ไม่มีใครกล้าออกจากม่านหมอก เว้นเสียแต่ว่า คำตอบเดียวที่เขาตามหานั้น มันอยู่ข้างนอกนั่น

หอคอยเหล็กกล้า และปริศนาคำสาปโคอาโรอา - บทที่ 16 คูร์บาน โดย ประตูตู้ @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

แฟนตาซี,ไซไฟ,ลึกลับ,ผจญภัย,,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

หอคอยเหล็กกล้า และปริศนาคำสาปโคอาโรอา

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

แฟนตาซี,ไซไฟ,ลึกลับ,ผจญภัย

แท็คที่เกี่ยวข้อง

รายละเอียด

หอคอยเหล็กกล้า และปริศนาคำสาปโคอาโรอา โดย ประตูตู้ @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ไม่มีใครกล้าออกจากม่านหมอก เว้นเสียแต่ว่า คำตอบเดียวที่เขาตามหานั้น มันอยู่ข้างนอกนั่น

ผู้แต่ง

ประตูตู้

เรื่องย่อ

ลีโอ เด็กหนุ่มอ่อนแอ ต้องคอยให้พี่ชายของเขาปกป้องอยู่ตลอด ท่ามกลางโลกใหม่ที่เต็มไปด้วยภัยอันตราย เมื่อปมในวัย ได้ลากเขา และพี่ชายผู้หวังดี ให้ต้องออกเดินทางตามหาความจริงอีกครั้ง คำสาปในคืนพระจันทร์เต็มดวง ที่กลืนกินชีวิตผู้คนในหมู่บ้านรวมถึงพ่อและแม่ของเขา และการเดินทางไปยังหอคอยเหล็กกล้า คือหนทางเดียวที่เขาจะได้คำตอบของเรื่องราวทั้งหมด


สารบัญ

หอคอยเหล็กกล้า และปริศนาคำสาปโคอาโรอา-ปฐมบท ฝันร้าย,หอคอยเหล็กกล้า และปริศนาคำสาปโคอาโรอา-บทที่ 1 ผิดคาด,หอคอยเหล็กกล้า และปริศนาคำสาปโคอาโรอา-บทที่ 2 เขตมืด,หอคอยเหล็กกล้า และปริศนาคำสาปโคอาโรอา-บทที่ 3 ผู้หวนคืน,หอคอยเหล็กกล้า และปริศนาคำสาปโคอาโรอา-บทที่ 4 หอคอยและคำสาป,หอคอยเหล็กกล้า และปริศนาคำสาปโคอาโรอา-บทที่ 5 สะพานต้องห้าม,หอคอยเหล็กกล้า และปริศนาคำสาปโคอาโรอา-บทที่ 6 ก้าวแรก,หอคอยเหล็กกล้า และปริศนาคำสาปโคอาโรอา-บทที่ 7 การเดินทางอันแสนเงียบเหงา,หอคอยเหล็กกล้า และปริศนาคำสาปโคอาโรอา-บทที่ 8 มนต์สะกด,หอคอยเหล็กกล้า และปริศนาคำสาปโคอาโรอา-บทที่ 9 เซเวญ่า,หอคอยเหล็กกล้า และปริศนาคำสาปโคอาโรอา-บทที่ 10 เผ่าฟานา,หอคอยเหล็กกล้า และปริศนาคำสาปโคอาโรอา-บทที่ 11 กระทันหัน,หอคอยเหล็กกล้า และปริศนาคำสาปโคอาโรอา-บทที่ 12 พวกพ้อง,หอคอยเหล็กกล้า และปริศนาคำสาปโคอาโรอา-บทที่ 13 คนนอก,หอคอยเหล็กกล้า และปริศนาคำสาปโคอาโรอา-บทที่ 14 เพื่อนใหม่,หอคอยเหล็กกล้า และปริศนาคำสาปโคอาโรอา-บทที่ 15 หน่วยลับ,หอคอยเหล็กกล้า และปริศนาคำสาปโคอาโรอา-บทที่ 16 คูร์บาน

เนื้อหา

บทที่ 16 คูร์บาน

ณ เผ่าฟานา คลื่นค้างคาวลอยผ่านน่านฟ้าหมู่บ้านเป็นสาย ระหว่างที่เซเวญ่าและเหล่าคูร์บานกำลังรวบรวมพลังในการช่วยกันปิดเพดานก่อนมื้ออาหารเย็น เมื่อถึงฤดูที่พวกมันออกล่า ด้วยจำนวนที่มากมายมหาศาล ค้างคาวบางตัวก็อาจจะหลงเข้ามาในหมู่บ้านได้ในบางครั้ง เหล่าคูร์บานมีหน้าที่ในการป้องกันไม่ให้เจ้าพวกนี้เข้ามา แต่พวกเขาก็ใจดีเกินกว่าที่จะปลิดชีวิตตัวที่หลงทาง มันจึงเป็นความลำบากพอควร ที่จะต้อนพวกมันอย่างระมันระวังโดยไม่ให้พวกมันเป็นอันตราย 


ในครั้งนี้ นอสเองก็มาร่วมกับเขาด้วย เขายั้งมือที่จะฟันมันทิ้งแทบไม่ทัน ถ้าไม่เป็นเพราะเซเวญ่าคอยจับตามองเขาอยู่ ทั้งสองดูจะเข้ากันได้ดี โดยเฉพาะนอส ที่ไม่เคยคัดความต้องการของเซเวญ่า เจ้าทวิกเองก็ดูจะเชื่อใจนอสอยู่เหมือนกัน มันคอยเฝ้าดูเซเวญ่าจากรังของมันบนต้นไม้สูง และเมื่อมันเห็นว่าเซเวญ่ามีความสุขดีกับนอส มันก็กลับเข้ารังไปนอนอย่างมีความสุข 


เซเวญ่านำนอสไปช่วยกันต้อนค้างคาวออกจากหมู่บ้าน ในระหว่างที่เธอควบคุมเถาวัลย์ สานกันเป็นรูปตาข่าย ค่อยๆ นำทางค้างคาวออกทางเพดาน นอสเองก็พยายามช่วยเธอ โดยการทิ้งตัวจากที่สูง โหนเถาวัลย์ลงไปอย่างแม่นยำ จับค้างคาวที่หลงเข้ามาอย่างเบามือ ล๊อคมันไว้กับนิ้วเหมือนกรงขัง จากนั้น ก็รีบปีนกลับขึ้นไปปล่อยยังเพดานหมู่บ้านอย่างรวดเร็ว เขาทำอย่างนี้ไปเรื่อยๆ จนหมด เหล่าคูร์บานต่างพากันชื่นชมความขยันของนอส ที่เขาเองก็มองมายังเซเวญ่าเพื่อรับรอยยิ้มจากเธอ 


“ท่านเซเวญ่า ยังมีอีกตัวหลงเข้าไปทางโรงอาหารครับ” ทหารนายนึงตะโกนเข้ามา นอสไม่รอช้า ทำท่าจะกระโดดนำเข้าไปเพื่อจัดการให้เธอ แต่เธอก็หยุดเขาไว้ และบอกให้เขาไปพักผ่อน 


“แต่ว่า —” 

“ฉันทำได้ นายไปพักเถอะ” เธอยิ้มให้และจากไป 


นอสมองตามเซเวญ่ากระโดดไปกับเถาวัลย์จนลับสายตา ก่อนที่เขาจะกระโดดไปอีกทาง และโหนไปยังที่พักส่วนตัวของเขา มันอยู่บนต้นไม้แตกต่างออกไปจากของเหล่าฟานาคนอื่นๆ ที่ต่างก็อาศัยอยู่บนพื้นราบกันเป็นกลุ่มๆ แต่ในระหว่างที่เขากำลังโหนเถาวัลย์อยู่นั้น จู่ๆ นาสิเอลก็ปรากฏตัวขึ้นสวนทางกับเขา มาพร้อมกับหน่วยลาดตระเวนที่ไม่ได้สนใจเขาสักเท่าไร แต่นาสิเอลก็มักจะชอบพูดคุยกับนอสเมื่อเห็นเขาอยู่ห่างจากเซเวญ่า และในครั้งนี้ เขาก็ไม่อาจปล่อยโอกาสทอง ที่จะได้ทำเช่นนั้นอีกครั้ง 


“นายน่ะ จะไปไหน?” เขาโหนเถาวัลย์มาเทียบกับนอส ลอยอยู่กลางอากาศ เถาวัลย์รอบตัวดูเหมือนจะถูกดูดให้เข้ามาหามือเขา แทนที่เขาจะต้องใช้แรงโหนที่แม่นยำไปหามัน 


“กลับที่พัก นายต้องการอะไร?” 

“คนธรรมดาเขาไม่ยุ่งกับเหล่าคูร์บานหรอกนะ” ทำท่ากระซิบใส่หูนอส ทั้งๆ ที่ก็ตะโกนแหวกอากาศออกไป


“นายหมายความว่าไง?”

“ก็อย่างที่ว่านั่นแหละ ในสายตาเหล่าฟานา เจ้าเองก็คงไม่ต่างจากเจ้าทวิกหรอก” พอพูดจบ เขาก็หยุดโหนเถาวัลย์ จากนั้นมันก็ยืดยาวออก ส่งตัวเขาลงไปรวมตัวกับหน่วยลาดตระเวนเบื้องล่าง 



จะไม่ให้เรายุ่งกับเซเวญ่างั้นรึ ทั้งที่ตอนนี้ทุกอย่างที่เป็นเซเวญ่ากำลังทำให้เขามีความสุข เขามุ่งหน้าไปยังที่พักต่อ โดยที่ไม่ได้ใส่ใจคำพูดของนาสิเอลเลยแม้แต่น้อย


เขากลับมาถึงที่พัก มันเป็นโพรงไม้ขนาดไม่ใหญ่มาก ที่บรรยากาศกำลังอบอุ่นสบาย ปูด้วยดอกไม้และใบหญ้าแห้ง เขาจัดท่าทางเตรียมนอนและผล็อยหลับไป พอตื่นขึ้น ก็พบว่าเซเวญ่ามานั่งรอเขาอยู่ที่ปากทางเข้าอยู่ก่อนแล้ว แสงจันทร์ส่องผ่านเงาของเธอเข้ามา ปลุกเขาที่สะลึมสะลือให้ตื่นขึ้น ภาพตรงหน้างดงามราวความฝัน เขาลุกขึ้นรีบต้อนรับเธอ จัดที่นอนให้เป็นที่นั่งรับแขก 


“ไม่เป็นไร ตามฉันมาหน่อย”  


เซเวญ่าพานอสเดินผ่านคบเพลิงประดับให้แสงสลัวตลอดทาง เธอพาเขาเดินผ่านโรงอาหาร ตรงไปยังทางเข้าที่เป็นที่พักส่วนตัวของเธอ เป็นเวลาเดียวกันกับที่เหล่าฟานาหลับไหลภายใต้แสงจันทร์ ทั้งหมู่บ้านเงียบสงัดเว้นเสียแต่เสียงของแมลง เธอพาเขาเดินอ้อมที่พักของเหล่าคูร์บาน ไปยังป่าด้านหลัง จนได้พบกับโพรงต้นไม้ขนาดพอดีตัว พอมุดเข้าไป ข้างในตกแต่งด้วยเห็ดเรืองแสงสีน้ำเงิน มันส่องสว่างให้เห็นรอบๆ อย่างเลือนราง สร้างบรรยากาศชวนหลงไหล เคลือบผนังทั้งหมดที่ประดับไปด้วยของสะสมราวกับเวทมนตร์ ดอกไม้บางชนิดก็โตอยู่ในนั้น มันอาจจะดูรกไปบ้าง แต่ที่นี่ก็เป็นห้องทำงานส่วนตัวของเซเวญ่า ทั้งชีวิตของเธอถูกเก็บไว้ในห้องนี้ทั้งหมด ตรงกลางมีเถาวัลย์ห้อยลงมาอยู่จำนวนหนึ่ง เซเวญ่านำนอสให้ไปยืนใต้เถาวัลย์พวกนั้น มันรัดตัวทั้งสอง และพาพวกเขาลอยขึ้นไปยังยอดสุดของต้นไม้ 


ข้างบนนั้นเปิดโล่ง มีลมพัดไหวให้ความเย็นสบาย ล้อมรอบไปด้วยพุ่มไม้เพื่อความเป็นส่วนตัวเล็กน้อย 


ไร้แสงใดเว้นแต่แสงจันทร์ เซเวญ่าสร้างที่นี่ไว้เพื่อใช้สังเกตท้องฟ้าในยามค่ำคืน ช่วงเวลาที่ฟ้าเปิด เมฆหมอกจะหลีกทางให้จุดแสงระยิบระยับนับไม่ถ้วน ปกคลุมท้องฟ้ากว้างใหญ่ไพศาล สะกดทุกสายตาที่จ้องมองมันด้วยความมหัศจรรย์ 


เมื่อเซเวญ่ามาถึง เก้าอี้ไม้ที่ทำออกมาจากกิ่งก้านต้นไม้ใหญ่บนนั้น ที่มีไว้พอดีสำหรับแค่เธอคนเดียว ก็แปลงสภาพไปเป็นม้านั่งยาว ก้านไม้ขยับมาเสริมต่อเข้าด้วยกัน เพื่อให้พอดีกับแขกที่เธอเพิ่งพาขึ้นมา เธอเชิญเขามานั่งลงข้างๆ พากันมองออกไปยังท้องนภา ที่อาบไปด้วยแสงจันทร์และดารา ไร้เสียงใดๆ ภายใต้มนต์สะกดนี้ 


แสงจันทร์อบอุ่น มอบโอกาศให้ทั้งสองได้เห็นหน้า อันงดงามเมื่อต่างมอง อีกฝ่ายที่ไม่ทันตั้งตัว เซเวญ่าหันหลัง พิงลงบนตัวนอส แลกไออุ่นท่ามกลางสายลมหนาว เขากอดเธอไว้ เบามือราวหยดน้ำบนใบบัว เธอจับมือเขาที่โอบไว้ พาดไปที่ไหล่ซ้ายของเธอ จากนั้น เธอค่อยๆ พาเขาปลดชุดของเธอออก


แผ่นหลังอันงดงามเผยออก ตามมาด้วยจุดสีฟ้าเข้มขนาดใหญ่ ที่ปิดตั้งแต่หลังล่าง และสีข้างซ้ายของเธอลงไป นอสตกใจมากเมื่อเห็นอย่างนั้น เขาปล่อยมือจากเซเวญ่าและถอยออกมา หน้าถอดสีไปด้วยอาการช็อก จ้องมองไปที่เซเวญ่าที่ยังคงนิ่งสงบ เธอหันมามองเขา พลางดึงชุดขึ้นมาห่มตัวเองตามเดิม และยิ้มให้


“งั้นนายก็รู้อยู่แล้วใช่ไหม ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับฉัน”​ เธอพูดขึ้นพลางมองออกไปยังท้องฟ้ากว้าง 


นอสยังคงจ้องมองเธอโดยไม่ได้ตอบอะไร เขารับไม่ได้กับความรู้สึกอันหนักหน่วงที่เขาต้องเผชิญ และในครั้งนี้ ไม่มีใครเลยที่รู้ว่าพวกเขานั้นเหลือเวลาเท่าไร เขาถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนที่น้ำตาจะไหลออกมา ขยับตัวเข้าหาเซเวญ่า ที่ยังคงไม่หวั่นไหวกับโชคชะตาอันน่าเศร้าของเธอ


“เราทำอะไรกับมันไม่ได้เลยเหรอ?” 

“ฉันพยายามแล้ว ฉันหมายถึง พวกเรา เหล่าคูร์บานเองก็พยายามหาทางหยุดยั้งเรื่องนี้อยู่ตลอด แต่ก็ไม่ใช่ทั้งหมดหรอกนะ ยังมีคนบางกลุ่มที่สนับสนุนการมีอยู่ของพลังของเหล่าคูร์บาน ฉันจึงคิดว่าพลังนี้ มันอาจจะจำเป็นจริงๆ ก็ได้”

“​แล้วชีวิตของเธอล่ะ?” ขอบตาเริ่มรื้นไปด้วยน้ำ

“ฉันได้ใช้ชีวิตของฉันแล้วนอส ฉันได้ดูแลผู้คนในฐานะคูร์บานของพวกเขา จำได้ไหม ซานีอาที่นายช่วยไว้ในป่า เธอเองก็หนีออกไปตามหาครอบครัวที่เคยเป็นคูร์บานเหมือนกัน ถ้าไม่ใช่เพราะต้นไม้คอยส่องแสงให้เธอ ฉันก็ไม่รู้ว่าป่านนี้ซานีอาจะเป็นยังไง นี่ละคือการเสียสละที่คอยปกป้องพวกเราเหล่าฟานาเอาไว้”  

 

นอสไม่ได้พูดอะไรต่อ เขาเข้าไปโอบกอดเซเวญ่าอีกครั้ง ในรอบนี้ ยาวนานกว่าครั้งไหนๆ ราวกับว่าทั้งสองนั้น ตั้งใจที่จะปล่อยให้กาลเวลาไหลผ่าน ภายใต้กายอันอบอุ่นนี้ เมฆหมอกยังคงล่องลอยเปิดทางให้แสงจันทร์ ท้องนภาส่องประกายชื่นชมอารมอันแสนบริสุทธิ์ พุ่มไม้พริ้วไหว ไหลไม่สนแรงลม กระทบเหงื่อบนกายทั้งสอง มอบความเย็นและความทรงจำแสนวิเศษ ที่เขานั้นไม่ได้รู้ตัวเลยว่า เขาจะไม่มีทางทำใจได้กับการสูญเสียในครั้งนี้ 


เซเวญ่าปลุกนอสให้ตื่นก่อนพระอาทิตย์ขึ้น ในยามรุ่งสาง เขาพาตัวเองที่งัวเงียไต่เถาวัลย์ผ่านของสะสมต่างๆ ลงมายังโพรงต้นไม้เบื้องล่าง มุดออกมาจากตรงนั้น และใช้เถาวัลย์ที่มีอยู่โดยรอบ พาตัวเองกลับขึ้นไปบนอากาศทันที 


บนนั้น เขาได้โอกาสหวนนึกถึงค่ำคืนอันแสนสุขกับเซเวญ่า แม้ความเป็นจริงที่จะตามมานั้น มันอาจโหดร้ายเกินกว่าที่เขาจะอยากนึกถึงมันก็ตาม และเมื่อมันมาถึง เขาก็ไม่สามารถหยุดมันจากความคิดของเขาได้ เขาโหนเถาวัลย์ต่อ สายตามองผ่านหนทางที่เขาต้องไป เขาไม่สนอีกแล้วว่าตัวเองกำลังจะไปไหน เพียงแต่ปล่อยให้สายลมที่พัดผ่านมอบความรู้สึกดีๆ ให้เขาต่อไปก็เท่านั้น 


ทิวทัศน์เบื้องล่างเริ่มแปลกตา เพราะกว่าที่นอสจะรู้สึกตัว เขาก็เลยขอบเขตของหมู่บ้านมาได้สักพักแล้ว เขามองลงไปเป็นเหวลึก ปลกคุมไปด้วยความเขียวขจีของต้นไม้ แต่ภายใต้พุ่มไม้ที่หนาทึบ มีช่องหนึ่งที่ขาดออกจากกันอยู่นิดหน่อย ตรงนั้น เขาสังเกตได้ถึงบางสิ่งบางอย่าง ที่รูปร่างไม่ต่างจากมนุษย์ ก้มหน้าเข้าแถวเรียงรายกัน เดินขึ้นมาจากใต้พิภพเบื้องล่าง หายเข้าไปยังดงไม้ทึบ


ไม่มีทางเป็นอย่างอื่นไปได้ นอกจากสิ่งที่ลีโอเคยตามหา นอสไม่รอช้า ปล่อยมือจากเถาวัลย์ ลดความสูงตัวเองลง ตามเหล่าคนน่าสงสัยพวกนั้นไปทันที 


ทันใดนั้น หน่วยลาดตระเวนสองตน ก็โผล่เข้ามาตรงหน้า ขวางเขาไว้พร้อมอาวุธในมือ  


“หยุดตรงนั้นละ ดูเหมือนว่าท่านจะหลงทางมาไกลเลยนะ แขกของท่านเซเวญ่า หรือจะให้เรียกว่า เจ้าสัตว์เลี้ยงดีล่ะ?”