“เขาคือเด็กหนุ่มเพียงคนเดียวที่มีค่ามานาเป็นศูนย์ ท่ามกลางผู้ใช้เวทนับล้าน ในโลกที่พลังคือทุกสิ่ง… เขาจะล้มล้างทุกกฎที่ขวางทางเพื่อไต่ขึ้นไปสู่จุดสูงสุด”
แฟนตาซี,แอคชั่น,ผจญภัย,ยุคปัจจุบัน,ไทย,โรงเรียนเวทมนตร์,พระเอกเทพ,เทพ ,พลังวิเศษ,พระเอกเก่ง,เวทมนตร์,ผจญภัย,แฟนตาซี,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง“เขาคือเด็กหนุ่มเพียงคนเดียวที่มีค่ามานาเป็นศูนย์ ท่ามกลางผู้ใช้เวทนับล้าน ในโลกที่พลังคือทุกสิ่ง… เขาจะล้มล้างทุกกฎที่ขวางทางเพื่อไต่ขึ้นไปสู่จุดสูงสุด”
ในโลกที่มานาคือทุกสิ่ง มันเป็นพลังที่มีไว้เพื่อต่อสู้ ดำรงอยู่ และไต่ขึ้นสู่จุดสูงสุด
แต่เขากลับเป็นมนุษย์คนเดียวที่มีพลังมานาเท่ากับศูนย์
ใช่...ฟังไม่ผิด เท่ากับศูนย์
ไร้พลัง และอ่อนแอ
ในขณะที่ผู้แข็งแกร่งไขว่คว้าหาอำนาจ เขาทำได้เพียงแค่เดินอยู่ในเงามืด
เส้นทางของเขา ไม่ได้เริ่มต้นจากแสงสว่าง
แต่มันจะจบลง…ด้วยการสะเทือนไปทั้งโลก
“ไม่มีมานา…แล้วยังไงล่ะ?”
สวัสดีครับ TENTENs ครับ
ขอเล่าเรื่องตัวเองนิดหน่อยนะครับ
ผมมีความฝันอยากเขียนนิยายมานานแล้ว ถึงจะเคยลองเขียนแล้วอ่านเองอยู่บ้าง แต่ก็ไม่มีความกล้าที่จะให้ใครอ่านสักที
จนในที่สุดก็ตัดสินใจที่จะเขียนเรื่องนี้ขึ้นมา เป็นเรื่องใหม่ที่เขียนเองแต่งเองทั้งหมด ด้วยความตั้งใจจริงมากๆ หวังว่าทุกคนจะชอบกันนะครับ
โดยนิยายเรื่องนี้ เป็นนิยายรายตอนที่จะมีเนื้อเรื่องที่ยาวพอสมควร ผมจะพยายามอัพตอนใหม่ให้ได้ อาทิตย์ละ 3 ตอน เป็นอย่างน้อย ด้วยความที่ภาระหน้าที่ค่อนข้างเยอะ อาจจะเขียนได้ช้าไปบ้าง แต่สัญญาว่าจะไม่มีวันหยุดเขียน ตราบใดที่ยังมีคนรออ่านอยู่ แม้เพียงคนเดียวก็ตามครับ
ด้วยความที่ผมเป็นมือใหม่ ถ้าผิดพลาดอะไรตรงไหน ต้องขออภัยมากๆ และสามารถติชมกันได้เต็มที่เลยนะครับ
ขอฝากนิยายเรื่องนี้ไว้ในหัวใจทุกคนด้วยนะครับ ขอบคุณครับ
ท้องฟ้าในยามสายเปล่งประกายด้วยแสงอาทิตย์จ้า เมฆสีขาวลอยเกลื่อนฟ้า ท่ามกลางงานเทศกาลขนาดย่อมที่รายล้อมด้วยคนทั่วไป เจ้าหน้าที่ นักเรียนจากโรงเรียนเวทมนตร์ชื่อดัง และนักข่าวจากทุกสำนัก ผู้คนหลายชีวิตหยุดทุกการเคลื่อนไหว เมื่อชายผู้หนึ่งปรากฏตัวขึ้นบนเวทีตรงกลาง
เขาคือ ‘ซิกซ์’ ผู้ใช้มานาอันดับหนึ่งของประเทศ วีรบุรุษคนสำคัญที่ทำให้ประเทศสงบสุข ผู้ที่กล่าวกันว่าในรอบห้าสิบปีมีเพียงหนึ่งคนเท่านั้นที่จะเทียบเท่าได้
ยามที่เขาก้าวขึ้นสู่เวที แสงแดดราวกับเบี่ยงเบนไปรอบตัวเขา สะท้อนกับชุดที่มีริ้วแสงสีทองวาววับ เสียงฝีเท้าเขาดังกังวานชัดเจนราวกับตอกย้ำว่า...เวลานี้ ทั้งประเทศกำลังหยุดหายใจเพื่อเขา
กล้องจากนักข่าวหลายสิบตัวเบี่ยงทิศขึ้นพร้อมกัน แฟลชระยิบระยับไม่ขาดสาย และภาพของเขาถูกถ่ายทอดสดขึ้นหน้าจอขนาดใหญ่ และออนไลน์ไปทั่วทั้งโลก
“เชิญถามครับ”
ซิกซ์พูดขึ้น พลางชี้ไปยังนักข่าวหญิงคนหน้าสุดด้วยรอยยิ้มสบายๆ เสียงเขาทุ้มนิ่งแต่ทรงอำนาจพอจะกดความวุ่นวายให้เงียบลงได้
“จริงไหมคะที่รัฐบาลจ้างคุณในการเคลียร์ภูเขาทั้งลูกครั้งนี้ด้วยเงินจำนวนกว่าหลายร้อยล้านบาท?”
ซิกซ์พยักหน้าเบาๆ
“เป็นเรื่องจริงครับ”
เขาหันไปชี้อีกคน
“เชิญถามครับ”
“ภูเขาลูกนี้มีพื้นที่กว่า 340 ตารางกิโลเมตร เต็มไปด้วยมอนสเตอร์ที่ถูกทิ้งร้างมานานหลายร้อยปี คุณซิกซ์ต้องทำการกำจัดมอนสเตอร์ทั้งหมดในรอบบริเวณ มีแผนการอย่างไรบ้างครับ?”
“ก็ไม่มีแผนอะไรครับ”
เขาหัวเราะเบาๆ
“...ก็แค่กำจัดพวกมันให้หมด”
เสียงหัวเราะบางเบาแทรกผ่านฝูงชน ก่อนจะถูกแทนที่ด้วยเสียงนักข่าวอีกคน
“ได้ยินว่ามอนสเตอร์ทั่วบริเวณทั้งหมดเป็นประเภทซอมบี้ดุร้าย คุณซิกซ์มีความกังวลไหมครับ?”
“แน่นอนครับ...ต้องกังวลอยู่แล้ว ผมไม่ได้ไร้เทียมทาน...แต่ซอมบี้แพ้ไฟ และเวทของผมก็คือไฟ ไม่ได้น่าห่วงเท่าไหร่ คิดว่าผมเป็นฝ่ายได้เปรียบนะครับ”
“จะใช้เวลานานแค่ไหนในการเคลียร์พื้นที่ครับ?”
“น่าจะไม่เกินสามวันครับ”
เขายิ้มอีกครั้ง
“แต่วันนี้อาจจะช้าหน่อย เพราะมีเด็กๆ ที่ต้องดูแล”
“เด็กๆ?”
นักข่าวหลายคนขมวดคิ้ว
ซิกซ์หัวเราะ
“อ้อ...ผมลืมบอกสินะ วันนี้มีนักเรียนใหม่จากโรงเรียนไอโอนิค 29 คน มาทัศนศึกษาการต่อสู้ของผมครับ”
เขาชี้ไปยังกลุ่มนักเรียนที่ยืนออกันอยู่ด้านหลัง
แสงจากกล้องหมุนตามไปยังกลุ่มเด็กๆ ทันที แฟลชวาบใส่จนเด็กหลายคนสะดุ้งเฮือกถอยหลังอย่างทำอะไรไม่ถูก
“จริงสิ”
ซิกซ์พูดพลางยิ้มบางๆ
“ถ้าเป็นนักเรียนใหม่ของไอโอนิคปีนี้...เธอคนนั้นก็ต้องมาด้วยสินะ...สาวน้อย 9 วงแหวนคนนั้น”
เสียงฮือฮาดังขึ้นทันที
“สาวน้อย 9 วงแหวน? ...หรือว่า!?”
“ผู้ครอบครอง 9 วงแหวน คนที่ 2 ของประเทศ?”
“เอรีน!?”
“ไหน!? เธออยู่ไหน!?”
ซิกซ์ยิ้มมุมปากแล้วพูดออกไมค์อย่างใจเย็น
“เอรีน...ช่วยยกมือหน่อยสิ”
มือของเด็กสาวคนหนึ่งยกขึ้นอย่างเกร็งๆ จากมุมกลุ่มนักเรียน เธอมีผมยาวสีครีม ผิวขาวเด่น และดวงตาสีม่วงประกายที่กำลังหลบสายตาผู้คนนับร้อย
แฟลชสาดใส่ทันทีราวพายุ เสียงกดชัตเตอร์ดังระงม
“เชิญขึ้นมาบนเวทีหน่อยได้ไหม?”
ซิกซ์เอ่ยเบาๆ
“......”
เอรีนเดินขึ้นมาช้าๆ ด้วยท่าทางประหม่าอย่างชัดเจน เธอก้มหน้าไม่กล้าสบตาใคร
“คุณสองคนเคยเจอกันมาก่อนไหมครับ?”
นักข่าวคนหนึ่งตะโกนถามอย่างตื่นเต้น
“ไม่ครับ”
ซิกซ์ตอบก่อนยื่นมือออกไปทักทายเอรีน
“...นี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้เจอกับเธอ”
“......”
เด็กสาวลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะค่อยๆ ยื่นมือไปจับอย่างเงียบงัน มือของเธอเย็นเฉียบแม้สีหน้าจะนิ่งสนิท
“ยินดีที่ได้รู้จัก ฝากตัวด้วยนะ”
ซิกซ์พูดพลางยิ้มอบอุ่น
นักข่าวอีกคนถามแหลมคม
“ลือกันว่าเอรีนครอบครอง 9 วงแหวน และมีวิซระดับ S ในขณะที่คุณมีแค่ระดับ A...คุณคิดไหมว่าในอนาคตเธอจะแข็งแกร่งกว่าคุณ?”
ซิกซ์หัวเราะเบาๆ ก่อนจะหันไปมองเอรีน
“มันต้องเป็นอย่างนั้นแน่นอนครับ”
“คุณไม่กังวลเลยเหรอครับ?”
“จะกังวลทำไมกันครับ?”
เขามองออกไปยังผู้คนเบื้องหน้า
“ดีซะอีก...เราจะได้ร่วมกันกวาดล้างมอนสเตอร์ให้หมด ให้ผมสู้อยู่คนเดียวมันเหนื่อยจะตาย หากมีเธอเคียงข้าง ประเทศไทยต้องไม่เหลือเรดโซนแม้แต่จุดเดียว มอนสเตอร์สักตัวก็ต้องไม่เหลือ!”
ทุกคนพลันนิ่งอึ้งไปกับคำตอบของเขา...บุรุษผู้ไร้ซึ่งความกังวลว่าใครจะเหนือกว่า เพราะสิ่งเดียวที่เขายึดมั่น คือการกอบกู้แผ่นดินจากเหล่ามอนสเตอร์ เขาคือตัวตนที่ยิ่งใหญ่อย่างแท้จริง
เสียงเฮดังลั่นทั่วจัตุรัส
“ซิกซ์!...ซิกซ์!...เอรีน!...เอรีน!”
กล้องทุกตัวจับภาพของสองผู้ครอบครองวงแหวนทั้งเก้าที่ยืนอยู่ข้างกัน นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาพบกัน ภาพนี้จะต้องกลายเป็นหนึ่งในประวัติศาสตร์ของประเทศ
ด้านล่างเวที เรย์มองภาพตรงหน้าอย่างเงียบงัน
“หูยยย อิจฉาเอรีนอะ...”
ไลออนพึมพำ
“ฉันก็อยากไปยืนคู่ซิกซ์บ้างจัง”
“ยืนอยู่ตรงนั้นน่ะ...มันไม่ง่ายหรอกนะ”
เนียร์พูดเสียงเบา
เรย์เสริม
“ดูเหมือนเอรีนก็กำลังอึดอัดไม่น้อยเลย”
แม้บทสนทนาของกลุ่มนักเรียนจะฟังดูสบายๆ แต่บรรยากาศโดยรอบกลับต่างออกไปโดยสิ้นเชิง
งานเปิดปฏิบัติการกวาดล้างมอนสเตอร์ครั้งใหญ่ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว
แสงแดดอ่อนยามสายสาดส่องลงบนลานพิธีที่เริ่มซาลง ผู้คนทยอยเดินออกจากงานเทศกาล เมื่อซิกซ์เริ่มเตรียมออกเดินทางเข้าไปในพื้นที่ของมอนสเตอร์
เหลือเพียงกล้องโดรนหลายสิบตัวลอยอยู่เหนือศีรษะ บันทึกภาพของเขาจากทุกมุม ท่ามกลางการถ่ายทอดสดไปทั่วประเทศ
ซิกซ์มุ่งหน้าไปยังกลุ่มนักเรียนที่เพิ่งเดินออกมาจากทางด้านข้างของงาน นักเรียนใหม่ของไอโอนิค ทั้ง 29 คนยืนรวมกลุ่มกันอย่างตื่นเต้น แววตาเป็นประกาย
เมื่อเขาเข้าใกล้ กลุ่มนักเรียนพลันส่งเสียงฮือฮาแว่วขึ้นอีกครั้ง และซิกซ์ก็เป็นฝ่ายทักก่อน
“ไง โซรัน ไม่เจอกันนานเลยนะ”
หญิงสาวในชุดคลุมอาจารย์ ท่ามกลางกลุ่มเด็กหันมายิ้มพลางพยักหน้า
“นานมากจริงๆ ...”
เสียงของเขานิ่ง สุขุม แต่ความสนิทที่สื่อผ่านคำทักทายนั้นกลับสร้างแรงสั่นสะเทือนในกลุ่มนักเรียนได้รุนแรงยิ่งกว่าเวทมนตร์ระดับสูง
“ว้าววว! อาจารย์โซรันรู้จักกับซิกซ์เหรอ?!”
“เป็นคนรู้จักกันจริงๆ ด้วยอะ!”
ซิกซ์หันไปมองกลุ่มนักเรียน ก่อนเอ่ยด้วยรอยยิ้มอบอุ่น ไม่มีความถือตัวแม้เพียงนิดเดียว
“สวัสดี ฉันชื่อซิกซ์ วันนี้จะมาเป็นไกด์นำทางให้พวกเธอหนึ่งวัน ฝากตัวด้วยล่ะ”
“ฝากตัวด้วยครับ!”
“ฝากตัวด้วยค่า!”
แววตาเด็กๆ เป็นประกายทั่วหน้า ก่อนจะมีเสียงหนึ่งเอ่ยแผ่วๆ แต่เต็มไปด้วยความกล้า
“ผะ...ผมขอเซลฟี่ด้วยได้ไหมครับ?”
ซิกซ์หัวเราะเบาๆ
“ได้อยู่แล้ว”
“ผะ...ผมด้วย!”
“หนูด้วยสิ!!”
เสียงแย่งกันเซลฟี่ดังระงม เด็กๆ กรูเข้ามาแบบแทบล้นกล้อง เนียร์หันไปแซวเพื่อนข้างตัวทันที
“นายไม่เข้าไปด้วยเหรอ...ไลออน? ชอบเขามากไม่ใช่เหรอ?”
ไลออนยืนนิ่ง ตัวแข็งราวท่อนไม้
“ฉะ...ฉันไม่กล้าอะ...”
เสียงหัวเราะหลุดจากเพื่อนๆ รอบข้างทันที
หลังจากเซลฟี่และพูดคุยกันเล็กน้อย ซิกซ์ก็หันกลับมามองพื้นที่โล่งหน้าเขา
“เอาล่ะ!...ต่อไปจะออกนอกอาณาเขตบาเรียชั่วคราวแล้วนะ”
เขาหันมาพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังขึ้น
“จากตรงนี้ไป...จะเป็นพื้นที่เรดโซนของจริงแล้ว เตรียมใจกันมาหรือยัง?”
เด็กๆ หลายคนสีหน้าเริ่มซีดเผือด บ้างกลืนน้ำลายเสียงดัง บ้างเหลือบมองกันไปมา
ซิกซ์ยิ้ม
“ไม่ต้องกลัวหรอก มีฉันอยู่ทั้งคน...แค่คอยดูอยู่ด้านหลังฉันก็พอ”
เขาก้าวนำออกไปก่อน และเด็กๆ เริ่มเดินตามกันเป็นแถว ภูเขาสูงใหญ่ทอดตัวยาวอยู่เบื้องหน้า ป่าไม้หนาทึบแน่นขนัด สลับกับแนวหินและทางเดินที่ดูรกร้าง มีเถาวัลย์เลื้อยเกาะโคนต้นไม้อย่างอึมครึม กลิ่นอับชื้นของใบไม้เน่าโชยลอยมาตามลม และแมลงป่าที่ไม่รู้จักชื่อบินผ่านหน้าไปเป็นระยะ
กล้องโดรนยังคงลอยถ่ายทอดภาพจากมุมสูง เสียงมอเตอร์เบาๆ ของมันแทรกอยู่ในบรรยากาศเงียบเชียบ ราวกับประกาศต่อโลกว่า “เขาเริ่มภารกิจแล้ว”
บนหน้าจอโฮโลแกรมขนาดใหญ่ใจกลางเมืองหลวง และในบ้านของผู้คนมากมายทั่วประเทศ ภาพของภารกิจครั้งนี้ถูกถ่ายทอดสดผ่านทุกสื่อ พร้อมเสียงพากย์สดที่ดังขึ้นอย่างเร่งเร้า
<ขณะนี้กลุ่มนักเรียนจากสถาบันไอโอนิคได้เคลื่อนเข้าสู่เขตมอนสเตอร์แล้วครับ! และผู้นำภารกิจครั้งนี้ก็ไม่ใช่ใครอื่น...ซิกซ์ วีรบุรุษที่ทุกคนรู้จักกันดี!>
ณ ร้านเหล้าเล็กๆ กลางเมืองหลวง
เสียงจอโปรเจกเตอร์กว้างเต็มผนังดังก้อง ภาพซิกซ์ที่ยืนตระหง่านอยู่หน้าแนวป่า ถูกฉายแบบชัดระดับสูงสุด ชายหญิงหลากวัยหยุดมือจากการกินดื่ม บางคนถึงขั้นยืนค้างพร้อมกับช้อนกลางอากาศ
“เฮ้ย! มันจะเริ่มแล้ว!”
“เงียบๆ โว้ย! เดี๋ยวฟังพากย์ไม่รู้เรื่อง!”
เบียร์กระป๋องถูกเปิดพร้อมกันหลายกระป๋อง ป๊อปคอร์นถุงใหญ่ถูกยกขึ้นฟาดบนโต๊ะกลาง ทุกคนจับจ้องจอภาพตรงหน้าโดยไม่กะพริบตา
ณ สำนักงานบริษัทแห่งหนึ่ง
พนักงานนั่งเบียดกันรอบหน้าจอโปรเจกเตอร์ ทุกการทำงานหยุดชั่วคราวเพื่อชม “ภารกิจระดับชาติ”
ผู้จัดการที่ปกติห้ามเล่นสมาร์ทโฟนในเวลางาน ยังเป็นคนเดินมาเปิดถ่ายทอดสดด้วยตนเอง
“ซิกซ์อยู่นั่นไง! เขาออกมาแล้ว!!”
เสียงเชียร์ระงมไปทั้งชั้น ตื่นเต้นเหมือนกำลังดูงานกีฬาระดับโลก
ณ บ้านหลังเล็กๆ ในชนบท
คุณยายในชุดบ้านธรรมดานั่งดูภาพบนโทรทัศน์ขนาดเล็ก มือกำลูกประคำไว้แน่น เด็กชายตัวน้อยข้างๆ กระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจ
“ยายๆ ดูสิ! นั่นซิกซ์ล่ะ!”
คุณยายพึมพำทั้งน้ำตา
“ขอให้พระคุ้มครอง...ให้เขากลับมาโดยปลอดภัย...”
ทันทีที่ซิกซ์ และนักเรียนทุกคนก้าวขาออกจากแนวพรมแดนของบาเรีย เสียงหนึ่งก็ดังขึ้นจากในป่า
ตึง...ตึง...ตึง ตึง ตึง ตึง!!
เสียงฝีเท้าหนักแน่นของบางสิ่งจำนวนมาก กำลังใกล้เข้ามา เด็กหลายคนแตกตื่นในทันที
“สะ...เสียงอะไรน่ะ!?”
ซิกซ์หันขวับไปมองป่าทึบด้านหน้า สายตาเขานิ่งเฉียบ ก่อนจะตอบเรียบๆ
“เสียงมอนสเตอร์ไงล่ะ...มอนสเตอร์ประเภทซอมบี้ มันไวต่อกลิ่นมนุษย์มาก...”
ก๊าซซซซซซซ!!
ซิกซ์ยังไม่ทันพูดจบ ฝูงซอมบี้กว่าร้อยตัวก็วิ่งพรวดพราดออกมาจากแนวต้นไม้อย่างบ้าคลั่ง พวกมันมีสภาพเน่าเปื่อย ร่างกายผิดรูป กระดูกโผล่ ผิวหนังหลุดลุ่ย ส่งเสียงคำรามต่ำตลอดเวลา
แม้ภายนอกจะดูอ่อนแอ ทว่าพวกมันกับแข็งแรงและว่องไวอย่างมาก
“กรี๊ดดดดดดดด!!”
นักเรียนหลายคนผงะถอยหลังแทบล้มทั้งยืน
“ไม่ต้องกลัว”
เสียงของซิกซ์ดังขึ้น
“แค่ดูฉันก็พอ”
ทันใดนั้น...ออร่าสีทองเรืองรองก็แผ่พุ่งออกจากร่างของเขา วงแหวนเวทสีทอง 9 วงปรากฏขึ้นเรียงกันอย่างสมบูรณ์อยู่ด้านหลัง ทุกวงหมุนช้าๆ ส่งเสียงหึ่งเบาๆ แรงกดดันจากพลังนั้นทำให้อากาศโดยรอบเต็มไปด้วยคลื่นลมมหาศาล
ซิกซ์ยกมือขึ้น แล้วเอ่ยเสียงต่ำแต่มั่นคง
“ทะเลเพลิง!”
เสียงพากย์ถ่ายทอดสดจากโดรนก็ดังขึ้นตามสายส่งภาพไปทั่วประเทศ
<โอ้โห! ผู้ชมครับ! วงแหวนสีทองทั้งเก้าปรากฏแล้ว! พลังเวทระดับมหากาฬกำลังถูกปลดปล่อยต่อหน้าต่อตาเรา นี่คือเวทมนตร์หนึ่งในวงแหวนของซิกซ์ ที่เรารู้จักกันดี...ทะเลเพลิง!>
หนึ่งในวงแหวนทั้งเก้าสว่างวาบขึ้น เปลวไฟสีแดงสดปริมาณมหาศาลพุ่งออกจากฝ่ามือเขา แผ่กว้างราวคลื่นยักษ์ซัดชายฝั่ง
มันกวาดทุกสิ่งตรงหน้าไปในพริบตาเดียว...
โฮกกกกกกกก!!
เสียงซอมบี้กรีดร้องดังลั่น ก่อนจะเงียบลงราวกับถูกตัดหายไปจากโลก
เสียงพากย์ดังต่อเนื่องอย่างตื่นตะลึง
<สุดยอด!! ดูนั่นสิครับท่านผู้ชม! พื้นที่ด้านหน้าถูกแผดเผาเป็นแนวกว้างในพริบตา ไม่มีแม้แต่เศษซากของมอนสเตอร์!>
ภูเขาด้านหน้าไม่มีสิ่งใดหลงเหลือ...ไม่มีแม้แต่เถาวัลย์หรือต้นไม้ใด มีเพียงพื้นดินโล่งว่างที่ถูกไฟแผดเผาอย่างสมบูรณ์
เด็กๆ มองภาพตรงหน้าด้วยสายตาเบิกกว้าง เสียงอุทานดังตามมาไม่ขาดสาย
“สะ...สุดยอด!!”
“นี่แหละซิกซ์!!”
“โหดชะมัด!!”
ซิกซ์ยิ้มมุมปากเล็กๆ ก่อนหันไปพูด
“ไปกันต่อเถอะ”
เสียงเฮจากผู้ชมทุกบ้านดังขึ้นอย่างพร้อมเพรียงกัน สะเทือนไปทั่วประเทศ
และในช่วงเวลานี้ โลกทั้งใบก็ได้เห็นอีกครั้งว่า ‘ซิกซ์’ คือใคร
เขาไม่ใช่แค่ผู้ครอบครองวงแหวนทั้งเก้า
แต่คือความหวังของมนุษยชาติ
...และภารกิจของเขาเพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น