“เฟยเฟย แต่จริงๆแล้ว ข้าชอบฤดูใบไม้ร่วงนั่นนะ! เพราะทุกครั้งที่มันเกิดขึ้น ข้าก็จะได้เห็นและพบเจอเจ้าเสมอ ฤดูใบไม้ร่วงของเราสองคน แท้จริงแล้วมันไม่ได้เป็นแค่คำสาป แต่มันคือความงดงามแห่งโชคชะตา เพราะถึงแม้กระจกบานที่สิบจะดับสูญไปจากโลกนี้แล้ว แต่ “สุสาส์นราคะ” ที่พันผูกจิตวิญญาณเราทั้งสองคนไว้ด้วยกันนั้นจะยังคงอยู่เป็นปัจจุบันขณะเสมอ ไม่เปลี่ยนแปลง ไม่เปลี่ยนแปลง ไม่เปลี่ยนแปลง เป็นดั่งสัจจะนิจนิรันดร์” เจ้าวั่งซูเอ่ยพร้อมยิ้มอ่อนโยนให้คนรัก

ดั่งเราสองที่พบพานจากวันวารสู่นิจนิรันดร์ (The Amid Autumn) - 11 กระจกภพพืชพันธุ์ °•.< พืชพันธุ์ รกชัฏ และความลับ 1 >.•° โดย สุสาส์นราคะ @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ชาย-ชาย,รัก,ผจญภัย,แฟนตาซี,นิยายรักจีนโบราณ,นิยายรัก,นิยายจีนโบราณ,นิยายวาย,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

ดั่งเราสองที่พบพานจากวันวารสู่นิจนิรันดร์ (The Amid Autumn)

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ชาย-ชาย,รัก,ผจญภัย,แฟนตาซี

แท็คที่เกี่ยวข้อง

นิยายรักจีนโบราณ,นิยายรัก,นิยายจีนโบราณ,นิยายวาย

รายละเอียด

ดั่งเราสองที่พบพานจากวันวารสู่นิจนิรันดร์ (The Amid Autumn) โดย สุสาส์นราคะ @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

“เฟยเฟย แต่จริงๆแล้ว ข้าชอบฤดูใบไม้ร่วงนั่นนะ! เพราะทุกครั้งที่มันเกิดขึ้น ข้าก็จะได้เห็นและพบเจอเจ้าเสมอ ฤดูใบไม้ร่วงของเราสองคน แท้จริงแล้วมันไม่ได้เป็นแค่คำสาป แต่มันคือความงดงามแห่งโชคชะตา เพราะถึงแม้กระจกบานที่สิบจะดับสูญไปจากโลกนี้แล้ว แต่ “สุสาส์นราคะ” ที่พันผูกจิตวิญญาณเราทั้งสองคนไว้ด้วยกันนั้นจะยังคงอยู่เป็นปัจจุบันขณะเสมอ ไม่เปลี่ยนแปลง ไม่เปลี่ยนแปลง ไม่เปลี่ยนแปลง เป็นดั่งสัจจะนิจนิรันดร์” เจ้าวั่งซูเอ่ยพร้อมยิ้มอ่อนโยนให้คนรัก

ผู้แต่ง

สุสาส์นราคะ

เรื่องย่อ

นิยายเล่มนี้คือคัมภีร์แห่ง การค้นหาตัวตนผ่านโชคชะตาที่วนซ้ำ ความสนุกและมหัศจรรย์แห่งการเวียนว่ายของดวงจิตในภพภูมิทั้ง 9 และ มหากาพย์แห่งรักชั่วนิจนิรันดร์

“เจ้าวั่งซู และ ฮวาเฟยฟา (วั่งเฟย) สองดวงจิตที่พันผูกกันหลายแสนชาติ ถูกลิขิตให้หวนคืนเพื่อเล่นชะตาที่วนซ้ำ ผ่านการเดินทางทั้ง 9 ภพภูมิ: ภพมนุษย์ ภพอมนุษย์ ภพพืชพันธุ์ ภพฝันแห่งความเงียบงัน ภพเดรัจฉาน ภพจิตภูติ ภพสวรรค์ ภพปรภพ ภพปีศาจ

เพื่อค้นหาคำตอบในการหยุดวังวนแห่งโชคชะตา สู่การเริ่มต้นครั้งใหม่ เพื่อก้าวสู่ความเป็นนิจนิรันดร์”

..สุสาส์นราคะ..

สารบัญ

ดั่งเราสองที่พบพานจากวันวารสู่นิจนิรันดร์ (The Amid Autumn)-1 ปฐมบท °•.< ตระกูลเจ้า >.•°,ดั่งเราสองที่พบพานจากวันวารสู่นิจนิรันดร์ (The Amid Autumn)-2 หมู่บ้านชุนเทียน °•.< หมู่บ้านต้องสาป >.•°,ดั่งเราสองที่พบพานจากวันวารสู่นิจนิรันดร์ (The Amid Autumn)-3 สำนักคุ้มภัยเก้าจักยุตกรา °•.< หุบเขาเก้ากระจก >.•°,ดั่งเราสองที่พบพานจากวันวารสู่นิจนิรันดร์ (The Amid Autumn)-4 ชะตาเราสองดั่งใบไม้ร่วง °•.< ดั่งเราสองที่พบพานจากวันวารสู่นิจนิรันดร์ 1 >.•°,ดั่งเราสองที่พบพานจากวันวารสู่นิจนิรันดร์ (The Amid Autumn)-5 บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์จืออู่ตี้ °•.< ดั่งเราสองที่พบพานจากวันวารสู่นิจนิรันดร์ 2 >.•°,ดั่งเราสองที่พบพานจากวันวารสู่นิจนิรันดร์ (The Amid Autumn)-6 กระบี่สุสานมังกร °•.< ดั่งเราสองที่พบพานจากวันวารสู่นิจนิรันดร์ 3 >.•°,ดั่งเราสองที่พบพานจากวันวารสู่นิจนิรันดร์ (The Amid Autumn)-7 ยักษ์ถูหลันเทพธิดาเม่งเซี๊ยะ °•.< ดั่งเราสองที่พบพานจากวันวารสู่นิจนิรันดร์ 4 >.•°,ดั่งเราสองที่พบพานจากวันวารสู่นิจนิรันดร์ (The Amid Autumn)-8 ภพฝันแห่งความเงียบงัน °•.< ดั่งเราสองที่พบพานจากวันวารสู่นิจนิรันดร์ 5 >.•°,ดั่งเราสองที่พบพานจากวันวารสู่นิจนิรันดร์ (The Amid Autumn)-9 โคลงเจี๋ยหยี่ โคลงคืนชีวิต °•.< ดั่งเราสองที่พบพานจากวันวารสู่นิจนิรันดร์ 6 >.•°,ดั่งเราสองที่พบพานจากวันวารสู่นิจนิรันดร์ (The Amid Autumn)-10 สุราดอกซ่างฮัวหลัว °•.< ดั่งเราสองที่พบพานจากวันวารสู่นิจนิรันดร์ 7>.•°,ดั่งเราสองที่พบพานจากวันวารสู่นิจนิรันดร์ (The Amid Autumn)-11 กระจกภพพืชพันธุ์ °•.< พืชพันธุ์ รกชัฏ และความลับ 1 >.•°,ดั่งเราสองที่พบพานจากวันวารสู่นิจนิรันดร์ (The Amid Autumn)-12 ร่างเทียม °•.< พืชพันธุ์ รกชัฏ และความลับ 2 >.•°,ดั่งเราสองที่พบพานจากวันวารสู่นิจนิรันดร์ (The Amid Autumn)-13 ผีเสื้อแห่งความตาย °•.< พืชพันธุ์ รกชัฏ และความลับ 3 >.•°,ดั่งเราสองที่พบพานจากวันวารสู่นิจนิรันดร์ (The Amid Autumn)-14 ปรมาจารย์หลานหลี่เซ่อ °•.< พืชพันธุ์ รกชัฏ และความลับ 4 >.•°,ดั่งเราสองที่พบพานจากวันวารสู่นิจนิรันดร์ (The Amid Autumn)-16 ต้นไม้บรรพกาลหมู่ซู่ °•.< พืชพันธุ์ รกชัฏ และความลับ 6 >.•°,ดั่งเราสองที่พบพานจากวันวารสู่นิจนิรันดร์ (The Amid Autumn)-17 ต้นไม้แห่งชีวิต °•.< พืชพันธุ์ รกชัฏ และความลับ 7 >.•°,ดั่งเราสองที่พบพานจากวันวารสู่นิจนิรันดร์ (The Amid Autumn)-18 พระมารดาแห่งจิตวิญญาณ °•.< พืชพันธุ์ รกชัฏ และความลับ 8 >.•°,ดั่งเราสองที่พบพานจากวันวารสู่นิจนิรันดร์ (The Amid Autumn)-19 คฤหาสน์สีดำตระกูลเจ้า °•.< ตำหนักจันทร์มืด (月亮 เย่วเลี่ยว) >.•°,ดั่งเราสองที่พบพานจากวันวารสู่นิจนิรันดร์ (The Amid Autumn)-20 ฮวาเฟยฟา °•.< องค์ชายมังกร >.•°,ดั่งเราสองที่พบพานจากวันวารสู่นิจนิรันดร์ (The Amid Autumn)-21 ตัวข้าที่แตกสลาย °•.< The Amid Autumn 1 >.•°

เนื้อหา

11 กระจกภพพืชพันธุ์ °•.< พืชพันธุ์ รกชัฏ และความลับ 1 >.•°

ภาพและเรื่องราวตะกี้มันคืออะไร “นี่เราสองคนเคยรู้จักกันมาก่อนใช่ไหม” เจ้าวั่งซูเหมือนฟื้นจากภวังค์ และ มองที่ฮวาเฟยฟา แม้ภาพจำจะเลือนราง ยังไม่ชัด ความทรงจำที่วิ่งเข้ามายังไม่อาจปะติดปะต่อ บรรยากาศรอบตัวดั่งใบไม้ร่วง และ ดวงหน้าของคนที่อยู่ตรงหน้าที่สะกดใจตัวอย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัว แต่เค้าก็มั่นใจว่าคนนี้คือคนสำคัญในชีวิตเค้า

“ใช่ไม๊! เราเคยรู้จักกันมาก่อนใช่ไม๊ โปรดบอกข้าที” เจ้าวั่งซู เอ่ยถามซ้ำ

ฮวาเฟยฟาหลับตาก้มหน้ายิ้มมุมปาก “ใช่สิเจ้าก็ต้องเห็นและรู้สึกเหมือนที่ข้ารู้สึกสินะ”

“เรื่องราวในความทรงจำเมื่อกี้มันคืออะไร มันช่างคุ้นเคยเหมือนกับข้าเคยผ่านมันมาเอง ไม่ใช่สิเหมือนเป็นเรื่องคนอื่นที่ข้าไปเป็นและรู้สึกแทนเค้า เค้าคนนั้นคือใคร? ทำไม? และทำไมถึงมีท่านในนั้น?” เจ้าวั่งซูเอ่ยถามวกวนสงสัย

“เจ้าคิดว่าพวกเราเคยรู้จักกันมาก่อนใช่ไม๊” ฮวาเฟยฟาเอ่ยถาม

“ใช่! ข้ามั่นใจว่ามีท่านในความทรงจำที่ผ่านเข้ามา แต่ข้าไม่รู้ว่าท่านคือใครและข้าคือใคร” เจ้าวั่งซูตอบยืนยัน

“ข้าก็คิดเหมือนเจ้า เจ้าคิดอะไรข้าก็คิดแบบนั้น ข้าคิดเหมือนเจ้าทุกอย่าง ซูซู” ฮวาเฟยฟาเอ่ยกำกวม

เจ้าวั่งซูมองหน้าฮวาเฟยฟาและงง คิดในใจ “สรุปมันแปลว่าอะไร”

“มันนานมากแล้วนะ ที่ข้าเคยรอเจ้าอยู่ตรงนี้” ฮวาเฟยฟาหันมายิ้มอ่อนโยนมองเจ้าวั่งซู ทั้งสองมองสบตากัน คล้ายระลึกผูกเชื่อมโยงความรู้สึกถึงกัน

แสงอาทิตย์ยามสายกระทบผิวน้ำสะท้อนวิบวับงดงาม เสียงน้ำตกที่ตกกระแทกพื้นน้ำดังเป็นท่วงทำนองที่หนักหน่วง ละอองน้ำที่แตกกระเซ็นใส่ดอกไม้พืชพันธุ์รอบบริเวณ เสียงนกร้องเคียงคู่กัน หงส์ป่าที่ว่ายน้ำคลอเคลียกัน เราสองจะไม่พรากจากกันนิรันดร์ เจ้าวั่งซู่ยืนมองฮวาเฟยฟา ในดวงตาคล้ายเข้าใจความหมายของคำๆ นั้น และในใจก็ตอบกลับไปอย่างอ่อนโยน

ขอบคุณนะ ที่เจ้าไม่เคยทอดทิ้งข้าไปไหนเลย มันอาจจะนาน แต่ข้าสัญญาว่าจะไม่ทิ้งให้เจ้าต้องรออีกต่อไป” บรรยากาศใบไม้ร่วงรอบด้านเริ่มหยุดลง เหล่าบรรดาพืชพันธุ์ต่างคืนชีวิตกลับสู่บรรยากาศแห่งภพพืชพันธุ์ปกติ

“แต่ข้าไม่เข้าใจ ข้าจำอะไรไม่ได้ ปะติดปะต่อเรื่องราวอะไรไม่ได้เลย มีแค่ความรู้สึกที่คุ้นเคย สุข เศร้าเจ็บปวด เต็มไปหมด” เจ้าวั่งซูกล่าว

“เจ้าอย่ากังวลเลย เดี๋ยวเจ้าก็จำได้ และยิ่งมีข้าอยู่ด้วยข้างๆ เจ้าแบบนี้ ข้าคนนี้ไม่ปล่อยให้เจ้าลืมนานขนาดนั้นหรอก” ฮวาเฟยฟาพูดยิ้มเจ้าเล่ห์ 

“นี่! เค้าจะทำอะไรข้ากันแน่คนนี้” เจ้าวั่งซูคิดในใจ “เอ่อ ข้าไม่ค่อยเข้าใจแต่ก็ขอบคุณเจ้าด้วยละกัน”

“ว่าแต่ทำไมเจ้าถึงนั่งลงตรงนั้น ทั้งๆ ที่บอกจะลงน้ำกัน ” เจ้าวั่งซูเอ่ยถาม

“ข้ารู้สึกได้ว่าวันนี้ ตรงนี้ ในอดีต ข้าเคยทำของสำคัญหล่นหาย ข้าเลยหามันและคิดว่าจะกลับคืนมา ที่นี่คือจุดเริ่มต้น” ฮวาเฟยฟาพูดอมยิ้ม

“ของสำคัญหรอ คงสำคัญกับท่านมากใช่ไม๊” เจ้าวั่งซูเอ่ยถาม

“ไม่ใช่แค่มาก แต่ มากที่สุดในชีวิต” ฮวาเฟยฟาพูดและหันมายิ้ม เจ้าวั่งซูมองเขิลทั้งที่ไม่รู้ว่าคืออะไร

“เอ๊ะ! หรือร่างที่เห็นทับซ้อนกันในนิมิตรคือปู่ทวดข้า!? เหอะๆ! แต่ตัวข้าเองก็เหมือนมีป้ายตระกูลเจ้าแขวนอยู่บนหน้าผากตลอดเวลาอยู่แล้ว ข้าเดินไปไหน คนหันมามองและเสียงซุบซิบนินทาเรื่องบรรดาเจ้าวั่งซูรุ่นก่อนๆ ก็ดังมาก ข้าไม่เข้าใจ! แม้ชื่อข้าจะเหมือนกับรุ่นก่อนหน้า แต่หน้าข้าไม่ได้เหมือนพวกเค้าสักหน่อย ข้าก็แค่เด็กคนหนึ่งที่ได้ตกทอดเคียวสู่ภพมาต่อๆ จากตระกูลข้า แต่ทำไมทุกคนถึงได้จับจ้องข้าไม่วางตา เสมือนว่าข้าผู้นี้เป็นทำการระเบิดครั้งใหญ่นั่น” เจ้าวั่งซูกอดอกบ่นคับใจ

“เจ้าพูดแบบนี้ แสดงว่า เจ้าไม่เคยเห็นเหล่าเจ้าวั่งซู โดยเฉพาะผู้เลื่องชื่อรุ่นที่ 1 สินะ” ฮวาเฟยฟาอมยิ้มเอ่ยถาม

“หา! เออไม่เคยนะ! แต่มันหลายร้อยหลายพันปีมาแล้ว ข้าจะไปหารูปมาจากไหน ว่าแต่ทำไมเจ้าเคยเห็นหรอ หน้าตารูปร่างท่านปู่ทวดข้าเป็นยังไง” เจ้าวั่งซูเอ่ยถามอย่างสงสัยใคร่รู้

“เจ้าลองดูในน้ำนั่นสิ” ฮวาเฟยฟาเอ่ย

“หือ! อะไร มีอะไรในน้ำ” เจ้าวั่งซูถามพร้อมนั่งยองๆ ลงริมน้ำและมอง เห็นหน้าตัวเอง “ก็ไม่เห็นมีอะไร หนิ เจ้าจะให้ข้าดูอะไร” สักพักภาพหน้าในน้ำถูกซ้อนทับด้วยใบหน้าอีกคนที่ดูเป็นผู้ใหญ่กว่า แต่งองค์ทรงเครื่องเหมือนตัวเค้าเอง และ “เดี๋ยวนะ เอ๊ะ หน้านี้มันหน้าข้าหนิ” วั่งซูตกใจ ร้อง “เฮ้ย” ขาก้าวถอยหลังออกจากน้ำสะดุดล้มลงก้นจ้ำเบ้า แต่สติก็ยังไม่มา

“หรือๆ ว่า เจ้าวั่งซูรุ่นที่ 1 ก็คือ......!?” เจ้าวั่งซูหันหน้าเหวอตกใจไปทางฮวาเฟยฟาที่นั่งอยู่บนก้อนหินยักษ์ใต้ต้นไม้ใหญ่

ฮวาเฟยฟากล่าวตอบ “ยังมีเรื่องอีกมากมายที่เจ้าต้องรู้ ข้าถึงบอกไง ว่าข้าไม่ปล่อยให้มันนานเกินไปหรอก” ฮวาเฟยฟาหันมาอมยิ้มทำตาพริ้ม

“ห่ะ! นี่เจ้าๆ นี่ข้าอยู่กับเซียนบทสวรรค์หรือปีศาจจากนรก คนๆ นี้เป็นคนยังไงกันแน่นะ” เจ้าวั่งซูคิดหวั่นในใจ

“สำหรับเรื่องเจ้าวันนี้พอแค่นี้ก่อน ไปกันเถอะ” ฮวาเฟยฟาเอ่ยชวนพร้อมก้าวเท้าลงจากหินยักษ์

“ไปไหน” เจ้าวั่งซูถาม

“ไปทำในสิ่งที่เจ้าทำค้างไว้ไง” ฮวาเฟยฟาเอ่ยยิ้มอ่อนโยน

ในหัวเจ้าวั่งซูเหมือนความทรงจำในอดีตลอยมาแว่บนึง พร้อมเสียงแผ่วกระซิบ “สุราดอกซ่างฮัวหลัว ไปกันเฟยเฟย พวกเราต้องเป็นคนแรกที่ได้กินปีนี้”

“ดื่มสุราดอกซ่างฮัวหลัวจอกแรกของปีที่ฝังอยู่ใต้ต้นไม้แห่งชีวิตในกระจกภพพืชพันธุ์” เจ้าวั่งซู ได้สติก็ “เอ๊ะข้าพูดอะไรไป”

“ว่าแต่พวกเราจะดำน้ำลงไปหรอ” เจ้าวั่งซูเอ่ยสงสัย

ไป่ชิงหลงปรากฏตัวขึ้นต่อหน้าทั้งสาม และคายไอฟองอากาสห่อหุ้มร่างทั้งหมด และช้อนอุ้มขึ้นไว้ในกรงเล็บมือทั้งสองที่แข็งแรง ดวงตาสีฟ้าดุจไพลินเปล่งแสงแหวกทางน้ำร่างกายเกล็ดสีขาวสะท้อนดั่งไข่มุก กระโจนตัวทะยานดำดิ่งลงด้านล่างพื้นน้ำอย่างรวดเร็ว

ภายใต้ผิวน้ำนั้นเต็มไปด้วยเส้นรากแก้วเปล่งแสงสีฟ้าระยิบระยับ รากของต้นไม้แห่งชีวิตที่ชอนไชทั่วบริเวณเพื่อถ่ายทอดพลังชีวิตให้แก่ทุกสรรพสิ่ง บรรยากาสใต้น้ำสว่างงดงามมีพืชพันธุ์แปลกๆ มากมายหลากสีสัน เชื่อมต่อกับรากของต้นแม้แห่งชีวิตเปล่งแสงสว่างขยับมีชีวิตทั่วบริเวณ นี่คือสวรรค์ใต้น้ำ ในขณะที่ไป่ชิงหลงดำดิ่งลึกลงเรื่อยๆ ผ่านพืชพันธุ์รอบด้านนานา ก็เริ่มรู้สึกถึงการบีบรัดและอึดอัด บรรยากาศรอบด้านเริ่มแปลกๆ ไป เหล่าต้นไม้เริ่มยืดกิ่งก้านมุ่งหมายเข้ารัดจับตัวชิงหลง และบางต้นกลับมีฟันเขึ้ยวแหลมคมพุ่งเข้าโจมตี แต่ชิงหลงมีบาเรียหุ้มร่างกายไว้จึงไม่สะทกสะท้านอะไร

“นี่พวกต้นไม้พวกนี้ล้วนมีชีวิต จากพลังจากต้นไม้แห่งชีวิตด้านบน ข้าเข้าใจว่า หลานหลี่เซ่อ คือคนจำลองทุกอย่างที่นี่ขึ้น และเป็นคนเติมพลังชีวิตให้สิ่งเหล่านี้ แต่ทำไม มันถึงได้สามารถให้พลังชีวิตได้เหมือนต้นจริงที่มีชีวิตอยู่ที่ภพพืชพันธุ์” เจ้าวั่งซูถามสงสัย

“เฟยเฟย เจ้าเคยเห็นภพพืชพันธุ์ของจริงไม๊ มันเป็นตามตำราว่าไว้หรือไม่”

“บรรยากาศภพท้องฟ้าเปิดสว่าง มีเพียงพันธุ์พืชหลากสีสัน พืชบก พืชน้ำ พืชผล พืชใบ พืชยืนต้น พืชล้มลุก ดอกไม้นานาพันธุ์เกิดโตทอดกายทับซ้อนกัน ทำให้บรรยากาศโดยรวม บางส่วนคล้ายโลกบรรพกาล พันธุ์ไม้และดอกไม้มากมายในภพนี้ คือสิ่งที่หายากทั้งหมด และไม่สามารถพบได้ในภพไหนๆ เพราะมีการผสมพันธุ์ข้ามสายพันธุ์ของพันธุ์พืชมากมายที่นี่ ในตำรากล่าวว่า

จะมีดวงจิตปฏิสนธิจากภพเดรัจฉานเพียงชนิดเดียวที่สามารถอยู่ร่วมและขยายพันธุ์ในภพพืชพันธุ์ได้นั่นคือ “ผีเสื้อราตรี” ผู้ที่ทำหน้าที่ช่วยนำเกสรของพืชต่างพันธุ์เข้าผสมข้ามพันธุ์เพื่อขยายพืชต่างๆ ให้เจริญแตกแขนงสายพันธุ์ระเบิดออก ผีเสื้อราตรีโดยปกติจะกระจุกตัวอยู่รอบต้นไม้แห่งชีวิต เพื่อรับไอแห่งชีวิต เฉกเช่นเดียวกับพืชอื่นๆ ในภพนั้น

ในอดีตกาลที่เกิดเหตุระเบิดที่จัตุรัสเฟิงสุ่ย ทำให้เมล็ดพืชพันธุ์นานาชนิดแตกระเบิดกระจายและไปกำเนิดภพภูมิอื่นๆ แต่ก็น้อยนักที่จะยังสามารถมีชัวิตรอดและเจริญเติบโตในรูปแบบเดิม จะเหลือเพียงการเปลี่ยนรูปทรงให้ง่ายขึ้นไร้ความประหลาด และความงามที่น่าฉงน กลับคงไว้เพียงรูปลักษณ์ของต้นไม้ดอกไม้ปกติที่พวกเราได้เห็น เช่น เหล่าพืชพันธุ์ในภพมนุษย์ก็เช่นกัน และที่สำคัญคือพืชพันธุ์ที่จุติต่างภพจะไร้วิญญาณตั้งอาศัย นั่นหมายความว่า ในขณะที่เผ่าพันธุ์ต้นไม้ดอกไมที่ปฏิสนธิที่ภพพืชพันธุ์ จะสามารถพูดขยับและมีพลังจักราไม่ต่างจากดวงวิญญาณในภพอื่นๆ นั่นก็เพราะต้นไม้แห่งชีวิต เหล่าพืชพันธุ์จะเชื่อมต่อรับพลังและกำเนิดดวงจิตเปล่งแสงขยับ ปกป้อง และโจมตี ได้ แต่จะสูญเสียดวงจิตนั้นไป คงเหลือเพียงร่างพืชพันธุ์ยืนต้นธรรมดาในภพนั้นๆ เพราะขาดไร้ซึ่งพลังจากต้นไม้แห่งชีวิต”

“ถ้าอย่างั้น เจ้าคิดเหมือนข้าไม๊ ว่าที่นี่แหล่ะคือภพแห่งพืชพันธุ์” เจ้าวั่งซูเอ่ยกับฮวาเฟยฟา

ทั้งสองนิ่งและมองหน้ากัน แล้วทำไมภพพืชพันธุ์ถึงมาอยู่ที่นี่ได้ มันมีอยู่เพื่อจุดประสงค์อะไร คงมีแต่หลานหลี่เซ่อเท่านั้นที่ให้คำตอบได้ แต่เค้าไม่ได้อยู่ที่เรือนตอนที่พวกเราเข้ามา หลานหลี่เซ่อ ต้นไม้แห่งชีวิต ลำธารแห่งชีวิต สุราดอกซ่างฮัวหลัว กระจกพืชพันธุ์ และภพพืชพันธุ์ เหล่านี้ข้องเกี่ยวกันอย่างไร

“ข้ารู้สึกกลิ่นไม่ดีเกี่ยวกับเรื่องนี้” เจ้าวั่งซูเอ่ย

เฟยฟาพยักหน้ารับแบบเห็นด้วย “งั้นพวกเราเริ่มจากปมแรก “สุราดอกซ่างฮัวหลัว” หาให้เจอน่าจะมีเบาะแสชี้นำไปสิ่งอื่น”