ได้แต่แอบรักเธออยู่ในใจ เพราะเราไม่มีอะไรดีเลย

น้ำค้างมองพระจันทร์ - 3 ฤทธาน้ำล้างรองเท้า โดย กัลปังหา @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ชาย-ชาย,รัก,ดราม่า,รั้วโรงเรียน,ไทย,yaoi,แอบรักรุ่นพี่,นักศึกษา,ภาคใต้,รักเพื่อน,อกหัก,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

น้ำค้างมองพระจันทร์

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ชาย-ชาย,รัก,ดราม่า,รั้วโรงเรียน,ไทย

แท็คที่เกี่ยวข้อง

yaoi,แอบรักรุ่นพี่,นักศึกษา,ภาคใต้,รักเพื่อน,อกหัก

รายละเอียด

 น้ำค้างมองพระจันทร์ โดย กัลปังหา @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ได้แต่แอบรักเธออยู่ในใจ เพราะเราไม่มีอะไรดีเลย

ผู้แต่ง

กัลปังหา

เรื่องย่อ

คนบางคนมีค่าไว้พียงแค่มอง

เราไม่มีสิทธิ์เป็นเจ้าของ

ดั่งกระต่ายที่หมายพระจันทร์

คนบางคนมีค่าสูงส่ง

แต่ตีคุณค่าของตนเองไว้ต่ำต้อย

ทั้งๆ ที่บริสุทธิ์งดงามดั่งน้ำค้าง

คนบางคนซื๋อตรงต่อใจตนเอง

ดั่งพระอาทิตย์ที่มอบแสงสว่าง

และความอบอุ่นเท่าเทียมกัน

สารบัญ

น้ำค้างมองพระจันทร์-บทนำ ผู้ชายในฝัน, น้ำค้างมองพระจันทร์-1 แรกพบ, น้ำค้างมองพระจันทร์-2 สายใยรักสายใยม่วงแดง (ปฐมบท), น้ำค้างมองพระจันทร์-3 ฤทธาน้ำล้างรองเท้า, น้ำค้างมองพระจันทร์-4 รับน้องหฤโหด?, น้ำค้างมองพระจันทร์-5 สายใยรักสายใยม่วงแดง (มัชฌิมบท), น้ำค้างมองพระจันทร์-6 สายใยรักสายใยม่วงแดง (ปัจฉิมบท), น้ำค้างมองพระจันทร์-7 เธอจะอยู่กับฉันตลอดไป, น้ำค้างมองพระจันทร์-8 รักในสายฝน, น้ำค้างมองพระจันทร์-9 เฟรชชี่ไนท์, น้ำค้างมองพระจันทร์-10 ใจบางบาง, น้ำค้างมองพระจันทร์-11 ข่าวร้าย, น้ำค้างมองพระจันทร์-12 ขอจองในใจ, น้ำค้างมองพระจันทร์-13 ไม่แน่ใจ, น้ำค้างมองพระจันทร์-14 เพื่อนสนิท, น้ำค้างมองพระจันทร์-15 Sport Night, น้ำค้างมองพระจันทร์-16 Happy Birthday, น้ำค้างมองพระจันทร์-17 ไดอะรี่สีแดง, น้ำค้างมองพระจันทร์-18 ทิ้ง, น้ำค้างมองพระจันทร์-19 ความลับในใจ, น้ำค้างมองพระจันทร์-20 กรุงชิงทิ้งรัก, น้ำค้างมองพระจันทร์-21 ช้ำรักพักเกาะสมุย, น้ำค้างมองพระจันทร์-22 นิยายรักขาดตอน, น้ำค้างมองพระจันทร์-23 เลิกกัน, น้ำค้างมองพระจันทร์-24 คลับซ่าสะพายเป้, น้ำค้างมองพระจันทร์-25 วิมานดิน, น้ำค้างมองพระจันทร์-26 สารภาพ, น้ำค้างมองพระจันทร์-27 จะมาไหม?, น้ำค้างมองพระจันทร์-28 หาดทราย สายลม สองเรา, น้ำค้างมองพระจันทร์-29 คู่ชีวิต, น้ำค้างมองพระจันทร์-จบ Leaving On a Jet Plane.

เนื้อหา

3 ฤทธาน้ำล้างรองเท้า

มีเรื่องให้ปวดเศียรเวียนเกล้าเล็กน้อยเมื่อวิชาเทนนิสที่ผมเลือกลงทะเบียนในวันปฐมนิเทศ เวลาเรียนไปซ้อนกับวิชาคอมพิวเตอร์ ตามกฎเกณฑ์ต้องวิชาที่สำคัญน้อยกว่าในกรณีผมคือถอนวิชาเทนนิสแล้วไปเลือกลงวิชา Physical and Recreation หรือวิชากีฬาและนันทนาการแทน และก่อนจะเรียนในวันจันทร์ที่จะถึงก็มีกิจกรรมใหญ่อันแสนหฤโหดในความรู้สึกของผมคือกิจกรรมรับน้องใหญ่ประจำวิทยาเขต พวกรุ่นพี่แนะนำว่าให้หาเสื้อผ้าที่คิดว่าใส่ทีเดียวแล้วทิ้งเลย เพราะต้องเลอะเทอะ แต่ก่อนจะถึงกิจกรรมนั้นมีกิจกรรมวอล์คแรลลี่อุ่นเครื่อง พวกนักศึกษาชั้นปีที่ 1 มารวมพลกันที่หอประชุมของมหาวิทยาลัย เมื่อแบ่งกลุ่มๆ ละ 10 คนโชคดีที่ในกลุ่มของผมมีเจฟอยู่ด้วย และแน่นอนว่าต้องมีชื่อกลุ่ม กลุ่มที่ผมและเจฟต้องร่วมชะตากรรมนั้นมีชื่อว่า “ยังเพ” เป็นภาษาท้องถิ่นปักษ์ใต้ที่มีความหมายว่ามีทุกอย่าง กลุ่มยังเพมีพี่เลี้ยงที่สมาชิกในกลุ่มไปตะลุยในที่ต่างๆ คือ พี่โอ๋สาขาวจก. ปี 2 เริ่มต้นกิจกรรมในฐานหน้ามุขตึกเกือกม้า

“สวัสดีคะ น้องๆ ทุกคน ฐานนี้มีชื่อว่าแพทซิย่าโซนหรือแพศยาโซนนั่นเองนะคะ ฐานนี้กิจกรรมที่น้องๆ ต้องทำคือบอกใบ้ทายคำ ซึ่งหากทายถูกก็จะมีรางวัลเป็นลูกอม แต่ถ้าทายไม่ถูกก็ต้องโดนลงโทษ เอาล่ะค่ะเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เริ่มต้นกันดีกว่า” พี่ผู้หญิงประจำฐานเกริ่นแนะนำกิจกรรมประจำฐาน พวกเราในกลุ่มยืนเรียงแถวตอนหันไปทางเดียวกัน พวกพี่ๆ บอกคำตอบให้คนสุดท้ายของแถวดำตอบแล้วแสดงท่าทางบอกใบ้โดยไม่พูด มันแน่นอนว่าแต่ละคนที่ผ่านๆ มาก่อนถึงผมท่าทางที่สื่อถึงคำก็ตกหล่นจนหาคำตอบไม่ได้ ผลที่ออกมากลุ่มยังเพทายคำไม่ถูกซึ่งคำเฉลยคือน้ำขึ้นให้รีบตัก กลุ่มยังเพจึงโดนลงโทษด้วยการเป่าแป้งมันในกะละมังทีละคนหน้าตาแต่ละคนเหมือนกุ้งที่คลุกแป้งพร้อมลงทอด พวกพี่ๆ แนะนำสถานที่ในบริเวณฐานกิจกรรมก็เป็นอันเสร็จกิจกรรมในฐานนี้ ทุกฐานก็มีกิจกรรมสนุกๆ ให้เล่น เรียกว่าสนุกสนานแต่เหนื่อยกับการวิ่งรอกไปมา กลุ่มยังเพมาถึงฐานหน้าหอประชุม ฐานนี้เป็นอีกฐานหนึ่งของรุ่นพี่สาขาวจก.ชั้นปี 2 และพี่วู้ดอยู่ในกลุ่ม แน่นอนว่าผมได้รับการต้อนรับจากพี่วู้ดทันทีด้วยสะตอเม็ดเขียวหนึ่งเม็ด อย่างกับว่าแกทราบว่าผมไม่กินสะตอ รสชาติก็พะอืดพะอมสำหรับผมหากเป็นคนอื่นก็คงจะอร่อยเหาะเป็นไปได้

“ฐานนี้ก็มีกิจกรรมให้พวกน้องๆ กลุ่มยังเพได้ร่วมสนุกกัน น้องๆ จะต้องกรอกน้ำจากกะละมังลงขวดแก้วให้เต็มภายใน 3 นาทีด้วยวิธีการใดก็ได้นะคะแต่พี่ขอเตือนน้องๆ ว่าต้องคิดให้ดีก่อน ย้ำนะคะว่าต้องคิดให้ดี พี่ตูนจับเวลา เริ่มได้” พี่ลิตเติ้ลบอกกับน้องๆ กลุ่มยังเพถึงกิจกรรมในฐานนี้และสั่งให้ผมและเพื่อนๆ เริ่มทำกิจกรรมได้

ทุกคนในกลุ่มต่างมีความคิดเห็นเป็นของตนเองที่จะใช้อุปกรณ์ต่างๆ ถ่ายเทน้ำจากกะละมังสู่ขวดแก้ว ผึ้งสาขาผลิตกรรมชีวภาพถอดรองเท้าผ้าใบตักน้ำกรอกลงขวด ผมก็ทำตามเธอโดยการถอรองเท้าผ้าใบของผมกรอกน้ำลงขวดแก้ว ปากขวดที่แคบไม่อาจจะรองรับน้ำทั้งหมดได้จึงกระเฉาะออก จนหมดเวลาน้ำในขวดแก้วก็ไม่อาจเต็มได้ ผมและทุกคนรู้สึกเสียดายที่ทำภารกิจไม่สำเร็จ

“ทำไมทำกันแบบนี้!” พี่ลิตเติ้ลยเอ็ดตะโรลั่นใส่สมาชิกกลุ่มยังเพทุกคน “บอกแล้วว่าคิดให้ดีก่อนจะทำ สิ่งที่ได้คือน้ำล้างรองเท้าขุ่นๆ เช่นนี้นะเหรอ?” พี่น้อยชูขวดแก้วที่บรรจุน้ำขุ่นสีโคลนที่ปริ่มคอขวด สีหน้าท่าทางของหล่อนเปลี่ยนไปราวฟ้ากับเหว จากนางฟ้าร่างอวบกลายเป็นนางยักษ์ขมูขี ผมหลบตาหล่อนและลอบมองเพื่อนๆ ในกลุ่ม ผึ้งก้มหน้าแต่มีน้ำตาไหล เจฟยืนหน้านิ่งๆ ส่วนคนอื่นๆ ก็ทำหน้าเจื่อนๆ เหมือนกัน “ขอให้จำไว้เป็นบทเรียน พี่ย้ำแล้วย้ำอีกว่าให้น้องๆ คิดให้ดีก่อนที่จะทำอะไรลงไป จะทำอะไรก็แล้วแต่ไม่ใช่ว่าสักแต่ทำให้เสร็จ สุกเอาเผากินอย่างไรฉันไม่สน และนี่คือบทลงโทษที่จะทำให้ทุกคนหลาบจำ อีโอ๋แกกินน้ำในขวดนี้ให้หมด”

ใจผมแทบจะหยุดเต้น ไม่นึกเลยว่าผลจากการกระทำของผมและเพื่อนๆ จะส่งผลร้ายกาจต่อผู้อื่น

“เอาจริงๆ เหรอลิตเติ้ล?” พี่โอ๋ถามย้ำด้วยความตกใจ หล่อนคงไม่เชื่อว่าเพื่อนจะทำเพื่อนได้ถึงขนาดนี้

“เออสิโอ๋ ถ้าแกไม่กินไอพวกนี้มันก็จะได้ใจ ทำอะไรไม่คิดหน้าคิดหลัง คนที่เดือดร้อนไม่ได้มีเฉพาะพวกมันเท่านั้น” พี่ลิตเติ้ลยื่นขวดแก้วบรรจุน้ำขุ่นโคลนที่เป็นฝีมือของพวกเราให้พี่โอ๋ เธอรับมาหลับตากระดกดื่ม เธอคงจินตนาการว่ามันเป็นน้ำดื่มปกติที่สามารถดื่มได้แต่เธอไม่ใช่นักแสดงจึงเล่นบทนี้ไม่เก่งผลที่ผมเห็นสีหน้าของเธอบ่งบอกว่าน้ำล้างรองเท้าไม่อร่อยเลย

“พอเถอะครับพี่โอ๋” เสียงเจฟปราม “ความผิดของพวกผม ผมจะรับผิดชอบเอง” เขาคว้าขวดน้ำล้างรองเท้านั้นมาจากพี่กุ้ง

“ไม่นะเจฟ เรากินเอง เราทำผิดก็ต้องรับผิด” ผมยื้อแย่งขวดน้ำจากมือของเขา

“ก็เราบอกแล้วไงแบงค์ เราจะไม่ให้อันตรายใดๆ มาข้องเกี่ยวกับแบงค์” เจฟต่อล้อต่อเถียงกับผม ต่างคนต่างไม่ยอมกัน น้ำล้างรองเท้านั้นกลายเป็นน้ำวิเศษไปเสียแล้ว ผมและเขาต่างขันอาสาดื่มน้ำล้างรองเท้านั้น เพื่อให้อีกฝ่ายรอดปลอดภัย

“อ้าว! ไม่ต้องเถียงกัน ได้กินทั้งคู่แหละ ตูนไปเอาแก้วมา 2 ใบ” พี่ลิตเติ้ลตัดสินอย่างยุติธรรม พี่ตูนรูมเมทของพี่วู้ดหยิบแก้วน้ำพลาสติกมา 2 ใบรินน้ำล้างรองเท้าจากขวดแก้ว ผมและเจฟหยิบขึ้นมาดื่มคนละแก้ว ผมดื่มรวดเดียวหมดชนิดไม่กลัวตาย รสชาตินั้นหรือ? มันก็เฝื่อนๆ เพราะมันคือน้ำผสมดินนั่นแหละ มีกลิ่นไม่พึงประสงค์ปะปนมาด้วย โชคดีที่ไม่มีแก้วที่สอง กิจกรรมฐานนี้จึงยุติลงด้วยเพราะล่วงเลยเวลามานานมากแล้ว

หลังจากเหน็ดเหนื่อยกับกิจกรรมวอล์คแรลลี่ทั่วมหาวิทยาลัย มีเวลาได้พักผ่อนหายใจหายคอ วันนี้เวลาหกโมงเย็นมีการประชุมนักศึกษาที่อยู่หอพักในมหาวิทยาลัยทั้งหมด เรื่องที่ประชุมคือนักศึกษาชายทั้งหมดที่พักอยู่ในหอ 2 ต้องสลับหอพักกับนักศึกษาหญิงที่พักอยู่ที่หอ 5 ในวันพรุ่งนี้ หลังจากที่ประชุมกันเสร็จ เวลาที่เหลือพวกปีหนึ่งก็ใช้เวลาในการล่าประวัติรุ่นพี่พร้อมลายเซ็น ผมโชคดีที่มีเจฟให้ลอกประวัติของรุ่นพี่ ส่วนการได้ลายเซ็นจากพวกรุ่นพี่ก็ต้องอาศัยความสามารถของตนเอง รุ่นพี่บางคนยื่นประวัติให้ตรวจก็เซ็นลายเซ็นให้ทันที บางคนต้องรายงานตัวแนะนำตัวเองให้รุ่นพี่รู้จัก ที่แย่หน่อยกว่าจะได้ลายเซ็นรุ่นพี่ก็ต้องเต้นแร้งเต้นกาทำอะไรก็ตามแต่ที่รุ่นพี่สั่ง สำหรับผมเองก็ได้รับคำสั่งจากพี่อ๊อฟว่าหาประวัติชองพี่เขาให้ได้ไม่ต่ำกว่าสองหน้ากระดาษเอ 4 แต่ผมก็ไม่ได้สืบหาประวัติพี่อ๊อฟและรุ่นพี่คนอื่นๆ เพราะมีอาการท้องเดินเล่นงานเข้าให้ โชคดีที่ห้องพักของผมอยู่ใกล้ห้องน้ำรวมมากที่สุด มิฉะนั้นคงจะมีเรี่ยราดรายทาง ส่วนเรื่องหาประวัติของพี่อ๊อฟ ผมฝากฝังให้เป็นหน้าที่ของฝนไป เพื่อให้หายกันหลังจากที่ผมไปทำหน้าที่อมขนมคุกกี้แทนเธอ

ตลอดทั้งคืนนั้นเป็นคืนอันแสนทรมาน ผมถ่ายทุกข์จนไม่มีอะไรจะถ่ายแล้ว ผมแน่ใจแล้วว่าสิ่งผมรับประทานเข้าไปจนผิดสำแดงคือน้ำล้างรองเท้านั่นเอง แต่น่าแปลกที่เจฟไม่มีอาการอะไรเลย คงเป็นเวรเป็นกรรมผมเอง รองเท้าไม่คิดจะซักทำความสะอาดจะท้องเสียตายเพราะน้ำล้างรองเท้าตนเองก็เอาเถอะ สงสารเจ้ารูมเมทผม มันก็ต้องมาทรมานทรกรรมร่วมกันกับผม เนื่องด้วยอาการท้องเสียวิ่งเข้าวิ่งออกรบกวนการนอนหลับของเขา เช้านี้ผมเก็บของอย่างลวกๆ ลงกล่อง บอกอำลาห้อง 2310 ย้ายสู่ห้อง 5413 และต้องขอบคุณเจฟที่ช่วยเหลือในการขนสัมภาระ

“ดูสีหน้าไม่ค่อยดีเลย ไปห้องพยาบาลที่หอวิจัยก่อนดีไหม?” เจฟถามขณะที่วางกล่องหนังสือลงบนโต๊ะอ่านหนังสือ

“ไม่เป็นไรหรอก เรากินยาเข้าไปแล้ว” ผมพูดปดทั้งๆ ที่รู้สึกว่าตนเองใกล้ตายเต็มทนแล้ว และทุกๆ สิ่งพลันวูบดับลง ผมไม่รู้สึกอะไรอีกเลย จนกระทั่ง....