“เขาคือเด็กหนุ่มเพียงคนเดียวที่มีค่ามานาเป็นศูนย์ ท่ามกลางผู้ใช้เวทนับล้าน ในโลกที่พลังคือทุกสิ่ง… เขาจะล้มล้างทุกกฎที่ขวางทางเพื่อไต่ขึ้นไปสู่จุดสูงสุด”

Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง - ตอนที่ 27 มานาธาตุ โดย TENTENs @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

แฟนตาซี,แอคชั่น,ผจญภัย,ยุคปัจจุบัน,ไทย,โรงเรียนเวทมนตร์,พระเอกเทพ,เทพ ,พลังวิเศษ,พระเอกเก่ง,เวทมนตร์,ผจญภัย,แฟนตาซี,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

แฟนตาซี,แอคชั่น,ผจญภัย,ยุคปัจจุบัน,ไทย

แท็คที่เกี่ยวข้อง

โรงเรียนเวทมนตร์,พระเอกเทพ,เทพ ,พลังวิเศษ,พระเอกเก่ง,เวทมนตร์,ผจญภัย,แฟนตาซี

รายละเอียด

Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง โดย TENTENs @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

“เขาคือเด็กหนุ่มเพียงคนเดียวที่มีค่ามานาเป็นศูนย์ ท่ามกลางผู้ใช้เวทนับล้าน ในโลกที่พลังคือทุกสิ่ง… เขาจะล้มล้างทุกกฎที่ขวางทางเพื่อไต่ขึ้นไปสู่จุดสูงสุด”

ผู้แต่ง

TENTENs

เรื่องย่อ

ในโลกที่มานาคือทุกสิ่ง มันเป็นพลังที่มีไว้เพื่อต่อสู้ ดำรงอยู่ และไต่ขึ้นสู่จุดสูงสุด

แต่เขากลับเป็นมนุษย์คนเดียวที่มีพลังมานาเท่ากับศูนย์

ใช่...ฟังไม่ผิด เท่ากับศูนย์

ไร้พลัง และอ่อนแอ

ในขณะที่ผู้แข็งแกร่งไขว่คว้าหาอำนาจ เขาทำได้เพียงแค่เดินอยู่ในเงามืด

เส้นทางของเขา ไม่ได้เริ่มต้นจากแสงสว่าง

แต่มันจะจบลง…ด้วยการสะเทือนไปทั้งโลก

“ไม่มีมานา…แล้วยังไงล่ะ?”



สวัสดีครับ TENTENs ครับ

ขอเล่าเรื่องตัวเองนิดหน่อยนะครับ

ผมมีความฝันอยากเขียนนิยายมานานแล้ว ถึงจะเคยลองเขียนแล้วอ่านเองอยู่บ้าง แต่ก็ไม่มีความกล้าที่จะให้ใครอ่านสักที 


จนในที่สุดก็ตัดสินใจที่จะเขียนเรื่องนี้ขึ้นมา เป็นเรื่องใหม่ที่เขียนเองแต่งเองทั้งหมด ด้วยความตั้งใจจริงมากๆ หวังว่าทุกคนจะชอบกันนะครับ


โดยนิยายเรื่องนี้ เป็นนิยายรายตอนที่จะมีเนื้อเรื่องที่ยาวพอสมควร ผมจะพยายามอัพตอนใหม่ให้ได้ อาทิตย์ละ 3 ตอน เป็นอย่างน้อย ด้วยความที่ภาระหน้าที่ค่อนข้างเยอะ อาจจะเขียนได้ช้าไปบ้าง แต่สัญญาว่าจะไม่มีวันหยุดเขียน ตราบใดที่ยังมีคนรออ่านอยู่ แม้เพียงคนเดียวก็ตามครับ


ด้วยความที่ผมเป็นมือใหม่ ถ้าผิดพลาดอะไรตรงไหน ต้องขออภัยมากๆ และสามารถติชมกันได้เต็มที่เลยนะครับ


ขอฝากนิยายเรื่องนี้ไว้ในหัวใจทุกคนด้วยนะครับ ขอบคุณครับ


สารบัญ

Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-บทนำ Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 1 รถหรู กับ รถพัง,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 2 เด็กผู้ทำคะแนนเต็ม,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 3 เด็กเก้าวงแหวน กับ เด็กผู้ไร้มานา,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 4 ฉันรู้สึกได้,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 5 พลังตรวจจับ?,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 6 เหมืองร้าง,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 7 ดวงวิญญาณปริศนา,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 8 ฉันจะไปฝึกวิชา,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 9 การต่อสู้ที่ไม่คาดฝัน,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 10 มานาจากธรรมชาติ,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 11 เสียงคำรามจากเงามืด,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 12 พลังสีดำ,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 13 มนุษย์ถ้ำ,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 14 เวลาแห่งการล่า,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 15 ไอโอนิค,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 16 การสอบรอบที่ 1,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 17 การสอบรอบที่ 2,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 18 เพียงวูบเดียว,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 19 การสอบรอบที่ 3,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 20 ม่านหมอก,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 21 มาสู้กับผมสิ,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 22 สัตว์ป่า,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 23 โพรงลึก,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 24 ประตูสู่ไอโอนิค,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 25 ห้องแห่งการประเมิน,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 26 ขีดจำกัด,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 27 มานาธาตุ,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 28 เปลวไฟ,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 29 วงแหวน,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 30 การต่อสู้ระยะใกล้,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 31 ดาบไร้คม,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 32 เรมไนร์,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 33 ประกาศิต,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 34 ชีวิตแลกชีวิต,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 35 ความฝัน,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 36 กริฟฟอน,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 37 สัตว์ประหลาด,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 38 แสงสว่างท่ามกลางสายฝน,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 39 หุบเหว,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 40 คืนที่ไร้ดวงดาว,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 41 ประกายสีดำ,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 42 เพลิงดับสูญ,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 43 อาร์คดูเอล,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 44 ใต้แสงจันทร์,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 45 วงแหวนของไลออน,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 46 การยืนหยัดของผู้ไร้พรสวรรค์,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 47 ก้าวแรกที่ผ่านพ้น,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 48 งานเทศกาลของซิกซ์,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 49 ผู้ครอบครองวงแหวนทั้งเก้า,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 50 สนามรบที่แท้จริง,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 51 เมื่อแสงหมดสิ้น...ความมืดจึงเผยตัว,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 52 ผู้ยืนอยู่เหนือซากบัลลังก์,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 53 หน้ากากซอมบี้,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 54 พลังอสูร?,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 55 กลับบ้าน,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 56 เหนือฟ้ายังมีฟ้า,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 57 เด็กหญิงผู้ไม่เคยได้ยินเสียงเพลง,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 58 เทพเจ้า,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 59 มงกุฎแห่งเอไลเซร่า,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 60 วงแหวนที่สอง,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 61 หาง,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ประกาศสำคัญ จากผู้เขียน

เนื้อหา

ตอนที่ 27 มานาธาตุ

สายตาของเอรีนเงยขึ้นมาช้าๆ เธอจ้องหน้ามาโนชอย่างเยือกเย็น

แม้เธอจะยืนอยู่ในระดับที่นั่งที่ต่ำกว่า แต่แววตานั้นกลับสูงส่งเกินเอื้อม

ราวกับราชินีที่ทอดพระเนตรข้ามศีรษะของข้ารับใช้ มันเย็นชา เฉียบคม และไร้ความจำเป็นต้องลดระดับลงไปสนทนาด้วย

ขัดแย้งอย่างสิ้นเชิงกับใบหน้าหวานน่ารักที่ดูไร้เดียงสาของเธอ

“หุบปาก”

ทุกคนรอบข้างผงะถอยออกห่างจากเอรีนอย่างไม่รู้ตัว บางคนถึงกับกลืนน้ำลาย เมื่อสัมผัสได้ถึงบรรยากาศที่หนาวเหน็บรอบกาย

“ธะ...เธอว่าไงนะ!?”

มาโนชเอ่ยเสียงหลง

“ฉันว่าคนที่กำลังมองฉันด้วยความอิจฉา...คือนายมากกว่านะ”

เอรีนเอ่ยด้วนน้ำเสียงราบเรียบ แต่กรีดลึกไม่ต่างจากคมมีด

มาโนชชะงักไปทั้งตัว สายตาแข็งค้าง เหมือนถูกอะไรบางอย่างกระแทกเข้าใส่เต็มแรง

ทันใดนั้น เสียงกระแอมเบาๆ ดังขึ้นหน้าประตูห้อง

“อะแฮ่ม...ขอโทษที่ขัดจังหวะละครเวทีของพวกเธอนะ”

น้ำเสียงเรียบๆ แต่น่ากดดันดังขึ้นพร้อมกับหญิงวัยกลางคนในชุดคลุมยาวเดินเข้ามาอย่างใจเย็น

อาจารย์โซรัน ผู้รับผิดชอบดูแลนักเรียนใหม่ในปีนี้ เขาหยุดยืนตรงกลางห้อง แล้วกวาดตามองนักเรียนทีละคน

“หวังว่าวันแรกของพวกเธอจะยังไม่ร้อนแรงเกินไป เพราะจากนี้ไป...ฉันจะอธิบายกฎของโรงเรียนให้ฟัง”

เธอยิ้มบางๆ แต่ไม่มีใครกล้าหัวเราะออกมา นักเรียนทุกคนรีบวิ่งกลับไปนั่งประจำที่ในทันที

โซรันกวาดตามองรอบห้องก่อนจะพูดเสียงเรียบ

“ก่อนจะเริ่มเรียน ฉันมีเรื่องจำเป็นต้องอธิบายให้ทุกคนเข้าใจเกี่ยวกับที่นี่...ไอโอนิค”

ทั่วทั้งห้องเงียบลงในทันที เด็กทุกคนเงี่ยหูฟังอย่างตั้งใจ

“ที่ไอโอนิค...ไม่มีระบบชั้นปี”

“ในหกเดือนแรก พวกเธอจะต้องเรียนทุกวิชาพื้นฐานเหมือนกันหมด ไม่มีข้อยกเว้น โดยหลังจากหกเดือน...พวกเธอจะสามารถเลือกเรียนเฉพาะวิชาที่เหมาะสมกับตัวเองได้ด้วยตัวเองตามความสามารถ”

หลายคนเริ่มกระซิบคุยกันเบาๆ ด้วยความตื่นเต้น แต่โซรันยังพูดต่ออย่างไม่หยุด

“ที่นี่ไม่มีเกรดเฉลี่ยใดๆ ไม่มีใครมานั่งเตือนว่าเธอสอบตกหรือผ่าน แต่เธอทุกคนจะต้องสะสมแต้ม ‘อาร์คพ้อยต์’ เพื่อวัดความสามารถและอันดับของตัวเอง”

เสียงฮือฮาเริ่มดังขึ้นมาอีกครั้ง

“กระดานอันดับอาร์คพ้อยต์จะอยู่ที่ห้องโถงหลักตลอดเวลา มันจะอัปเดตอัตโนมัติ และแสดงให้เห็นว่าใครมีคะแนนเท่าไร ทุกคนจะเห็นว่าใครคือผู้นำ และใครคือผู้ที่ขาดความสามารถ”

“อาร์คพ้อยต์ นั้นสามารถหาได้จากคาบเรียนทุกวิชา อาจารย์แต่ละวิชานั้นจะมอบอาร์คพ้อยต์ให้แก่นักเรียนที่ทำผลการเรียนได้โดดเด่น...”

“ยิ่งทำคะแนนได้ดี ยิ่งมีสิทธิพิเศษในโรงเรียนมากขึ้น เช่น ห้องฝึกส่วนตัว ตำราลับ อาวุธทดลอง หรือแม้แต่สิทธิ์ในการเข้าคลาสขั้นสูงก่อนคนอื่น”

“และจงจำไว้ให้ดี”

โซรันหยุดหายใจครู่หนึ่ง

“…อาร์คพ้อยต์สามารถถูกแย่งชิงได้ ผ่านระบบการประลอง”

บรรยากาศในห้องพลันเย็นเฉียบ ราวกับมีลมพัดผ่าน เสียงนักเรียนบางคนกลืนน้ำลายดังขึ้นอย่างชัดเจน

“เธออาจสะสมแต้มมาทั้งเดือน...แล้วโดนใครบางคนมาท้าประลอง ชิงแต้มเธอไปในพริบตา”

“ถ้าอยากอยู่รอด...จงแข็งแกร่ง”

ในขณะที่เด็กทุกคนกำลังตึงเครียด มือหนึ่งในห้องยกขึ้น เด็กชายหน้าตาตื่นถามเสียงดังฟังชัด

“เอ่อ...แล้วถ้าไม่มีระบบชั้นปี แล้วพวกเราจะจบการศึกษาได้ยังไงครับ?”

โซรันเหลือบตามามองนิดหนึ่งก่อนตอบ

“ผู้ที่ติดอันดับ...สิบอันดับแรกของกระดานอาร์คพ้อยต์ จะได้รับสิทธิ์ในการขอเข้ารับการสอบจบการศึกษา...หากสอบผ่าน จะถือว่าจบการศึกษาในทันที”

เสียงฮือฮาพลันดังขึ้น ไม่มีใครในประเทศที่ไม่อยากได้รับใบจบการศึกษาจากไอโอนิค

เพราะมันไม่ใช่แค่ ‘ใบประกาศ’ แต่คือ ‘ตราประทับอันทรงคุณค่า’ ที่ทั่วทั้งประเทศให้การยอมรับ

สถาบันอื่นอาจมอบความรู้ แต่ไอโอนิคนั้นสร้างคนที่พร้อมครองโลกภายนอก

นักเรียนที่จบจากที่นี่ ไม่เพียงได้รับการยกย่องว่าเป็นหัวกะทิ แต่ยังถูกหมายตาจากองค์กรใหญ่ หน่วยงานพิเศษ หน่วยรบระดับสูงในแนวหน้า หรือแม้แต่หน่วยงานจากต่างประเทศเองก็ยังยื่นมือเข้ามาทาบทาม

ในประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา ทุกบุคคลผู้ยิ่งใหญ่แทบทั้งหมด ล้วนมีชื่อของไอโอนิคปรากฏบนชื่อของพวกเขา

มันจึงไม่ใช่เรื่องเกินจริง หากจะกล่าวว่า การได้จบการศึกษาจากที่นี่...คือใบเบิกทางสู่ ‘บัลลังก์แห่งอำนาจ’

โซรันยิ้มบางๆ เมื่อเห็นแววตาของนักเรียนที่กำลังเป็นประกาย

“ไม่มีกำหนดเวลา ใครๆ ก็สามารถเรียนจบได้ภายในปีเดียว ถ้ามีความสามารถมากพอ”

“แต่นั่นก็แปลว่า คนที่ไม่มีทางไปถึงก็จะติดอยู่ที่นี่ไปเรื่อยๆ”

“บางคนใช้เวลาสามปี...ห้าปี...หรือสิบปีก็ยังไม่จบด้วยซ้ำ”

“บางคนถึงกับยอมแพ้...และลาออกไปกลางคัน”

“......”

บรรยากาศทั่วทั้งห้องพลันเต็มไปด้วยแรงกดดัน

ในวินาทีนี้ เด็กทุกคนต่างรับรู้ได้ในทันทีว่า

นี่ไม่ใช่โรงเรียนธรรมดา แต่มันคือเวทีประลองที่ถูกซ่อนอยู่ภายใต้เปลือกของการศึกษา

มีแค่ผู้ที่แข็งแกร่งอย่างแท้จริงเท่านั้นถึงจะอยู่รอด

เรย์นั่งนิ่งด้วยสีหน้าที่เปลี่ยนไปเล็กน้อย เขากำหมัดแน่นด้วยความมุ่งมั่น

‘ไม่ว่ายังไง...ฉันจะต้องเรียนจบให้ได้’

เรื่องนี้สำคัญต่อเขามาก หากเขาสามารถจบการศึกษาจากที่นี่ได้ ชีวิตอันยากจนของครอบครัวเขาจะเปลี่ยนไปในทันที

“เอาล่ะ...”

โซรันเอ่ยเสียงเรียบ เด็กทุกคนเงียบกริบในทันที

“เพราะทุกคนได้ผ่านการประเมินคุณสมบัติธาตุของตนเองแล้ว วันนี้เราจะเริ่มเรียนในหัวข้อ การแปรเปลี่ยนมานาให้เป็นพลังธาตุ”

“พื้นฐานของการต่อสู้และเวทมนตร์ทุกแขนง ล้วนเริ่มจากจุดนี้”

“แน่นอน...ฉันคิดว่าทุกคนที่นั่งอยู่ที่นี่ คงใช้มานาเป็นกันหมดแล้ว”

ทันใดนั้น

“น่าจะยังมีอยู่คนนึงนะครับ...ที่ใช้มานาไม่เป็น”

มาโนชยกมือขึ้นพลางเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน เด็กคนอื่นพลันหลุดหัวเราะออกมาเบาๆ

ไลออนพลันสบถ

“หนอยย...ไอ้เวรนั่น!”

โซรันเหลือบตามามอง ก่อนจะกล่าวเรียบๆ

“หมายถึง...เรย์สินะ?”

เธอหันไปมองเด็กหนุ่มผู้ไร้มานาที่นั่งเงียบอยู่หลังห้อง

แววตาโซรันเต็มไปด้วยความลังเลชั่วครู่ เธอไม่รู้จะจัดการอย่างไรกับสถานการณ์ที่มี ‘เด็กไร้มานา’ อยู่ในการเรียนวิชา ‘พลังมานา’

“เรื่องของเรย์...ค่อยว่ากันทีหลังเถอะ”

เธอเอ่ยเสียงหนักแน่น

“เอาล่ะ ก่อนอื่นฉันจะแสดงให้ดู”

โซรันพูดพลางก้าวออกมาด้านหน้า ออร่าสีเขียวอ่อนค่อยๆ ปรากฏรอบตัวเธออย่างสงบนิ่ง วงแหวนทั้งหกค่อยๆ ลอยขึ้นรอบกายด้วยความเสถียรและเปล่งประกายอย่างชัดเจน

“นี่คือสิ่งที่เรียกว่า ‘สภาวะแห่งจิต’ เป็นขั้นตอนพื้นฐานที่สุดของการใช้มานา”

เธอกล่าวเสียงเรียบแต่น่าเกรงขาม

“เมื่อเข้าสู่สภาวะนี้ ร่างกายจะเปิดรับและควบคุมมานาได้อย่างมีประสิทธิภาพ สีของออร่าที่ปรากฏจะแตกต่างกันไป ส่วนจำนวนวงแหวนนั้นจะแสดงถึงขีดจำกัดของเวทมนตร์ในแต่ละคน”

นักเรียนหญิงคนหนึ่งที่นั่งอยู่ด้านหน้าพลันยกมือขึ้นถาม

“เอ่อ...แล้วทำไมหนูถึงเข้าสภาวะแห่งจิตแล้วไม่มีวงแหวนล่ะคะ?”

“ดีมากที่ถาม...นั่นเป็นเรื่องปกติของผู้ใช้มานามือใหม่”

โซรันหันไปยิ้มบางๆ

“วงแหวนจะปรากฏขึ้น...ก็ต่อเมื่อเธอได้ บรรจุเวทมนตร์ ลงไปในวงแหวนแล้วเท่านั้น”

“คิดเสียว่าตอนนี้ เธอเพิ่งสร้าง ‘แกนเวท’ ได้สำเร็จ แต่มันยังกลวงอยู่ เราจะเรียนวิธีเติมพลังเวทใส่ลงไปในวงแหวนพวกนั้นกันในภายหลัง”

เธอหันกลับมา ยกมืออีกครั้ง

“ตอนนี้...ขอให้ดูให้ดี ว่าการแปรเปลี่ยนมานาให้เป็นพลังธาตุทำอย่างไร”

วินาทีนั้น...

ออร่าของโซรันค่อยๆ เริ่มบิดตัว สายลมเบาๆ พลันหมุนวนรอบตัวเธอราวกับพายุที่เติบโตอย่างเงียบเชียบ

เสียงหวีดหวิวของลมดังขึ้นในห้องเรียน ทั้งที่หน้าต่างปิดสนิท

“การแปรมานาให้กลายเป็นธาตุ ต้องใช้จิตใจจดจ่ออยู่กับ ‘คุณสมบัติ’ ของธาตุนั้น”

“ลม...คือเสรีภาพ ความว่างเปล่า และการไหลเวียน”

“ยิ่งเธอเข้าใจมัน...มานาของเธอก็จะยิ่งแปรเปลี่ยนได้ง่ายขึ้น”

จากออร่าสีเขียวเรืองรอง พลันกลายเป็นกระแสลมสายหนึ่ง ที่ปะทะผ่านกลางห้องจนเส้นผมของนักเรียนสะบัดอย่างรุนแรง

ทุกคนเงียบกริบ...ตะลึงงันกับการแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าเวทมนตร์ที่แท้จริงนั้น ไม่ใช่แค่พลัง แต่คือความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง

โซรันคลายพลังลง แล้วหันมายิ้มบางๆ

“ต่อไป...เอรีน ออกมาลองสาธิตให้เพื่อนดูหน่อย”

“......”

เด็กสาวผมสีครีมเดินออกมากลางเวทีด้วยท่าทางสง่างาม เมื่อเข้าสู่สภาวะแห่งจิต ออร่าของเธอก็ปรากฏขึ้นทันที เป็นมานาสีทองที่เปล่งประกายเจิดจ้า

“เธอมีคุณสมบัติมานาเป็นธาตุน้ำแข็ง ดังนั้นหลับตา รวบรวมอารมณ์ให้นิ่ง แล้วโฟกัสเจตจำนงของเธอไปที่ธาตุน้ำแข็ง…ความนิ่งเงียบที่กัดกร่อนทุกสิ่ง ความเยือกเย็น และการควบคุม”

เอรีนพยักหน้าอย่างมั่นใจ เธอยื่นมือออกมาด้านหน้า เพียงชั่วครู่ ออร่าสีทองนั้นก็เริ่มแปรเปลี่ยนเป็นเกล็ดน้ำแข็งที่หมุนวนรอบมือของเธอ ก่อนจะรวมตัวเป็นหอกน้ำแข็งใสพุ่งขึ้นกลางอากาศ แตกกระจายเป็นผลึกงามตาต่อหน้าทุกคน

เสียงฮือฮาดังขึ้นทั่วห้อง

“สุดยอด!...เธอทำได้ในทันทีเลย”

“สมกับเป็นเอรีน...เธอเจ๋งที่สุด!”

เด็กชายคนหนึ่งยกมือถามด้วยความสงสัย

“แล้ว...เราสามารถใช้ธาตุอื่นที่ไม่ตรงกับคุณสมบัติมานาของตัวเองได้มั้ยครับ?”

โซรันพยักหน้า

“ก็สามารถทำได้ แต่ฉันไม่แนะนำหรอกนะ เวทมนตร์ที่ไม่ตรงกับคุณสมบัติของตัวเองมักจะไม่เสถียร และมีประสิทธิภาพต่ำกว่าเดิมมาก เช่น มานาธาตุน้ำแข็งจะเปลี่ยนเป็นไฟได้ แต่พลังจะเบาบาง แถมยังเสี่ยงที่เวทจะระเบิดใส่ตัวเอง เพราะไม่มีความสอดคล้องกันกับแกนเวท”

เธอกวาดตามองทั่วห้อง

“มีใครอยากลองอีกไหม?”

ทันใดนั้น มาโนชยกมือขึ้นด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์

“ให้เรย์ลองมั้ยล่ะครับ?”

ห้องเรียนถึงกับระเบิดเสียงหัวเราะออกมาในทันที

โซรันถอนหายใจอย่างเอือมระอา ขณะที่เรย์ยังนั่งนิ่ง ก่อนที่จะลุกขึ้นยืน แล้วพูดเสียงเรียบ

“ผมจะลองครับ”




❤️