เป็นเมียน้องแล้ว เป็นเมียพี่อีกคนจะเป็นไรไป
ชาย-หญิง,ครอบครัว,จิตวิทยา,รัก,ดราม่า,นางเอกน่าสงสาร,พระเอกปากร้ายแต่ใจดี,ฝาแฝด,แก้แค้น,ชายหญิง,ดราม่า,พล็อตสร้างกระแส,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
ตอนนั้นฉันแค่เข้าใจผิด49
ข่าวที่ได้รับ
"ว่าแต่แกมีเรื่องอะไรเหรอ เห็นบอกว่ามาส่งข่าวให้ฉัน"
"อ่อ"
เนมพ่นลมหายใจเฮือกใหญ่ออกมา ก่อนจะหยิบเอกสารมายื่นให้ฉัน
"นี่เป็นข่าวสารของเปียโน"
ใจฉันกระตุกวูบ ก่อนจะยื่นมือไปรับเอกสารนั้นอย่างประหม่า ในใจก็สั่นระรัวไม่ยอมหยุด ไม่รู้จะอยากรับรู้เรื่องของเขาไปทำไมกัน
แต่อีกใจ ก็อยากรับรู้ อยากเห็นว่าเขาเป็นอย่างไงบ้าง ฉันฉีกซองเอกสารออก เผยให้เห็นรูปภาพของสองฝาแฝดพี่น้องนั่น
"กะ...กีต้าร์หนิ เขาฟื้นแล้วเหรอ?"
"ใช่! ตอนนี้ก็น่าจะกลับมาปกติแล้วนะ พอดีกีต้าร์เขามีกำลังใจดีน่ะ เรื่องลูก"
"ส่วนอี่ตาเปียโน ตั้งแต่ที่แกยอมไปเซ็นผ่าตัดให้เขา เขาก็เริ่มเปลี่ยนไป ไม่ตามหาแกเป็นบ้าเป็นหลังเหมือนอย่างแต่ก่อนแล้ว"
เมื่อได้ฟังที่เนมบอก ใจฉันก็สั่นระรัวเต้นไม่เป็นจังหวะอีกครั้ง ในโสตประสาทครุ่นคิดแต่เรื่องของเขา ขึ้นมาอย่างน่ารำคาญใจ
"อ๋อ ยัยวาวา ท้องละนะ ท้องกับไอ้คัง มันยอมแพ้ลูกตื้อของไอ้คังจนยอมแต่งงานด้วยเมื่อไม่นานมานี่เอง แต่พอผ่านไปแค่เดือนเดียว ยัยวาวาก็ท้องเลย แล้วมันก็เข้าใจด้วย ที่แกไม่ติดต่อมันไป ก็เพราะกลัวเปียโนจะไประรานมัน แต่มันคิดถึงแกมากนะ พิง"
"ส่วนแม่แก ตอนนี้ก็อยู่กินกับแฟนใหม่เป็นที่เรียบร้อย เงินที่แกส่งให้แม่ทุกเดือน แม่ได้รับทุกเดือนเลย แต่ท่านไม่อยากใช้หรอก เห็นท่านว่า จะเก็บไว้ให้หลานน่ะ"
"ท่านฝากมาบอกว่า ให้ช่วยส่งรูป หลานๆ ให้ท่านด้วย เพราะท่านแก่ลงไปทุกทีแล้ว"
แต่เมื่อฉันที่กำลัง นั่งคุยกับเนมอยู่อย่างสนุกสนาน เสียงไลน์ฉันก็เด้งขึ้น
ตริ่ง!
"คุณพักพิง ผมแม็กทิวนะคับ ถ้าคุณว่างมาพบผม ในสุดสัปดาห์ เพื่อคุยเรื่องโทนสี ก็ให้นัดเวลามานะคับ"
"ยินดีมากๆ ค่ะ เดี๋ยว พักพิงจะเตรียมโทนสีของชุดเข้าไปให้นะคะ"
"คับผม"
เนมจ้องมองหน้าฉัน อย่างยิ้มแย้ม เมื่อได้เห็นใบหน้าของฉันในการทำงาน เธอดูภูมิใจ ที่เห็นฉันตั้งใจทำงานได้ถึงขนาดนี้ ก่อนจะแกล้งเอ่ยถามถึง ไลน์มือถือฉันที่เด้งขึ้นมา
"ใครเหรอพิง"
"อ๋อ คุณแม็กทิวน่ะ เขานัดเจอช่วงสุดสัปดาห์ จะคุยเรื่องโทนสีชุดให้นางแบบ"
เนมนั่งไขว่ห้าง เกาคางอย่างครุ่นคิด ก่อนเอ่ยออกมา อย่างขำขัน
"สุดสัปดาห์ ก็ มะรืนนี้แล้วหนิ เขาจะมาเองเลยเหรอ น่าแปลก"
"แปลกอย่างไงเหรอ?"
เนมตบขาตัวเอง หนึ่งทีก่อนลุกขึ้นเดินไปมาอย่างครุ่นคิด
"คุณแม็กทิว ปกติจะเป็นคนที่คุยงานเร็ว และละเอียด และจะคุยให้จบภายในวันนั้นเลย แต่ทำไมถึงหาเรื่องนัดเจอแกอีก ทั้งๆ ที่โทนสี ก็สามารถเลือกให้ตรงกับสถานที่ถ่ายแบบได้เลย น่าคิดนะเนี่ย"
ฉันรู้ดี ว่าเนมกำลังคิดว่า คุณแม็กทิวหาเรื่องที่จะเจอฉันอีกเป็นแน่นอน แต่ คุณแม็กทิวเขาดูสุขุม ใจเย็น แต่รวดเร็ว จนตามความคิดเขาไม่ทันเสียมากกว่า
สุดสัปดาห์
ฉันนัดคุยงานกับคุณแม็กทิวอีกครั้ง โดยมีเนมตามมาด้วย
"สวัสดีค่ะ คุณแม็กทิว"
"สวัสดีคับ วันนี้ผมว่างสามารถคุยงานอย่างละเอียดได้เลยคับ"
ชุดที่คุณแม็กทิวใส่ เป็นชุดลำลองธรรมดา ผิดกับฉันและเนม ที่ใส่ชุดทำงานมาอย่างเต็มยศ
"เข้าเรื่องเลยนะคะ โทนสีของชุด จะเป็นสีเขียวอ่อน ดูเข้ากับสถานที่และสตูดิโอ ภาพออกมาจะตัดกับสีส้ม และสีขาว คุณแม็กทิวว่าไงคะ"
"อื้มมมม"
คุณแม็กทิวใช้นิ้วมือเคาะโต๊ะอย่างครุ่นคิด ต่สายตากลับจ้องมองฉันตาแทบไม่กระพริบ จนยัยเนมรีบขวาง
"ดูคุณแม็กทิวจะไม่ได้อยากคุยเรื่องงานเลยนะคะ ดูสนใจหุ่นส่วนของดิฉันมากกว่า"
นี่มันไม่ได้เข้าขวาง แต่กำลังเล่นจิตวิทยาใส่คุณแม็กทิวชัดๆ จนคุณแม็กทิวแสยะยิ้มมุมปากออกมา
"เปล่านะคับ ผมสนใจงาน และพร้อมถ่ายงานอาทิตย์หน้าได้เลย"
"เออ งั้นสรุปว่า โทนสีเอาตามแบบที่ดิฉันเสนอเลยนะคะ"
"คับ ตามนั้น"
และนี่แหละ มันก็คือ จุดเริ่มต้น ที่ทำให้ฉันกับคุณแม็กทิวได้คุยกันมากขึ้น และนัดจ่กวันนั้นเป็นต้นมา จากลูกค้าที่สนใจงานของฉัน ก็ได้กลายเป็นคนที่ตามจีบฉันไปเสียดื้อๆ
กระทั่งวันเวลาก็ได้ผ่านไป.....