“เขาคือเด็กหนุ่มเพียงคนเดียวที่มีค่ามานาเป็นศูนย์ ท่ามกลางผู้ใช้เวทนับล้าน ในโลกที่พลังคือทุกสิ่ง… เขาจะล้มล้างทุกกฎที่ขวางทางเพื่อไต่ขึ้นไปสู่จุดสูงสุด”
แฟนตาซี,แอคชั่น,ผจญภัย,ยุคปัจจุบัน,ไทย,โรงเรียนเวทมนตร์,พระเอกเทพ,เทพ ,พลังวิเศษ,พระเอกเก่ง,เวทมนตร์,ผจญภัย,แฟนตาซี,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง“เขาคือเด็กหนุ่มเพียงคนเดียวที่มีค่ามานาเป็นศูนย์ ท่ามกลางผู้ใช้เวทนับล้าน ในโลกที่พลังคือทุกสิ่ง… เขาจะล้มล้างทุกกฎที่ขวางทางเพื่อไต่ขึ้นไปสู่จุดสูงสุด”
ในโลกที่มานาคือทุกสิ่ง มันเป็นพลังที่มีไว้เพื่อต่อสู้ ดำรงอยู่ และไต่ขึ้นสู่จุดสูงสุด
แต่เขากลับเป็นมนุษย์คนเดียวที่มีพลังมานาเท่ากับศูนย์
ใช่...ฟังไม่ผิด เท่ากับศูนย์
ไร้พลัง และอ่อนแอ
ในขณะที่ผู้แข็งแกร่งไขว่คว้าหาอำนาจ เขาทำได้เพียงแค่เดินอยู่ในเงามืด
เส้นทางของเขา ไม่ได้เริ่มต้นจากแสงสว่าง
แต่มันจะจบลง…ด้วยการสะเทือนไปทั้งโลก
“ไม่มีมานา…แล้วยังไงล่ะ?”
สวัสดีครับ TENTENs ครับ
ขอเล่าเรื่องตัวเองนิดหน่อยนะครับ
ผมมีความฝันอยากเขียนนิยายมานานแล้ว ถึงจะเคยลองเขียนแล้วอ่านเองอยู่บ้าง แต่ก็ไม่มีความกล้าที่จะให้ใครอ่านสักที
จนในที่สุดก็ตัดสินใจที่จะเขียนเรื่องนี้ขึ้นมา เป็นเรื่องใหม่ที่เขียนเองแต่งเองทั้งหมด ด้วยความตั้งใจจริงมากๆ หวังว่าทุกคนจะชอบกันนะครับ
โดยนิยายเรื่องนี้ เป็นนิยายรายตอนที่จะมีเนื้อเรื่องที่ยาวพอสมควร ผมจะพยายามอัพตอนใหม่ให้ได้ อาทิตย์ละ 3 ตอน เป็นอย่างน้อย ด้วยความที่ภาระหน้าที่ค่อนข้างเยอะ อาจจะเขียนได้ช้าไปบ้าง แต่สัญญาว่าจะไม่มีวันหยุดเขียน ตราบใดที่ยังมีคนรออ่านอยู่ แม้เพียงคนเดียวก็ตามครับ
ด้วยความที่ผมเป็นมือใหม่ ถ้าผิดพลาดอะไรตรงไหน ต้องขออภัยมากๆ และสามารถติชมกันได้เต็มที่เลยนะครับ
ขอฝากนิยายเรื่องนี้ไว้ในหัวใจทุกคนด้วยนะครับ ขอบคุณครับ
ท่ามกลางภูเขาที่ถูกไฟแผดเผาไปทั่วบริเวณ นักเรียนหลายสิบคนมองสถานการณ์ตรงหน้าอย่างวิตกกังวล ขณะโดรนหลายสิบตัวยังคงถ่ายทอดภาพเหตุการณ์ไปทั่วโลก
ทุกคนผงะถอยหลัง เมื่อได้ยินเสียงร้องโหยหวนของไอเดน ราวกับซอมบี้ ก่อนที่เขาจะทรุดลงกับพื้น
“อึ่กกกก...”
ลาวินรีบวิ่งเข้ามาประคองเพื่อนทันที
“ไอเดน! เฮ้ นายโอเคไหม?”
ไอเดนหอบหายใจถี่ ร่างกายเต็มไปด้วยเส้นเลือดสีม่วงจางๆ พาดผ่านลำคอ แขน และข้อมือ ผิวของเขาเริ่มซีดเผือดลงอย่างผิดสังเกต
กลุ่มของเรย์รีบกรูกันเข้ามาหาเขา ก่อนที่คนอื่นๆ จะตามมาสมทบ
“นายไม่เป็นไรใช่ไหม?”
เรย์ถามขึ้นด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง ก่อนที่ไอเดนจะตอบเสียงเบา
“อึ่กก...ฉันไม่เป็นไร...”
“เมื่อกี้มันคืออะไรกันแน่!?”
โซรันถามเสียงตื่น
เนียร์พึมพำขึ้นทันที
“นั่นอาจจะเป็นวิซของเขาครับ”
โซรันหันขวับไปมอง
“วิซ!? เป็นวิซแบบไหน!?”
เนียร์ส่ายหน้า พลางหันไปมองเรย์ที่เป็นฝ่ายพูดแทน
“เรารู้แค่ว่า...มันเป็นวิซประเภทดูดพลังครับ”
โซรันเปิดสมุดโน้ตในมืออย่างรวดเร็ว เธอพลิกหน้าจนเจอแผ่นที่เขียนว่า
ชื่อ : ไอเดน | วิซ :ไม่ทราบ | ระดับ : D
“ระดับ D เหรอ!?”
โซรันพึมพำ
“ในบันทึกเขียนว่าไม่ทราบความสามารถ แล้วพวกเธอรู้ได้ยังไงว่าเป็นวิซประเภทดูดพลัง”
เรย์ยังคงเงียบ ก่อนที่เนียร์จะพูดแทน
“เรย์แค่รู้ว่ามันทำงานในรูปแบบดูดพลังครับ...ไอเดนเคยลองใช้มาหลายครั้งแล้ว...แต่ไม่เคยได้ผล...นี่เป็นครั้งแรกที่มันทำงานจริงๆ”
“......?”
เสียงหนึ่งดังขึ้นแทรกความสงสัย เป็นซิกซ์ที่ยืนอยู่ด้านหลัง
“เป็นวิซที่ใช้ได้กับมอนสเตอร์เท่านั้นสินะ”
เขาเอ่ยขึ้นพลางเดินเข้ามาใกล้ไอเดน
“เมื่อกี้...นายดูดพลังของซอมบี้ตัวนั้นใช่ไหม?”
ไอเดนพยักหน้าพลางหอบหายใจ
“ใช่ครับ...”
ซิกซ์โน้มตัวเข้ามาดูใกล้ๆ
“ดูเหมือนวิซนั่นมันจะดูดพลังได้จริง แต่ก็ย้อนกลับมาทำร้ายเธอเอง”
เสียงเขาเย็นชาขึ้นเล็กน้อย
“มันดูดทั้งพลัง ทั้งพิษ รวมถึงเนื้อแท้ของมอนสเตอร์มาไว้ในร่าง เป็นวิซที่อันตรายมาก...มันอาจทำให้เธอตายได้เลยนะ”
ทุกคนรอบข้างนิ่งเงียบ มองเส้นเลือดสีม่วงที่แล่นไปทั่วร่างไอเดนด้วยความกังวล
“นั่นคงเป็นเหตุผลที่มันถูกจัดไว้แค่ระดับ D...เธอห้ามใช้วิซนั่นอีกเด็ดขาด เข้าใจใช่ไหม?”
ซิกซ์กล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่น
ไอเดนสบตาเขา ก่อนจะพยักหน้าเบาๆ
“คะ...ครับ!”
เขาค่อยๆ กลับมาพูด และเดินได้อย่างปกติ ทว่าผิวของเขากลับซีดลงอย่างชัดเจน เส้นเลือดสีม่วงจางๆ ยังคงปรากฏอยู่ทั่วร่างกาย
ไลออนมองดูมือเขา ก่อนจะพูดขึ้นเบาๆ
“ผิวของนาย...มันจะเป็นแบบนี้ไปตลอดเลยเหรอ?”
ไอเดนเงียบไป เขามองแขนตัวเอง
“...ไม่รู้สิ”
เขากระซิบด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
ในใจเขารับรู้ได้ ว่าพลังของซอมบี้อันบ้าคลั่ง มันยังคงอยู่ในร่างกายของเขา ไม่ได้หายไปไหน
มินนี่ ขยับเข้ามา ขำแห้งๆ
“อย่าทำหน้าแบบนั้นสิ...ถ้านายทาครีมบ่อยๆ เดี๋ยวก็หายน่า...”
เธอพยายามปลอบ
กล้องโดรนซูมใบหน้าของเขา เส้นเลือดสีม่วงจางๆ เด่นชัดบนหน้าจอถ่ายทอดสด
พร้อมคำพากย์ปิดท้ายที่เบาเสียงลง
<ดูเหมือนเราจะได้เห็นอะไรที่น่ากลัว และน่าสนใจไปพร้อมกันครับ...เด็กผมขาวคนนั้น เขามีชื่อว่าไอเดน ช่วยส่งกำลังใจให้เขาด้วยนะครับ!!>
เวลาล่วงเลยไปหลายชั่วโมง ท้องฟ้าสว่างเริ่มเปลี่ยนเป็นสีส้มอ่อนของยามเย็น กลุ่มของซิกซ์และนักเรียนจากไอโอนิคเดินลึกเข้ามาเรื่อยๆ จนเกือบถึงจุดสูงสุดของภูเขา
อากาศบางลง ลมพัดสายหมอกบางๆ ปะทะใบหน้า ทว่าที่น่าประหลาดใจกว่าก็คือ...ความเงียบ
ซอมบี้ที่เคยบุกเข้ามาไม่ขาดสาย บัดนี้หายไปจนหมดสิ้น เสียงโหยหวนที่เคยดังก้องในทุกทิศทาง กลับเงียบสงัดอย่างน่ากลัว
แม้แต่เสียงฝีเท้าก็ดังชัด ราวกับเดินอยู่ในหุบเหว
ตลอดทางที่ผ่านมา นักเรียนหลายคนได้มีโอกาสเผชิญหน้ากับซอมบี้ และได้ลองต่อสู้อย่างจริงจังเป็นครั้งแรก แม้บางคนจะยังไม่ได้ออกมาสู้ด้วยตัวเอง แต่สำหรับกลุ่มนักเรียนใหม่เหล่านี้ มันก็ถือเป็นประสบการณ์ที่มีค่า...ประสบการณ์ที่ไม่มีในห้องเรียน
“เหมือนซอมบี้จะหมดลงแล้วนะ...”
โซรันเอ่ยเบาๆ พลางกวาดตามองรอบตัวอย่างระแวดระวัง
เสียงพากย์ถ่ายทอดสดดังขึ้นอย่างเร้าอารมณ์
<ผู้ชมครับ! ดูเหมือนว่า ขณะนี้ซอมบี้ทั่วทั้งภูเขาได้ถูกกวาดล้างจนสิ้นแล้วครับ!!>
ภาพจากโดรนแสดงให้เห็นผืนป่าที่เงียบสงบ พื้นดินที่ไหม้เกรียม และเถ้าถ่านที่ปลิวว่อนในอากาศ ราวกับเพิ่งผ่านสงครามนิวเคลียร์มา
<ซิกซ์ที่เคยบอกว่าอาจใช้เวลา 3 วันในการเคลียร์ แต่นี่แค่ครึ่งวันเท่านั้นครับ! ด้วยทะเลเพลิงอันร้อนแรงของเขา และนี่คือวีรบุรุษของพวกเรา ซิกซ์ครับ!!>
เสียงเฮดังสนั่นไปทั่วประเทศ บางแห่งเริ่มเตรียมจุดพลุเฉลิมฉลอง เด็กๆ ต่างก็กระโดดโลดเต้นเมื่อเห็นภาพของซิกซ์บนหน้าจอ
เขายืนอยู่ท่ามกลางเถ้าถ่าน สวมเสื้อคลุมที่ปลิวไสว ผมสะบัดตามแรงลม พร้อมรอยยิ้มสงบนิ่งที่แสดงถึงชัยชนะ
แต่ทันใดนั้น...
เสียงครางต่ำของซอมบี้ก็ดังขึ้นเบาๆ
เป็นเสียงฟันกระทบกัน เสียงฝีเท้าเล็กๆ ที่ดังออกมาจากที่ใดที่หนึ่ง
ทุกคนหยุดชะงัก หันไปมองตามเสียง
ที่เบื้องหน้าคือปากถ้ำขนาดใหญ่ พอจะกลืนบ้านได้ทั้งหลัง เสียงนั้นกำลังดังมาจากด้านใน
กลิ่นอับและลมเย็นจากถ้ำพัดออกมา ปะทะใบหน้าทุกคน พร้อมความรู้สึกที่บีบรัดในอก
ซิกซ์ขมวดคิ้ว ก้าวไปข้างหน้า
“ดูเหมือนจะยังเหลือพวกที่อยู่ในถ้ำนั่น...เราไปกันเถอะ”
“อาจารย์โซรันครับ!”
เรย์ตะโกนขึ้นทันที
“เรากลับกันเถอะครับ แค่นี้ก็น่าจะพอแล้ว”
“...?”
โซรันเลิกคิ้วมองเขาอย่างแปลกใจ
“ทำไมล่ะ? อีกนิดเดียวก็จบแล้ว”
เรย์กัดฟันแน่น ความหวาดกลัวบางอย่างสะท้อนในแววตา แม้เขาเองก็ไม่เข้าใจดีนักว่ามันคืออะไร...แต่เขารู้แค่ว่า...เข้าไปไม่ได้
“ในนั้น...มันอันตรายครับ วันนี้เราพอแค่นี้เถอะ!”
นักเรียนเริ่มมองหน้ากันอย่างสับสน
“เฮอะ...เลิกทำตัวเป็นตัวถ่วงได้แล้วน่า”
มาโนชเอ่ยเสียงเย้ยหยัน
“ซิกซ์ยังอยู่แท้ๆ จะกลัวอะไร?”
“ไม่ได้!!”
เรย์ตะโกนสุดเสียง จนทุกคนสะดุ้งขมวดคิ้ว
“เราต้องกลับกันตั้งแต่ตอนนี้ ห้ามเข้าไปเด็ดขาด!!”
สายตาทุกคู่เริ่มมองเขาราวกับเป็นคนบ้า
ซิกซ์เดินมาหาเรย์ พลางยิ้มบางด้วยความอบอุ่น
“เธอไม่ต้องกลัวนะ เหลือแค่ในถ้ำนั่น เดี๋ยวเราก็จะได้กลับ ฉันจะจัดการเอง ใช้เวลาไม่นานหรอก”
พูดจบ เขาก็เดินตรงเข้าไปยังถ้ำอย่างไม่ลังเล
เรย์กำมือแน่น มองตามด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
“ชิ!”
เนียร์หันมาถามเสียงจริงจัง
“มีอะไรอยู่ในนั้นใช่ไหม?”
เขาถามราวกับรู้ดีว่าเรย์คิดอะไรอยู่ เรย์เงียบไปชั่วครู่ ก่อนจะตอบสั้นๆ
“...ใช่”
“มันคืออะไร?”
มินนี่ถามต่อทันที
มือของเรย์กำแน่น
“บางสิ่ง...ที่อันตราย”
แต่ท้ายที่สุด ทุกคนก็เดินตามเข้าไปในถ้ำ โดยไม่มีทางเลือก
เพียงพวกเขาก้าวเข้าสู่เงามืด ฝูงซอมบี้ขนาดใหญ่ก็กรีดร้องวิ่งออกมา!
กร๊าซซซ!!
เสียงฝีเท้าระรัวราวกับแผ่นดินไหว
ซิกซ์ยกมือขึ้นทันที
“ทะเลเพลิง!!”
เปลวไฟมหาศาลลุกโชน ซอมบี้ทั้งฝูงกลายเป็นเถ้าถ่านในพริบตา
“หมดแล้วสินะ...”
ซิกซ์กล่าว
“ไม่ครับ...”
เรย์จ้องเข้าไปเบื้องลึกในเงามืด
“...ยังไม่หมด”
ทุกคนหันมองเข้าไป มันมืดเสียจนไม่มีใครมองเห็นสิ่งใด แต่กลับรู้สึกขนลุกซู่ขึ้นมาทันที
ซิกซ์ปล่อยเวทแสงไฟออกจากมือ ดวงไฟเล็กๆ จำนวนมาก ลอยเข้าไปด้านในอย่างช้าๆ
เมื่อแสงสว่างสะท้อนผนังหิน เผยให้เห็นร่างหนึ่งที่อยู่ด้านในสุด...
มันกำลังนั่งอยู่บนบัลลังก์หินสูง ร่างใหญ่กว่าซอมบี้ทั่วไปราวสองเท่า สวมผ้าคลุมเก่าๆ ถือลูกแก้วในมือ
ศีรษะของมันเป็นกระโหลกสีขาวซีด ดวงตากลวงเปล่า...ไม่มีแม้แต่แววชีวิต
ความเงียบที่หนักอึ้งราวกับความตายเข้าปกคลุม
...มันพูด
เสียงแหบพร่า เย็นยะเยือก
“พวกแก...บังอาจ”
ทุกคนสะดุ้งสุดตัว
“มะ...เมื่อกี้มันพูดเหรอ!?”
เสียงบรรยายสดสั่นเครือ ดังขึ้นด้วยความตกตะลึง
<มะ…มอนสเตอร์พูดภาษามนุษย์ได้ครับ!? นะ...นี่มันระดับมอนสเตอร์ลึกลับ!!>
ซิกซ์ก้าวถอยไปหนึ่งก้าว
“ไม่ผิดแน่...! นั่นมัน...ลิช! จ้าวแห่งความตาย มันมีความสามารถในการคืนชีพมอนสเตอร์!”
เขาตะโกนสุดเสียง
“วิ่งงงง!!!”
แต่สายไปแล้ว
เสียงแหบพร่าดังก้องไปทั่วถ้ำ
“ตื่นเสียเถิด...ลูกๆ ของข้า”
ลูกแก้วในมือมันสว่างวาบ แสงสีม่วงกระจายกว้างราวกับคลื่นแห่งคำสาป
ซอมบี้ทุกตัวที่เคยสลายไป มันกลับฟื้นคืนชีพขึ้นอีกครั้ง
ไม่ใช่แค่ตัวเดียว หรือฝูงเดียว...แต่ ทั้งภูเขา
เสียงกรีดแหลมดังก้องราวกับความตายกำลังเฉือนขั้วประสาท
เด็กหลายคนทรุดลงกับพื้น
หลายคนปิดหู
หลายคน...ไร้สติ
และบัดนี้...
พวกเขากำลังยืนอยู่ท่ามกลางฝูงซอมบี้นับล้านตัว
ที่พุ่งเข้ามาจากทุกทิศทาง
“หลบไป!!!!”
ซิกซ์ตะโกนก้อง
วงแหวนทองส่องสว่างอีกครั้ง
“วิหคไฟ!!”
เปลวไฟก่อตัวขึ้นกลางอากาศ รูปร่างราวกับนกเพลิงขนาดมหึมา มันเหินขึ้นด้วยพลังราวกับสัตว์เทพในตำนาน ก่อนจะพุ่งเข้าโจมตีใส่ฝูงซอมบี้ด้วยตัวของมันเอง ราวกับมีชีวิต
<ออกมาแล้วครับ! วงแหวนนกฟีนิกซ์ที่ทุกคนรอคอย!! ช่างสวยงามและทรงพลังจริงๆ ครับ!!>
ทว่า...
“มะ...ไม่ได้ผล!?”
เปลวเพลิงทะลุผ่านฝูงซอมบี้ไปโดยไร้ผล ร่างของพวกมันมีเกราะเวทสีขาวห่อหุ้ม
ไฟของซิกซ์…ถูกลิชแก้ทางโดยสมบูรณ์
“ทุกคนสู้!!”
โซรันตะโกนลั่น
ออร่าของนักเรียนทุกคนระเบิดขึ้น วงแหวนหลากสีปรากฏในอากาศ เวทมนตร์พุ่งเข้าใส่ฝูงซอมบี้จากทุกทิศทาง
เรย์ตะโกนลั่นไปทางซิกซ์ที่กำลังยืนอึ้งอยู่
“ลิช!!! คุณต้องโจมตีลิช!!!”
ซิกซ์ชะงัก ก่อนตะโกนคำร่ายดังลั่น
“วายุเพลิงสังหาร!!”
หนึ่งในวงแหวนทองส่องสว่างวาบขึ้นอีกครั้ง
อักขระสีแดงผุดขึ้นใต้เท้าลิช เสาเพลิงขนาดใหญ่พวยพุ่งออกมา
มันคือเวทล็อกเป้าระยะไกลที่แม้แต่จ้าวแห่งความตายก็หลบไม่ทัน
<สุดยอด!!! หนึ่งในวงแหวนที่เป็นเหมือนท่าไม้ตายของซิกซ์ ปรากฏออกมาแล้วครับ!! รับรองว่าลิชนั้นถูกเผาไม่เหลือซากแน่ครับ!>
แต่ทันใดนั้น...
ลิชเพียงร่ายลูกแก้วในมือ
เสาเพลิงขนาดใหญ่ดับวูบลงในพริบตา
ร่างของมันยังคงยืนอยู่...โดยไม่เสียหายแม้แต่นิดเดียว
“...!!?”
ใบหน้าของซิกซ์พลันสิ้นหวังในทันที
ไม่เพียงแค่นั้น ความสิ้นหวังของเขามันถูกส่งต่อไปถึงคนทั้งประเทศในทันที
<มะ...ไม่ได้ผล!? เป็นไปไม่ได้!!>
<เวทของซิกซ์...ถูกลิชปัดทิ้งอย่างง่ายดาย!!>
<ได้ยินว่าลิชสามารถป้องกันเวทมนตร์ได้ทุกชนิด ต้องใช้การโจมตีกายภาพเท่านั้นครับ!!>
<แต่นั่นคือสิ่งที่ซิกซ์ไม่ถนัดเลยครับ! สถานการณ์ในตอนนี้...ทุกคนกำลังตกอยู่ในอันตรายครับ!>
โซรันพยายามใช้เวทลมถ่วงเวลา
เอรีนแช่แข็งซอมบี้ได้เพียงหยิบมือ
เด็กๆ บ้างร้องไห้
บ้างทรุดลง
บ้างกำลังถูกลากออกไป
แววตาของเนียร์เริ่มสั่นไหว เขายกมือขึ้นอีกครั้ง
“บัญชาแห่งสายฟ้า!”
ตู้มมมม!!
เวทสายฟ้าฟาดตัดกลางกลุ่มซอมบี้อย่างแม่นยำ กลิ่นไหม้กระจายทั่วถ้ำ
เนียร์หันขวับมามองเรย์ ใบหน้าเปรอะด้วยฝุ่นและเลือด
“เรย์!! นายต้องช่วยสู้แล้ว! ไม่งั้นพวกเราตายกันหมดแน่!”
เขาตะโกนสุดเสียง
เรย์กัดฟันแน่น เงยหน้ามองโดรนหลายสิบตัวที่ลอยอยู่เหนือหัว
‘ถ้าฉันออกไปสู้ตอนนี้ ภาพของฉันได้ฉายไปทั่วประเทศแน่...’
เขากวาดสายตาไปรอบถ้ำ
มีเพียงความสิ้นหวัง
“ชิ!!”
‘...ไม่มีทางเลือกแล้ว...หืม!?’
มือเขาแตะไปที่ของบางอย่างในกระเป๋า
และทันใดนั้น...
ทุกอย่างชะงักไปเพียงหนึ่งวินาที
หนึ่งวินาที...ที่สายตาทุกคู่หันไปมองด้านบน
ฟุ่บ!!
เงาดำพุ่งขึ้นจากพื้นราวถูกปลุกจากขุมนรก
และปรากฏเหนือบัลลังก์ที่ลิชยืนอยู่
ออร่าสีดำสนิทระเบิดออกเหมือนพายุ
แรงกดดันมหาศาลกระจายไปทั่วบริเวณ
แม้แต่ซอมบี้ยังหยุดเคลื่อนไหว
เปรี้ยง!!!!
เสียงหมัดกระแทกลงบนหัวลิชอย่างจัง โดยไม่มีการเตือนใดๆ
ร่างของมันกระเด็นชนผนังถ้ำด้วยแรงมหาศาลจนเกราะเวทแตกเป็นเสี่ยงๆ
ทุกคนตะลึง
โดรนทุกตัวหันซูมภาพเข้าไปใกล้เขาโดยอัตโนมัติ
<นะ...นั่นอะไรน่ะ...!? >
ท่ามกลางฝุ่นควัน
ร่างหนึ่งยืนตระหง่านเหนือบัลลังก์หิน
ออร่าสีดำปกคลุมร่างราวกับปีศาจจากขุมนรก
ใบหน้าของเขา...มันเป็นกระโหลกของซอมบี้
<ซะ...ซอมบี้ครับ!? ซอมบี้เพิ่งจะพุ่งเข้าโจมตีลิชลอยกระเด็น!!? >
เสียงผู้ประกาศตะโกนแทบหลุดไมค์
<เขา...ไม่สิ...มัน...ช่วยทุกคนไว้งั้นเหรอครับ!? ...แล้วออร่าสีดำนั่นมันอะไรกันครับ!? >
<ดะ...เดี๋ยวก่อน...ซอมบี้นั่น...มันกำลังสวมชุดนักเรียนไอโอนิคอยู่ครับ!!!>
<...!!? >
สายตาทั้งประเทศจับจ้องไปที่ซอมบี้ในชุดนักเรียน
มันไม่พูด...ไม่ขยับ
แค่หันไปมองลิชที่ยังนอนนิ่ง
...แล้วหันกลับมา
มันชูนิ้ว
ชี้ไปเบื้องหน้า
“หมดเวลาทัศนศึกษาแล้ว”
เสียงทุ้มต่ำลอดผ่านหน้ากาก
และในชั่วพริบตา...
โลกทั้งใบ…ก็ไหม้เป็นสีดำ