ไม่มีใครกล้าออกจากม่านหมอก เว้นเสียแต่ว่า คำตอบเดียวที่เขาตามหานั้น มันอยู่ข้างนอกนั่น
แฟนตาซี,ไซไฟ,ลึกลับ,ผจญภัย,,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
หอคอยเหล็กกล้า และปริศนาคำสาปโคอาโรอาไม่มีใครกล้าออกจากม่านหมอก เว้นเสียแต่ว่า คำตอบเดียวที่เขาตามหานั้น มันอยู่ข้างนอกนั่น
ลีโอ เด็กหนุ่มอ่อนแอ ต้องคอยให้พี่ชายของเขาปกป้องอยู่ตลอด ท่ามกลางโลกใหม่ที่เต็มไปด้วยภัยอันตราย เมื่อปมในวัย ได้ลากเขา และพี่ชายผู้หวังดี ให้ต้องออกเดินทางตามหาความจริงอีกครั้ง คำสาปในคืนพระจันทร์เต็มดวง ที่กลืนกินชีวิตผู้คนในหมู่บ้านรวมถึงพ่อและแม่ของเขา และการเดินทางไปยังหอคอยเหล็กกล้า คือหนทางเดียวที่เขาจะได้คำตอบของเรื่องราวทั้งหมด
หนทางผ่านป่าเรืองแสงเต็มไปด้วยเถาวัลย์และต้นไม้หนาทึบ สรรพสัตว์ต่างพากันให้ความสนใจในผู้เดินทางอันโดดเดี่ยว ผลุบๆ โผล่ๆ ส่งเสียงเรียกพวกพ้องให้มาชม บ้างก็เดินตามแสงที่ส่องประกายบนรอยเท้าของลีโอ ซานีอาเคยเล่าให้เขาฟังว่าเจ้าตัวน้อยพวกนี้ชอบตามกลิ่นความเมตตาที่ติดมาจากเซเวญ่า พรจากป่าไม่เพียงแต่คุ้มครองเขา แต่ยังช่วยนำเพื่อนร่วมทางมาให้เขาอีกด้วย
ลีโอและเจ้าตัวน้อยเดินตามกันเป็นขบวน แหวกดงไม้ ที่ดูเหมือนจะทยอยเปิดทางให้เขาเมื่อสัมผัส พรจากเซเวญ่าคงมีผลกับพืชพวกนี้ด้วย เขาเดินไปตามทาง ผ่านไม้ทึบและเถาวัลย์ไปเรื่อยๆ และในที่สุด เมื่อชั่วพริบตาที่ทางตรงหน้าคอยๆ เปิดออก แสงแดดสว่างจ้าทะลุผ่านแยงตาพวกเขาทันที ลีโอยกมือมาบังแดดจากภายนอกอย่างใจเย็น เจ้าตัวน้อยที่ทนแสงจ้าไม่ไหว รีบวิ่งหนีหายกลับเข้าไปในป่า เขาเดินออกไปอย่างช้าๆ พร้อมกับปรับสายตาให้ชิน เมื่อความพร่ามัวเริ่มจางหาย เผยให้เห็นหอคอยสูงเสียดฟ้าสีดำสนิท ตั้งอยู่บนเนินเขาที่ล้อมรอบไปด้วยทะเลสาบขนาดใหญ่ ไม่มีใครรู้ว่าหอคอยแห่งมีไว้เพื่ออะไร และด้วยพลังแห่งเทพพระเจ้าองค์ไหนที่ประทานสิ่งนี้ให้แก่มนุษย์
หอคอยเหล็กกล้า แท่งเหล็กขนาดมหึมาที่ต่อกันเป็นชั้นๆ แต่ละชั้นมีเหล็กที่ยันไว้เป็นแนวทแยง ซ้อนกันไปเรื่อยๆ จนสูงขึ้นไปเป็นหอคอย น่าประหลาดที่แถวนั้นไม่มีต้นไม้ให้เห็นเลย และสำหรับพวกชาวต้นไม้แล้วนั้น การลงไปเหยียบพื้นดินเปล่าเช่นนี้ ไม่ต่างอะไรจากการนำเอาชีวิตตัวเองไปทิ้งเสียเลย ลีโอจำเป็นต้องระวังตัวเป็นอย่างมาก เขาจดสิ่งที่เห็นลงไปบนสมุดบันทึก ที่จัดทำขึ้นอย่างลับๆ โดยหน่วยวิชาการ แมซมอบให้เขาเป็นของขวัญแห่งมิตรภาพและการจากลา เขาบอกว่ามันจะเป็นประโยชน์มากสำหรับการจดจำรายละเอียดเล็กน้อยระหว่างทาง ซึ่งตอนนี้ลีโอก็ชอบใจกับสิ่งประดิษฐ์ชิ้นนี้เป็นอย่างมาก เขาวาดสิ่งที่เห็นตรงหน้าลงไป เด่นสง่า ล้อมรอบไปด้วยมวลน้ำมหาศาล อุปสรรคแรกที่เขาต้องเผชิญ
บนทะเลสาบมีท่อนไม้ลอยอยู่เป็นจำนวนมาก คงเป็นเพราะแรงจากพายุ หรือไม่ก็ดินที่ถล่มลงมาที่ให้พวกมันร่วงลงไป บางท่อนแตกหักจนเหลือแค่เพียงซากไม้ผุพัง และยังมีเศษไม้ลอยกระจัดกระจายอยู่เต็มไปหมด แต่นั่นก็ทำให้ลีโอนึกออกถึงวิธีที่จะพาเขาข้ามไปยังเนินเขาอีกฟาก เขาเริ่มเดินรวบรวมท่อนไม้นำมาต่อกันเป็นแพ หาเถาวัลย์ที่คุ้นเคยมาผูกให้แข็งแรง ท่อนไม้ทั้งหมดลอยเหนือผิวน้ำพร้อมใช้งานเสร็จในเวลาไม่ช้า เขาใช้เชือกผูกมันไว้และปล่อยให้ลอยออกไปเพื่อทดสอบความมั่นคง เมื่อมั่นใจแล้วว่ามันใช้ได้ เขาจึงคอยๆ หย่อนตัวเองลงไปบนแพอันยวบยาบนั่น
ลีโอล้มลงแทบตกจากแพ มันเซไปมาจนเขาต้องคุกเข่าลง สองมือพยุงตัวเองยึดไว้กับท่อนไม้ เขาเอื้อมมือไปปลดเชือกที่ผูกไว้ออก แพลอยออกห่างจากเขตป่าอย่างช้าๆ เขายิ้มออกมาเมื่อคิดว่าแผนการนี้ได้ผล แพลอยออกไปยังทิศทางของเนินเขาเรื่อยๆ
แต่แล้วสายลมที่กำลังพัดผ่าน ก็เริ่มพาให้แพหมุน สายตาเขาจ้องมองไปยังทิวทัศน์ตรงหน้าที่เลื่อนจากเนินเขาไปยังเขตป่า และกลับมาที่เนินเขา วนไปวนมาอยู่สักพัก เขาก็ฉุกคิดขึ้นได้ว่า สิ่งสำคัญที่เขาลืมสร้าง คือไม้พายที่จะควบคุมแพนี้ให้ว่ายผ่านผิวน้ำข้ามไปยังอีกฝั่ง สองมือยังคงประคองตัวเองบนแพอันยวบยาบ คิดทบทวบหาทางออกจากความผิดพลาดครั้งนี้ แพหมุนวนแรงขึ้น จนทุกอย่างตรงหน้าเริ่มพร่ามัว ในที่สุด เขาก็อ้วกออกมาและสลบไป
ลีโอตื่นขึ้นพร้อมกับพบว่าตัวเองอยู่ท่ามกลางท่อนไม้ที่สายลมพัดพามารวมกัน เขายังคงมุ่งมั่นที่จะข้ามไปยังอีกฝั่งให้ได้ ท้องที่หิวโซเริ่มส่งเสียงทักทาย ทำให้เขาตื่นจากความมึนเมาเมื่อครู่นี้ได้บ้าง เขานั่งลงบนแพที่ดูจะสงบมากขึ้น พอเห็นว่ามีท่อนไม้อยู่เป็นจำนวนมาก เขาจึงไม่รอช้า คว้าท่อนไม้เหล่านั้นมาประกอบกันเป็นไม้พาย เขาลองใช้มันพาตัวเองออกมาจากกองซากไม้ และมันก็เป็นผลสำเร็จ ครั้งนี้เขารอบคอบมากขึ้น และไม่ลืมที่เก็บท่อนไม้บางส่วนมาไว้เป็นสำรองด้วย
เนินเขาเบื้องหน้าอยู่ไม่ไกลนัก เขาใช้แขนที่ฝึกกำลังมาอย่างดี จ้วงน้ำพาตัวเองไหลตามทิศทางได้อย่างเป็นใจ เขาพาแพเข้าจอดเทียบเนินเขา ไม้เจาะไปยังดินที่เปียกชื้น และหยุดสนิท
พื้นดินบนเนินเขานุ่มและเต็มไปด้วยบ่อโคลน ลีโอหยิบท่อนไม้จากแพติดมาด้วย เขาใช้มันเป็นไม้เท้าพยุงตัวเองผ่านเนินดินเลี่ยงบ่อโคลนที่ดูอันตราย บ่อมากมายทำให้ลีโอขนลุกขึ้นมาเมื่อมองเข้าไป ทันใดนั้นเอง จู่ๆ ก็เกิดฟองอากาศขึ้นตามบ่อโคลนรอบๆ เสียงฟองแตกดังราวลาวาเดือดที่กำลังจะปะทุ มันเกิดขึ้นพร้อมกันทุกบ่อที่เขาเข้าไปใกล้
ไม่นานนัก หนอนยักษ์ขนาดเท่าแขน ก็กระโจนออกมาพุ่งเข้าใส่ลีโอ ฟันอันแหลมคมที่ขึ้นอยู่รอบปากดูเหมือนจะกินพื้นที่ส่วนหัวของมันทั้งหมด กระทบเข้าใส่มีดสั้นที่เขาชักออกมาได้ทันเวลา เขาสะบัดมันออกด้วยความตกใจ มันหล่นลงไปบนเนินดินข้างๆ ก่อนที่จะกระเสือกกระสนพาตัวเองเลื้อยกลับเข้าไปยังบ่อโคลน ลีโอยังไม่ทันได้พักหายใจ เมื่อหนอนตัวที่สองกระโจนใส่เขาอีกครั้งจากบ่อทางด้านหลัง มันฝังเขี้ยวที่เรียงเป็นวงกลมลงบนไหล่ซ้าย และใช้ลำตัวมันพันแขนเขายึดไปกับคอ กล้ามเนื้อใต้ผิวอันหยาบของมันตรึงร่างทั้งคู่เอาไว้ ระหว่างที่มันพยายามจะดูดเลือดของเขา
แต่ไม่ทันทีมันจะได้ลิ้มรสเหยื่อของมัน ร่างอันหยาบกระด้าง ก็ถูกตัดเป็นสองท่อนด้วยมีดสั้นในอีกมือนึง มันดิ้นอยู่บนพื้นสักพักก่อนนิ่งไป เขาวิ่งอย่างไม่คิดชีวิตเพื่อออกห่างจากหลุมปีศาจพวกนี้ ใช้มีดทั้งสองมือปัดป้องพวกมันที่พุ่งเข้าใส่ โยกตัวหลบ เตะมันกลับลงไปยังบ่อที่มันขึ้นมา จนในที่สุด เท้าของเขาก็สัมผัสได้ถึงพื้นดินที่แข็งกว่าปกติ มันทำให้เขานึกถึงพื้นดินที่แข็งกร้านจากเขตมืดที่เขาเคยเหยียบ และดูเหมือนว่า ที่แห่งนี้จะปลอดภัยจากฟันอันน่าสยดสยองของหนอนโคลนพวกนั้น
“เกือบไปแล้ว” เขาพูดขึ้นพลางถอนหายใจ นั่งลงกับพื้นพักจากอาการเหนื่อยหอบ สายตามองไปยังหอคอยเหล็กกล้า สูงเสียดฟ้า ตั้งตระหง่านอยู่ตรงหน้าเขา เหล็กสีดำสนิท ต่อเป็นชั้นขึ้นไปเป็นเส้นตรงอย่างที่เขาไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน ความคดงอของต้นไม้หายไปทั้งหมดจากข้อต่อที่เขาคิดว่ามันควรจะมี บนยอดหอคอยมีฝูงนกสีดำบินไปมาระหว่างรังของมัน จากระยะนี้นกพวกนั้นเล็กจิ๋ว แต่ความสูงใหญ่ของมันไม่ใช่สิ่งที่เขาดั้นด้นมาเพื่อชื่นชม แต่เป็นห้องใต้ดินที่เป็นที่สิงสถิตของเทพทิดาแห่งปัญญา ที่พวกพรางเฒ่าเชื่อว่าจะสามารถให้คำตอบแก่เขา และช่วยเหล่าผู้ต้องสาปทั้งหมดได้
ลีโอตรงไปยังฐานของหอคอย ที่ตรงกลางมีบันไดคอนกรีตพาลงไปยังห้องใต้ดิน สองข้างทางเต็มไปด้วยเสาเหล็กสีดำ ที่คอยค้ำหอคอยทั้งหมดไว้กับฐานคอนกรีต เมื่อเข้าไปใกล้ เขาสังเกตเห็นว่าทางข้างล่างนั้นไร้แสงไฟ เขานั่งลงพลางหยิบของสองสามอย่างมาจากกระเป๋าหนัง เป็นตลับไม้ทรงกลม ข้างในมีก้อนยางไม้ผสมกับของเหลวสีใส แท่งจุดไฟสีดำจากหน่วยวิชาการ และเศษเถาวัลย์แห้งไม่ยาวมากอีกหนึ่งเส้น เขานำเถาวัลย์มาพันไว้กับท่อนไม้ที่เก็บมาด้วย บดก้อนยางลงให้ผสมกับของเหลวสีใส พอเหนียวได้ที่แล้วจึงนำไปทาบนเถาวัลย์ตรงปลาย และจึงใช้มีดสั้นขูดไปกับแท่งจุดไฟ ละอองหินร้อนสีส้มพุ่งไปติดบนท่อนไม้มอบแสงสว่างให้กับเขา
ห้องโถงถูกส่องสว่างขึ้น เผยให้เห็นพื้นห้องที่ถูกน้ำขังอยู่ระดับข้อเท้า น้ำที่รั่วเข้ามาผสมกับโคลนจึงขุ่นไปหมด ลีโอเมื่อเห็นอย่างนั้นจึงหย่อนท่อนไม้ลงไปเพื่อเช็คความลึก แล้วขำออกมาเบาๆ ความมืดยังคงเป็นสิ่งที่น่าหวาดหวั่นสำหรับเขาเสมอ เขาค่อยๆ ก้าวท้าวลง พยายามที่จะให้เกิดเสียงน้อยที่สุด เขาลากเท้าผ่านความเย็นเข้าไปยังทางเดินยาว น้ำที่ขังอยู่จำกัดการเคลื่อนไหว และทำให้เขารู้สึกเชื่องช้าเป็นอย่างมาก ถึงแม้ว่าแสงจากคบเพลิงจะบอกว่าทางข้างหน้ายังคงปลอดภัย แต่เขายังคงรู้สึกได้ถึงเลือดที่สูบฉีดแรงขึ้นภายในร่างการของตน
พอเดินมาสุดทาง เขาก็มาถึงห้องขนาดใหญ่ ที่มีโต๊ะและเก้าอี้มากมายเรียงรายอยู่ แต่ที่น่าแปลก เก้าอี้ทั้งหมดนั้นหันหน้าเข้าหากำแพง เขามองไปมาระหว่างของมากมาย พยายามที่จะทำความเข้าใจกับสิ่งที่เห็นตรงหน้าแต่ก็ไม่ได้อะไร เขาส่องคบเพลิงไปรอบๆ หาสิ่งที่ดูเหมือนจะเป็นแท่นหิน หรือรากไม้โบราณ ที่มีแววพอจะเป็นที่สิงสถิตของเทพธิดาจากเบื้องบน หรือแม้แต่ปีศาจจากนรกอันมืดมน เขาภาวนาให้อะไรก็ได้เกิดขึ้น เพื่อที่เขาจะได้ถามคำถามที่เขาต้องการ แต่สิ่งที่ได้กลับมามีเพียงความเงียบงัน กับเสียงน้ำที่กระฉอกใต้ข้อเท้าเขาเท่านั้น
ลีโอเดินวนไปมาอย่างไร้จุดหมาย จนในที่สุด เขาก็เหนื่อยและหยุดลง เขาขึ้นไปนึ่งบนโต๊ะให้เท้าได้พักจากความเปียกชื้น เขายังคงคิดหาทางที่จะติดต่อกับเทพธิดาอยู่ตลอด จนคบเพลิงบนมือเริ่มส่งเสียงลั่น นี่เป็นสัญญาณที่มันกำลังจะมอบดับ และจะพาเขากลับสู่ความมืดมิดอีกครั้ง
เขาตัดสินใจทันทีที่จะกลับออกไป เขาคว้าตัวเองออกจากท่าทางอันแสนสบายบนโต๊ะอันเรียบกริบ ย่องเบาๆ ผ่านน้ำกระฉอกออกไปยังทางเดินยาว สุดทางเดินมีแสงสว่างส่องเข้ามาให้เห็นอยู่ไกลๆ เขาย่ำเท้าไปยังทางออก ในระหว่างที่คบเพลิงในมือส่งเสียงลั่นตลอดทาง ทันใดนั้นเอง แสงจากปลายทาง ก็ดูเหมือนจะถูกบดบังโดยบางอย่างที่กำลังเข้ามาใกล้ ลีโอที่สังเกตเห็นมันได้อย่างทันทีด้วยสัญชาตญาณ จุ่มคบเพลิงลงกับพื้น และรีบพุ่งกลับเข้าไปในห้องโถงอย่างรวดเร็ว
ในความมืดมิด ลีโอปีนขึ้นไปอยู่บนโต๊ะตรงมุมสุดของห้อง นั่งขดตัวกอดเข่าอยู่บนนั้น รีบปรับสายตาให้เข้ากับความมืด เตรียมตัวต้อนรับการมาเยือนของผู้แปลกหน้า
แสงจากคบเพลิงพร้อมกับเสียงฝีเท้าแหวกน้ำของผู้คนจำนวนหนึ่ง กำลังใกล้เข้ามายังห้องโถงอย่างไร้ความเกรงกลัวใดๆ พวกเขาพูดคุยกันในภาษาที่ลีโอเองก็ยังจับใจความไม่ได้ เขาจับอาวุธเตรียมพร้อมเพื่อสถานการณ์ไม่ขาดฝันที่อาจจะเกิดขึ้น จากเสียงฝีเท้าและสำเนียงพูดที่แตกต่างกันเล็กน้อย ทำให้เขารู้ว่าทั้งหมดมีกันอยู่ห้าคน เขาคลำเช็คอาวุธให้ครบตามจำนวนคน และนั่งสงบนิ่งอยู่ในมุมมืด กลมกลืนไปกับซากของเก่า หลับตาไม่ให้สะท้อนแสงออกไปเมื่อทั้งหมดเข้ามาในห้อง
ทั้งห้าคนยืนหันหลังให้ลีโอท่ามกลางแสงสลัวจากเปลวเพลิง คนตัวใหญ่สุดที่เดินนำหน้าเข้ามา พูดพึมพำราวกับเป็นการทักทายอะไรบางอย่าง ทันใดนั้น พื้นที่บริเวณกลางห้องก็สว่างขึ้น แสงสีขาวขยายออกไปเป็นวง กว้างขึ้นเรื่อยๆ ทั้งห้องสว่างขึ้นราวกับว่าหลังคาทั้งหมดได้ถูกเปิดออกโดยลมกระโชกแรงในชั่วขณะ
ระหว่างที่เสียงอื้ออึงดังออกมาจากพนังจนโต๊ะตรงบริเวณนั้นสั่นสะเทือน ลีโอตกใจเป็นอย่างมาก แต่ก็พยายามสุดชีวิตที่จะสงบนิ่งต่อไป เหงื่อไหลไต่ลงคอบนร่างอันแข็งทื่อของเขา อีกห้าร่างตรงหน้ายังคงยืนรอการตอบรับจากบางสิ่ง โดยที่ยังไม่หันหน้ากลับมาทางลีโอ หลังจากที่ห้องทั้งห้องสว่างไสวไปด้วยแสงไฟ เสียงตอบรับบางอย่าง ก็ดังขึ้นออกมาจากกำแพง เป็นเสียงผู้ชายวัยกลางคน นุ่มนวล และชัดเจน ดังออกมากจากทุกทิศ ราวกับว่ามันเกิดขึ้นภายในจิตใจของเขาเท่านั้น เสียงนั่นยังคงพูดต่อไป ราวกับกำลังประเมินผลหรือสรุปอะไรบางอย่าง จู่ๆ ชายร่างยักษ์และพักพวกที่เหลือ ก็หันขวับมาทางลีโอพร้อมกัน ด้วยท่าทางตกใจสุดขีด