“เขาคือเด็กหนุ่มเพียงคนเดียวที่มีค่ามานาเป็นศูนย์ ท่ามกลางผู้ใช้เวทนับล้าน ในโลกที่พลังคือทุกสิ่ง… เขาจะล้มล้างทุกกฎที่ขวางทางเพื่อไต่ขึ้นไปสู่จุดสูงสุด”

Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง - ตอนที่ 3 เด็กเก้าวงแหวน กับ เด็กผู้ไร้มานา โดย TENTENs @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

แฟนตาซี,แอคชั่น,ผจญภัย,ยุคปัจจุบัน,ไทย,โรงเรียนเวทมนตร์,พระเอกเทพ,เทพ ,พลังวิเศษ,พระเอกเก่ง,เวทมนตร์,ผจญภัย,แฟนตาซี,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

แฟนตาซี,แอคชั่น,ผจญภัย,ยุคปัจจุบัน,ไทย

แท็คที่เกี่ยวข้อง

โรงเรียนเวทมนตร์,พระเอกเทพ,เทพ ,พลังวิเศษ,พระเอกเก่ง,เวทมนตร์,ผจญภัย,แฟนตาซี

รายละเอียด

Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง โดย TENTENs @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

“เขาคือเด็กหนุ่มเพียงคนเดียวที่มีค่ามานาเป็นศูนย์ ท่ามกลางผู้ใช้เวทนับล้าน ในโลกที่พลังคือทุกสิ่ง… เขาจะล้มล้างทุกกฎที่ขวางทางเพื่อไต่ขึ้นไปสู่จุดสูงสุด”

ผู้แต่ง

TENTENs

เรื่องย่อ

ในโลกที่มานาคือทุกสิ่ง มันเป็นพลังที่มีไว้เพื่อต่อสู้ ดำรงอยู่ และไต่ขึ้นสู่จุดสูงสุด

แต่เขากลับเป็นมนุษย์คนเดียวที่มีพลังมานาเท่ากับศูนย์

ใช่...ฟังไม่ผิด เท่ากับศูนย์

ไร้พลัง และอ่อนแอ

ในขณะที่ผู้แข็งแกร่งไขว่คว้าหาอำนาจ เขาทำได้เพียงแค่เดินอยู่ในเงามืด

เส้นทางของเขา ไม่ได้เริ่มต้นจากแสงสว่าง

แต่มันจะจบลง…ด้วยการสะเทือนไปทั้งโลก

“ไม่มีมานา…แล้วยังไงล่ะ?”



สวัสดีครับ TENTENs ครับ

ขอเล่าเรื่องตัวเองนิดหน่อยนะครับ

ผมมีความฝันอยากเขียนนิยายมานานแล้ว ถึงจะเคยลองเขียนแล้วอ่านเองอยู่บ้าง แต่ก็ไม่มีความกล้าที่จะให้ใครอ่านสักที 


จนในที่สุดก็ตัดสินใจที่จะเขียนเรื่องนี้ขึ้นมา เป็นเรื่องใหม่ที่เขียนเองแต่งเองทั้งหมด ด้วยความตั้งใจจริงมากๆ หวังว่าทุกคนจะชอบกันนะครับ


โดยนิยายเรื่องนี้ เป็นนิยายรายตอนที่จะมีเนื้อเรื่องที่ยาวพอสมควร ผมจะพยายามอัพตอนใหม่ให้ได้ อาทิตย์ละ 3 ตอน เป็นอย่างน้อย ด้วยความที่ภาระหน้าที่ค่อนข้างเยอะ อาจจะเขียนได้ช้าไปบ้าง แต่สัญญาว่าจะไม่มีวันหยุดเขียน ตราบใดที่ยังมีคนรออ่านอยู่ แม้เพียงคนเดียวก็ตามครับ


ด้วยความที่ผมเป็นมือใหม่ ถ้าผิดพลาดอะไรตรงไหน ต้องขออภัยมากๆ และสามารถติชมกันได้เต็มที่เลยนะครับ


ขอฝากนิยายเรื่องนี้ไว้ในหัวใจทุกคนด้วยนะครับ ขอบคุณครับ


สารบัญ

Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-บทนำ Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 1 รถหรู กับ รถพัง,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 2 เด็กผู้ทำคะแนนเต็ม,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 3 เด็กเก้าวงแหวน กับ เด็กผู้ไร้มานา,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 4 ฉันรู้สึกได้,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 5 พลังตรวจจับ?,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 6 เหมืองร้าง,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 7 ดวงวิญญาณปริศนา,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 8 ฉันจะไปฝึกวิชา,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 9 การต่อสู้ที่ไม่คาดฝัน,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 10 มานาจากธรรมชาติ,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 11 เสียงคำรามจากเงามืด,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 12 พลังสีดำ,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 13 มนุษย์ถ้ำ,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 14 เวลาแห่งการล่า,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 15 ไอโอนิค,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 16 การสอบรอบที่ 1,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 17 การสอบรอบที่ 2,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 18 เพียงวูบเดียว,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 19 การสอบรอบที่ 3,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 20 ม่านหมอก,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 21 มาสู้กับผมสิ,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 22 สัตว์ป่า,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 23 โพรงลึก,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 24 ประตูสู่ไอโอนิค,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 25 ห้องแห่งการประเมิน,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 26 ขีดจำกัด,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 27 มานาธาตุ,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 28 เปลวไฟ,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 29 วงแหวน,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 30 การต่อสู้ระยะใกล้,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 31 ดาบไร้คม,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 32 เรมไนร์,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 33 ประกาศิต,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 34 ชีวิตแลกชีวิต,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 35 ความฝัน,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 36 กริฟฟอน,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 37 สัตว์ประหลาด,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 38 แสงสว่างท่ามกลางสายฝน,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 39 หุบเหว,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 40 คืนที่ไร้ดวงดาว,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 41 ประกายสีดำ,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 42 เพลิงดับสูญ,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 43 อาร์คดูเอล,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 44 ใต้แสงจันทร์,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 45 วงแหวนของไลออน,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 46 การยืนหยัดของผู้ไร้พรสวรรค์,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 47 ก้าวแรกที่ผ่านพ้น,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 48 งานเทศกาลของซิกซ์,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 49 ผู้ครอบครองวงแหวนทั้งเก้า,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 50 สนามรบที่แท้จริง,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 51 เมื่อแสงหมดสิ้น...ความมืดจึงเผยตัว,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 52 ผู้ยืนอยู่เหนือซากบัลลังก์,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 53 หน้ากากซอมบี้,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 54 พลังอสูร?,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 55 กลับบ้าน,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 56 เหนือฟ้ายังมีฟ้า,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 57 เด็กหญิงผู้ไม่เคยได้ยินเสียงเพลง,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 58 เทพเจ้า,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 59 มงกุฎแห่งเอไลเซร่า,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 60 วงแหวนที่สอง,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 61 หาง,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ประกาศสำคัญ จากผู้เขียน

เนื้อหา

ตอนที่ 3 เด็กเก้าวงแหวน กับ เด็กผู้ไร้มานา

หลังจากที่พายุพลังงานสงบลง หลงเหลือเพียงสายลมอ่อนๆ พัดผ่านไปทั่วบริเวณ เศษละอองพลังยังคงล่องลอยอยู่ในอากาศ ราวกับประกายแสงสุดท้ายจากปรากฏการณ์มหัศจรรย์

เด็กๆ ยังคงหลับตาแน่น ร่างกายสั่นเทาเล็กน้อยจากแรงสะเทือนก่อนหน้านี้ พวกเขารับรู้ได้ถึงความรู้สึกประหลาดแล่นผ่านทั่วร่าง มันร้อนวูบวาบ หนักแน่น และแตกต่างจากสิ่งที่พวกเขาเคยรู้จัก

เมื่อค่อยๆ ลืมตาขึ้น แสงสีจางๆ ค่อยๆ ปรากฏขึ้นรอบกาย

ตัวเลขและออร่าสีสันหลากหลาย เปล่งประกาย เหนือศีรษะของแต่ละคน ทอแสงส่องสว่างกลางอากาศ ราวกับดวงดาวที่เพิ่งถือกำเนิด

เหล่าเจ้าหน้าที่ที่เฝ้าสังเกตการณ์ ต่างเริ่มกวาดตามองไปทั่ว พวกเขากำลังมองหาคนที่โดดเด่นที่สุด

จนกระทั่ง…

“924!!? “

เสียงอุทานดังขึ้นทั่วทั้งดาดฟ้า สายตาของทุกคนถูกดึงดูดไปยังออร่าสีทองอร่ามที่เด่นชัดที่สุดในหมู่เด็กๆ

ฟอล์คที่ปกติสุขุมและเข้มงวด บัดนี้ถึงกับชะงัก

“บะ..บุคคล 9 วงแหวน คนที่ 2 ของประเทศ...! “

เขาหันไปทางเจ้าหน้าที่ทันที

“พาตัวเธอมา!!”

เป้าหมายของทุกสายตาคือ เด็กสาวผู้มีผมยาวสีน้ำตาลครีม นัยน์ตาสีม่วง ผิวขาวละมุน ใบหน้าเรียวสวยราวกับตุ๊กตา เธอมีชื่อว่า เอรีน

“หืม? เธอคือคนที่สอบได้อันดับที่ 2 นี่”

เจ้าหน้าที่ผู้หนึ่งพูดพึมพำขึ้นมา

ฟอล์คเดินเข้าไปหาเธอทันที สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความตื่นเต้น

“เอรีน...เธอรู้ไหมว่าตัวเองพิเศษแค่ไหน? “

เธอยังไม่ทันตอบ สายตาของเขาก็เหลือบไปเห็นตัวอักษร S บนหน้าจอเครื่องวัดพลังที่เธอกำลังสวมอยู่

ฟอล์คเบิกตากว้าง

“ระดับ S...!!! เธอมีวิซระดับ S!? “

“...!? “

เสียงฮือฮาดังขึ้นอีกรอบ

“ไม่อยากจะเชื่อเลย....”

“อัจฉริยะของแท้....”

ทุกคนกำลังตกตะลึง เด็กสาวที่สอบได้คะแนนสูงถึงอันดับ 2 ไม่เพียงแต่มีมานาระดับสูงเป็นประวัติการณ์ แต่ยังครอบครองวิซระดับตำนานอีกด้วย

นี่ไม่ใช่แค่การถูกหวยรางวัลใหญ่…แต่มันยิ่งกว่านั้น

เอรีนยังคงนิ่งอึ้ง ไม่แน่ใจว่าควรรู้สึกอย่างไรกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่สายตาของทุกคนที่จ้องมองเธอเต็มไปด้วยความยินดี ความอิจฉา และความหวาดหวั่น

เด็กสาวที่เคยดูจืดจาง ไร้ตัวตนในสายตาผู้อื่นมาตลอด บัดนี้กลับกลายเป็นศูนย์กลางของทุกสายตา

ออร่าสีทองอร่ามเปล่งประกายออกจากร่างของเธอ แสงนั้นเจิดจ้าราวกับเปลวไฟแห่งรุ่งอรุณ สะท้อนบนใบหน้าของทุกคนที่ยืนล้อมรอบ พลังของเธอไม่อาจถูกมองข้ามได้อีกต่อไป

ในช่วงเวลานี้ เธอไม่ใช่แค่เด็กสาวธรรมดาอีกแล้ว แต่คือ นางเอกของพิธีวันนี้อย่างแท้จริง

เสียงซุบซิบเริ่มดังขึ้นไปทั่วบริเวณอย่างรวดเร็ว

เจ้าหน้าที่ที่ยืนอยู่ไม่ห่างเริ่มตั้งสติได้ และทำการคัดแยกเด็กๆ ตามระดับพลัง ด้วยความรวดเร็วและระมัดระวัง

เด็กๆ กว่า 90% แสดงพลังมานาเป็นสีขาว และไม่มีวิซ ซึ่งหมายความว่าพวกเขาถูกจัดอยู่ในระดับต่ำ ไม่มีความโดดเด่นอะไรในสายตาของเจ้าหน้าที่

แต่สำหรับบางคนที่มีพลังมานาสูงกว่ามาตรฐาน แม้จะดูมีความสามารถในตัวเอง พวกเขากลับดูเหมือนเป็นเพียงแค่เงาเมื่อเทียบกับออร่าสีทองที่ส่องสว่างของเอรีน

ช่างน่าเสียดาย ถ้าหากในพิธีวันนี้ไม่มีเธอสักคน พวกเขาคงจะได้รับความสนใจมากกว่านี้




ในขณะเดียวกัน

“ว้าวว เนียร์! 794 เชียวเหรอ...แล้วนั่น! วิซระดับ A!!...สุดยอด!!...พ่ออัจฉริยะ! “

ไลออนหัวเราะด้วยความยินดีพลางตบบ่าเพื่อนของเขา หลังจากที่สำรวจตัวเองว่ามีมานาระดับ 500 และไม่มีวิซ

เนียร์ไม่ได้ตอบอะไร เขาเพียงจ้องมองมองมานาสีม่วงของตัวเองด้วยแววตาเรียบเฉย

เขาไม่ได้แสดงความตื่นเต้นใดๆ แม้จะรู้ว่าการได้รับมานา 7 วงแหวน และวิซระดับ A นั้นพิเศษแค่ไหน

เขามองออร่าสีส้มของไลออน ก่อนจะกวาดสายตาไปยังเรย์ที่อยู่ด้านหลังสุด

ทันทีที่เห็นตัวเลขบนหัวของเรย์ ดวงตาของเขาพลันเบิกกว้าง ใบหน้าที่เคยนิ่งเฉยให้กับทุกสิ่ง บัดนี้กลับบิดเบี้ยวราวกับเห็นขี้

“หาาา..!!?”

เนียร์ขยี้ตาเพื่อดูให้แน่ใจ แต่ไม่ว่าจะมองยังไง...

“ละ..เลข 0...!?”

เนียร์อุทานเสียงดังลั่น

เสียงของเขาทำให้ทุกคนรอบข้าง รวมถึงไลออน หันขวับไปมองพร้อมกันในทันที ก่อนที่ทุกสายตาจะเบิกกว้าง

“.....!?”

ตัวเลข 0 ปรากฏเด่นชัดอยู่เหนือศีรษะของเรย์ มันลอยอยู่ท่ามกลางออร่ามานาสีดำสนิท ราวกับเป็นเงามืดที่กำลังกลืนกินความหวังทั้งหมด

“เป็นไปได้ยังไง? เรย์...นี่นายจะตายเหรอ?”

ไลออนอุทานขึ้นเสียงดัง แต่ไร้ซึ่งคำตอบใดๆ

เรย์กำลังยืนตัวแข็งทื่อ ดวงตาของเขาหม่นหมองราวกับสูญเสียแสงแห่งชีวิต เขาไม่ได้ยินแม้แต่เสียงของไลออนด้วยซ้ำ ภาพของทุกอย่างรอบตัวค่อยๆ มืดลง เหมือนโลกทั้งใบดับลงตรงหน้า

‘คนที่มีมานาต่ำกว่า 100 จะเสียชีวิตทันทีที่ปลุกพลัง’

เสียงคำพูดนั้นดังก้องในหัวซ้ำแล้วซ้ำเล่า ราวกับเป็นประโยคตัดสินโทษประหาร

‘จบสิ้นแล้วสินะ’

ภาพของพ่อแม่และน้องสาวพลันแวบเข้ามาในความคิด เหตุใดเขาถึงไร้ค่าเช่นนี้ เขาเสียใจอย่างที่สุดที่ไม่สามารถทำให้ครอบครัวมีชีวิตที่ดีขึ้นได้

หยาดน้ำตาลูกผู้ชายไหลรินจากดวงตา ก่อนที่เปลือกตาจะค่อยๆ ปิดลง เรย์ยอมรับชะตากรรมของตน

เขากำลังรอคอยความตาย...

เสียงวุ่นวายรอบข้างพลันเงียบสงัด ทุกสายตาจับจ้องไปที่เรย์อย่างวิตกกังวล




เวลาผ่านไปชั่วครู่ เสียงซุบซิบเริ่มค่อยๆ ดังขึ้น

“ตายหรือยัง? “

” ดูเหมือนจะยังนะ...หมายความว่ายังไงกัน? “

“......”

เรย์ค่อยๆ ลืมตาขึ้นมาอย่างงุนงง

เขากวาดตาสำรวจร่างกายของตัวเอง แล้วเงยหน้าขึ้นมาสบตากับไลออนและเนียร์ พลางหันซ้ายหันขวา คนรอบข้างยังคงมองเขาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยคำถาม

ในขณะที่บรรยากาศเต็มไปด้วยความสับสน เนียร์ตั้งสติได้ก่อนใคร

เขาหันไปมองรอบๆ เพื่อหาเจ้าหน้าที่ จนสายตาหยุดลงที่กลุ่มเจ้าหน้าที่ซึ่งกำลังรวมตัวกันอยู่ พวกเขากำลังวุ่นวายกับการดูแลเอรีน

เนียร์รีบวิ่งฝ่าฝูงชนไปหาฟอล์ค ซึ่งกำลังมีสีหน้าปลื้มปีติกับผลการปลุกพลังของเอรีน

“คุณฟอล์คครับ!!”

เสียงของเนียร์ดึงความสนใจของชายชรา เขาหันมามองด้วยสายตาเคร่งขรึม พลางกวาดสายตาประเมินความสามารถของเด็กหนุ่มที่เครื่องวัดพลังกำลังแสดงผล

สายตาที่เคยเต็มไปด้วยความพึงพอใจ บัดนี้กลับดูแข็งและเย็นชาลงอย่างเห็นได้ชัด

“มีอะไร?”

เขาถามเนียร์ด้วยน้ำเสียงห้วน

เนียร์พลันสะอึก เขารับรู้ได้ทันทีถึงความคิดของฟอล์ค

เด็กหนุ่มเหลือบไปมองเอรีน ผู้ที่มีเส้นออร่าสีทองเปล่งประกายรอบกาย แสดงถึงตัวตนอันยิ่งใหญ่

‘หึ...คะแนนเต็มในรอบ 20 ปี ของฉันมันก็แค่เรื่องไร้สาระ เมื่อเทียบกับการถือกำเนิดของผู้ครอบครอง 9 วงแหวน สินะ...ช่างน่าขำ ‘

เป็นเรื่องที่น่าสลดใจ ถึงแม้ว่าเนียร์จะมีมานาระดับ 7 วงแหวน และวิซระดับ A ซึ่งถือว่าเป็นบุคคลที่มีค่ามหาศาล แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าเอรีนแล้วเขากลับดูธรรมดาไปโดยปริยาย

ทว่าเนียร์กลับไม่ได้รู้สึกน้อยใจกับมันมากนัก ตอนนี้มีเรื่องที่สำคัญกว่านั้น

“เรย์มีมานา 0 ครับ!”

เนียร์พูดด้วยน้ำเสียงร้อนรน

ฟอล์คขมวดคิ้ว ก่อนจะตอบกลับเสียงเข้ม

” …อะไรนะ?”

“เขามีมานา 0 ที่สำคัญคือ…เขายังไม่ตายครับ!”

“เป็นไปไม่ได้”

ฟอล์คปฏิเสธทันที ตลอดชีวิตในการปลุกพลังให้กับผู้คน เขายังไม่เคยเห็นมนุษย์คนไหนที่สามารถรอดชีวิตได้ด้วยมานาที่ต่ำกว่า 100

“นำทางไป!”

เขาออกคำสั่ง ก่อนจะก้าวเท้าตามเนียร์ไปด้วยความเร่งรีบ

เมื่อสายตาของฟอล์คสบเข้ากับเรย์

“...!?”

เขาชะงักในทันที

ไม่ใช่เพราะตัวเลข 0 บนหัวของเด็กหนุ่ม

แต่เป็น… ออร่ามานาสีดำสนิท ที่กำลังพวยพุ่งออกมาจากร่างของเรย์

“อะไรกัน? มานาสีดำ!?”

ฟอล์คเคยเห็นมนุษย์ที่มีมานาต่ำกว่า 100 มาบ้าง แม้จะแทบนับครั้งได้ แต่เขาก็มั่นใจว่าทุกคนจะตายในทันทีที่ปลุกพลัง

พวกเขาจะมีมานาสีเทาอ่อนจางๆ ที่เบาบาง ก่อนที่ร่างจะเย็นเฉียบราวกับไม่มีชีวิต

แต่เรย์กลับแตกต่างออกไปโดยสิ้นเชิง

มานาของเขาเป็นสีดำสนิท พวยพุ่งออกมาอย่างรุนแรง

ฟอล์คยืนนิ่ง ดวงตาเบิกกว้างด้วยความงุนงง

แม้แต่เขา ประธานศูนย์กำเนิดพลังแห่งชาติ ยังไม่สามารถอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้าได้

เขาขมวดคิ้วก่อนจะถามเสียงขรึม

“นี่มันหมายความว่ายังไงกัน?”

เด็กที่ยืนข้างๆ หันมามอง ก่อนตอบทันควัน

“เอ่อออ...ถามผมเหรอครับ? “

“......”

“......”

พวกเขายืนมองหน้ากันอย่างเงียบงัน




ภายในห้องประชุมสุดหรูห้องหนึ่ง บรรยากาศเต็มไปด้วยความหนักอึ้งจากสิ่งที่เกิดขึ้น

เรย์กำลังนั่งนิ่งอยู่บนโซฟาเบาะนุ่ม เขาเหลือบตามองเครื่องวัดพลังที่ถูกเปลี่ยนมาแล้วหลายสิบเครื่อง เจ้าหน้าที่หลายคนที่รับหน้าที่ตรวจสอบเดินเข้าออกห้องไปมา ด้วยสีหน้าหนักใจ

“มานา 0...”

“มันเป็นไปได้ยังไง? เขาควรจะตายไปแล้วไม่ใช่เหรอ?”

“เขามีวิซหรือเปล่า? อาจจะเป็นเพราะความสามารถของวิซ?”

“เราตรวจสอบหลายรอบแล้ว...ไม่มีวิซ ไม่มีมานา...ไม่มีอะไรเลย “

เสียงเหล่านั้นเป็นเหมือนคมมีดกรีดลงบนจิตใจเรย์ เด็กหนุ่มกำมือแน่น ความผิดหวังท่วมท้นภายในอก ภาพฝันทั้งหมดของเขาพังทลายลง ความรู้สึกด้านลบกำลังถาโถมเข้ามาไม่ขาดสาย ก่อนที่เขาจะเหลือบมองคนที่นั่งอยู่ข้างๆ

‘เอรีน’

เด็กสาวผู้ครอบครอง 9 วงแหวน เธอกำลังจ้องมองตัวเลข 0 บนหัวของเขาด้วยแววตาใสซื่อ

“ทำไมนายถึงไม่ตายล่ะ?”

เด็กสาวเอ่ยถามด้วยใบหน้าไร้เดียงสา

“......”

เรย์ไม่ตอบ เขากำมือแน่นขึ้นกว่าเดิม เขาได้ยินคำถามนี้มาเป็นร้อยรอบแล้ว มันเปรียบเสมือนว่าผู้คนกำลังไล่ให้เขาไปตายซ้ำแล้วซ้ำเล่า

คำพูดของเธอเป็นเพียงความสงสัยธรรมดา แต่สำหรับเรย์มันเหมือนคำตัดสินจากทุกคนบนโลก

ทันใดนั้นเด็กสาวพลันยื่นสิ่งหนึ่งมาให้

“......”

“กินสิ...อร่อยนะ”

มันคือลูกอมรสมินท์ช็อก

เอรีนฉีกยิ้มกว้างอย่างสดใส เด็กหนุ่มนิ่งอึ้งไปกับรอยยิ้มชวนหลงไหลชั่วขณะก่อนที่จะตอบกลับไป

” ...ฉันไม่ชอบมินท์ช็อก “

“......”

เอรีนกะพริบตาปริบๆ ทั้งสองมองหน้ากันอย่างนิ่งเงียบในบรรยากาศอันวุ่นวาย ก่อนที่เสียงของชายชราจะดังขึ้น

“ใช่!! ผมยืนยันอีกครั้ง...เธอเป็นผู้ถือครอง 9 วงแหวน คนที่สองของประเทศ และมีวิซระดับ S"

เป็นเสียงของฟอล์ค เขากำลังยืนอยู่หน้าโต๊ะกระจกกลางห้อง รายล้อมไปด้วยหน้าจอโฮโลแกรมรอบตัว

บนหน้าจอเหล่านั้นมีบุคคลสำคัญจากสถาบันเวทศาสตร์ องค์กรนักวิจัย และเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาล

“เราต้องการข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับเธอ “

“พวกเราขอสิทธิ์ในการศึกษาตัวอย่างมานาของเธอ “

” ยังไงเธอก็ต้องเข้าไอโอนิค อคาเดมี่อยู่แล้วใช่ไหม? “

“วิซระดับ S ของเธอมีความสามารถแบบไหน?”

เสียงฮือฮาและคำถามนับไม่ถ้วนกำลังถาโถมใส่ฟอล์คอย่างไม่ขาดสาย พวกเขากำลังตื่นเต้นไปกับตัวตนที่ยิ่งใหญ่อย่างเอรีน

“แล้วเด็กที่มีมานา 0 ล่ะ? ทำไมเขาถึงไม่ตาย? “

“ไม่ใช่ว่ามานา 0 เท่ากับไร้ซึ่งมานาเหรอ? แล้วออร่าสีดำคืออะไร?”

“ฉันอยากคุยเรื่องของเด็ก 9 วงแหวนมากกว่า เราต้องให้ความสำคัญกับเด็กที่ไร้พลังด้วยหรือไง?”

ฟอล์คถอนหายใจเฮือกใหญ่ เขากดปุ่มวางสายที่อยู่โต๊ะกระจก ก่อนจะหันมาพึมพำกับตัวเอง

“ให้ตายเถอะ...เจ้าพวกบ้าพวกนี้ “

เขาเอามือขึ้นกุมขมับก่อนที่จะมองมายังเรย์และเอรีน ที่นั่งอยู่ที่โซฟา

ก่อนที่เขาจะคิดอะไรต่อ เสียงประตูห้องประชุมก็ถูกผลักออกอย่างแรง

ปัง!

“ฟอล์ค!”

เสียงของหญิงวัยกลางคนดังขึ้น เธอแต่งกายด้วยสูทยาวหรูหรา ท่าทีมั่นใจ บรรยากาศรอบกายเต็มไปด้วยพลังอำนาจ

ฟอล์คพลันขมวดคิ้ว

“เธอมาทำอะไรที่นี่?”

หญิงคนนั้นไม่ตอบคำถาม แต่สายตาของเธอจับจ้องไปที่เอรีนในทันที ดวงตาทอประกายความสนใจอย่างแรงกล้า

“เธอ...นี่สินะ เด็กคนนั้น”

เรย์มองดูสถานการณ์อย่างเงียบๆ ก่อนที่ฟอล์คจะถอนหายใจเฮือกหนึ่ง

“ให้ตายสิ...หยุดวุ่นวายกับเรื่องของฉันสักทีได้ไหม เซเรน “

เธอคือเซเรน ผู้อำนวยการของ ไอโอนิค อคาเดมี่ โรงเรียนอันดับ 1 ของประเทศ

หญิงวัยกลางคนฉีกยิ้ม ก่อนจะกอดอกเอียงคอมองเขา

“อย่าพูดแบบนั้นสิ ฟอล์ค...นี่มันเรื่องใหญ่ระดับประเทศนะ ฉันอยากมาเจอหน้าเด็กคนนี้ด้วยตัวเอง! “

เธอหันขวับไปที่เอรีน พร้อมกับเดินเข้าไปประชิดหน้า

“เอรีน...ฉันรอคอยวันที่จะได้เจอเธอ”

รอยยิ้มของเธอเต็มไปด้วยความพึงพอใจ สายตากวาดมองเอรีนตั้งแต่หัวจรดเท้า ก่อนที่หางตาพลันสะดุดเข้ากับเด็กหนุ่มที่นั่งอยู่ข้างๆ

เธอเบิกตากว้างในทันที

“อะ..อะไรกัน!? มานา 0!!? ...ออร่าสีดำ!!? ...เด็กนี่ใคร?”

เซเรนแปลกใจไม่น้อย เธอขมวดคิ้วพร้อมกับจ้องเขม็งไปที่เรย์ที่ยังคงสวมอุปกรณ์วัดพลังอยู่

เรย์เม้มปากแน่น ก่อนที่ฟอล์คจะชิงพูดขึ้นก่อน

“อย่างที่เห็น...มนุษย์คนแรกที่มีมานาต่ำกว่า 100 แล้วยังมีชีวิตอยู่...เขาชื่อเรย์”

เซเรนหันไปมองฟอล์ค เธอชะงักไปชั่วครู่ก่อนจะหันขวับมามองเรย์อีกครั้ง

“อะไรนะ!?”

“......”

เรย์พลันกลืนน้ำลายเฮือกใหญ่ ให้กับสายตาที่จ้องเขม็งด้วยความสงสัยของเซเรน

“...ทำไมเธอถึงไม่ตาย?”

ฟอล์คถอนหายใจอีกครั้ง

“เรื่องของเขาฉันจะจัดการเอง...เธอไม่ต้องสนใจหรอก ยังไงเขาก็ไม่ได้เข้าไอโอนิคอยู่แล้ว”

“......”

คำที่เหมือนดั่งลิ่มตอกเข้าที่หัวใจของเรย์ ทำให้เขาทวีความรู้สึกที่อยู่ในใจ เขากัดฟันแน่น ออร่าสีดำสนิทรอบกายพันพวยพุ่งรุนแรง ราวกับเปลวเพลิงที่กำลังลุกไหม้

“...!!!?”

“เห...? เด็กนี่ แรงกดดันไม่ธรรมดาเลยแฮะ!...คงโมโหสินะ”

เซเรนพูดจาหยอกล้อด้วยความสนใจ

“......”

“อะ...เอ่อ ขอประทานโทษครับคุณฟอล์ค “

เสียงของเจ้าหน้าที่คนหนึ่งดังขึ้น ทุกสายตาหันไปมองเขาในทันที

” เรย์ทำคะแนนสอบได้ 90% ครับ “

” ......!? “

” แม้ว่าเขาจะไม่ติดใน 10 อันดับแรก แต่เขาได้ 180 คะแนน ติดอันดับที่ 11 ของวันนี้ครับ! “

เรย์เบิกตากว้าง เขาได้ยินไม่ผิด

90% ...เป็นคะแนนมากพอจะได้ทุนเรียนฟรีที่ไอโอนิค อคาเดมี่

สิ่งที่เขาตั้งใจอย่างสุดความสามารถ แท้จริงแล้วมันประสบผลสำเร็จ แววตาเขาเต็มไปด้วยความหวัง ก่อนที่ฟอล์คจะพูดขึ้น

” ...แล้วยังไงล่ะ? ถึงจะน่าเสียดาย แต่กฎของไอโอนิค เด็กที่มีมานาต่ำกว่า 300 จะไม่สามารถเข้า... “

“ผมอยากเข้าเรียนที่ไอโอนิค ครับ!! “

เรย์ชิงพูดแทรกเสียงดังลั่น ทุกคนชะงัก หันขวับมามองเด็กหนุ่มที่ปกติแทบไม่ปริปากพูด

ฟอล์คหรี่ตาลง

“......เธอมีมานาเท่ากับ 0 นะ...ไม่ใช่ 200 หรือ 100 แต่เป็น 0...เธอไม่สามารถใช้มานาได้ด้วยซ้ำ...ตัดใจซะเถอะ “

” ใช้ได้สิ! นี่ไงล่ะ มานาของผม!! “

เรย์ตอบทันควัน พร้อมกับกำมือออกมาด้านหน้า ออร่าสีดำสนิทพลันสั่นไหววูบวาบ ที่มุมปากพลันปรากฎ รอยยิ้มเจื่อนๆ ที่ฉาบไปด้วยความกล้าๆ กลัวๆ แต่ยังคงแฝงแววสู้ไม่ถอย

” ผมจะใช้มันให้ดูเอง! “

เซเรนหลุดหัวเราะออกมาในทันที

“ฮ่าฮ่าฮ่า...ดูเด็กนี่สิฟอล์ค...ฉันถูกใจเขาแฮะ!”

เธอเดินเข้าไปหาเรย์ โน้มตัวลงจ้องเขม็ง

“ได้สิ!...แต่มีข้อแม้นะ...เธอจะต้องทำการสอบเข้า...ถ้าเธอสอบผ่าน ฉันจะอนุญาตให้เธอเข้าเรียนที่ไอโอนิคได้ เป็นกรณีพิเศษ”

เรย์รู้สึกเหมือนมีเปลวไฟลุกโชนในอก แตกต่างจากเด็กหมดอาลัยในตอนแรกราวกับเป็นคนละคน

เขาเงยหน้าขึ้นด้วยแววตามุ่งมั่น

“ครับ!”