ได้แต่แอบรักเธออยู่ในใจ เพราะเราไม่มีอะไรดีเลย

น้ำค้างมองพระจันทร์ - 23 เลิกกัน โดย กัลปังหา @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ชาย-ชาย,รัก,ดราม่า,รั้วโรงเรียน,ไทย,yaoi,แอบรักรุ่นพี่,นักศึกษา,ภาคใต้,รักเพื่อน,อกหัก,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

น้ำค้างมองพระจันทร์

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ชาย-ชาย,รัก,ดราม่า,รั้วโรงเรียน,ไทย

แท็คที่เกี่ยวข้อง

yaoi,แอบรักรุ่นพี่,นักศึกษา,ภาคใต้,รักเพื่อน,อกหัก

รายละเอียด

 น้ำค้างมองพระจันทร์ โดย กัลปังหา @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ได้แต่แอบรักเธออยู่ในใจ เพราะเราไม่มีอะไรดีเลย

ผู้แต่ง

กัลปังหา

เรื่องย่อ

คนบางคนมีค่าไว้พียงแค่มอง

เราไม่มีสิทธิ์เป็นเจ้าของ

ดั่งกระต่ายที่หมายพระจันทร์

คนบางคนมีค่าสูงส่ง

แต่ตีคุณค่าของตนเองไว้ต่ำต้อย

ทั้งๆ ที่บริสุทธิ์งดงามดั่งน้ำค้าง

คนบางคนซื๋อตรงต่อใจตนเอง

ดั่งพระอาทิตย์ที่มอบแสงสว่าง

และความอบอุ่นเท่าเทียมกัน

สารบัญ

น้ำค้างมองพระจันทร์-บทนำ ผู้ชายในฝัน, น้ำค้างมองพระจันทร์-1 แรกพบ, น้ำค้างมองพระจันทร์-2 สายใยรักสายใยม่วงแดง (ปฐมบท), น้ำค้างมองพระจันทร์-3 ฤทธาน้ำล้างรองเท้า, น้ำค้างมองพระจันทร์-4 รับน้องหฤโหด?, น้ำค้างมองพระจันทร์-5 สายใยรักสายใยม่วงแดง (มัชฌิมบท), น้ำค้างมองพระจันทร์-6 สายใยรักสายใยม่วงแดง (ปัจฉิมบท), น้ำค้างมองพระจันทร์-7 เธอจะอยู่กับฉันตลอดไป, น้ำค้างมองพระจันทร์-8 รักในสายฝน, น้ำค้างมองพระจันทร์-9 เฟรชชี่ไนท์, น้ำค้างมองพระจันทร์-10 ใจบางบาง, น้ำค้างมองพระจันทร์-11 ข่าวร้าย, น้ำค้างมองพระจันทร์-12 ขอจองในใจ, น้ำค้างมองพระจันทร์-13 ไม่แน่ใจ, น้ำค้างมองพระจันทร์-14 เพื่อนสนิท, น้ำค้างมองพระจันทร์-15 Sport Night, น้ำค้างมองพระจันทร์-16 Happy Birthday, น้ำค้างมองพระจันทร์-17 ไดอะรี่สีแดง, น้ำค้างมองพระจันทร์-18 ทิ้ง, น้ำค้างมองพระจันทร์-19 ความลับในใจ, น้ำค้างมองพระจันทร์-20 กรุงชิงทิ้งรัก, น้ำค้างมองพระจันทร์-21 ช้ำรักพักเกาะสมุย, น้ำค้างมองพระจันทร์-22 นิยายรักขาดตอน, น้ำค้างมองพระจันทร์-23 เลิกกัน, น้ำค้างมองพระจันทร์-24 คลับซ่าสะพายเป้, น้ำค้างมองพระจันทร์-25 วิมานดิน, น้ำค้างมองพระจันทร์-26 สารภาพ, น้ำค้างมองพระจันทร์-27 จะมาไหม?, น้ำค้างมองพระจันทร์-28 หาดทราย สายลม สองเรา, น้ำค้างมองพระจันทร์-29 คู่ชีวิต, น้ำค้างมองพระจันทร์-จบ Leaving On a Jet Plane.

เนื้อหา

23 เลิกกัน

เรื่องของตุ่มและเจฟเงียบลงไปและเป็นที่แน่นอนว่าทั้งคู่ลดความสัมพันธ์ลงเป็นแค่เพื่อน ผมวางตนไว้ในฐานะผู้สังเกตการณ์อยู่ห่างๆ และห่วงๆ

ในค่ำคืนหนึ่ง ผมหลับฝันไปว่า...

ผมกำลังนั่งเขียนนิยายอยู่ในบ้านเช่า มีเสียงรถจักรยานยนต์แล่นมาและจอดตรงหน้าบ้าน ผมชะโงกหน้าออกไปดูว่าเป็นใคร

“ไปเที่ยวกันไหม?” เจฟชวนผมพร้อมส่งยิ้มให้ ผมไม่รู้สึกประหลาดใจเลย ถ้าในโลกแห่งความเป็นจริงแล้ว เจฟไม่เคยฉายตัวมายังบ้านประชุมรัตน์แม้เพียงแต่เงา

“ไปสิ เรากำลังเบื่ออยู่พอดี วันนี้ไม่รู้เป็นอะไร เขียนนิยายไม่ออกเลย” ผมรับคำชวน จากนั้นเจฟรับหน้าที่สารถีห้อรถจักรยานยนต์คันเดิมๆ สู่ตัวเมืองสุราษฎร์ธานี ไปรับประทานไอศกรีมไข่แข็งหน้าโรงภายนตร์โอเดียน พูดคุยสัพเพเหระ

จากนั้นพาผมไปเดินเล่นเกาะลำพู ผมรู้สึกว่าเจฟคือเจฟคนเดิมที่ผมรู้จักมักคุ้น ผมรู้สึกมีความสุขจังเลยที่ได้มาเดินเล่นกับคนที่ผมรักเช่นนี้

“ที่ผ่านมา เราทำอะไรไม่ดีกับแบงค์มากเลยนะ เราขอโทษ” เจฟหยุดเดินแล้วพูดขึ้นมา เขามองมาที่ผม สายตาของเขาอ่อนโยนแฝงด้วยความน่าสงสาร

“สายแม่น้ำตาปีไหลลงทะเลอ่าวไทยไม่ย้อนคืนมาฉันใด จะไปอาลัยรู้สึกผิดต่อความหลังอยู่ทำไมกัน เจฟสำนึกผิดแล้วแค่นี้ก็น่าพอแล้ว” พอเห็นสายตาอันน่าสงสารคู่นั้นของเขา ผมก็ใจอ่อน ความทุกข์ระทมมลายหายไปหมด

“เราจะขออะไรมากไปไหม หากว่าเราสองคนจะกลับมาเป็นเช่นเดิม” เจฟเอ่ยขอ ใจจริงแล้วถ้าเปลี่ยนจากกลับไปเป็นเหมือนเดิม เป็นเริ่มต้นกันใหม่ด้วยคำว่ารัก

กริ๊ง.....

เสียงนาฬิกาปลุกเจ้ากรรมดังขึ้นมา ภาพในความฝันสูญสลายไปดุจมีใครเอาน้ำสาดภาพวาดสีสวยสดงดงามซึ่งสียังไม่แห้งสนิทดีที ผมคว้าขวดน้ำดื่มที่วางไว้บนโต๊ะหัวนอนมาดื่ม ผมรู้สึกอาวรณ์ความฝันอยู่เต็มกำลัง จากนั้นผมลุกขึ้นเดินไปเปิดประตูบ้านออกไปข้างนอก ผมคุกเข่าลงบนพื้นร้องไห้เหมือนอย่างทุกครั้งที่ฝันถึงเจฟ เมื่อไหร่หนอ ผมจะเลิกฝันซ้ำซากแบบนี้

ความทรงจำที่ไม่อาจสัมผัสได้

จะคอยหลอกหลอนฉันอยู่ร่ำไป

จากคนที่คุ้นเคย มีสุขร่วมเสพมีทุกข์ร่วมต้าน มาทุกวันนี้กลายเป็นคนที่ไมรู้จักกันเสียแล้ว ความชิงชังคือปราการชั้นเยี่ยมที่กักผมให้จมอยู่ในห้วงทุกข์ ผมมองไปท้องฟ้าทุกครั้งที่ผมร้องไห้เพื่อทวงถามความยุติธรรมแต่สิ่งที่ผมเห็นผ่านดวงตาอันพร่าเลือนคือพระจันทร์เสี้ยวเป็นรูปทรงเหมือนปากคนเย้ยหยัน ดวงดาวกระพริบพราวราวกับหัวเราะเยาะใส่ผม เมื่อไหร่ผมจะเลิกทุกข์ใจเพราะเจฟเสียทีหนอ

เวลาล่วงเลยมาถึงปลายภาคเรียนที่ 1 นักศึกษาในรายวิชา Eco Tourism ต้องเดินทางไปทัศนศึกษา ณ ชุมชนบ้านถ้ำผึ้ง ตำบลต้นยวน อำเภอพนม จังหวัดสุราษฎร์ธานี ก่อนเดินทาง อาจารย์หญิงได้ให้ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับบ้านถ้ำผึ้งสอดคล้องกับข้อมูลที่เบียร์เล่าให้ฟัง เขาเคยไปที่บ้านถ้ำผึ้งมาหนหนึ่งแล้ว ไปในนามค่ายอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม นำต้นไม้ไปปลูกที่สวนรุกขชาติพุน้ำเย็น ชุมชนบ้านถ้ำผึ้งเคยได้รับรางวัลลูกโลกสีเขียวในฐานะชุมชนอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมดีเด่น

รถบัสมหาวิทยาลัยคันเดิมพาผมและเพื่อนๆ ส่งไว้ที่ทำการชุมชนบ้านถ้ำผึ้งอย่างทุลักทุเล เพราะพี่คนขับรถสับสนระหว่างป้ายบอกทางบ้านถ้ำผึ้งกับบ้านต้นยวน พี่คนขับรถเลี้ยวเข้าไปบ้านถ้ำผึ้ง ยิ่งเข้ามายิ่งรู้ว่าไม่ใช่เพราะทุกสิ่งทุกอย่างตรงกันข้ามกับที่อาจารย์หญิงบอก ถนนลาดยางแคบลงเรื่อยๆ จนเปลี่ยนเป็นถนนดินลูกรัง สองข้างทางเป็นเรือกสวนผลไม้ สวนยางพารา ท้ายที่สุดพี่คนขับรถถอยหลังกลับสู่ถนนหลักมุ่งหน้าตรงไปสู่บ้านต้นยวน รถบัสแล่นมาเรื่อยๆ เจอที่ทำการชุมชนบ้านถ้ำผึ้ง ทุกๆ คนดีใจที่ถึงจุดหมายปลายทางเสียที ผู้ใหญ่บ้านออกมาต้อนรับคณะชาวเราอย่างมีไมตรีจิต เลี้ยงอาหารจากปิ่นโตที่ชาวบ้านที่เป็นสมาชิกนำมาครอบครัวละ 1 เถา ถึงอาหารจะเป็นอาหารพื้นบ้านจำพวกน้ำพริก ผัดผัก ผัดเผ็ด แกงส้ม แกงเขียวหวาน แกงจืดผักรวมแต่อร่อย แถมพืชผักที่นำมาทำอาหารปลอดสารพิษ ส่วนกิจกรรมภาคบ่ายเป็นการบรรยายถึงประวัติความเป็นมาของกลุ่มท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์บ้านถ้ำผึ้ง

“เหตุที่ชื่อว่าบ้านถ้ำผึ้ง เพราะว่าในหมู่บ้านแห่งนี้มีภูเขาลูกหนึ่งมีถ้ำ ภายในถ้ำมีผึ้งทำรังอาศัยอยู่มาก ชาวบ้านส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม เช่น ทำสวนยางพารา สวนกาแฟ สวนผลไม้ มีทรัพยากรที่โดดเด่นหลากหลายสวยงาม ชุมชนจึงรวมกลุ่มพัฒนาเป็น ‘ชุมชนเพื่อการท่องเที่ยว’ สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญในชุมชนบ้านถ้ำผึ้ง คือ พุน้ำเย็นบึงมหัศจรรย์น้ำดันทรายดูด มีความลึกประมาณ 4 เมตร ในยามปกติน้ำในบึงจะนิ่งสงบ หากมีแรงสั่นเช่น ปรบมือ ผิวน้ำในบึงจะปรากฏแรงดันกระเพื่อมผุดขึ้นปุดๆ เหมือนน้ำกำลังเดือด บ้านถ้ำผึ้งมีป่าต้นน้ำอันอุดมสมบูรณ์”

หลังจากที่ผู้ใหญ่บ้านเล่าเรื่องราวในชุมชนบ้านถ้ำผึ้งเสร็จสิ้น ได้เวลาแยกย้ายกันไปตามบ้านพักโฮมสเตย์ กลุ่มของผมมีเบียร์ นัท เจฟ ต้อ และพวกผู้หญิงรวมสิบกว่าชีวิต บ้านพักโฮมสเตย์มีชื่อว่าบ้านสวนภูตะวันเป็นของพี่เขียวและภรรยา การเดินทางไปบ้านสวนภูตะวันใช้รถกระบะของพี่เขียวเป็นยานพาหนะ ยามที่รถแล่นได้พัดพาลมอากาศบริสุทธิ์ ผมรู้สึกว่ามันสะอาดยิ่งกว่าอากาศย่านเขาท่าเพชรเสียอีก สวนภูตะวันของพี่เขียวสวยงามาก สวนติดกับภูเขาหินปุนที่ทอดยาวราวกับกำแพงมหึมาอุดมสมบูรณ์ด้วยแมกไม้เขียวครึ้ม บริเวณสวนกว้างขวางแบ่งออกเป็น 3 ส่วนได้แก่ ส่วนบ้านพักของพี่เขียวและครอบครัวอยู่ใกล้รั้วทางเข้าสวน ส่วนที่สองเป็นสวนผลไม้อยู่ถัดจากบ้านพี่เขียว ผลไม้กำลังออกผลให้ชวนลิ้มลองอย่าง เงาะ ส้มโชกุน ลองกองและผลไม้ที่ไม่คอยได้พบเจอคือ ละไมเป็นผลไม้ลูกผสมระหว่างลองกองกับลางสาด ส่วนที่ 3 เป็นที่พักโฮมสเตย์มีเรือนพัก 2 หลัง เรือนพักหลังแรกมีขนาดใหญ่พอควรเป็นสามเหลี่ยมหลังคาสีฟ้า พี่เขียวกำหนดเรือนพักหลังนี้ให้พวกเพื่อนผู้หญิงพัก ส่วนเรือนพักของผมและพวกผู้ชายเป็นกระท่อมขนาดเล็กตั้งอยู่บนชะง่อนผา ผมและเพื่อนๆ แยกย้ายกันไปเก็บสัมภาระ ผมขึ้นไปกระท่อมวางกระเป๋าเสร็จลงมาถ่ายภาพธรรมชาติ สักครู่ต่อมา... พี่เขียวพาผมและเพื่อนๆ ไปเล่นน้ำในลำธารข้างสวนภูตะวัน น้ำในลำธารใสสะอาดและเย็นสดชื่น ผมเล่นน้ำร่วมกับเพื่อนๆ อย่างสนุกสนานโดยมีพวกผู้หญิงส่วนหนึ่งนั่งเฝ้าเสื้อผ้าและสิ่งของสำคัญให้เพราะพวกหล่อนมีวันนั้นของเดือนไม่อาจจะลงเล่นน้ำได้ ผมดำน้ำแล้วโผล่ขึ้นมา

“เฮ้ย! แบงค์ แว่นตาหายไปไหนแล้ว” จี๊ดทักขึ้นมาขณะนั่งเฝ้าอยู่บนฝั่ง

“เออวะ แล้วหายไปไหนเนี่ย” ผมลนลานรีบหาแว่นตา คาดว่ามันน่าจะหล่นตรงที่ผมดำน้ำ เจฟดำน้ำหาแว่นผม เขาควานหาแว่นในน้ำจนเจอ

“คิดจะเล่นน้ำ ต้องถอดแว่นนะ” เจฟเตือนผมแล้วสวมแว่นตาให้ผม

“ขอบใจนะ” ผมยิ้มเล็กน้อยแล้วเดินฝ่าสายธาร ถอดแว่นแล้วนำไปฝากไว้กับจี๊ด จากนั้นเล่นน้ำต่ออีกสักพักจนได้เวลา พวกที่เล่นน้ำขึ้นจากเดินกลับไปสวนภูตะวันพร้อมกับพวกที่อยู่บนฝั่ง เมื่อถึงไร่ทุกๆ คนอาบน้ำสะอาดอีกรอบแล้วเปลี่ยนเสื้อผ้ามารวมตัวกันที่ศาลาเอนกประสงค์เพื่อรอรับประทานอาหารมื้อเย็น ผมถือโอกาสถ่ายภาพเก็บไว้ ผมถ่ายภาพกับเจฟไว้หลายรูปโดยไหว้วานเบียร์เป็นช่างภาพจำเป็น โดยที่ผมและเบียร์มีข้อตกลงใช้กล้องดิจิตอลร่วมกัน มาเที่ยวครั้งนี้ดูเหมือนว่า ผมกับเจฟได้โอกาสใกล้ชิดกันอีก ทว่าความชิงชังที่มีมาแต่หนหลังกลายเป็นปราการแข็งแกร่ง จะทำให้ผมกับเขามาดีและสนิทสนมคุ้นเคยเช่นเดิมได้หรือไม่