เกิดคดีฆาตกรรมขึ้นกลางทะเล หลักฐานทุกอย่างถูกทำลายลงกลางทะเลไปจนหมด ไอวี่จะเจอฆาตกรไหม หลักฐานชิ้นนั้นยังเหลืออยู่ไหมและ ฆาตกรทำไปเพื่ออะไรกัน
ลึกลับ,สืบสวนสอบสวน,อาชญากรรม,ผู้ใหญ่,สืบสวนสอบสวน,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
ฆาตกรรมในทะเลดำเกิดคดีฆาตกรรมขึ้นกลางทะเล หลักฐานทุกอย่างถูกทำลายลงกลางทะเลไปจนหมด ไอวี่จะเจอฆาตกรไหม หลักฐานชิ้นนั้นยังเหลืออยู่ไหมและ ฆาตกรทำไปเพื่ออะไรกัน
ไอวี่เป็นตำรวจสายสืบสวน เธอกำลังนั่งทำงานอย่างคึกคัก อยู่มาวันหนึ่งมีคนโทรมาหาเธอให้ไปตรวจสอบบ้านพักบังกะโลที่ทะเลของเมืองเค ซึ่งเกิดคดีฆาตกรรมตอนกลางคืน ไม่มีใครเห็นฆาตกร ชาวบ้านแถวนั้นหลับหมด และหลักฐานถูกทำลายไปกับทะเล เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบผู้ต้องสงสัยสามคนเป็นชาวประมง อาศัยอยู่หมู่บ้านใกล้กับบังกะโลที่ผู้ตายมาพัก คดีนี้เธอต้องไขปริศนากับ ชารีน เพื่อนจอมกวนประสาทของเธอ ใครคือฆาตกร แล้วเขาทำได้อย่างไร ติดตามกัน
อีกไม่นานฉันตื่นขึ้นมาตอนเช้าท่าทางจะเผลอหลับไปนานมาก ไม่ได้กินข้าวเย็นเลย ตอนนี้ท้องร้องหนักมากรู้สึกอยากกินของอร่อย ชารีนบอกให้ฉันรออยู่ที่นี่ จะไปหาอาหารมาให้ เธอออกไปซื้อร้านข้าวต้มข้างทางริมทะเล
เมื่อเธอมาถึงหอพักฉันรีบหยิบถุงจากเธอมาใส่ถ้วยทันที ในระหว่างนั้นฉันพูดคุยเรื่องคดีกับเธอไปด้วย ท่าทางเธอดูน่าเอร็ดอร่อยกับอาหาร เธอบอกว่าไม่ได้ลิ้มรสนี้มานานแล้ว อยู่ในนั้นถูกกักขัง ไม่ชอบเลยแล้วต้องมาเป็นนางบำเรอให้เขาอีก
รู้สึกดีไปที่ฉันวางแผนได้สำเร็จจนเธอและสาวๆออกมาได้ ฉันพยายามจะปรึกษาเรื่องคดีให้จบแต่เธอกลับเหวี่ยงหน้าใส่ กินข้าวยัดเอายัดเอาเหมือนอดอยากมาจากไหน หลังจากนั้นฉันเคาะโต๊ะดัง
“ชารีน ฉันขอเถอะ ช่วยหน่อยจะได้ไหม เราใกล้สำเร็จแล้วนะ”ฉันยกมือไหว้ขอร้องเธอ
“อะไรกัน ขอให้ฉันกินของอร่อยบ้างเถอะ แล้วค่อยคิดกัน” ชารีนพูดขึ้น ฉันยอมรับ
“ว่าแต่เบาะแสได้อะไรมาบ้างเหรอ”
“มีรูปรอยเท้า รูปศพลุงเมื่อวันนั้น เฮ้อ ได้แค่นี้เองเหรอ” ฉันถอนหายใจ
“ไม่เป็นไร บางทีเราอาจจะหาไม่เจอ”
“ฉันว่ามันช้ามาก มันไม่คืบหน้าเอาซะเลย” ฉันก้มหน้าลง
ทั้งสองกินข้าวเสร็จ วันนี้เป็นเวรของเธอที่ล้างจาน ไม่ว่าวันไหนแผนการก็ไม่สำเร็จ สืบเบาะแสสักหน่อยคนก็เข้ามาเหมือนเขารู้ว่าเราแอบฟังจึงรีบมาเพื่อทำให้เรากลัว ฉันมองผ่านทางหน้าต่าง วันนี้ท้องฟ้าปลอดโปร่ง บรรยากาศน่าเดินเล่นฉันจึงคิดว่าจะพาชารีนไปเดินด้วย
“ชารีน เราออกไปข้างนอกกันไหม ไปเดินเล่นกันเรื่อยเปื่อย สำรวจถิ่นต่างๆ”
“เอาสิ สนุกดี” หลังจากนั้นทั้งสองออกไปเดินเล่นกันในที่สุด ฉันกับชารีนออกมาเดินเล่นตามชายหาด ถ่ายรูปพลินไป จู่ๆเสียงกระซิบมาจากไหนไม่รู้ จากนั้นฉันหันไปเห็นชาวบ้านกำลังคุยบนม้านั่งบนถนนฟุตบาท
“มีเรื่องจะเล่าให้ฟัง ชาวบ้านเขาลือกัน คนสมัยก่อนเขาเชื่อว่าที่ลูกชายของบ้านนี้ตายไปเพราะว่าหน้ากากต้องสาป ฉันหมายความว่าเขาโดนใครแก้แค้นนั้นแหละ”
“คำสาป อีกแล้วเหรอ” ฉันเผลอพูดดังโดยไม่ตั้งใจ ชาวบ้านสองคนนั้นได้ยินเข้าจึงรีบออกหนีห่างทันที ฉันรีบไปบอกชารีนให้เธอรู้
“ชารีน ฉันมีเรื่องจะบอก คือว่าอย่างนี้ ฉันได้ยินชาวบ้านเขาพูดกันว่า ที่ลูกชายเขาตายไปเพราะโดนคำสาป”
“ห๊ะ..ว่าไงนะ..เธอหมายถึงตุ๊กตาต้องคำสาปเหรอ”
“น่าจะใช่ พอฉันพูดเสียงดังเท่านั้นล่ะ ชาวบ้านลุกออกพรวดไปเลย”
“เขาคงคิดว่าเรารู้แล้วน่ะสิ แล้วอีกอย่างเราดังไปทั่วหมู่บ้าน ทุกคนรู้ว่าเราเป็นตำรวจ”
“แย่ล่ะสิ ฉันไม่น่าทำแบบนั้นเลย”
“เอาเถอะ ฉันว่าชาวบ้านนี้ก็พิลึกพิกลนะ...ไม่กล้าบอกความจริงกับเรา”
หลังจากนั้นทั้งสองเริ่มขึ้นฝั่งเพื่อกลับหอพักไปรับประทานอาหารกลางวัน ชารีนคิดว่าจะซื้อข้าวมากิน เธอแยกทางกับฉัน ฉันเข้าไปถึงหอพัก นอนจมบนเตียงพยายามคิดไปเรื่อยเปื่อยถึงเรื่องความเชื่อกับหน้ากากที่แพทตี้เคยบอก หรือนี่จะเรียกว่า หน้ากากต้องสาปกันแน่
ฉันค้นหาหนังสือที่ฉันพกมาด้วย คาดว่าน่าจะมีเรื่องเกี่ยวกับความเชื่อนี้อยู่ เปิดมาเจอมันจริง เรื่องราวของหน้ากากต้องสาป
“ผู้ใดก็แล้วแต่ที่ต้องการจะแก้แค้นเขาเพื่อช่วยให้ตัวเองดีขึ้น หรือรอดพ้น ลองวิธีนี้จะสำเร็จ เอาตุ๊กตามาตัวหนึ่งแล้ว....” ฉันไม่อยากอ่านอีกแล้ว มันไม่น่ามีนะ ที่ฉันซื้อหนังสือเล่มนี้มาเพราะมีเรื่องน่าสนใจแต่นี่ทำไมมีเรื่องนี้ด้วย
ชารีนกลับมาถึงห้อง ฉันคุยกับเธอเรื่องหนังสือเล่มนี้ แค่พูดออกมาเธอก็กลัวแล้ว เธอจึงเลยชวนฉันกินข้าวไปแทน อาหารที่ซื้อมามีเยอะมากมาย ฉันคิดว่าเธอไปร้านไหนมานักหนา ของกินนี่กินได้ถึงเย็นเลยก็ว่าได้
เมื่อฉันเห็นเธอกินข้าวอย่างมีความสุขก็จะไม่พูดเรื่องนั้นอีกต่อไป ฉันชวนเธอคุยเรื่องคดีต่อ เธอหันมาสบตาฉันอย่างจริงจัง
“แหม ทีอย่างนี้ล่ะฟังเชียวนะ”
“ก็ฉันชอบแบบความจริงมากกว่า ฉันไม่เอาพวกที่เธอเล่ามาหรอก”
“ฉันแค่ได้ยินมา ช่างมันเถอะ ไม่สำคัญ”
“เธอก็พูดไป คิดดูดีๆนะ บางทีฉันก็เชื่อว่าเป็นคำสาป จากนิสัยของคนตายที่เธอเขียนบันทึกไว้ ใครๆก็ไม่ชอบนะนิสัยแบบนี้ ถ้าทำงานกับฉัน ฉันจะลาออกทันที”
“ใช่ คิดเหมือนกัน”