เป็นเมียน้องแล้ว เป็นเมียพี่อีกคนจะเป็นไรไป
ชาย-หญิง,ครอบครัว,จิตวิทยา,รัก,ดราม่า,นางเอกน่าสงสาร,พระเอกปากร้ายแต่ใจดี,ฝาแฝด,แก้แค้น,ชายหญิง,ดราม่า,พล็อตสร้างกระแส,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
ตอนนั้นฉันแค่เข้าใจผิด59
มาได้ไง?
#พักพิง
1 อาทิตย์ต่อมา
ในขณะที่ฉันพึ่งจะวางสายจากแม็กทิวได้สักพัก เสียงกริ่งห้องของฉันก็ดังขึ้น จนเงยหน้าขึ้นมาจากโต๊ะอาหารด้วยความดีใจ คิดว่าแม็กทิวกลับมาหาฉันและมารับน้องฮันน่าแล้ว
"คุณแม็กทิวแน่เลยคะ คุณพักพิง"
"เดี๋ยวหนูไปเปิดประตูเองค่ะ พี่จิ๋ม"
ฉันผลัดวิ่งผลัดเดินด้วยใบหน้าอันสดใสอย่างรวดเร็ว เพื่อจะได้รีบเปิดประตูต้อนรับ แม็กทิวกลับบ้าน แต่ฉันก็ต้องหุบยิ้มกว้างลงในทันที
เมื่อได้เห็น ชายร่างสูง ในเสื้อโค้ทโทนดำ กับกระเป๋าสะพายสีดำใบใหญ่ ใจฉันกระตุบวูบ ในโสตประสาทตีกันวุ่นวาย มึนงงไปหมดว่าเขามายืนอยู่ตรงนี้ ได้อย่างไง
" นาย!"
"คุณพักพิงคะ ทำไมไม่ยอมพาคุณแม็กทิว เข้าบ้านสักทีละคะ น้องฮันน่าคงรอพ่อของเธออยู่"
อี่ตาเปียโนแสยะยิ้มมุมปาก ใส่ฉันอย่างเย้ยหยัน ก่อนจะดันตัวเองเข้ามาในบ้านอย่างรวดเร็ว
"ไอ้บ้า ออกไปนะ!"
ฉันพยายามฉุดกระชากลากถูเปียโนให้ออกจากห้อง แต่ก็สู้แรงร่างใหญ่ไม่ไหวจริงๆ
"โอ๊ย! พักพิง เราเจ็บนะ คนมาตั้งไกล ทำไมถึงได้ไล่กันอย่างกับหมูกับหมาแบบนี้ล่ะ?"
"นายไม่ต้องทำมาเป็นสำออยต่อหน้าพี่จิ๋มเลยนะ"
เขาไม่ฟังฉันเลย เขารีบวางกระเป๋าลงยังห้องโถงของบ้าน และยกมือไหว้พี่จิ๋มอย่างสดใส ราวกับเด็กน้อยไร้เดียงสา
"สวัสดีคับ พี่จิ๋ม"
"สะ....สวัสดีค่ะ"
พี่จิ๋มใบหน้าเธอเจื่อนลงในทันที เธอมีอาการเลิ่กลั่กเล็กน้อย ที่ได้มาเห็นหน้า อี่ตาเปียโนตัวจริงแบบนี้
"ดะ...เดี๋ยวพี่ไปเอาน้ำมาให้นะคะ"
"ไม่ต้องเอามาให้หรอกค่ะ พี่จิ๋ม เดี๋ยวเขาก็กลับแล้ว"
"กลับอะไร ฉันจะนอนที่นี่"
"ฉันไม่ให้นอน!"
เขายกยิ้มขึ้นอย่างเย้ยหยันอีกครั้ง ก่อนจะพ่นลมหายใจออกมา ฝีเท้าหนา ขยับตัวเข้าใกล้ฉันอย่างเด็ดเดี่ยว
"พักพิง เธอรักลูกไหม ฉันก็รักลูกเหมือนกัน เธอจะไม่เห็นใจพ่อของลูกเลยเหรอ ที่เขายังไม่เคยได้พบหน้าลูกในไส้เลยสักครั้ง"
"ออกไป!"
ฉันไม่หวาดหวั่น กับคำพูดของเขาอีกแล้ว เพราะตอนนี้ ฉันเริ่มตั้งหลักได้แล้ว ว่าหากเจอเขาอีก ฉันจะไม่มีทางกลัวคำข่มขู่ใดๆ จากเขาอีกต่อไป
"พี่จิ๋มคับ น้องพะเพลง กับ พะพายอยู่ไหนคับ?"
"เออ....คือ"
ฉันประจันหน้ากับเขาอย่างเดือดดาล กรามก็ขบกันแน่นจนเป็นสันนูน ถ้าเรื่องความหน้าด้านหน้าทน ฉันคงต้องยกให้เขาอย่างจริงจัง เพราะคงไม่มีใคร จะหน้าหนาได้เท่าเขาอีกแล้ว
"พี่จิ๋ม พาเขาไปหาเด็กๆ เถอะค่ะ"
เขาขยับตัวถอยหลัง เอาเสื้อโค้ทออก ก่อนจะเดินตามหลังพี่จิ๋ม เข้าไปยังห้องนั่งเล่น ที่เด็กๆ กำลังเล่นกันอยู่
ฉันเองก็เดินตามหลังเขามาติดๆ เพราะกลัวว่าลูกๆ จะตกใจ ที่เห็นคนแปลกหน้าเข้ามาหาถึงในที่ของพวกเขา
"น้องฮันน่า มาหาแม่ก่อนลูก!"
ฮันน่ารีบถือของเล่นเดินมาหาฉัน อย่างรวดเร็ว ก่อนที่พี่จิ๋ม จะอุ้มตัวน้องฮันน่าไปยังห้องครัว
"เดี๋ยวพี่จิ๋มป้อนข้าวน้องฮันน่าก่อนนะคะ"
"แล้ว พะเพลง พะพาย!"
"เดี๋ยวพี่จิ๋มค่อยป้อนทีหลังค่ะ"
"ค่ะ"
เมื่อ พี่จิ๋มและน้องฮันน่าออกไปแล้ว เปียโนก็ขยับตัวเดินเข้าไปหาเด็กๆ อย่างระวัง เขาเดินเข้าไปนั่งเล่นกับเด็กๆ เพื่อทำความคุ้นเคย แต่ฉันกลับเห็นนัยน์ตาของเขา
กลับมาน้ำตาคลอออกมา ก่อนที่เขาจะหันไปปาดน้ำตาอีกทาง เพื่อไม่ให้ฉันกับเด็กๆ เห็น วินาทีนั้น ใจฉันกระตุกวูบเกิดคำถามต่างๆ นาๆ เข้ามาอย่างมากมาย
จนอธิบายเป็นคำถามออกมาถามคนตรงหน้าไม่ได้จริงๆ แต่อีกใจก็ยังลังเล ว่าสิ่งที่เขาทำอยู่ตอนนี้ มันคือ เรื่องจริงหรือหลอกฉันกันแน่
เขาใช้มือสัมผัสไปยังแผ่นแก้มเล็กๆ ของพะเพลงและพะพายที่นั่งเล่นของเล่นอยู่ ก่อนจะยกยิ้มขึ้นพลางน้ำตาไหลออกมา
สิ่งนั้นมันทำให้ฉันรู้สึกผิด และรู้สึกแย่ที่ตลอดเวลาที่ผ่านมา ทำไมฉันถึงไม่บอกเขาเรื่องลูก แต่อีกใจ ฉันก็กลัวจะถูกเขาพาตัวกลับไปอยู่ที่บ้านด้วยเช่นกัน
"พะเพลงพะพาย"
"คะ?
"ยกมือไหว้พ่อสิลูก"
เด็กน้อยผู้ยังไม่รู้ประสีประสา รีบลุกขึ้นยกมือไหว้เปียโนอย่างรวดเร็ว แต่พวกเด็กๆ คงยังไม่เข้าใจ ว่าพ่อคือใคร เขาจะรู้แค่ว่าตอนนี้ เขาอยู่กับใครและใครดูแลเขาเสียมากกว่า
อันที่จริงมันก็ดีแล้ว ที่เด็กๆ ยังไม่รู้ความอะไร เพราะไม่เช่นกัน มันคงจะมีคำถามต่างๆ นาๆ มากมาย ที่จะถามฉันอย่างแน่นอน
"ขอพ่อกอดลูกๆ ทีได้ไหมคับ"
เปียโนอ้าแขนกว้าง รอให้เด็กๆ เข้าไปสวมกอด แต่เด็กน้อยไร้เดียงสาทำท่าทางลังเลใจเล็กน้อย ก่อนจะจ้องมองหน้าฉันอย่างสงสัย จนฉันต้องเดินเข้าไปใกล้ๆ เพื่อให้เด็กๆ สบายใจขึ้น
"พ่ออยากกอดลูกๆ ให้พ่อกอดได้ไหมคะ เด็กๆ"
เด็กน้อยพยักหน้ารับเล็กน้อย ก่อนจะจ้องมองหน้ากันอย่างสงสัย และเดินเข้าไปสวมกอดผู้เป็นพ่ออย่างเดียงสา
เปียโนกอดเด็กๆ อย่างแน่นหนา เขาทั้งหอม ทั้งจูบเด็กๆ จนเด็กๆ ยิ้มออกมาด้วยความสนุกสนาน เพราะเด็กๆ ไม่รู้ว่าที่เปียโนทั้งกอดทั้งหอมพวกเขา มันคือความคิดถึงและโหยหา ที่ฉันได้พรากเขาออกจากกัน