ได้แต่แอบรักเธออยู่ในใจ เพราะเราไม่มีอะไรดีเลย
ชาย-ชาย,รัก,ดราม่า,รั้วโรงเรียน,ไทย,yaoi,แอบรักรุ่นพี่,นักศึกษา,ภาคใต้,รักเพื่อน,อกหัก,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
น้ำค้างมองพระจันทร์ได้แต่แอบรักเธออยู่ในใจ เพราะเราไม่มีอะไรดีเลย
คนบางคนมีค่าไว้พียงแค่มอง
เราไม่มีสิทธิ์เป็นเจ้าของ
ดั่งกระต่ายที่หมายพระจันทร์
คนบางคนมีค่าสูงส่ง
แต่ตีคุณค่าของตนเองไว้ต่ำต้อย
ทั้งๆ ที่บริสุทธิ์งดงามดั่งน้ำค้าง
คนบางคนซื๋อตรงต่อใจตนเอง
ดั่งพระอาทิตย์ที่มอบแสงสว่าง
และความอบอุ่นเท่าเทียมกัน
ความสัมพันธ์ระหว่างผม เจฟ และพี่ตงยังคงคุลมเครือเหมือนท้องฟ้าสีหม่นในวันเปิดเรียนวันแรกของภาคเรียนที่ 2 ผมกั๊กพี่ตงไว้อยู่ในส่วนลึกของจิตใจ ในขณะเดียวกัน ผมรู้สึกกับเจฟเกินเลยคำว่าเพื่อนไปเสียแล้ว ก่อนหน้านั้นรอยยิ้มที่เผยฟันไม่เป็นระเบียบไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกพิเศษอะไรเลย หากบัดนี้รอยยิ้มนั้นทำให้ผู้ฟังรู้สึกว่ามันมีคุณค่า ด้วยอำนาจแห่งความยับยั้งชั่งใจทำให้ผมไม่อาจเผยความจริงออกไปได้ ผมแสดงออกกับเจฟด้วยการเว้นระยะห่างความสัมพันธ์ ไม่วุ่นวาย ไม่สุงสิงกับเจฟ จนเขาสังเกตเห็นท่าทีของผม เขานัดผมให้ขึ้นมาคุยกัน ณ ศาลาจานบินในค่ำคืนวันที่ 3 ของภาคเรียนที่ 2
“ปิดเทอมไปเนี่ย แบงค์ไปทำอะไรมาบ้างล่ะ?” เจฟไต่ถาม
“อยู่บ้านเฉยๆ ไม่มีอะไรทำเป็นชิ้นเป็นอันหรอก มีเรื่องพิเศษนิดนึงตรงที่พี่นุซื้อรถเครื่องคันใหม่เป็นของขวัญที่เราเอ็นท์ติดหลังจากค้างไว้เทอมนึงเต็มๆ เจฟคงเห็นแล้วแหละ เพราะเราเอามาใช้ที่นี่” ผมตอบ รถจักรยานยนต์ที่พี่นุซื้อให้เป็นรถระบบออโตเมติกสีแดงขับขี่ง่าย
“ดูแบงค์เครียดๆ ไปนะ ไม่ยอมคุยกับเราเลย นี่ถ้าเราไม่ชวนออกมาคุยก็คงจะไม่ได้คุยกันอีก”
“เราคงจะเครียดกับการเรียนมั้ง เทอมนี้เจอวิชาที่ต้องใช้การคำนวณตั้ง 3-4 วิชา คนที่ทำกรรมกับคณิตศาสตร์อย่างเรากลัวว่าเวรกรรมจะย้อนมาเอาคืน” จะให้ผมบอกความจริงก็ใช่เรื่อง จึงต้องสร้างกรรมเพิ่มด้วยการโบ้ยไปให้คณิตศาสตร์เป็นจำเลยในชีวิตของผมอีกแล้ว
“แบงค์ต้องขยันให้มากกว่าเดิม แล้วเรื่องพี่ตงล่ะยังเป็นปัญหาอีกหรือเปล่า?”
“ไม่มีหรอก ช่วงนี้เราไม่ได้คิดถึงเรื่องนั้น เลยไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร มันเหมือนนิยายที่เขียนค้างเอาไว้ไม่รู้ว่าจะจบลงแบบใด” อันที่จริงแล้วนิยายรักของผมมันมาถึงจุดเปลี่ยนต่างหากล่ะ เปลี่ยนพระเอกจากพี่ตงมาเป็นเจฟ
หลังจากนั้น เราสองทั้งสองนิ่งเงียบไป ชมวิวทิวทัศน์ไปเรื่อยๆ เจฟยังคงชวนสนทนาโน่น นี่ นั่นทำลายความเงียบเป็นระยะๆ จนเราสองคนตัดสินใจกลับหอพักแยกย้ายสู่ห้องตนเอง
นับจากนั้นเป็นต้นมา ผมหนีใจตนเองด้วยการหลีกเร้นจากเจฟ ช่วงกลางวันที่มีเรียนขลุกตนเองอยู่กับพวกเพื่อนผู้หญิง หากไม่มีเรียนขลุกตนเองอยู่ในหอบรรณสารสนเทศเพื่ออ่านหนังสือหรือยึดห้องเกียรติภูมิมหาวิทยาลัยเป็นสำนักงานเพื่อใช้ในการเขียนนิยาย พอตกเย็นย่ำไปสิงสถิตอยู่ที่บ้านเช่าของชีทั้ง 4 คือ พี่เบลล์ พี่ฝ้าย พี่แก้ม และพี่ออยล์ ณ บ้านเช่าตรงปากทางเข้ามหาวิทยาลัย ผมตั้งชื่อให้สวยหรูว่าบ้านพิกุลทองเพราะหน้าบ้านปลูกต้นพิกุลเรียงรายแทนแนวรั้ว บางเวลาพี่ตงก็แวะมาหาเพื่อนๆ การที่ผมอยู่ที่บ้านพิกุลทองทำให้ผมมีตัวตนในสายตาของพี่เขา ผมทำอะไรให้มากกว่านี้คงไม่ได้นอกจากลอบมอง ทักทายเล็กน้อย หากวันไหนพี่ตงมากับพี่วรรณ ผมอยู่นิ่งๆ เพราะรู้สึกหวั่นๆ กับการประจัญหน้าพี่วรรณ ด้วยว่าหล่อนได้ล่วงรู้ความจริงนี้เข้าจากนางฟ้าใสซื่อของพี่ตงจะกลายเป็นจงอางที่คอยหวงไข่หรือไม่
ทุกอย่างมีจุดเริ่มต้นและย่อมมีจุดสิ้นสุด ความสัมพันธ์ของผมและพี่ตงมาถึงทางออกเสียทีหลังจากตันมาเนิ่นนาน ในค่ำคืนนั้นฝนที่ตกตั้งแต่ตอนเย็นซาและหยุดลง ผมพูดคุยสัพเพเหระกับพี่เบลล์ ดูละครวิจารณ์ละครอย่างออกอรรถรส พี่ฝ้ายไปดูภาพยนตร์กับปิ๊ก พี่แก้ม พี่ออยล์และพี่แป๊ะไปรับประทานอาหารเย็นกันตรงนิคมขุนทะเล ผมได้ยินเสียงรถจักรยานยนต์ ผมจำเสียงได้จึงลอบมองหลังผ้าม่านหน้าต่าง พี่ตงเดินมาเปิดประตูบ้าน
“แบงค์ออกมาคุยอะไรกับพี่หน่อยสิ” ผมรู้สึกตกใจที่วันนี้พี่ตงเป็นฝ่ายเรียกหาผมเอง แปลกใจจริงๆ งงจังเลย ผมลุกตามพี่ตงออกมานอกบ้านแล้วปิดประตู พี่เบลล์แอบมองจากลอดหน้าต่างบานเกล็ด ข้างนอกนั้นอากาศหนาวชื้นจากละอองฝน พี่ตงหยิบบุหรี่จากกระเป๋าเสื้อจุดไฟแช็กสูบมันเพื่อไล่ความหนาว (คำเตือน: การสูบบุหรี่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ)
“มีอะไรเหรอครับ?”
“แบงค์รักพี่ใช่ไหม” คำถามสั้นๆ จากผู้ชายที่ชื่อตงเป็นคำถามที่ตรงไปตรงมา คงถึงวาระของมันแล้วกระมัง ผมจะต้องพูดความจริงเสียที
“” ครับ ผมรักพี่ตง” ผมสารภาพโดยไม่มองหน้าเขา
“อย่ารักพี่ในแบบคนรักเลยนะแบงค์” ควันบุหรี่ที่พี่เขาพ่นออกมาทำให้ดูราวกับว่าบ้านพิกุลทองคือดินแดนแห่งความหนาวเหน็บจะพูดจะจากันเป็นไอเป็นควัน ผมคาดเดาคำตอบได้อย่างถูกต้อง ดีมากแค่ไหนแล้วที่พี่เขาไม่ไล่ตะเพิดผมออกไปจากของพี่เขา “พี่ไม่ได้เป็นเกย์ พี่รักผู้หญิงและมีแฟนอยู่แล้ว แบงค์อย่าเสียใจ อย่าฟูมฟาย ตีอกชกตัวเองโทษโชคชะตาตนเอง หากแม้แบงค์จะเป็นผู้หญิง พี่ก็เก็บความรักของแบงค์ไว้ไม่ได้ เพราะความรักนั้นไม่ถูกต้อง รักสามเส้ามันเจ็บกันทุกคน ส่วนจะรักพี่ข้างเดียวต่อไปหรือไม่นั้นสุดแท้แล้วแต่แบงค์ ถ้าแบงค์มึความสุขอยู่กับการรักพี่ก็รักต่อไป หากทุกข์ทรมานใจเพราะความรักข้างเดียวก็อย่าเลย บาปกรรมเสียเปล่า”
คำตอบจากปากพี่ตงทำให้ผมนิ่งเงียบ พี่เขาเป็นคนดีที่ผมไม่มีโอกาสได้มาเป็นแฟน พี่ตงบอกในสิ่งที่ควรแล้วจากไป ปล่อยให้ผมคิดไตร่ตรอง ควรพอหรือรอต่อไป? มันคำถามที่ผมต้องหาคำตอบให้ตนเอง ในเมื่อพี่ตงไม่ได้ให้ความหวังอะไรกับผม แล้วจะรออะไรอีก ผมประมวลเหตุการณ์ทั้งหมดทั้งมวลจากจุดเริ่มต้นมาถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมาประเดี๋ยว พี่ตงไม่ได้ให้ความรักหรือแม้กระทั่งความหวังแก่ผม แล้วผมจะสร้างวิมานลอยไว้ในอากาศทำไมกัน