ได้แต่แอบรักเธออยู่ในใจ เพราะเราไม่มีอะไรดีเลย

น้ำค้างมองพระจันทร์ - 5 สายใยรักสายใยม่วงแดง (มัชฌิมบท) โดย กัลปังหา @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ชาย-ชาย,รัก,ดราม่า,รั้วโรงเรียน,ไทย,yaoi,แอบรักรุ่นพี่,นักศึกษา,ภาคใต้,รักเพื่อน,อกหัก,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

น้ำค้างมองพระจันทร์

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ชาย-ชาย,รัก,ดราม่า,รั้วโรงเรียน,ไทย

แท็คที่เกี่ยวข้อง

yaoi,แอบรักรุ่นพี่,นักศึกษา,ภาคใต้,รักเพื่อน,อกหัก

รายละเอียด

 น้ำค้างมองพระจันทร์ โดย กัลปังหา @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ได้แต่แอบรักเธออยู่ในใจ เพราะเราไม่มีอะไรดีเลย

ผู้แต่ง

กัลปังหา

เรื่องย่อ

คนบางคนมีค่าไว้พียงแค่มอง

เราไม่มีสิทธิ์เป็นเจ้าของ

ดั่งกระต่ายที่หมายพระจันทร์

คนบางคนมีค่าสูงส่ง

แต่ตีคุณค่าของตนเองไว้ต่ำต้อย

ทั้งๆ ที่บริสุทธิ์งดงามดั่งน้ำค้าง

คนบางคนซื๋อตรงต่อใจตนเอง

ดั่งพระอาทิตย์ที่มอบแสงสว่าง

และความอบอุ่นเท่าเทียมกัน

สารบัญ

น้ำค้างมองพระจันทร์-บทนำ ผู้ชายในฝัน, น้ำค้างมองพระจันทร์-1 แรกพบ, น้ำค้างมองพระจันทร์-2 สายใยรักสายใยม่วงแดง (ปฐมบท), น้ำค้างมองพระจันทร์-3 ฤทธาน้ำล้างรองเท้า, น้ำค้างมองพระจันทร์-4 รับน้องหฤโหด?, น้ำค้างมองพระจันทร์-5 สายใยรักสายใยม่วงแดง (มัชฌิมบท), น้ำค้างมองพระจันทร์-6 สายใยรักสายใยม่วงแดง (ปัจฉิมบท), น้ำค้างมองพระจันทร์-7 เธอจะอยู่กับฉันตลอดไป, น้ำค้างมองพระจันทร์-8 รักในสายฝน, น้ำค้างมองพระจันทร์-9 เฟรชชี่ไนท์, น้ำค้างมองพระจันทร์-10 ใจบางบาง, น้ำค้างมองพระจันทร์-11 ข่าวร้าย, น้ำค้างมองพระจันทร์-12 ขอจองในใจ, น้ำค้างมองพระจันทร์-13 ไม่แน่ใจ, น้ำค้างมองพระจันทร์-14 เพื่อนสนิท, น้ำค้างมองพระจันทร์-15 Sport Night, น้ำค้างมองพระจันทร์-16 Happy Birthday, น้ำค้างมองพระจันทร์-17 ไดอะรี่สีแดง, น้ำค้างมองพระจันทร์-18 ทิ้ง, น้ำค้างมองพระจันทร์-19 ความลับในใจ, น้ำค้างมองพระจันทร์-20 กรุงชิงทิ้งรัก, น้ำค้างมองพระจันทร์-21 ช้ำรักพักเกาะสมุย, น้ำค้างมองพระจันทร์-22 นิยายรักขาดตอน, น้ำค้างมองพระจันทร์-23 เลิกกัน, น้ำค้างมองพระจันทร์-24 คลับซ่าสะพายเป้, น้ำค้างมองพระจันทร์-25 วิมานดิน, น้ำค้างมองพระจันทร์-26 สารภาพ, น้ำค้างมองพระจันทร์-27 จะมาไหม?, น้ำค้างมองพระจันทร์-28 หาดทราย สายลม สองเรา, น้ำค้างมองพระจันทร์-29 คู่ชีวิต, น้ำค้างมองพระจันทร์-จบ Leaving On a Jet Plane.

เนื้อหา

5 สายใยรักสายใยม่วงแดง (มัชฌิมบท)

“ก้มหน้า... ก้มหน้าลงเดี๋ยวนี้” เสียงขู่ตะคอกยังคงดังต่อเนื่อง ผมตกใจจนตัวสั่นราวกับหมูที่มาถึงโรงเชือดเพียงแค่เห็นประตูทางเข้าก็ตกใจกลัวจนอุจจาระหดตดหายแล้ว

“แต่ละคนเข้ามาอยู่นี่ เอาแต่หนุกกับหรอยลูกเดียว ไม่สาไหรเลย เห็นรุ่นพี่ก็ไม่ไหว้ เห็นอาจารย์ก็ไม่ไหว้ ที่แรงหว่านั้นคือเห็นพระรูปพระบิดาก็ไม่แสดงเคารพเจริญแล้ว” พวกปีหนึ่งโดนตำหนิด้วยสำเนียงภาษาท้องถิ่น ทำให้ผมนึกย้อนถึงตนเอง มันก็เป็นอย่างที่เขาว่าจริงๆ ผมคงจะต้องปรับปรุงตนเอง เสียงว๊ากโหวกเหวกดังลั่นห้องประชุมอย่างต่อเนื่อง พอผมนั่งก้มหน้านานเลือดเริ่มไปเลี้ยงสมองไม่ทันผลลัพธ์คือผมเวียนศีรษะ หน้ามืด

“แบงค์ไหวมั้ย?” พี่หมอแฟนหนุ่มของพี่กระดิ่งเข้ามาถาม อันที่จริงแล้วพี่แกชื่อต้า แต่เพื่อนๆ แกลงความเห็นกันว่าแก่หน้าตากระเดียดไปทางพิมพ์นิยมของนักศึกษาแพทย์จึงเรียกว่าหมอมาตลอด พอหลังจากที่ได้คุยกันแล้ว แกตั้งใจจะเรียนหมอนั่นแหละแต่คะแนนไม่ถึง เลยได้เรียนที่นี่แทน “ถ้าไม่ไหวก็ไม่ต้องทน อาการเราดูไม่ดีเลย”

“ครับพี่” ผมลุกขึ้นยืนอย่างโซซัดโซเซและลอบมองไปรอบๆ เพื่อนๆ นั่งก้มหน้าอยู่ในอาการสงบ แสงไฟสีสัมสลัวๆ สร้างบรรยากาศให้น่ากลัว ผมเดินออกไปข้างนอกห้องประชุมโดยมีพี่หมอแฟนพี่กระดิ่งคอยประครอง บรรยากาศข้างนอกกับข้างในนั่นแตกต่างกันอย่างลิบลับ แสงไฟสว่างทั่วทุกบริเวณ พวกรุ่นพี่นั่งจับกลุ่มคุยกัน หน่วยพยาบาลตั้งขึ้นอย่างเรียบง่ายบนเสื่อ พี่กระดิ่งเอาก้อนสำลีชุบแอมโมเนียมาให้ผมดม กลิ่นของมันทำให้ผมรู้สึกหายจากอาการป่วยได้ชะงัด ผมนั่งสงบๆ ฟังรุ่นพี่เขาสนทนาปราศรัยกัน เรื่องราวที่พูดคุยกันก็เป็นเรื่องในมหาวิทยาลัย ความหฤโหดของการรับน้องที่พวกพี่ๆ เจอกันมา การเรียนความยากง่ายของแต่ละรายวิชา ใครไม่ถูกกับใคร ใครรักชอบกับใครอะไรทำนองนี้ ผมเริ่มสนิทสนมกับรุ่นพี่เพื่อนๆ พี่กรพดิ่งและพี่หมอซึ่งมีพี่อาย พี่ชี้ค พี่สปัน และพี่ตง ผ่านไปสักพักมีเสียงฝีเท้าของคนจำนวนมากวิ่งเล็ดลอดออกมาจากห้องประชุม

“เอาแล้วเว้ย! วันแรกมันก็เล่นซะแล้ว” พี่ตงสบถ ผมไม่เข้าใจความหมายที่พี่เขาพูด หลังจากนั้นก็มีพี่ไซโคคนหนึ่งเปิดประตูเดินออกมาข้างนอก

“พยาบาลๆ อู้งานจัง ไปเอาน้องออกมาเร็ว” นั่นแปลว่าข้างในมีเหตุการณ์อะไรบางอย่างเกิดขึ้น เพื่อนๆ ผมคนใดคนหนึ่งไม่สบายขึ้นมา พวกพี่ที่ทำหน้าที่พยาบาลจำนวน 2 คนลุกขึ้นตามพี่ไซโคเข้าสู่ห้องประชุม สักครู่พี่ๆ หามเพื่อนผู้หญิงคนหนึ่งออกมา พอผมได้เห็นหน้าเธอก็ตกใจเพราะผู้หญิงคนนี้คือ ขวัญเพื่อนในสาขาวจก. มาจากโรงเรียนเดียวกันกับผม อาการของเธอน่าเป็นห่วงเพราะเธอปกปิดเรื่องการป่วยเป็นโรคหอบไว้ เมื่อประสบพบเจอกับสิ่งที่น่าตื่นตระหนกตกใจอาการของโรคเลยกำเริบขึ้น พวกเพื่อนๆ ที่ไม่สบายออกตามกันมา เวลาผ่านไปได้หนึ่งชั่วโมงกลุ่มพี่ไซโคออกมาพักผ่อนให้พี่ๆ กรมเจ้าท่าเข้าไปปลอบโยนเพื่อนๆ ที่อยู่ข้างใน และผ่านไปอีกครึ่งชั่วโมงกลับมาอีกรอบและเป็นรอบสุดท้ายของวันนี้ พรุ่งที่เก่าเวลาเดิมจึงเริ่มต้นขึ้นใหม่ พวกเพื่อนๆ ชาย-หญิงตั้งแถวเดินกลับหอพักบนเนินเขา ส่วนผมและเพื่อนๆ ที่ป่วยได้รับสิทธิพิเศษมีรุ่นพี่ขี่รถจักรยานยนต์ไปส่งถึงหอพัก สารถีที่ควบรถจักรยานยนต์ไปส่งผมคือพี่ตงหนุ่มตี๋เมืองตรัง บ้านอยู่บางรัก ผมแอบคิดอยู่ในใจว่าเขาน่ารักดี ผมนั่งซ้อนท้ายรถพี่เขามาจนถึงหน้าประตูเข้าหอพัก ผมไม่ลืมที่จะไหว้ขอบคุณ

“ไม่ต้องไหว้หรอก พี่ไปก่อนล่ะ”

“ขับรถดีๆ นะพี่” ผมยืนส่งพี่ตงและถือโอกาสรอเพื่อนๆ ที่กำลังเดินมา บรรยากาศรอบๆ ตัวผมมีแต่ความเงียบ มองไปทางหออื่นๆ มีแสงไฟแต่ไร้ความเคลื่อนไหวใดๆ

“มาก่อนเป็นพี่ มาหลังเป็นน้อง มาพร้อมเป็นเพื่อน” แว่วเสียงเพื่อนๆ ที่กำลังเดินอยู่ใกล้จะมาถึงแล้ว เสียงท่องบ่นนั้นชัดขึ้นเรื่อยๆ จนผมเห็นว่าพวกเขาทั้งหมดหยุดอยู่บริเวณหลังหอ 3 ส่วนพวกผู้หญิงกลับเข้าหอพักของตนเอง พวกพี่ไซโคที่คุมแถวมายังไม่ปล่อยกลุ่มเพื่อนผู้ชายมีการพูดอะไรบางอย่างเล็กน้อย

เจฟยืนคุยโทรศัพท์อยู่ตรงหลังระเบียงห้อง 5401 ผมและเพื่อนๆ อย่างแม็ค วิทย์ และเอกำลังดูรายการโทรทัศน์ ผมคอยชำเลืองมองเจฟอยู่เรื่อยๆ จนเมื่อเขาคุยโทรศัพท์เสร็จ ผมชงช็อคโกแลตร้อน 2 แก้วเพื่อตนเองและเจฟ

“ทำอะไรอยู่เจฟ” เขายืนมองทิวทัศน์ในยามราตรีนิ่งๆ ผมส่งเสียงให้เขารู้ตัว “อากาศภูเขาเย็น ประเดี๋ยวก็เป็นหวัดหรอก”

“ก็ดูวิวไปเรื่อยๆ” เจฟพูดปดไม่เก่งเอาเสียเลย คำพูดกับสีหน้าของเขาสวนทางกัน

“ดื่มสักหน่อย” ผมยื่นแก้วช็อคโกแลตให้ “เจฟรู้ไหม เจฟโกหกไม่เนียน”

“เรามีปัญหากับแฟน” เจฟจิบช็อคโกแลตร้อนแล้วเกริ่นเรื่องที่ทำให้เขาไม่สบายใจ “เราติดต่อกับฝ้ายไม่ได้เลย เพื่อนที่หาดใหญ่บอกว่าฝ้ายกับคบหากับเพื่อนผู้ชายในคณะนิติ”

“เราไม่เคยรู้มาก่อนว่าเจฟมีแฟนแล้ว” ผมรู้สึกใจแป้วยังไงก้ไม่ทราบเมื่อเขาเอ่ยถึงเรื่องแฟน

“เราพยายามติดต่อฝ้ายแต่ฝ้ายก็ไม่ยอมรับสายเรา พอคุยกันได้ไม่กี่คำก็ตัดบทอ้างว่ามีกิจกรรม เรียนหนัก สารพัดสารพันเพื่อเลี่ยงไม่พูดกับเรา ถ้าต้องเลิกกันจริงก็น่าเสียดายวันเวลาที่รู้จักกัน” เจฟจิบช็อคโกแลตร้อน สายตาของเขาทอดมองทิวทัศน์ ไกลลิบๆ เห็นแสงไฟเรืองรองของถนนสุราษฏร์-นาสาร รถราวิ่งสาดแสงไฟเป็นสาย

“อย่างน้อยความรักก็เคยทำให้เจฟมีความสุขไม่ใช่เหรอ?”

“ใช่ เราอยากรู้ว่าเราผิดอะไร ฝ้ายถึงได้นอกใจเรา”

“เจฟไม่ได้ผิดอะไร เราไม่รู้หรอกนะว่าฝ้ายเป็นยังไง ถ้าฝ้ายเปลี่ยนไปเจฟก็ต้องทำใจ ชีวิตต้องเดินต่อไป” ผมสามารถให้คำปรึกษาได้เท่านี้เพราะผมไม่ได้รู้จักฝ้ายคลุกคลีอยู่กับเจฟเลยเหมือนฟังความข้างเดียว

“แบงค์พูดยังกะคนเคยมีความรัก เอ... หรือว่าตอนนี้กำลังมีอยู่ พอจะเล่าได้ไหมเราอยากรู้” กลายเป็นว่าจากที่พูดเรื่องความรักของเจฟพลิกมาเป็นความรักของผมแทน

“เราไม่บอก ยังไงก็ไม่บอก” ผมเดินหนีเจฟเพราะไม่อยากจะเล่าเรื่องความรักของผม เขาจะรู้ว่าผมไม่ใช่บุรุษผู้ปรารถนาอิตถีเพศ เจฟจะเปลี่ยนไปไหม

“ผู้หญิงหรือผู้ชาย?” เจฟซักถาม ดวงตาของเขาแววเป็นประกาย จากการซักถามธรรมดาเริ่มกลายเป็นการซักฟอกไปเสียแล้ว “ตอนนี้ยังรักกันหรือเลิกกันแล้ว”

“เราไม่บอก เราจะกลับห้องไปนอนแล้ว” ผมเดินเข้ามาในห้องวางแก้วที่เคยมีช็อคโกแลตร้อนข้างโทรทัศน์แล้วเดินออกจากห้อง มีเจฟเดินตามมาติดๆ

“แม็ค มึงคิดเหมือนกูหรือเปล่า?” วิทย์มองผมและเจฟก่อนที่จะเอ่ยถามแม็ค

“กูก็คิดเหมือนมึง” แม็คตอบ สายตาเขาเลี่ยงที่จะไม่มองผมและเจฟเหมือนอย่างวิทย์ เขาเลือกที่จะดูโทรทัศน์มากกว่า “พอเหอะ ดูทีวีดีกว่า”

“แบงค์ขี้โกง! เราอุตส่าห์เล่าเรื่องฝ้ายให้แบงค์ฟัง ถ้าแบงค์ไม่บอกเราตายตาไม่หลับนะ” เจฟยังเซ้าซี้ไม่หยุด ผมไขกุญแจห้อง ต้องชะงักกับภาพของมดโซ้ยบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปตรงโต๊ะอ่านหนังสือ ผมเห็นภาพนี้ทุกคืนจนต้องเรียกว่าเป็นกิจวัตรประจำของมด

“เจฟจะนอนตายตาไม่หลับก็เรื่องของเจฟ เอาเป็นว่าขอบใจนะที่มาส่ง ราตรีสวัสดิ์” ผมตัดบทอำลาเจฟแล้วปิดประตูห้อง พูดคุยกับมดเล็กน้อย เขียนไดอะรี่เล็กน้อยแล้วก็หลับไป

คืนนี้ผมฝันประหลาดไป ผมฝันว่าพี่ตงขับรถจักรยานยนต์คันเดิมมารับผมไปสถานที่แห่งหนึ่ง ที่แห่งนี้เป็นภูเขาแต่มันไม่เหมือนเขาท่าเพชร ทิวทัศน์บนภูเขางดงาม ไอหมอกเย็นละเลียดร่างกายผมเพียงแค่เอื้อมมือถึง พี่ตงสวมมกอดผมไออุ่นจากร่างของพี่เขาละลายไอเย็นของหมอกให้หายไป

“พี่รักแบงค์” พี่ตงกระซิบเบาๆ ตรงหูของผม ประโยคสั้นๆ แต่มีความหมายเหลือล้น

“เรารักกันได้จริงๆ เหรอครับ?” ผมรู้สึกไม่แน่ใจอะไรเลยสักอย่าง ผมผ่านความรักที่ผิดหวังมาแล้ว ถ้าหากความรักของผมสมหวัง ผมและพี่ตงจะต้องเผชิญหน้ากับอุปสรรคร้อยแปดพันเก้าเพราะโลกใบนี้ไม่ได้มีแต่ผมและพี่เขาอยู่กันเพียงสองคน

“รักกันได้สิ ถ้าเป็นเรื่องหน้าตาก็ไม่เป็นปัญหา ส่วนเรื่องอื่นๆ ที่ยังมาไม่ถึงเราสองคนค่อยๆ คิดค่อยๆ แก้กันไป เราสองคนจะเดินไปด้วยกัน” พี่ตงตอบความจริงใจ