ได้แต่แอบรักเธออยู่ในใจ เพราะเราไม่มีอะไรดีเลย

น้ำค้างมองพระจันทร์ - 17 ไดอะรี่สีแดง โดย กัลปังหา @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ชาย-ชาย,รัก,ดราม่า,รั้วโรงเรียน,ไทย,yaoi,แอบรักรุ่นพี่,นักศึกษา,ภาคใต้,รักเพื่อน,อกหัก,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

น้ำค้างมองพระจันทร์

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ชาย-ชาย,รัก,ดราม่า,รั้วโรงเรียน,ไทย

แท็คที่เกี่ยวข้อง

yaoi,แอบรักรุ่นพี่,นักศึกษา,ภาคใต้,รักเพื่อน,อกหัก

รายละเอียด

 น้ำค้างมองพระจันทร์ โดย กัลปังหา @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ได้แต่แอบรักเธออยู่ในใจ เพราะเราไม่มีอะไรดีเลย

ผู้แต่ง

กัลปังหา

เรื่องย่อ

คนบางคนมีค่าไว้พียงแค่มอง

เราไม่มีสิทธิ์เป็นเจ้าของ

ดั่งกระต่ายที่หมายพระจันทร์

คนบางคนมีค่าสูงส่ง

แต่ตีคุณค่าของตนเองไว้ต่ำต้อย

ทั้งๆ ที่บริสุทธิ์งดงามดั่งน้ำค้าง

คนบางคนซื๋อตรงต่อใจตนเอง

ดั่งพระอาทิตย์ที่มอบแสงสว่าง

และความอบอุ่นเท่าเทียมกัน

สารบัญ

น้ำค้างมองพระจันทร์-บทนำ ผู้ชายในฝัน, น้ำค้างมองพระจันทร์-1 แรกพบ, น้ำค้างมองพระจันทร์-2 สายใยรักสายใยม่วงแดง (ปฐมบท), น้ำค้างมองพระจันทร์-3 ฤทธาน้ำล้างรองเท้า, น้ำค้างมองพระจันทร์-4 รับน้องหฤโหด?, น้ำค้างมองพระจันทร์-5 สายใยรักสายใยม่วงแดง (มัชฌิมบท), น้ำค้างมองพระจันทร์-6 สายใยรักสายใยม่วงแดง (ปัจฉิมบท), น้ำค้างมองพระจันทร์-7 เธอจะอยู่กับฉันตลอดไป, น้ำค้างมองพระจันทร์-8 รักในสายฝน, น้ำค้างมองพระจันทร์-9 เฟรชชี่ไนท์, น้ำค้างมองพระจันทร์-10 ใจบางบาง, น้ำค้างมองพระจันทร์-11 ข่าวร้าย, น้ำค้างมองพระจันทร์-12 ขอจองในใจ, น้ำค้างมองพระจันทร์-13 ไม่แน่ใจ, น้ำค้างมองพระจันทร์-14 เพื่อนสนิท, น้ำค้างมองพระจันทร์-15 Sport Night, น้ำค้างมองพระจันทร์-16 Happy Birthday, น้ำค้างมองพระจันทร์-17 ไดอะรี่สีแดง, น้ำค้างมองพระจันทร์-18 ทิ้ง, น้ำค้างมองพระจันทร์-19 ความลับในใจ, น้ำค้างมองพระจันทร์-20 กรุงชิงทิ้งรัก, น้ำค้างมองพระจันทร์-21 ช้ำรักพักเกาะสมุย, น้ำค้างมองพระจันทร์-22 นิยายรักขาดตอน, น้ำค้างมองพระจันทร์-23 เลิกกัน, น้ำค้างมองพระจันทร์-24 คลับซ่าสะพายเป้, น้ำค้างมองพระจันทร์-25 วิมานดิน, น้ำค้างมองพระจันทร์-26 สารภาพ, น้ำค้างมองพระจันทร์-27 จะมาไหม?, น้ำค้างมองพระจันทร์-28 หาดทราย สายลม สองเรา, น้ำค้างมองพระจันทร์-29 คู่ชีวิต, น้ำค้างมองพระจันทร์-จบ Leaving On a Jet Plane.

เนื้อหา

17 ไดอะรี่สีแดง

ผมใช้ประโยชน์จากสมุดไดอะรี่สีแดงที่เจฟให้มาด้วยเขียนบันทึกเรื่องราวต่างๆ ตั้งแต่วันแรกที่มาใช้ชีวิตในมหาวิทยาลัยแห่งนี้ รวมไปถึงเรื่องราวของความรักที่ประสบพบเจอมาและความรักที่แอบซ่อนอยู่ในขณะนี้ พอพ้นช่วงวันเกิดของผมไปไปได้สัปดาห์กว่าๆ ถึงช่วงสอบกลางภาค เป็นไปอย่างที่ป้าชุว่า ความเหนื่อยอย่างที่สองเริ่มต้นขึ้นแล้ว ผมทบทวนตำราเรียน ท่องหนังสือ เอกสารการเรียนอย่างบ้าคลั่ง ทดลองทำโจทย์คณิตศาสตร์ การไปสิงบ้านพิกุลทองต้องยุติไว้ชั่วคราว อย่างไรก็ตาม การมาอ่านหนังสือก่อนเวลาสอบ 10 กว่าชั่วโมงมันไม่ได้ช่วยอะไรให้ดีขึ้นมาเลย เสมือนเรือล่มเมื่อจอด ตาบอดเมื่อแก่เสียมากกว่า

26 ธันวาคม แรงโยกของเตียงสองชั้นปลุกผมตื่นขึ้นจากความฝัน ผมรู้สึกหงุดหงิดระคนโมโห มดพัฒนาจากเพียงนอนกรนเป็นนอนดิ้นแล้วหรือนี่ ผมมองเวลาที่นาฬิกาปลุก ขณะนี้ 8 โมงเช้าแล้วผมจึงไปหยิบอุปกรณ์อาบน้ำเพื่ออาบน้ำแต่งชุดนักศึกษาเพื่อไปสอบในเวลาเก้าโมงเช้า

หน้าห้อง 500 ก่อนเวลาสอบคลาคล่ำไปด้วยนักศึกษาที่จับกลุ่มกัน อยู่คนเดียวบ้าง แต่ละคนมีอากัปกิริยาแตกต่างกันไป ที่อยู่กันเป็นกลุ่มพูดคุยกันสัพเพเหระ บางคนอาราธนาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายอาทิเช่น พระราชบิดา พระภูมิเจ้าที่ เจ้าป่าเจ้าเขา มาเป็นขวัญกำลังใจในการสอบ บางคนยังคงอ่านเอกสารประกอบการเรียนอย่างเอาเป็นเอาตาย

“นี่ๆ เน่า แกรู้ยัง? เมื่อตอนแปดโมงมีแผ่นดินไหว” แก้วรีบบอกกับผมทันทีเมื่อผมมาสมทบกับเพื่อนๆ ที่จับกลุ่มคุยกัน

“จริงเหรอ? เรานึกว่ามดนอนดิ้นซะอีก ฉันยังนึกโกรธมันอยู่เลย” ผมพูดคุยกันเพื่อนๆ อีกเล็กน้อย อาจารย์ผู้คุมสอบเปิดประตูห้อง 500 ถึงเวลาที่ผมเป็นหมูโดนเชือดอีกแล้ว ผมถอนหายใจเดินเข้าไปในห้องหาเลขรหัสที่นั่งของตนเองแล้วเดินไปนั่ง สักครู่ทุกคนที่ได้ที่นั่งและข้อสอบเป็นของตนเองแล้วเงียบสงบลงจดจ่ออยู่กับการสอบ จนเวลาผ่านไปเกือบ 11 โมง พวกนักศึกษาที่สอบเสร็จแล้วรอเพื่อนๆ ตรงหน้าห้องสอบพูดคุยเอะอะวินาศสันตะโร จนอาจารย์สันติสวมหัวโขนของพี่ไซโคว้ากขับไล่พวกที่อยู่นอกห้องให้พ้นไปจากอาณาบริเวณห้อง 500 เมื่อผมส่งข้อสอบเดินออกมาจากห้อง ผมตามหาเพื่อนๆ จนมาพบอยู่ตรงลานตึกเกือกม้า พวกหล่อนและเขาทั้งหลายกำลังจับกลุ่มกันพูดคุยอะไรบางอย่างที่เคร่งเครียดน่าดู

“เกิดเรื่องใหญ่แล้วนะแบงค์ ซูนามิถล่มจังหวัดชายฝั่งอันดามัน” เจฟบอกกับผมทันทีเมื่อผมเดินมาสมทบกับกลุ่มเพื่อน

“จริงเหรอ?” ผมตกใจเพราะหลายปีที่ผ่านมามีคำทำนายว่าจะเกิดคลื่นยักษ์ซูนามิถล่มชายฝั่งประเทศไทยจะสร้างความเสียหายทั้งชีวิตและทรัพย์สิน มีทั้งคนที่เชื่อและไม่เชื่อ ผมไม่คาดคิดว่าวันนี้จะเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นจริงๆ

“ความเสียหายยังไม่ทราบแน่ชัด ต้องติดตามข่าวไปเรื่อยๆ “ดายืนยันว่าคลื่นยักษ์ได้ถล่มชายฝั่งอันดามันจริงๆ ผมมองไปยังเพื่อนๆ แต่ละคนแสดงสีหน้าตกใจระคนกังวล กลุ่มนักศึกษาอื่นๆ ที่อยู่ใกล้เคียงคงจะพูดคุยกันถึงเรื่องนี้เช่นกันเพราะสีหน้าของคนเหล่านั้นไม่แตกต่างไปจากสีหน้าของเพื่อนๆ

หลังจากนั้นผมสิงห้อง 5401 เพื่อติดตามข่าวสารคลื่นซูนามิจากโทรทัศน์ สถานีโทรทัศน์ทุกช่องปรับผังรายการเพื่อรายงานข่าวสถานการณ์สดๆ จากพื้นที่ ในตอนแรกผมคิดว่ามันเป็นแค่คลื่นที่สูงปกติไม่มากนักคงสร้างความเสียหายนิดหน่อย ทว่าสิ่งที่ปรากฏในจอโทรทัศน์คือ ซากปรักหักพังของบ้านเรือน ร้านรวง โรงแรมรีสอร์ทพังเสียหายจนใช้การอะไรไม่ได้ รถราแปรสภาพกลายเป็นซากเหล็กหนักเป็นตัน คลื่นซูนามิเป็นคลื่นยักษ์ที่กวาดล้างทำลายทุกสิ่งทุกอย่างโดยไร้ความกรุณาปราณี นอกจากทรัพย์สินทั้งเคลื่นที่ได้และไม่ได้เสียหายแล้ว ผู้คนมากมายเสียชีวิต บาดเจ็บและสูญหายซึ่งมีทั้งผู้คนในท้องถิ่น นักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติ การค้นหาผู้สูญหายโดยเจ้าหน้าที่เป็นไปอย่างสุขุมละเอียด หากพบผู้ประสบภัยได้รับบาดเจ็บจะนำไปรักษาตัวในโรงพยาบาลที่ใกล้เคียงตามอาการหนักเบา เจ้าหน้าที่มูลนิธิค้นหาและเก็บศพส่งยังศูนย์พิสูจน์เอกลักษณ์บุคคลว่าใครเป็นใครโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญชาวไทยและต่างประเทศ ธารน้ำใจจากผู้คนทั่วโลกหลั่งมาซับน้ำตาผู้ประสบภัย สิ่งของที่จำเป็น เงินบริจาค ทั้งภาครัฐและเอกชนถูกส่งมาช่วยเหลือมิขาดสาย ผ่านไปวันสองวันมีการเปลี่ยนคำเรียกคลื่นยักษ์จากซูนามิเป็น สึนามิ เพื่อให้ตรงตามคำศัพท์ในภาษาญี่ปุ่น ทางราชการเรียกภัยธรรมชาติครั้งนี้ว่า ธรณีพิบัติภัย

พี่นุโทรศัพท์มาบอกกับผมว่าได้รับคำสั่งราชการด่วนลงพื้นที่ตำบลเขาหลัก อำเภอตะกั่วป่าเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย แผนการเลี้ยงฉลองปีใหม่ของสามศรีพี่น้องมีอันยกเลิก อาจารย์ภาควิชาวิทยาศาสตร์ได้อธิบายเหตุการณ์ธรณีพิบัติภัยครั้งนี้ว่า คลื่นสึนามิ [1] ที่เกิดขึ้นในทะเลอันดามันครั้งนี้ มีสาเหตุมาจากแผ่นเปลือกโลกอินเดียขยับตัวเลื่อนมาทางทิศตะวันออก และมุดลงใต้ขอบแผ่นเปลือกโลกยูเรเชีย ทำให้เกิดแผ่นดินไหวตามแนวรอยต่อของแผ่นเปลือกโลก ซึ่งมีลักษณะเป็นรอยเลื่อน (fault) ขนาดใหญ่เป็นแนวยาวตั้งแต่ทางตะวันออกของพม่าและตะวันตกของไทย ลงไปตามแนวของหมู่เกาะอันดามัน และหมู่เกาะนิโคบาร์ จนถึงทางเหนือของเกาะสุมาตรา และเนื่องจากแผ่นดินไหวมีความรุนแรงมากถึงระดับ ๙.๐ ตามมาตราริกเตอร์ จึงเกิดเป็นคลื่นสึนามิแผ่ขยายออกไปโดยรอบในทะเลอันดามันและบางส่วนของมหาสมุทรอินเดียดังกล่าวแล้ว และสรุปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตามลำดับดังนี้

- เวลา ๐๗.๕๙ น. ตามเวลาในประเทศไทย ได้เกิดแผ่นดินไหว มีศูนย์กลางอยู่ที่บริเวณนอกฝั่งด้านตะวันตกทางตอนเหนือของหัวเกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย ที่ละติจูด ๓.๓ องศาเหนือ ลองจิจูด ๙๕.๘ องศาตะวันออก ลึกลงไปในแผ่นดินประมาณ ๓๐ กิโลเมตร มีขนาดความรุนแรง ๙.๐ ตามมาตราริกเตอร์ นับเป็นแผ่นดินไหวครั้งรุนแรงที่สุดที่เกิดขึ้นในทะเลอันดามัน และรุนแรงมากเป็นอันดับ ๕ ของโลก นับตั้งแต่ พ.ศ. ๒๕๐๐ เป็นต้นมา ดังแสดงในตารางข้างล่างนี้

- หลังจากเกิดแผ่นดินไหวไม่นาน ได้เกิดคลื่นสึนามิเคลื่อนตัวเข้าสู่ฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือสุดของเกาะสุมาตรา ในจังหวัดอาเจะห์ ความสูงและความรุนแรงของคลื่นทำให้เมืองและชุมชนตามชายฝั่งถูกทำลายอย่างกว้างขวาง มีผู้เสียชีวิตรวมกันทั้งหมดมากกว่า ๑๕๐,๐๐๐ คน บริเวณที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดอยู่ที่เมืองบันดาอาเจะห์ (Banda Ajeh) ซึ่งเป็นเมืองหลักของจังหวัด รองลงมาคือ ที่เมืองเมอลาโบะห์ (Meulaboh) ซึ่งเป็นเมืองชายทะเลอยู่ไปทางใต้ของเมืองบันดาอาเจะห์ นับเป็นการสูญเสียชีวิตของผู้คนจากภัยธรรมชาติครั้งใหญ่ที่สุดในประเทศอินโดนีเซีย

- เวลาประมาณ ๑๐.๐๐ น. คลื่นสึนามิได้เริ่มเคลื่อนตัวมายังชายฝั่งตะวันตกของคาบสมุทรมลายู ซึ่งอยู่ห่างจากจุดศูนย์กลางแผ่นดินไหวประมาณ ๕๐๐ - ๖๐๐ กิโลเมตร ก่อให้เกิดความเสียหายในบริเวณชายฝั่งตอนเหนือของประเทศมาเลเซีย และภาคใต้ของไทย มีผู้เสียชีวิตที่เกาะปีนังในประเทศมาเลเซียประมาณ ๗๐ คน และใน ๖ จังหวัดภาคใต้ของไทย คือ จังหวัดสตูล ตรัง กระบี่ พังงา ภูเก็ต และระนอง รวมกันประมาณ ๕,๔๐๐ คน

บรรยากาศเทศกาลปีใหม่ 2548 เต็มเปี่ยมความเศร้าโศกและเงียบเหงา พี่น้ำลงจากกรุงเทพ หอบของบริจาคจำนวนเท่าที่รถเก๋งซีดานคันหนึ่งบรรทุกมาได้เพื่อบริจาคให้ผู้ประสบภัย ณ อำเภอตะกั่วป่า เราสองคนพี่น้องเดินทางมาถึงที่ว่าการอำเภอตะกั่วป่าที่ทางภาคราชการจัดเป็นศูนย์พักพิงผู้ประสบภัย ผมและพี่น้ำส่งของที่รับบริจาคอีกทอดหนึ่งจำพวกบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป กาแฟผง ปลากระป๋อง ขนมแห้ง ผ้าอนามัย สบู่ ยาสีฟัน แปรงสีฟันให้กับผู้ประสบภัย แม้ว่าพวกเขาจะเอ่ยคำขอบคุณแต่มันเป็นคำขอบคุณที่เรียบเฉยแฝงเร้นด้วยความทุกข์ สีหน้าพวกเขาทั้งหลายบ่งบอกถึงความทุกข์ ความสิ้นหวัง วิตกกังวลกับอนาคตที่ยังมองไม่เห็น ทรัพย์สินศฤงคารพังพินาศ ครอบครัว คนรักหายจากไปไม่ทราบว่าเป็นตายร้ายดีอย่างไร จากนั้นพี่น้ำขับรถไปวัดย่านยาวแวะเยี่ยมเยียนพี่นุ เมื่อเราสามพี่น้องเจอกัน พี่นุให้หน้ากากอนามัยคนละอันแก่พี่น้ำและผมเพื่อกันกลิ่นศพ

“ที่นี่รวบรวมศพจากสึนามิไว้มากที่สุด” พี่นุบอกกับผมและพี่น้ำขณะพักตรงศาลาไม้เล็กๆ “พอศพมา หมอก็ตรวจสภาพศพ จดรูปพรรณสัณฐาน เจ้าหน้าที่อย่างพี่ถ่ายภาพหน้าศพเพื่อปริ๊นท์รูปแปะไว้ที่กระดานหน้าวัด เผื่อมีญาติมาตามหา พี่อยู่กับศพทุกวันเลยชินกลิ่น แต่เราสองคนต้องใส่ผ้าปิดจมูกกันกลิ่นและเชื้อโรค”

“แล้วพี่เจอเหตุการณ์อะไรแปลกๆ บ้างเปล่า?” ด้วยความที่จิตใจของผมฝักใฝ่เรื่องเร้นลับจึงตั้งกระทู้ถามในเรื่องนี้ มานึกอีกทีว่ามันไม่ควรเอาเสียเลย

“พี่ไม่ขอพูดเรื่องนี้นะ ถ้าพี่ได้กลับบ้านค่อยเล่าให้ฟังทีหลัง แต่แบงค์ถามถึงเรื่องนี้ก็ดีแล้วล่ะ ออกจากที่นี่ก่อนตะวันตกดินนะน้ำ ถ้าจะกลับก็ไม่ต้องลาพี่ ไปเงียบๆ เหมือนตอนมา ขับรถรวดเดียวให้ถึงบ้าน อย่าแวะไหน แล้วถ้ามีโอกาสทำบุญอุทิศส่วนกุศลด้วยล่ะ” ผมคาดเดาว่าพี่นุคงจะเจออะไรบ้าง อย่างที่ว่ามันไม่เหมาะสมจึงไม่ได้เล่าอะไรให้ผมฟัง เพียงแค่เตือนถึงการเดินทางกลับของพี่น้ำและผม

เหตุการณ์ธรณีพิบัติภัยสร้างความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สิน มีเรื่องราวมากมายเล่าขานถึงความสูญเสีย ประสบการณ์ของผู้รอดชีวิตได้ถูกถ่ายผ่านสื่อทุกชนิด เราทำร้ายธรรมชาติมากเพียงใด ธรรมชาติก็จะเอาคืนเรามากเท่านั้น เพราะคือกฎแห่งกรรม โลกใบนี้มักจะมีความจริงอันสวยงามและความจริงอันโหดร้ายคละเคล้าอยู่เสมอ ผมหวังว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ในโลกใบนี้

 

 

ขอไว้อาลัยแก่ดวงวิญญาณผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ธรณีพิบัติภัย 26 ธันวาคม พุทธศักราช 2547 ทุกดวงด้วยความจริงใจ


[1] การเกิดคลื่นสึนามิเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2547 (Online) . เข้าถึงโดย http://www.thaibizcenter.com/KnowledgeCenter.asp?kid=2538