เป็นเมียน้องแล้ว เป็นเมียพี่อีกคนจะเป็นไรไป
ชาย-หญิง,ครอบครัว,จิตวิทยา,รัก,ดราม่า,นางเอกน่าสงสาร,พระเอกปากร้ายแต่ใจดี,ฝาแฝด,แก้แค้น,ชายหญิง,ดราม่า,พล็อตสร้างกระแส,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
ตอนนั้นฉันแค่เข้าใจผิด67
สิ่งที่ไม่คาดฝัน!
เพี้ยะ!
ฉันตบเข้าหน้าคมอย่างจัง จนหันไปอีกทาง ด้วยความเดือดดาลจนยากจะเอ่ย กล้าดีอย่างไงกัน ถึงได้พาลูกๆ ของฉันไปจากอกของฉัน
"เธอตบฉัน ทั้งที่ฉันยังหัวแตกอยู่เนี่ยนะ?"
"ใช่! ฉันเกลียดนาย และฉันก็เหนื่อยมากด้วย ที่จะต้องเห็นหน้านาย"
พูดจบ เขาก็ดึงตัวฉันเข้าไปประกบจูบอย่างดุดัน แถมยังกดต้นคอฉันให้แนบชิดจนถอดฝีปากออกไม่ได้
ปลายนิ้วมือฉันฟาดเข้าแก้มขาวย้ำๆ อยู่แบบนั้นถี่ๆ แต่ก็ไม่มีทีท่าว่าเขาจะยอมถอดริมฝีปากออกจากโพรงช่องปากฉันเลย มันยิ่งแนบแน่นขึ้นไปอีก จนฉันหายใจไม่ออก
"อ้า!"
แต่เมื่อฉันเริ่มนิ่ง เขาจึงยอมถอดริมฝีปากออก และลูบแก้มฉันอย่างอ่อนโยน พลางจูบลงบนแก้มขาว เพื่อบ่งบอกถึงการยินยอมฉันในทุกๆ อย่าง
"ฉันรักเธอมากนะ ฉันยอมเธอได้ทุกอย่าง ถึงเธอจะทำร้ายฉันให้เจ็บปางตายฉันก็ยอม แต่ขอร้อง เราอย่าหย่ากันเลยนะ เพื่อลูกๆ เพื่อฉัน"
".........."
"ฉันรู้ว่าฉันทำผิดต่อเธอมาตลอด แต่ฉันขอร้องได้ไหม อย่าทิ้งฉันไปไหนอีกเลย ชีวิตฉันต้องการเธอ บ้านก็ต้องการเธอ เรามาเริ่มต้นกันใหม่ได้ไหม พักพิง"
คำพูดหวานหู น้ำเสียงอ่อนโยนของเขา มันทำให้ฉันถึงกับพูดอะไรไม่ออก ทำได้เพียงแค่นิ่งเงียบราวกับถูกสะกดจิต
"ฉันหวังว่า ถ้าฉันเอาข้าวมาให้อีก เธอจะไม่อาละวาด ฉันเหมือนทุกๆ ครั้งอีกนะ"
เมื่อพูดจบ เขาก็เดินออกจากห้องไป ทิ้งให้ฉันนั่งสงบทำใจคิดถึงเรื่องราวต่างๆ ที่ผ่านมา แต่ยิ่งคิด ฉันก็ยิ่งรู้สึกแย่ ฉันไม่สามารถให้อภัยเขาได้เลยจริงๆ ไม่สามารถทำได้จริงๆ
ฉันจะทำใจอยู่กับคนที่โกหกหลอกลวงฉันมาแต่ต้นได้อย่างไง ในเมื่อทุกอย่างในตอนนี้มันเปลี่ยนไปหมดแล้ว ฉันแต่งงานใหม่แล้ว แถมยังออกจากชีวิตเขามาตั้งสามปี
เย็นวันนั้น
เมื่อเปียโนเข้ามาอีกครั้ง ฉันก็อาละวาดเขาอย่างทุกครั้งอีกตามเคย
แกร๊ก!
"เมียจ๋า ผัวเอาข้าวมาให้จ๋า"
ตุบบบ!! โครม!!!
"ออกไป......!!"
"โอ๊ยยยยย!"
เขาพยายามหลบหมอนที่ฉันขว้างใส่อย่างดุดัน ก่อนจะเอาจานข้าววางลงบนโต๊ะอาหาร ก่อนจะเดินเข้ามาหาฉันอย่างหวาดหวั่น เหมือนดั่งทุกครั้ง ที่ฉันอาละวาดออกไป
"นี่ยังไม่หยุดอาละวาดอีกเหรอ?"
"เออ ออกไป กูเกลียดมึง!"
"ออกไป"
มือใหญ่กระชากแขนฉันอย่างแรง ก่อนที่ฉันจะหยุดชะงักไป จ้องมองเสื้อผ้าสีดำที่เขาใส่ออกตะลึงงัง
"นาย!"
"นะ......นายใส่ชุดดำทำไม?"
นัยน์ตาคมหลบสายตาฉันก่อนกลืนน้ำลายลงคอ เขาหยิบชุดสีดำในมือ ยื่นให้ฉันอย่างเชื่องช้า ราวกับต้องการให้ฉันใส่มัน
"ไปอาบน้ำใส่ชุดนะ พักพิง แล้วเราจะพาเธอไปหาใครคนนึง"
ฉันรีบดึงชุดสีดำในมือเขามาอย่างลนลานก่อนจะรีบอาบน้ำเปลี่ยนชุดอย่างรวดเร็ว ในมือใหญ่ ถือกุญแจมาไข้ตรงข้อเท้าฉัน ก่อนจะจูงมือฉันไปขึ้นรถอย่างรวดเร็ว
ณ โรงพยาบาล
"นะ.....นายพาฉันมาโรงพยาบาลทำไม?"
ใบหน้าคมกลืนน้ำลายลงคอขาวอย่างอึดอัดใจ ก่อนที่เขาจะลงรถมาเปิดประตูรถให้ฉัน เพื่อให้ฉันลงรถตามเขาเข้าไปในโรงพยาบาล
เหล่าพยาบาล ยืนรอต้อนรับเขาอย่างโศกเศร้า ก่อนที่พยาบาลจะเปิดประตูห้องดับจิตออก เพื่อให้ฉันและเปียโนเดินตามเข้าไป
แต่เมื่อห้องดับจิตเปิดออก แล้วฉันเดินเข้าไปยังร่างที่มีผ้าขาวคลุมปิดร่างกายไว้อยู่นั่น ฉันก็แทบเป็นลมล้มทั้งยืน เพราะนั่น มันคือร่างไร้วิญญาณของแม็กทิว
ที่นอนตัวซีดเผือดราวกับเสียชีวิตมาหลายวันแล้ว มือฉันสัมผัสไปยังใบหน้าคมทั้งน้ำตาที่อาบแก้ม พร้อมเอ่ยชื่อเรียกเขาอย่างสั่นเครือ
"มะ... .แม็กทิว ทะ.....ที่รัก ทำไมคุณเป็นแบบนี้"
ใจฉันแตกสลายเป็นเสี่ยงๆ ทำได้เพียงยืนร้องไห้เงียบๆ อยู่ตรงหน้าร่างไร้วิญญาณแบบนั้น ก่อนที่ เปียโนจะยื่นซองเอกสารมาให้ฉัน
"นี่เป็นเอกสารและจดหมาย ที่แม็กทิวฝากไว้ให้ ก่อนเขาจะเสียชีวิต"
ฉันหยิบซองเอกสารมาเปิดอ่านดูด้วยร่างกายที่สั่นเครือ พยายามปาดน้ำตาที่ไหลอาบแก้มออก เพื่อให้ดูเอกสารนั้นชัดขึ้น
"ถึง พักพิงที่รักของผม ผมขอโทษที่อยู่กับคุณไปจนแก่เฒ่าอย่างที่เราเคยคุยกันไว้ไม่ได้ ผมได้ทำเรื่องยกน้องฮันน่า ให้เป็นบุตรบุญธรรม ของคุณและคุณเปียโนไว้เรียบร้อยแล้ว"
"ฮึก!"
"ผมรู้ว่า ตัวเองจะอยู่ได้อีกไม่นาน จึงทำเรื่องเอกสารต่างๆ เอาไว้เป็นอย่างดี ผมได้ยกทรัพย์สินส่วนนึงของตัวเอง ให้คุณพักพิงแล้ว อยู่ในพินัยกรรม และทรัพย์สินส่วนอื่นๆ ไว้ให้น้องฮันน่า คุณจะต้องเป็นผู้ดูแลทรัพย์สินทั้งหมดแทนน้องฮันน่า จนกว่าน้องฮันน่าจะอายุครบ 20 ปี บริบูรณ์ ผมไว้ใจคุณมาก พักพิง และผมคาดว่า ผมดูคนไม่ผิดอย่างแน่นอน และผมขอขอบคุณคุณเปียโนมากๆ ที่เป็นธุระให้ผมทุกๆ อย่างเป็นอย่างดี ผมรู้ คุณเปียโนเขารักคุณมาก ผมไม่อยากให้คุณเกลียดคุณเปียโน ผมขอร้อง คุณทั้งสองกลับมาคืนดีกัน และช่วยกันดูแลเด็กๆ เถอะนะครับ นี่เป็นคำขอสุดท้าย จากผม แม็กทิว"
เมื่อฉันอ่านจดหมายจบ ฉันก็ถึงกับเป็นลมล้มพับไปปในทันที เพราะทำให้ไม่ได้ ที่ฉันแม็กทิวนอนตายไปต่อหน้าต่อตาแบบนี้
"พักพิง! พักพิง! "
และยิ่งมี จดหมายสั่งลาให้ฉันแบบนี้ด้วย ใครมันจะไปยืนไหว ฉันเจ็บปวดเหลือเกิน ทำไมเขาถึงไม่บอกฉัน ว่าเขาเป็นอะไร ทำไมถึงให้ฉันมารู้ทีหลังแบบนี้
ไอ้คนบ้า! ทำไมไม่บอกกัน ถ้าบอกกันสักนิด ฉันจะดูแลเข้าเป็นอย่างดี จะไม่ทำให้เขาต้องรู้สึกแย่เลยสักวัน ฉันจะทำให้ทุกๆ วันของฉันกับเขามีแต่ความสุข