจ แต่ตัวเธอต้องจัดการพาเจ้าโซวูไปอยู่ในที่ควบคุมมันให้ได้ก่อน ก่อนจะหันไปหาอาจารย์เนวิลล์ยังยืนอยู่พร้อมกับเจ้าต้นเหตุ 

 

“อาจารย์ลองบัตท่อมค่ะ หนูจะนำโซวูไปวางไว้ที่ไหนดีคะ?” 

“อ๊ะ...เอ่อ...ลานกว้างหน้าโรงเรียนที่นั่นใหญ่พอที่จะวางเจ้าสัตว์ตัวใหญ่นั้นแล้วล่ะ”

อบิเกลมองขนาดโซวูก่อนจะพยักหน้าให้อีกฝ่าย “ขอบคุณค่ะ อาจารย์ลองบัตท่อม!!”

อบิเกลลอยไปยังลานกว้างหน้าโรงเรียน พร้อมกับไม้กายสิทธิ์ที่กำลังดึงตัวโซวูตามมาด้วยจนมาถึงค่อย ๆ ลงมาถึงลานกว้างผู้คนมากมายกำลังวิ่งกันมาทางที่เธออยู่ ทุกคนเห็นอบิเกลวางสัตว์วิเศษพร้อมกับแหว่งไม้กายสิทธิ์ก็มีสิ่งบางอย่างยาว ๆ กำลังไหลออกมาตามจุดต่าง ๆ มันกำลังไหลไปรอบ ๆ ตัวโซวูแล้วก่อตัวเป็นกรงสี่เหลี่ยม ป้องกันการโจมตีของโซวูและเกิดจราจรอะไรอีก เธอมองสิ่งมีชีวิตตัวใหญ่ก่อนที่คิดว่าเธอควรเรียกคนของเธอมาที่นี่โดยด่วนที่สุด

 

“ว่าจะไม่เรียกแล้วนะเนี่ย...” อบิเกลส่ายหัวเบา ๆ เธอไม่นึกว่าจะต้องเรียกพี่น้องในหน่วยของเธอมา

อบิเกลกำลังจะส่งข่าวให้แค่หน่วยของเธอ เหล่าอาจารย์ต่างรีบเดินมาหาอบิเกลด้วยความรู้สึกตื่นตกใจกับสิ่งตรงหน้าอยู่ พวกเขาต่างมองไปที่สัตว์วิเศษที่โดนจัดไปแล้ว ก่อนที่ศาสตราจารย์มักกอนนากัลจะเอ่ยถาม

“มันสงบลงแล้วเหรอ? คุณเมอร์รัล?”

อบิเกลได้ยินก็หันไปมองเหล่าอาจารย์ที่เดินกันเข้ามา “ไม่ต้องห่วงค่ะ มันสงบแล้วนะคะ”

“ดีนะที่ปีนี้มีเจ้าหน้าที่จากหน่วยสัตว์วิเศษมาเรียน ถ้าไม่มีคงได้ตามหน่วยสัตว์วิเศษแทน เพราะอาจารย์แฮกริดรับมือไม่ไหวแน่ ๆ” 

“อย่าแซะฉัน อาจารย์บลัดเวิร์ท!” 

“ฮ่า ฮ่า ฮ่า ผมล้อเล่นนะ แต่ยังไงก็ต้องตรวจสอบว่าเกิดอะไรขึ้นเจ้าตัวนี้ถูกส่งมาเตรียมให้เหล่าหน่วยสัตว์วิเศษรับไปถึงหลุดออกมาได้ เราคงต้องไปสืบหลังจากที่หน่วยสัตว์วิเศษมา คุณเมอร์รัลจะเรียกหน่วยของคุณมาไหม?”

“เรียกอยู่แล้วค่ะ” 

 

อบิเกลกล่าวแบบนั้นเธอหยิบหนังสือเล่มหนึ่งขึ้นมา ทุกคนต่างให้ความสนใจสิ่งที่เด็กหยิบออกมา แต่พวกเขาอยู่หน้าเด็กเลยไม่เห็นว่าเด็กกำลังเปิดอะไร อบิเกลเกิดจนมาถึงหน้าหนึ่งที่มีกรอบสี่เหลี่ยมเหมือนกรอบภาพถ่ายที่ทำจากไม้ แต่ภายในกระดาษนั้นส่วนใหญ่คือภาพวาด ภายในภาพมีเตาผิงใหญ่ที่มีเก้าอี้ตัวใหญ่ตั้งอยู่พร้อมกับโต๊ะเล็กที่วางหนังสือเรียงกันหลายเล่ม ไม่นานนักก็มีหญิงสาวคนหนึ่งเดินเข้ามาในภาพนั้น 

 

“วันนี้มีเรื่องอะไรจะคุยกับฉันจ๊ะ เด็กน้อย” 

น้ำเสียงอันไพเราะเอ่ยถามขึ้น รูปลักษณ์ของบุคคลในหนังสือช่างงดงามยิ่งกว่าอะไร เธอมีผมลอนสั้นสีแดงเพลิง ดวงตาสีน้ำตาลและใบหน้าอันสลวย เครื่องแต่งกายเป็นแบบชุดกระโปรงยาวมีเข็มขัดรัดเอวควบคู่กับเสื้อกั๊กสีน้ำเงินควบคู่กัน เธอจ้องมองเด็กน้อยพร้อมกับยิ้มให้ อบิเกลเห็นอีกฝ่ายกี่ครั้งก็รู้สึกสบายใจก่อนจะตอบอีกฝ่าย 

“หนูมีเรื่องเล็กน้อยนะคะ...” 

หญิงสาวได้ยินแบบนั้นก็ตาโตขึ้นมาในทันที “เกิดอะไรขึ้น? แอ็บบี้”

“ก็...” 

“มีเรื่องที่โรงเรียนเหรอจ๊ะ?” 

“ค่ะ...คุณจิเนฟรา”

อาจารย์หนึ่งในนั้นได้ยินชื่อที่เด็กเรียกใครบางคน นั้นทำให้คนคนนั้นสงสัยบางอย่าง ได้แต่จับจ้องมองว่าเด็กคุยอะไรกับสิ่งที่อยู่ในหนังสือ

“หนูเลยติดต่อมาเพื่อจะให้คุณช่วยติดต่อคุณ...คุณพ่อให้หน่อยค่ะ”

“ได้เลยจะให้ฉันแจ้งเขาว่ายังไงดี?”

“เนื่องจากมีสัตว์หลุดออกมาจากกรงขังภายในฮอกวอตส์แต่ตอนนี้แก้สถานการณ์ได้แล้ว แต่มีความผิดปกติที่ไม่แน่ชัดจึงขอกำลังเสริมเข้ามาตรวจสอบภายในโรงเรียนค่ะ”

หญิงสาวที่ชื่อจิเนฟราได้ยินแบบนั้นก็เอ่ยถามเด็กน้อย “ต้องการคนเยอะไหม?” 

“สักสิบคนก็ดีค่ะ” 

“ได้จ้ะ” จิเนฟราได้ยินแบบนั้นก็ลุกออกจากตรงนั้นไปที่ที่หนึ่งในทันใด

 

อีกฝ่ายลุกออกจากภายในหนังสือไปงั้นเธอก็นึกบางอย่างขึ้นมาได้น้ำเสียงของแม่ในความฝันคล้าย ๆ น้ำเสียงของคุณจิเนฟราไม่มีผิด แต่ก็มีข้อสงสัยว่าทำไมน้ำเสียงของแม่ในความฝันถึงคล้ายคลึงกับคุณจิเนฟราหรือว่าแม่ของเธอมีความเกี่ยวข้องกับคุณจิเนฟรากัน เพราะตั้งแต่จำความได้นั้นเธอก็ได้รับหนังสือเล่มนี้มา และข้างในก็มีคุณจิเนฟราอยู่แล้ว แต่คนที่ให้หนังสือเล่มนี้ก็คืออาสก็อต คำถามนั้นเธอคงต้องเก็บไว้ถามทีหลังอีกฝ่ายว่ารู้จักแม่ของเธอไหม เธอปิดหนังสือก่อนจะหันไปทางอาจารย์

 

“อีกไม่นานเดียวพวกเขาก็มาค่ะ!”

อบิเกลกล่าวแบบนั้นไม่นานผู้คนรอบ ๆ เหล่านักเรียนไม่มีใครอยากจะไปเรียนเพราะอาจารย์ก็อยู่ที่นี่หมด ถึงจะโดนไล่ก็ไม่มีคนสนใจจนกระทั่งไม่นานก็มีกลุ่มคนหลายจำนวนกำลังเดินตรงมายังโรงเรียน อบิเกลเห็นคนกลุ่มนี้ก็ได้แต่ยกยิ้มเพราะพวกเขาคือกลุ่มคนที่เธอรู้จัก

“ทุกคน!!!!” 

อบิเกลโบกมือให้ทุกคน พวกเขาต่างพากันโบกมือให้ ก่อนที่หนึ่งในนั้นจะตรงดิ่งมาหาเด็กน้อยแล้วอุ้มเธอลอยขึ้นทันที

“น้องเล็กของเรา! ได้เจอสักที!!”

ชายหนุ่มที่มีรูปร่างเล็กแต่ส่วนสูงของเขาประมาณร้อยเจ็บสิบเป็นส่วนสูงที่เหมาะสำหรับหนุ่มหล่อคนหนึ่ง เขามีสีน้ำตาลหยักศก สวมแว่นกลมโต การแต่งกายสวมโค้ตตัวใหญ่กับชุดสูทสบาย ๆ เขาอุ้มเด็กน้อยหมุนไปรอบหนึ่ง ก่อนคนอื่นจะห้ามอีกฝ่ายแล้วเข้าไปทักทายอบิเกลอย่างดีใจ

“หยุดหมุน แอบบี้เลย!! ริชาร์ด!!”

“ใช่ ๆ ปล่อยน้องเลยนะ!” หญิงสาวคนหนึ่งเข้ามาหยุดอีกฝ่ายก่อนจะหันมาถามอบิเกล "แล้วจะได้กลับบ้านตอนไหนนะ กลับตอนนี้เลยไหม?” 

“อ๊า~” อบิเกลตั้งสติอยู่ชั่วครู่ก่อนจะมองพวกเขาทุกคน "หยุด ๆ ถามเลย หนูพึ่งมาโรงเรียนได้วันที่สองเองนะ” 

“ทำไงได้ล่ะ พวกพี่อยากให้น้องเล็กกลับแล้วอ่ะ” 

“จริงของริชาร์ดนะ พอไม่มีอบิเกลแล้วบรรยากาศที่ทำงานช่างเงียบเหงาสุด ๆ”

“แหม ทุกคนก็ทำให้บรรยากาศมันดีได้นะ” 

“แต่ไม่ใช่อบิเกลแล้วมันก็รู้สึกแปลก ๆ นี่น่า” 

ทุกคนต่างพูดพร้อมกัน ทำเอาอบิเกลเหนื่อยใจสุด ๆ แต่ก็ทำให้เธอยิ้มตลอดนั้นล่ะ ริชาร์ดเห็นว่าน้องเล็กไม่มีปัญหาอะไรที่โรงเรียน ก่อนที่เขาจะเอ่ยพูดขึ้นมา

“เลิกคุยกันดีกว่านะ เราต้องเริ่มทำภารกิจแล้วล่ะนะ” 

พวกเขาฟังสิ่งที่อีกฝ่ายพูดก่อนจะหันไปมองสถานที่ตรงหน้าที่ไม่ได้กลับกันมาเสียนานหลายสิบปี พวกเขาเดินตรงดิ่งไปกลุ่มอาจารย์ที่กำลังยืนอยู่ตรงหน้า ก่อนที่ริชาร์ดจะเอ่ยทักทาย

“ไม่ได้เจอกันนานนะครับ อาจารย์มักกอนนากัลไม่สิตอนนี้เป็นอาจารย์ใหญ่แล้วนี่น่า”

“ไม่เจอเธอนานเช่นกัน คุณสมิธ สบายดีนะ” 

“ครับ ผมสบายดี อาจารย์ก็ดูสบายดีนะครับ” 

“ก็ตามที่เห็นตอนนี้คงไม่ใช่เวลามาพูดคุยกัน เธอคงต้องทำงานเสียหน่อยแล้วล่ะนะ” ศาสตราจารย์มักกอนนากัลหันไปมองกรงที่มีสัตว์วิเศษอยู่

“ครับ!!” ริชาร์ดหันไปมองกรงด้านข้างที่มีโซวูอยู่ เขาไม่คาดคิดว่าเจ้าตัวนี้จะหลุดออกมาจากสถานที่ที่ฮอกวอตส์ดูแลอย่างดีแบบนี้ “ตอนแรกเก็บไว้ไหนครับ?” 

“เก็บไว้โรงนาที่เราทำเป็นที่สำหรับเก็บสัตว์วิเศษ แต่ตอนนี้มันคงหลุดออกมาหมดแล้วล่ะนะ” แฮกริดเดินมาดูเจ้าสัตว์ตัวใหญ่ที่เขาเป็นคนดูแลตั้งแต่ต้น

“อ๊า...แบบนี้คงต้องไปดูต้นตอของเรื่องก่อนล่ะนะ จะมีอาจารย์คนไหนไปกับพวกเราไหมครับ?” 

ริชาร์ดเอ่ยถามอย่างสงสัย อบิเกลได้ยินแบบนั้นก็สงสัยว่าใครจะไปก่อนจะเห็นคนคนหนึ่งกำลังลงมาพร้อมกับเด็กชายตัวแสบที่เป็นต้นตอของเรื่องทันที

“อาจารย์ลองบัตท่อมค่ะ จับหมอนั้นไว้ก่อนนะ!” 

อบิเกลออกคำสั่งแบบนั้นจนอาจารย์ลองบัตท่อมที่ได้ยินแบบนั้น เขาก็จับคอเสื้อเด็กชายไว้แน่นกว่าเดิมทันที

“จับผมทำไมอาจารย์!!” ฮิวโก้เอ่ยถามอย่างสงสัย

“ก็...คุณเมอร์รัลสั่ง...ฉันก็เผลอตัวไปนะ...” เนวิลล์ก็สงสัยว่าตนเองทำตามที่เด็กสั่งได้ไง แต่ไม่รู้ทำไมรู้สึกว่าควรฟังที่เด็กน้อย 

ฮิวโก้ได้ยินแบบนั้นก็หันไปมองต้นเหตุที่เขาโดนแบบนี้ “ยัยบ้า!! กล้ามาจับฉัน อยากตายหรือไง!?”

“แล้วทำไมล่ะ!! นายที่ติดอยู่กับโซวูอาจจะเป็นต้นเหตุของเรื่องนี้ก็ได้ จริงไหมคะ? อาจารย์ลองบัตท่อม”

“ใช่ ถ้าเธอเป็นต้นเหตุจริง ๆ ฮิวโก้ เธอนี่ช่างสร้างเรื่องเหมือนพ่อเธอจริง ๆ ฮิวโก้” 

“ผมเปล่านะ!” ฮิวโก้ปฏิเสธก่อนจะหันไปทางอบิเกล "ยัยบ้า ฉันบอกว่าไม่ใช่คนก่อสักหน่อย!! ฉันจะฟ้องแม่ที่เธอทำกับฉันแบบนี้!” 

“เอาสิ ดูสิ เขาจะฟังใครกันแน่!” อบิเกลได้ยินแบบนั้นเธอก็หันหลังกลับไปหาเหล่าผู้ใหญ่ทุกคน “หน่วยสัตว์วิเศษไปกันค่ะ!! พวกอาจารย์คนไหนอยากไปมั้ง? ตามมาได้เลยนะคะ แต่ว่าอาจารย์ลองบัตท่อมกับเจ้าตัวการต้องไปด้วย!!”

“นึกแล้ว…” เนวิลล์คิดอยู่แล้วว่าเขาต้องโดนเด็กสั่งให้ตามไปด้วย ก่อนจะลากเด็กชายไปด้วย

“อ๊า!! อาจารย์ปล่อยผมนะ!!”

“งั้นผมกับอาจารย์แฮกริดไปละกัน ผมอยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นมั้ง?” อาจารย์บลัดเวิร์ทเอ่ยขึ้น

“งั้นฝากด้วย ฉันจะสั่งให้เหล่าพรีเฟ็คพาเด็ก ๆ กลับเข้าข้างในโรงเรียน” ศาสตราจารย์มักกอนนากัลกล่าว แล้วหมุนตัวเพื่อไปออกคำสั่ง

“ครับ อาจารย์ใหญ่”

 

เหล่าอาจารย์ต่างออกคำสั่งให้เหล่าพรีเฟ็คของบ้านพารุ่นน้องทุกคนกลับบ้านพักกัน ชั่ววินาทีเหล่านักเรียนต่างเดินกันหายไปไม่เหลือใครสักคนมีแต่เหล่าหน่วยสัตว์วิเศษที่กำลังเตรียมตัวที่จะไปยังที่เกิดเหตุและเหล่าอาจารย์และนักเรียนสองคนที่เตรียมพร้อมไปด้วยเช่นกัน พวกเขาเตรียมตัวออกเดินทางไปยังบ้านแฮกริดที่เป็นจุดเริ่มต้นของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

 

จบตอนที่ 10 โปรดติดตามตอนที่ 11 ต่อไป