ได้แต่แอบรักเธออยู่ในใจ เพราะเราไม่มีอะไรดีเลย
ชาย-ชาย,รัก,ดราม่า,รั้วโรงเรียน,ไทย,yaoi,แอบรักรุ่นพี่,นักศึกษา,ภาคใต้,รักเพื่อน,อกหัก,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
น้ำค้างมองพระจันทร์ได้แต่แอบรักเธออยู่ในใจ เพราะเราไม่มีอะไรดีเลย
คนบางคนมีค่าไว้พียงแค่มอง
เราไม่มีสิทธิ์เป็นเจ้าของ
ดั่งกระต่ายที่หมายพระจันทร์
คนบางคนมีค่าสูงส่ง
แต่ตีคุณค่าของตนเองไว้ต่ำต้อย
ทั้งๆ ที่บริสุทธิ์งดงามดั่งน้ำค้าง
คนบางคนซื๋อตรงต่อใจตนเอง
ดั่งพระอาทิตย์ที่มอบแสงสว่าง
และความอบอุ่นเท่าเทียมกัน
งานวิชาการประจำมหาวิทยาลัยมาถึงแล้ว ผมกับพี่ตงได้เจอกันบ้าง แต่ไม่ได้พูดคุยอะไรกันมากมาย เพียงแค่ไถ่ถามสารทุกข์สุขดิบเพียงไม่กี่คำ ในวันแรกของงานยังไม่มีการอบรมสัมมนา ผมเลยแกร่วอยู่ตรงซุ้มร้านค้าของสาขาวจก. กลางวันกิน ช้อป ชม ผมได้รู้จักอาหารพื้นเมืองของชาวมุสลิมจากชมรมมุสลิมสัมพันธ์คือ กือโป๊ะหรือหัวข้าวเกรียบปลา เป็นอาหารทานเล่นคล้ายกับลูกชิ้นปลาจิ้มน้ำจิ้มรสเด็ดอร่อยเหาะเลยทีเดียว พอตกค่ำชมการแสดง ณ เวทีกลาง ชมรมเชียร์และการแสดงจัดการแสดงจุดตารีกีปัสหรือรำพัดแบบชวามลายู สาขาวจก. ชั้นปีที่ 2 แสดงชุดระบำบาติก เจฟเอาโทรทัศน์มาไว้ที่ซุ้มร้านค้าเพราะพวกผู้หญิงติดละคร ผมเลยอยู่ดึกช่วยเจฟเก็บของเพราะอยู่ห้องไม่มีอะไรทำ
“นี่แบงค์ รู้ข่าวแล้วยัง?” แก้วถามเปรยๆ สายตาของเธอจับจ้องกับละครในโทรทัศน์
“ข่าวอะไร?” ผมละสายตาจากละครในโทรทัศน์แล้วมองมาที่แก้ว
“เรื่องพี่ตงไง หญิงเล่าให้ฟังว่าพี่ตงเปิดตัวแฟนแล้วนะ” ผมไม่อยากจะเชื่อหูตนเอง แก้วมันรู้ว่าผมชอบพี่ตงเพราะผมเผลอไปบอกพวกผู้หญิงเมื่อตอนเรียนวิชาคอมพิวเตอร์
“ไม่จริงมั้งแก้ว พี่เขายังโสด” ผมมโนสุดฤทธิ์ ไม่อยากจะรับความจริง
“อะไรๆ มันก็เกิดขึ้นได้ แกยังไม่เคยบอกพี่ตงเลยใช่ไหม เขายังไม่รู้เรื่องแก” แก้วเตือนผมตามสภาพความเป็นจริง “เอาหลักฐานมายันสิแก้ว ถ้ามันเป็นเรื่องจริงเราก็จะได้เห็นกัน สังคมที่นี่มันแคบ ไม่ช้าก็เร็วจะได้รู้ว่าอันไหนจริงอันไหนเท็จ”
ผมยอมรับว่าผมฉุนขาด เพราะผมเชื่อว่าความฝันจะเป้นจริงได้ในสักวันหนึ่ง แต่เรื่องบ้าๆ ที่หญิงบอกกับผมนั้น มันบันทอนคตวามเชื่อของผมไปโขเลย
วันต่อมา... ผมและเพื่อนๆ ผู้หญิงที่ไม่มีรถเดินกันมาถึงตึกเกือกม้าก่อนเวลานัด 7 โมงเช้าเล็กน้อย เป็นครั้งแรกที่ทีมงานของมหาวิทยาลัยพบกับทีมงานจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยและทีมงานจากบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ ผมอยู่ฝ่ายสถานที่มีหน้าที่เตรียมความพร้อมทั้งสถานที่สัมมนา สถานที่ในการพักเบรกคือห้อง D 267 หรือเรียกกันอย่างลำลองว่าห้องร้อน ตามกำหนดการในวันนี้เป็นการสัมมนาในหลักสูตร เงินทองต้องใส่ใจ ส่วนวันพรุ่งนี้เป็นการสัมมนาในหัวข้อ การลงทุนในหุ้น ผู้เข้าร่วมสัมมนามีหลากหลายวัย แต่ที่แปลกและโดดเด่นที่สุดน่าจะเป็นเด็กชายวัย 14 ขวบเดินมาลงชื่อเข้าสัมมนาโดยไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย ป้าชุซักถามได้ความว่าน้องผู้ชายคนนี้มีความตั้งใจที่จะเข้าร่วมสัมมนา ท้ายสุดแล้วพวกเราทั้งหมดถ่ายรูปร่วมกับน้องคนนี้ไว้เป็นที่ระลึก
งานสัมมนาวันแรกผ่านไป ตกค่ำผมยังคงสิงสถิตอยู่ ณ ซุ้มร้านผ้าเช็ดหน้าบาติกของสาขา เวทีกิจกรรมย้ายจากเวทีกลางแจ้งสูเวทีตรงลานตึกเกือกม้าเพราะว่าลมพายุถล่มเวทีกลางแจ้งจนพังยับเยิน ผมดูละครโทรทัศน์อยู่เงียบๆ กับเพื่อนผู้หญิง ขณะกำลังชมละครได้อรรถรส หญิงก็สะกิดผมให้ดูอะไรบางอย่างที่ถนนหน้าร้าน
“ฉันว่าข่าวเรื่องพี่ตงน่าจะเป็นจริงแล้วมั้ง?” สิ่งที่ผมเห็นมันคือความจริงที่ว่า พี่ตงเดินอยู่กับรุ่นพี่ผู้หญิงคนหนึ่ง หล่อนผิวขาวซีด ร่างอวบ หน้าตาเรียบๆ ไม่เด่นอะไรเลย รุ่นพี่คนนี้ไม่ได้อยู่สาขาวจก. ทุกสิ่งทุกอย่างไม่มีข้อขัดแย้งให้ผมมองผู้หญิงคนนั้นเป็นอย่างอื่นไปได้ คนทั้งคู่เดินผ่านผมไป ทั้งสองพูดคุยกระซิกๆ ต่อกัน คนอื่นๆ ที่แวดล้อมเขาทั้งคู่เสมือนไม่มีตัวตนอยู่ในโลกสีชมพูที่คนรักสร้างสรรค์ขึ้น สิ่งที่ผมทำได้คือเดินหนีไปจากตรงนี้ โดยไม่ได้ร่ำลาใครๆ แม้จะมีเสียงเรียกให้กลับมา ผมก็ไม่สนใจแล้ว
ขึ้นชื่อว่าขึ้นเขามันก็ลำบากทั้งนั้น ผมเพิ่งเข่าใจความหมายนี้เอง ผมเดินจากที่ๆ ผมเจอคู่รักคู่นั้น ผมเดินขึ้นเขากลับหออย่างเลื่อนลอย ผมคิดคำนึงถึงเรื่องพี่ตง เส้นทางความรักของผมไม่เคยมีใครได้ใช้ร่วมกับผม พี่ตงอาจจะไม่รับรู้ว่ามีผมอยู่หนึ่งคนที่แอบรักเขาอยู่หรือเขาอาจจะรับรู้ว่ามีผมอยู่แต่เขาไม่เลือกผม แต่ไม่ว่าเป็นแบบไหนสรุปแล้ว พี่ตงก็ไม่ได้รักผม เขารักพี่วรรณผู้หญิงคนนั้น ผมไม่รู้ว่าจะทำยังไงต่อไป เก็บรักนี้ไว้หรือตัดใจถอนตัวออกมาดี