ได้แต่แอบรักเธออยู่ในใจ เพราะเราไม่มีอะไรดีเลย
ชาย-ชาย,รัก,ดราม่า,รั้วโรงเรียน,ไทย,yaoi,แอบรักรุ่นพี่,นักศึกษา,ภาคใต้,รักเพื่อน,อกหัก,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
น้ำค้างมองพระจันทร์ได้แต่แอบรักเธออยู่ในใจ เพราะเราไม่มีอะไรดีเลย
คนบางคนมีค่าไว้พียงแค่มอง
เราไม่มีสิทธิ์เป็นเจ้าของ
ดั่งกระต่ายที่หมายพระจันทร์
คนบางคนมีค่าสูงส่ง
แต่ตีคุณค่าของตนเองไว้ต่ำต้อย
ทั้งๆ ที่บริสุทธิ์งดงามดั่งน้ำค้าง
คนบางคนซื๋อตรงต่อใจตนเอง
ดั่งพระอาทิตย์ที่มอบแสงสว่าง
และความอบอุ่นเท่าเทียมกัน
เหมือนว่าผมจะป่วยจริงๆ เสียแล้ว เนื่องจากโดนละอองฝน ผมรู้สึกว่ามีไข้ขึ้น วันนี้ไม่ได้ไปเรียน พักผ่อนอยู่ห้อง ไม่วุ่นวายสุงสิงกับใคร ตกตอนเย็นผมระเห็จตนออกจากหอพักไปพักฟื้นยังบ้านพิกุลทอง
“แกไม่สบายหรือแบงค์?” พี่เบลล์อารามตกใจคว้าผมไว้ขณะที่ผมเดินเข้าบ้านซวนเซจวนเจียนจะล้ม หลังจากจอดรถจักรยานยนต์ไว้ริมถนนอย่างดิบดีแล้ว
“ไม่สบายกายไม่เท่าไหร่หรอกเจ๊ แต่ปวดใจนั้นแรงกว่า” ผมรีบเดินเข้าไปในนั่งบนพื้นเหมือนๆ เดิม พี่เบลล์และพี่คนอื่นๆ เดินตามเข้ามา ผมเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้พวกพี่ๆ ฟัง
“แกนี่รับโชค 2 ขั้นเลยนะแบงค์ อกหัก 2 หนในเวลาไล่เลี่ยกัน พลาดไอตงทีหนึ่งแล้ว พลาดเจฟอีก” พี่เบลล์เอ่ยหลังจากที่ผมเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
“แย่จริงๆ บอกรักก็ไม่ได้ จนหมาคาบไปแดกซะงั้น” พี่แก้มพูดประชด ไม่รู้ว่าหล่อนเวทนาต่อชะตากรรมของผมหรือว่าสงสารตนเองกันแน่ เพราะพี่แก้มนั้นยังคงมีปัญหาความรักอยู่กับเฟิสท์ สาขาผลิตกรรมชีวภาพ ปีเดียวกันกับผมซึ่งยังคาราคาซังอยู่ สรุปไม่ได้ว่ารักหรือเลิก
พี่หมอมาจากบ้านสีเขียว เพียงแค่พี่หมอเปิดประตูบ้านเข้ามา พี่เบลล์หันเหความสนใจไปที่แฟนหนุ่มทันที สายตาของหล่อนแผ่ซ่านรังสีอำมหิต ทุกคนรวมทั้งผมสัมผัสได้ พี่แก้มเปิดคอมพิวเตอร์เล่นเกมยูริ พี่ฝ้ายออกไปนอกบ้านยืนคุยโทรศัพท์กับแฟนที่อยู่กรุงเทพ พี่ออยล์เดินไปหาพี่แป๊ะที่อยู่บ้านหลังถัดไปสามหลัง
“จำไว้นะแบงค์ ถ้ามีแฟนทั้งทีก็ให้มันดีไปเลย อย่ามีแฟนแบบครึ่งๆ กลางๆ อย่างพี่” พี่เบลล์วางชนวนสงครามน้ำลายด้วยกลยุทธ์ตีวัวกระทบคราด
“งี่เง่าอะไรอีกเบลล์ เราทำอะไรให้เบลล์ไม่พอใจอะไรอีกเหรอ?” พี่หมอตีหน้าซื่อเหรอหราอีกตามเคย
“ไสหัวไปเลยหมอ แกเห็นเกมยูริดีกว่าฉันจะมาหาฉันทำไม?” เพราะเกมยูรินั่นเองที่ทำให้พี่เบลล์มีน้ำโห พี่แก้มแทบจะปิดเกมยูริที่เล่นอยู่ไม่ทัน
“แบงค์ไปหอส้มป่ะล่ะ พี่หิวขนม” พี่แก้มเอ่ยชวนเพื่อหลบหลีกสมรภูมิรบอันน่ากลัวนี้ แน่นอนว่าผมไม่รีรอที่หนีไปไม่อยากเป็นหญ้าแพรกที่แหลกลาญเมื่อเสือสองตัวต่อสู้กัน นี่กลายเป็นว่า ผมอัปเปหิตนเองจากนรกอเวจีที่มีแต่ความระทมเย็นยะเยือกมาสู่นรกโลกันตร์ที่ร้อนระอุยิ่งกว่าเปลวเพลิง
เช้าวันต่อมา... ผมตื่นขึ้นอย่างไม่สดใสเท่าใดนัก เมื่อคืนผมกลับมาที่หอพักในเกือบๆ เที่ยงคืนแล้ว เมื่อกลับมาสู่ที่เดิมๆ ผมคิดถึงเจฟ แต่พอนึกได้ว่าเขาไม่ได้รักผม ผมจึงล้มตัวลงนอนร้องไห้จนหลับไป ผมมองนาฬิกาปลุกตรงหัวนอน มันบอกเวลาหกโมงเช้านิดๆ ผมลงจากไปเปิดประตูหยิบของใช้ส่วนตัวไปห้องน้ำรวม อนิจจาห้องน้ำรวมน้ำไม่ไหล ผมย้อนกลับมาที่ห้อง ตั้งสติแก้ไขปัญหานี้ ผมนึกได้ว่าผมตั้งถังน้ำขนาด 20 แกลลอนไว้ระเบียงหลังห้อง ตามคำแนะนำของพี่เอ๋ตั้งแต่ภาคเรียนที่แล้ว ผมออกไปที่ระเบียงเปิดฝาถังน้ำดู น้ำในถังเต็มเปี่ยมเพียงพอสำหรับคนสนองคนอาบน้ำได้สบาย ผมไม่รีรอ ผลัดผ้าขาวม้าอาบน้ำ ผมไม่รู้สึกอายเพราะระเบียงหลังห้องติดกับป่าเขา มีเพียงสารพัดสัตว์ป่าที่อาศัยตามสุมทุมพุ่มไม้เบญจพันธุ์
“โอ๊ย! เย็น” เพียงแรกสัมผัสน้ำกับร่างกายของผม ความเย็นของน้ำแทรกซึมไปทั่วอณูรูขุมขน ความเย็นเฉียบปลุกให้ผมตื่นตัวสดชื่น ผมอาบน้ำเสร็จผลัดผ้าแต่งชุดนักศึกษา เอาแปรงสีฟันยาสีฟันยัดลงกระเป๋าเป้เพื่อไปแปรงฟันที่ตึกเกือกม้า
ช่วงพักเบรกวิชา Micro Economics ป้าชุเรียกผมไปคุยเป็นการส่วนตัวตรงระเบียงข้างห้อง D 267 หรือห้องร้อน เพราะเป็นห้องเรียนที่ไม่มีเครื่องปรับอากาศ
“แกคิดดีแล้วหรือแบงค์? แกจะปล่อยให้เรื่องมันจบลงแบบนี้หรือ?” ป้าชุผู้เป็นคนกลางระหว่างผม ตุ่มและเจฟ หล่อนพยายามที่จะไกล่เกลี่ยให้สัมพันธภาพระหว่างเราสามคนดีเช่นเดิม
“ฉันเข้าใจความหวังดีของป้านะ ขอเวลาสักพักนะป้า ฉันจะกลับมาเหมือนเดิม เป็นเพื่อนที่ดีของตุ่ม สำหรับเจฟคงจะไม่มีทางเป็นเช่นเดิมได้อีกต่อไป ในใจฉันสะกดคำว่าเพื่อนเจฟไม่ได้อีกแล้ว มันพังไปหมดแล้ว” ผมตอบ
“แกจะให้เจฟเข้าใจว่าอะไร? เขาอยากรู้นะว่าแกเป็นอะไร?” ป้าชุถาม
“ให้เจฟเข้าใจว่า เขาคือเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด แย่งผู้หญิงที่ฉันรักคืออีเหลี่ยม น่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด เจฟจะเข้าใจอย่างนี้ จะได้ไม่ต้องทำดีกับฉันเหมือนที่แล้วมา ฉันจะได้ตัดใจจากเขาเร็วขึ้น ปล่อยให้เป็นความลับภายในใจ” ผมตอบคำถามของป้าชุ โดยไม่มองหล่อน สายตาของผมมองไปยังทิวไม้ที่ไหวๆ ตามแรงลม มองขึ้นไปทางเขาท่าเพชร บนเขายังเขียวขจี แมกไม้ชุ่มชื้นด้วยละอองฝน ทุกอย่างที่เกิดขึ้นย่อมทิ้งร่องรอย จะดีหรือร้ายก็ต้องผ่านมันให้ได้
“โถ! พ่อคนดี แกนี้ใจแข็งใช้ได้เหมือนกันนะ” ไม่รู้เหมือนกันว่าป้าชุชมผมจากใจจริงหรือว่าพูดประชดประชัน
ตกเย็น... ผมเข้าเรียนวิชาพิมพ์ดีดภาษาไทยเป็นวิชาเสริม ณ ห้องคอมพิวเตอร์ หลังจากที่ผมโดดเรียนไปได้ 2 วัน อกหักครานี้เจ็บทั้งกายเจ็บทั้งใจ แถมยังต้องโดนหักเงิน 40 บาทเพราะวิชาพิมพ์ดีดภาษาไทยเก็บค่าเล่าเรียน 100 บาทแต่เมื่อเรียนจบคอร์สจะได้รับเงินเต็มจำนวนหากไม่ขาดเรียน และขาดเรียนจะโดนหักค่าเล่าเรียนครั้งละ 20 บาท
“แบงค์” เจฟเรียกผม ป้าชุ ติ๊ก แก้ว อ้อและดาหันขวับมามองผม สัญชาตญาณการสอดรู้สอดเห็นของผู้หญิงทำงานอีกแล้ว
“มีอะไรหรือ?” ผมขานรับด้วยน้ำเสียงเฉยชา
“ไปกินดินเหนียวกันป่ะ” คำว่าดินเหนียวนั้นเป็นคำศัพท์ที่เจฟคิดค้นขึ้นมาจากคำว่าดินเนอร์จึงมีความหมายเขาชวนผมไปรับประทานอาหารเย็น
“ได้สิ แต่ไปรับเราที่บ้านพี่เบลล์นะ” ผมรับปากแล้วพิมพ์คอมพิวเตอร์จนเวลาเลิก ผมขับรถจักรยายนต์ไปบ้านพิกุลทอง เจฟไปส่งตุ่มไว้ที่หอ 2 ผมพูดคุยกับพี่เบลล์ระหว่างรอเจฟตรงหน้าบ้าน ไม่นานนักเจฟมารับผมไปรับประทานอาหารที่ร้านอาหารตามสั่งหน้านิคมขุนทะเล
“ข้าวหมูเกาหลีจานหนึ่งครับ” ผมสั่งอาหารกับเจ้าของร้านที่พ่วงตำแหน่งพ่อครัวด้วย
“ข้าวผัดพริกไก่จานหนึ่งครับ” เจฟสั่งอาหารเช่นกัน จากนั้นเราสองคนจับจองที่นั่ง เขาเดินไปตรงมุมน้ำดื่ม หยิบแก้วน้ำ 2 ใบตักน้ำแข็งนำกลับมาที่โต๊ะ รินน้ำดื่มแล้วยื่นแก้วให้ผมหนึ่งใบ
“ขอบใจ” ผมเอ่ยตามมารยาท
“หายป่วยแล้วหรือ?” เจฟถามไถ่ เขาแสดงออกถึงความเป็นห่วงเป็นใยผม
“อืม” ผมตอบด้วยคำพูดที่สั้นที่สุดเพื่อตัดบทสนทนา
“โล่งอกไปทีที่แบงค์หายแล้ว เรากลัวว่าแบงค์จะไม่สบายหนักเหมือนตอนช่วงรับน้องอีก” เจฟพยายามหาเรื่องต่างๆ มาพูดคุย ผมไม่ได้โต้ตอบอะไรเป็นผู้ฟังที่ดื้อด้าน ผมแสร้งทำเป็นดูโน่นนี่นั่น ฟังเจฟพูดผ่านๆ
“ข้าวมาแล้ว” เจฟเอ่ยเรียกความสนใจจากผม ลูกสาวเจ้าของร้านเสิร์ฟอาหารที่ผมและเขาสั่งไป เราสองรับมาแล้วรับประทาน
“แบงค์...” เจฟเรียกผม สีหน้าของเขาลังเลว่าจะพูดต่อหรือไม่
“ว่าไง มีอะไรหรือเปล่า?” ผมต้องเป็นฝ่ายรุกเพื่อเปิดโอกาสให้เขาพูดในสิ่งที่เขาต้องการ
“ถ้าเราคบกับตุ่มอย่างจริงๆ จังๆ จะดีไหม?” มันเป็นคำถามที่แทงใจดำของผม ใจจริงแล้วผมอยากจะบอกว่า....
อย่ารักเขาได้ไหม อย่าไปมองเขาเลย อยากให้รู้ว่าฉันคนนี้ ต้องร้องไห้ เธอลืมเขาได้ไหม ออกไปจากหัวใจ จะไม่ขออะไร มากไปกว่านี้…
“แบงค์เป็นไรเปล่า ใจลอยเชียว” เจฟเรียกผมให้ตื่นจากภวังค์ ผมเลยได้สติกลับคืนสู่โลกแห่งความจริง
“ตุ่มเป็นคนดี เป็นผู้หญิงตรงๆ ไม่มีจริตมารยาใดๆ เจฟเลือกตุ่ม เราเชื่อว่าเจฟคงจะสบายใจ” ผมตอบแล้วยกไหล่ขึ้น สื่อว่าผมไม่ได้รู้สึกรู้สมอะไรแล้ว ผมมีสิทธิ์ห้ามหรือ ก็ไม่นะ แล้วจะเพื่ออะไร มันอึดอัด
“งั้นรึ? แน่ใจนะว่า ถ้าเราคบกับตุ่มแบบเป็นแฟนอย่างจริงจัง แบงค์จะไม่เสียใจ” เหมือนว่าเจฟจะรู้อะไรบางอย่างจึงตั้งคำถามนี้ขึ้นมาถามผม
“จะเสียใจอะไร” ผมแสร้งยิ้มเพื่อให้เขาสบายใจ “ก็อย่างที่เราบอกไปข้างต้น เพื่อนรักสองคนรักกัน เราควรจะดีใจและยินดีด้วย” จะให้ผมเล่นบททนี้ก็เล่นแล้วไง มาถึงจุดนี้ จะยื้อยุดบอกว่ารักเจฟ ไม่อยากให้เขาไปรักคนอื่นมันป่วยการเสียแล้ว ความรักของผมช่างเลือนลางเสียเต็มทน ผมใช้เวลาที่ในร้านอาหารอย่างอึดอัดและทรมานใจมากที่สุด เมื่อรับประทานอาหารเสร็จ เจฟทำหน้าที่สารถีส่งผมไว้ที่บ้านพิกุลทอง
“ขอบใจนะที่มาส่ง” ผมลงจากรถจักรยานยนต์ของเจฟ สายตาของผมมองไปข้างในบ้าน พวกพี่ๆ ลอบมองอยู่หลังผ้าม่านหน้าต่าง
“ดูแลตัวเองให้ดีล่ะ” คำอำลาจากเจฟเสมือนว่าพันธะสัญญาต่างๆ ที่เราสองมีต่อกันได้ขาดกันเสียแล้ว
“อืม ขับรถดีๆ นะ” ผมเอ่ยอำลา เจฟบิดรถจักรยานยนต์จากไป ผมยืนมองเขาขับจี่รถจักรยานยนต์เข้ามหาวิทยาลัยจนลับตาไป
ทุกอย่างเป็นเพราะเธอ
ฉันรู้สึกเศร้าระทม
เธอจากไปแล้ว ชีวิตฉันเหมือนอยู่ในวันฝนกระหน่ำ
ฉันรักเธอนะ เท่าไหร่เธอคงไม่รู้
เธอทิ้งฉันให้อยู่กับความเดียวดาย
ความทรงจำที่ไม่อาจสัมผัสได้
จะคอยหลอกหลอนฉันอยู่ร่ำไป
ด้วยความรักจากรักเธอ
เปลี่ยนท้องฟ้าสีเทาของฉันเป็นสีฟ้าสดใส
แต่เธอเหินห่างไป
ดวงตาเปี่ยมล้นด้วยน้ำตา
ฉันหวังว่าเธอจะอยู่เคียงข้างฉัน
ความรักอันอบอุ่นจากเธอ ทำให้ฉันคิดถึงเธอ
เมื่อเธอจากไป ฉันไม่รู้จะเช่นไรดี
หากเธอหวนคืนกลับมา
เธอช่วยซับน้ำตาให้กับฉัน
ดวงตะวันจะส่องแสงอีกครั้ง
เพราะเธอเป็นทุกอย่างของฉัน
หากในความเป็นจริง
เธอกับฉันไม่อาจเป็นไปได้แล้ว
เพราะเธอนั้นนำความรักไปจากฉัน
ชีวิตของผมไม่แตกต่างไปจากเพลงนี้เท่าใดนัก การอยู่กับความทรงจำที่ไม่อาจสัมผัสได้ มันคอยหลอกหลอนผมไปอีกนานแสนนาน ฝนเทลงเสมือนว่าท้องฟ้ากำลังร้องไห้แทนผม สุดท้ายแล้วผมก็ไม่มีใคร พอกันทีกับความรักที่เป็นไปไม่ได้