เป็นเมียน้องแล้ว เป็นเมียพี่อีกคนจะเป็นไรไป
ชาย-หญิง,ครอบครัว,จิตวิทยา,รัก,ดราม่า,นางเอกน่าสงสาร,พระเอกปากร้ายแต่ใจดี,ฝาแฝด,แก้แค้น,ชายหญิง,ดราม่า,พล็อตสร้างกระแส,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
ตอนนั้นฉันแค่เข้าใจผิด66
เกลียด!
แต่แล้ว เมื่อฉันคุยกับแม็กทิวจบ ใบหน้าของแม็กทิว ก็พยักหน้ารับราวกับส่งสารให้ใครบางคนอย่างน่าสงสัย นัยน์ตาของเขามีน้ำตาไหลออกมา
ก่อนที่เงาร่างกำยำ จะขยับตัวเข้าใกล้ฉันอย่างแผ่วเบา และใช้ผ้าสีขาวโปะเข้าจมูกฉันอย่างจัง มันกดจมูกฉันอย่างแรง จนร่างกายของฉันค่อยๆ อิดโรย และดับวูบไป
เหลือไว้เพียงเสียงพูดคุยกันอย่างแผ่วเบา ที่ฟังไม่ได้ศัพท์จับไม่ได้ความ เหมือนมันพูดกันว่า จะพาฉันไปที่ไหนสักแห่ง แต่ยังไม่พากลับไทย อะไรประมาณนี้
ปัง!
แคร่ง!!!
"ล่ามดีๆ ดิว่ะ! แม่งเดียวคุณชายก็ได้กระทืบเข้าให้หรอก"
"ว่าแต่ ไปเอาเมียเขามาไว้แบบนี้จะดีเหรอว่ะ?"
"หุบปากไป!"
ฉันคืนสติมาแล้ว และได้ยินในสิ่งที่มันพูดกัน ตอนนี้ฉันรู้สึกเหมือนมีอะไรมารัดอยู่ที่ข้อเท้าเลย
แต่ฉันก็ไม่สามารถขยับตัวได้ หากขยับตัวไปมา พวกมันอาจจะรู้ตัวว่าฉันฟื้นแล้ว และอาจจะเอาไอ้ผ้านั่น มาโปะฉันอีกก็เป็นได้
ฉันเป็นห่วงเด็กๆ จัง ป่านนี้จะเป็นอย่างไงบ้างนะ ทำไมมันถึงเป็นแบบนี้ไปได้ ทำไมงานแต่งงานของฉัน ต้องมีปัญหาเกิดขึ้นด้วยนะ
แกร๊ก!!!
แต่แล้ว เสียงประตูเปิดออกก็ดังขึ้นอีกครั้ง พร้อมกับชายแฝด 2 คนที่ยืนอยู่ตรงหน้าฉัน ฉันถึงกับตะลึงงังไปชั่วขณะ ทำได้เพียงนอนงงงวยอยู่ตรงนั้นอย่างสงสัย
"ไอ้เปียโน มึงเอา พี่สะใภ้มาทั้งชุดแต่งงานงี้เลยเหรอว่ะ?"
"อื้ม ทำไงได้อ่ะ กูไม่มีทางเลือกหนิหว่า"
"ชิบหายละ แล้วผัวเขาจะไม่ว่าเอาเหรอว่ะ?"
"ไอ้สัสกีต้าร์ กูหนิผัว นั่นนะมันชู้"
"เออๆ ตามนั้น สงสัยเป็นเวรกรรมกูเองแหละ ที่ไปแย่งเมียเขามา พี่กูก็เลยต้องรับกรรมโดนแย่งเมียไปเหมือนกัน"
"เออ! ไอ้ชิบหาย รู้ก็ดี เพราะมึงนั่นแหละ ทำให้กูเข้าใจพักพิงผิดนานเลย"
"เอ้า มึงจะมาโทษกูได้ไงว่ะ ก็มึงดันไปจับมาผิดตัวเองอ่ะ แต่กูถามจริงนะ ตอนมึงเจอพักพิงครั้งแรกเป็นไง"
ใบหน้าของเปียโนแดงแผ่วราวกับเขินอาย ที่กีต้าร์ถาม ก่อนจะขมวดคิ้วแน่น เพื่อพยายามเปลี่ยนเรื่องคุย
"ไอ้เหี้ยหนิ ออกไปเลยไป กูจะอยู่กับเมียกู"
"อ๋อ โอเคๆ"
ปัง!
มือเรียวลูบผมฉันอย่างแผ่วเบา พร้อมจูบลงบนเส้นผมหนา เขายกยิ้มขึ้นราวกับรู้สึกชนะฉันแล้ว อย่างไงอย่างงั้น ก่อนจะนอนลงกอดตัวฉันไว้อย่างแน่นหนา ราวกับดีใจสุดซึ้ง ที่พาตัวฉันกลับมาได้เสียอย่างนั่น
สิ่งที่เขาทำ มันยิ่งตอกย้ำให้ฉันเกลียดเขามากขึ้นไปอีก เป็นเท่าตัว ฉันนี่โง่จริงๆ ที่ยอมจดทะเบียนสมรสกับคนเจ้าเล่ห์ ร้ายกาจแบบนี้ ฉันไม่น่าเลยจริงๆ
1 อาทิตย์ต่อมา
แกร๊ก!! แคร่ง!!!
“ออกไป!”
“กินข้าวซะ ฉันไม่ได้มีเวลามาง้อเธอมากมายหรอกนะ”
“กูบอกให้ออกไป!”
ฉันนั่งกอดเข่า แผ่นหลังพิงผนังห้องอย่างหมดความหวังเพื่อประท้วงอี่ตาเปียโน นัยน์ตาแผ่รังสีความเกลียดชังออกมาอย่างรุนแรงบ่งบอกว่าฉันต่อต้านเขามากเพียงใด
“เธออยู่ที่นี่มา 1 อาทิตย์แล้วนะ ถ้าเธอจะไม่กินข้าวกินน้ำแบบนี้ เธอจะตายเอานะ”
เขาพยายามตักข้าวที่อยู่ในจาน ป้อนฉันอย่างใจเย็น แต่ฉันก็ปัดมันทิ้งอย่างแรง น้ำตาฉันไหลอาบแก้มทุกวัน หลังจากถูกฉุดมาอยู่ที่นี่ แต่ฉันกลับทำอะไรไม่ได้เลย น่ารังเกียจที่สุด
แคร่ง!
“ที่ผ่านมายังไม่พอใจอีกเหรอ จะทำแบบนี้ทำไมอีก ยังไม่พอใจอีกใช่ไหม?”
ฉันกระชักจานข้าวมือออกจากมือของเขา แล้วฟาดใส่หัวของเขาอย่างแรงด้วยความเดือดดาล เพล้ง!!! จนจานข้าวแตก บาดใส่หัวของเขา
เลือดสีแดงฉานค่อยๆ ไหลออกมาจากหน้าผากของเขาเป็นทางยาว แต่เขาก็ไม่มีทีท่าว่าจะโกรธแค้นฉันเลย
ตัวฉันในตอนนี้ด้วยความตกใจสุดขีด จึงรีบเด้งตัวลุกขึ้น พยายามพุ่งตัววิ่งหนีออกจากห้องมืด ที่มีโซ่เส้นหนาล่ามติดขาไว้อยู่
แคร่ง! ตุบ!
ฉันล้มตัวลงอย่างแรง เพราะถูกแรงของโซ่หนา รั้งขาเอาไว้ ก่อนจะลุกขึ้นนั่งพยายามดึงโซ่เส้นหนาออกจากขาของตัวเองอย่างแรง ราวกับว่าสิ่งที่พันธนาการอยู่นั้นเป็นเพียงความฝัน
ร่างใหญ่ใช้มือกุมหน้าผากที่เลือดกำลังไหลพรากออกมาเป็นทางยาว ก่อนจะกระตุกโซ่เส้นหนาเพื่อให้ฉันรับฟังเขา
“ฟังฉันก่อนได้ไหม อย่าดื้อได้ไหม?”
“ไม่!……”
“sorry! ไม่ใช่สิ ฉันแค่เข้าใจผิด ฉันขอโทษ ให้อภัยฉันเถอะนะ!!”
"ไม่! ไม่มีวัน ไปตายซะ!!!"
เมื่อเขารู้ว่า ฉันไม่มีทีท่าที่จะฟังอะไรเขาเลย เขาก็โถมตัวเข้ากอดฉันจากด้านหลังในทันที นั่นยิ่งทำให้ฉันรู้สึกขยะแขยง จนดิ้นทุรนทุรายผลักเขาออกอย่างสุดกำลัง
"ออกไป กูบอกให้มึงออกไป ไอ้เปียโน ไอ้เวร!"
"ไล่ผัวเก่งจังเลย คำก็ไล่ สองคำก็ไล่ ไม่อยากเจอลูกๆ หรือไง?"
ใจฉันกระตุกวูบ หยุดชะงักลงไปชั่วขณะ ก่อนจะหันหน้ามองคนตัวใหญ่ อย่างมีความหวัง
"ลูกๆ ฉันอยู่ไหน?"
"อยู่ไทยแล้ว"
"อะไรนะ?"
ตาฉันเบิกโพรงขึ้น จ้องมองนัยน์ตาเขาให้ชัดเจน เพื่อดูว่าเขาจะโกหกหลอกลวงฉันอีกหรือเปล่า แต่ไม่เลย นัยน์ตาคมนิ่งสนิท ไม่มีสิ่งใดที่บ่งบอกถึงการโกหกเลยแม้แต่น้อย
"ใครอนุญาตให้นายเอาลูกๆ ฉันกลับไทย"