เป็นเมียน้องแล้ว เป็นเมียพี่อีกคนจะเป็นไรไป
ชาย-หญิง,ครอบครัว,จิตวิทยา,รัก,ดราม่า,นางเอกน่าสงสาร,พระเอกปากร้ายแต่ใจดี,ฝาแฝด,แก้แค้น,ชายหญิง,ดราม่า,พล็อตสร้างกระแส,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
ตอนนั้นฉันแค่เข้าใจผิด69
END
วินาทีนั้น ใจฉันกระตุกวูบ สับสนในความรู้สึกของตัวเองราวกับว่า มันเป็นอย่างที่กีต้าร์พูดจริงๆ
"เกี่ยวก้อยกันนะ!"
"ห๊ะ?"
เขาดึงมือฉันไปเกี่ยวก้อยอย่างเดียงสา จะว่าไปแล้ว กีต้าร์ก็ดูเหมือนเด็กน้อยอยู่เลยนะ หรืออาจเป็นเพราะเขาหลับไปนาน ตื่นขึ้นมาถึงได้ดูเหมือนเด็กน้อยแบบนี้ไปได้
แต่ฉันก็ยิ้มรับเขาอย่างเอ็นดูนั่น อีกอย่างความคิดของฉันมันก็เปลี่ยนไป ราวกับได้ปลดปล่อยความรู้สึกที่ติดค้างในใจมาอย่างยาวนานเสียอย่างนั้น
"ตอนเรียน นายมองเราอยู่ตลอดเลยเหรอ?"
"ก็มองนะ ก็เธอโดดเด่นหนิ มีแต่เพื่อนๆ เข้าหา"
"ฮ่ะ ฮ่าๆ"
ฉันพูดคุยกับกีต้าร์อย่างถูกคอเสียอย่างนั้น พอได้คุยกับเขาจริงๆ มันก็กลับกลายเป็นว่าเขาทำให้ฉันสบายใจขึ้นเยอะเลย นายนี่ไร้เดียงสาจริงๆ
"นายไม่คิดจะหาแฟนใหม่เหรอ?"
"ไม่ล่ะ เราจะรอพิงฟ้าออกจากคุก อย่างไงเธอก็เป็นแม่ของลูกเรา เป็นแม่ของน้องพราว"
แถมเขายังรักเดียวใจเดียวและมั่นคงในความรักอีกต่างหาก ทั้งๆ ที่ผู้หญิงคนนั้น ทำร้ายเขามาตั้งมากมายขนาดนั้นแท้ๆ
ถ้าอิตาพี่ชายเขาได้สักครึ่งนึงของเขาคงจะดีนะ แต่ที่ผ่านมา เฮ้อ! ไม่อยากจะพูด เปลี่ยนผู้หญิงอย่างกับรองเท้า
แกร๊ก!
แต่แล้ว ร่างใหญ่อีกคนก็เดินเข้ามา พร้อมกับแม่ของฉัน
"มะ......แม่!"
แม่โผเข้ากอดฉันอย่างแน่นหนา ราวกับคิดถึงฉันมาตลอดที่ฉันหายไป ฉันน้ำตาไหลพรากไม่รู้จะเอ่ยพูดคำไหนออกมา นอกจาก
"ทำไม ไม่ติดต่อแม่มาเลย ฮะ! ยัยพิง?"
"หนูขอโทษ"
ฉันรีบยกมือกราบลงบนตักแม่ด้วยความเจ็บปวด ที่ไม่คิดว่าแม่จะเป็นห่วง ฉันถึงขนาดนี้ ก่อนที่ฉันจะเหลือบมองไปยังคนตัวใหญ่ที่ยืนยิ้มอยู่ข้างเตียง
"เรื่องศพของแม็กทิว ฉันจัดเรียบร้อยแล้วนะ รอแค่ให้พวกเราไปร่วมพิธี"
"อื้ม ขอบคุณมากนะ เปียโน"
นี่คงเป็นครั้งแรกในรอบ 3 ปี ที่ฉันพูดดีกับเขา ใบหน้าคมร้อนแผ่วราวกับดีใจ ที่ได้ยินฉันเอ่ยขอบคุณ
เขายกยิ้มขึ้นรับคำขอบคุณจากฉันอย่างสดใส ก่อนที่แม่จะดึงมือฉันและเขาประกบเข้าหากัน
"เปียโน พักพิง ต่อไปนี้หนูต้องเข้าใจกันให้มาก และรักกันให้มากๆ มีอะไรก็คุยกัน อย่าผิดใจกันอีกนะลูก เพราะคนที่เจ็บปวด คือตัวของลูกๆ เอง"
เราทั้งคู่ยิ้มรับคำสอนของแม่อย่างเข้าใจ ก่อนที่ท่านจะลุกขึ้นจากเตียงคนไข้และจูงมือกีต้าร์เดินออกไปจากห้องพักฟื้น ทิ้งให้ฉันกับเปียโนอยู่ด้วยกันสองต่อสอง
ฉันรู้สึกประหม่าไม่น้อย ที่ต้องมานั่งมองเปียโน ที่ยืนจับมือตัวแข็งทื่ออยู่แบบนั้น ฉันไม่รู้จะเริ่มพูดอะไรก่อนดี ไม่รู้จะเอ่ยตอบสิ่งใดออกไปก่อนดี
"เออคือ" (พูดพร้อมกัน)
"เออ...เธอพูดก่อนเลย"
"คือ ฉันคุยกับกีต้าร์แล้วนะ สิ่งที่กีต้าร์พูดกับฉัน มันก็ถูกแหละ เราทั้งคู่ต่างเจ็บปวดมามากพอแล้ว เพราะฉะนั้น"
ฉันยังพูดไม่ทันจบ ร่างใหญ่ก็โถมเข้ากอดฉันอย่างรวดเร็ว จนฉันสะดุ้งสุดตัว ทำได้เพียงนั่งตัวแข็งทื่ออยู่แบบนั้น ไม่ได้ขยับตัวหนีไปไหน
"ขอบคุณนะ พักพิง เรามาเริ่มต้นกันใหม่นะ ที่ผ่านมา ฉันขอโทษ เรื่องที่ฉันเข้าใจผิดเธอ เรื่องที่ฉันทำร้ายจิตใจเธอ และ ทุกๆ เรื่อง ที่ทำให้เธอต้องมานอนร้องไห้คนเดียว ขอโทษจริงๆ"
ฉันน้ำตาไหลพราก ไม่รู้จะเอ่ยพูดอะไรออกมาอีกแล้ว แต่ฉันก็รับรู้ได้ถึงความรู้สึกของเขาด้วยเช่นกัน ที่เขาสำนึกผิดต่อฉันถึงขนาดนี้
ก่อนที่เขาจะถอดกอดออก มันทำให้เห็นน้ำตาของเขาเป็นครั้งแรกในชีวิตของฉัน เขาร้องไห้ออกมาอย่างน่าเห็นใจ นี่เขารักฉันถึงขนาดนี้เลยเหรอ
"อื้ม เรามาเริ่มต้นกันใหม่นะ เปียโน"
"จริงๆ นะ พักพิง"
"ค่ะ!"
เขาดึงตัวฉันเขาไปกอดอีกครั้ง และประกบจูบฉันอย่างอ่อนโยน ราวกับนี่คือคำมั่นสัญญาว่านับต่อแต่นี้ไป ชีวิตของฉันจะมีความสุขในทุกๆ วัน ตราบใดที่เขายังมีลมหายใจอยู่ .....
** END**
จบแล้วนะคะ สำหรับนิยายเรื่อง ตอนนั้นฉันแค่เข้าใจผิด อิชง ขอขอบพระคุณทุกๆ คอมเม้นและทุกๆ กำลังใจที่ส่งเข้ามาอย่างหนักหน่วง มันทำให้ อิชง รู้สึกมีกำลังใจ ในการเขียนเป็นอย่างมาก ขอขอบพระคุณค่ะ
ตอนพิเศษอยู่ใน E-Book นะคะ