“เขาคือเด็กหนุ่มเพียงคนเดียวที่มีค่ามานาเป็นศูนย์ ท่ามกลางผู้ใช้เวทนับล้าน ในโลกที่พลังคือทุกสิ่ง… เขาจะล้มล้างทุกกฎที่ขวางทางเพื่อไต่ขึ้นไปสู่จุดสูงสุด”

Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง - ตอนที่ 2 เด็กผู้ทำคะแนนเต็ม โดย TENTENs @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

แฟนตาซี,แอคชั่น,ผจญภัย,ยุคปัจจุบัน,ไทย,โรงเรียนเวทมนตร์,พระเอกเทพ,เทพ ,พลังวิเศษ,พระเอกเก่ง,เวทมนตร์,ผจญภัย,แฟนตาซี,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

แฟนตาซี,แอคชั่น,ผจญภัย,ยุคปัจจุบัน,ไทย

แท็คที่เกี่ยวข้อง

โรงเรียนเวทมนตร์,พระเอกเทพ,เทพ ,พลังวิเศษ,พระเอกเก่ง,เวทมนตร์,ผจญภัย,แฟนตาซี

รายละเอียด

Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง โดย TENTENs @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

“เขาคือเด็กหนุ่มเพียงคนเดียวที่มีค่ามานาเป็นศูนย์ ท่ามกลางผู้ใช้เวทนับล้าน ในโลกที่พลังคือทุกสิ่ง… เขาจะล้มล้างทุกกฎที่ขวางทางเพื่อไต่ขึ้นไปสู่จุดสูงสุด”

ผู้แต่ง

TENTENs

เรื่องย่อ

ในโลกที่มานาคือทุกสิ่ง มันเป็นพลังที่มีไว้เพื่อต่อสู้ ดำรงอยู่ และไต่ขึ้นสู่จุดสูงสุด

แต่เขากลับเป็นมนุษย์คนเดียวที่มีพลังมานาเท่ากับศูนย์

ใช่...ฟังไม่ผิด เท่ากับศูนย์

ไร้พลัง และอ่อนแอ

ในขณะที่ผู้แข็งแกร่งไขว่คว้าหาอำนาจ เขาทำได้เพียงแค่เดินอยู่ในเงามืด

เส้นทางของเขา ไม่ได้เริ่มต้นจากแสงสว่าง

แต่มันจะจบลง…ด้วยการสะเทือนไปทั้งโลก

“ไม่มีมานา…แล้วยังไงล่ะ?”



สวัสดีครับ TENTENs ครับ

ขอเล่าเรื่องตัวเองนิดหน่อยนะครับ

ผมมีความฝันอยากเขียนนิยายมานานแล้ว ถึงจะเคยลองเขียนแล้วอ่านเองอยู่บ้าง แต่ก็ไม่มีความกล้าที่จะให้ใครอ่านสักที 


จนในที่สุดก็ตัดสินใจที่จะเขียนเรื่องนี้ขึ้นมา เป็นเรื่องใหม่ที่เขียนเองแต่งเองทั้งหมด ด้วยความตั้งใจจริงมากๆ หวังว่าทุกคนจะชอบกันนะครับ


โดยนิยายเรื่องนี้ เป็นนิยายรายตอนที่จะมีเนื้อเรื่องที่ยาวพอสมควร ผมจะพยายามอัพตอนใหม่ให้ได้ อาทิตย์ละ 3 ตอน เป็นอย่างน้อย ด้วยความที่ภาระหน้าที่ค่อนข้างเยอะ อาจจะเขียนได้ช้าไปบ้าง แต่สัญญาว่าจะไม่มีวันหยุดเขียน ตราบใดที่ยังมีคนรออ่านอยู่ แม้เพียงคนเดียวก็ตามครับ


ด้วยความที่ผมเป็นมือใหม่ ถ้าผิดพลาดอะไรตรงไหน ต้องขออภัยมากๆ และสามารถติชมกันได้เต็มที่เลยนะครับ


ขอฝากนิยายเรื่องนี้ไว้ในหัวใจทุกคนด้วยนะครับ ขอบคุณครับ


สารบัญ

Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-บทนำ Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 1 รถหรู กับ รถพัง,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 2 เด็กผู้ทำคะแนนเต็ม,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 3 เด็กเก้าวงแหวน กับ เด็กผู้ไร้มานา,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 4 ฉันรู้สึกได้,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 5 พลังตรวจจับ?,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 6 เหมืองร้าง,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 7 ดวงวิญญาณปริศนา,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 8 ฉันจะไปฝึกวิชา,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 9 การต่อสู้ที่ไม่คาดฝัน,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 10 มานาจากธรรมชาติ,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 11 เสียงคำรามจากเงามืด,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 12 พลังสีดำ,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 13 มนุษย์ถ้ำ,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 14 เวลาแห่งการล่า,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 15 ไอโอนิค,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 16 การสอบรอบที่ 1,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 17 การสอบรอบที่ 2,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 18 เพียงวูบเดียว,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 19 การสอบรอบที่ 3,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 20 ม่านหมอก,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 21 มาสู้กับผมสิ,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 22 สัตว์ป่า,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 23 โพรงลึก,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 24 ประตูสู่ไอโอนิค,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 25 ห้องแห่งการประเมิน,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 26 ขีดจำกัด,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 27 มานาธาตุ,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 28 เปลวไฟ,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 29 วงแหวน,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 30 การต่อสู้ระยะใกล้,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 31 ดาบไร้คม,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 32 เรมไนร์,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 33 ประกาศิต,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 34 ชีวิตแลกชีวิต,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 35 ความฝัน,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 36 กริฟฟอน,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 37 สัตว์ประหลาด,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 38 แสงสว่างท่ามกลางสายฝน,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 39 หุบเหว,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 40 คืนที่ไร้ดวงดาว,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 41 ประกายสีดำ,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 42 เพลิงดับสูญ,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 43 อาร์คดูเอล,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 44 ใต้แสงจันทร์,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 45 วงแหวนของไลออน,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 46 การยืนหยัดของผู้ไร้พรสวรรค์,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 47 ก้าวแรกที่ผ่านพ้น,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 48 งานเทศกาลของซิกซ์,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 49 ผู้ครอบครองวงแหวนทั้งเก้า,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 50 สนามรบที่แท้จริง,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 51 เมื่อแสงหมดสิ้น...ความมืดจึงเผยตัว,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 52 ผู้ยืนอยู่เหนือซากบัลลังก์,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 53 หน้ากากซอมบี้,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 54 พลังอสูร?,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 55 กลับบ้าน,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 56 เหนือฟ้ายังมีฟ้า,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 57 เด็กหญิงผู้ไม่เคยได้ยินเสียงเพลง,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 58 เทพเจ้า,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 59 มงกุฎแห่งเอไลเซร่า,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 60 วงแหวนที่สอง,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 61 หาง,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ประกาศสำคัญ จากผู้เขียน

เนื้อหา

ตอนที่ 2 เด็กผู้ทำคะแนนเต็ม

ข้อ 21. การแปรเปลี่ยนมานาให้เป็นพลังธาตุ มีหลักการอย่างไร?

1. รวบรวมมานาไว้ที่ฝ่ามือแล้วปล่อยออกมา

2. นึกถึงพลังธาตุแล้วปล่อยออกไป

3. ขึ้นอยู่กับคุณสมบัติของแต่ละบุคคล

4. ไม่สามารถทำได้

“......?”

‘บ้าไปแล้ว!? ใครจะไปรู้คำตอบฟะ!?’

ไลออนกำกระดาษแน่น อยากจะขยำแล้วปาทิ้งให้รู้แล้วรู้รอด

เขากำลังสติแตกกับคำถามในแบบทดสอบ เหตุใดพวกเขาถึงเอาคำถามเกี่ยวกับ “มานา” มาถามเด็กที่ยังไม่ได้รับการปลุกพลัง ซึ่งแน่นอนว่าเด็กทุกคนในหอประชุมยังไม่มีประสบการณ์ในการใช้มานามาก่อน

ฟู่ววว!!!

เขาถอนหายใจเฮือกใหญ่ มองข้อสอบตรงหน้าด้วยความหงุดหงิด ก่อนจะเหลือบมองไปทางเรย์กับเนียร์ที่นั่งอยู่ข้างๆ ทั้งคู่กำลังก้มหน้าทำข้อสอบอย่างตั้งใจ

’ ต้องลอก!! ‘

ไลออนแสยะยิ้มเจ้าเล่ห์ เขาค่อยๆ ขยับคอหันไปทางเรย์อย่างเป็นธรรมชาติ ดวงตาเพ่งมองกระดาษสอบของเพื่อนราวกับเหยี่ยวที่จ้องจะจับเหยื่อ เป้าหมายคือคำตอบข้อ 21

ในขณะที่ลูกตาของเขาแทบจะหลุดออกมาจากเบ้า

ทันใดนั้นเอง

“คุณเหน่ง ทำการทุจริต!!! “

เสียงประกาศดังก้องไปทั่วหอประชุม

“....เชี่ย!!!?”

ไลออนสะดุ้งเฮือกแทบตกเก้าอี้

เมื่อสิ้นเสียงประกาศ ทหารและเจ้าหน้าที่ก็พุ่งตรงไปยังเด็กที่ถูกเรียกชื่อ ก่อนจะเข้าจับกุมอย่างรวดเร็ว เสียงฮือฮาดังไปทั่วทั้งห้อง เด็กทุกคนหยุดทำข้อสอบและหันไปมองเหตุการณ์ด้วยความตกตะลึง

” ปล่อยนะ!! ฉันไม่ได้ทำอะไรเลยนะ!! “

เด็กหนุ่มผู้โชคร้ายถูกใส่กุญแจมือก่อนจะถูกลากออกจากห้อง บรรยากาศที่เคยเงียบสงบ บัดนี้เต็มไปด้วยความตึงเครียด ไม่มีใครกล้าพูดอะไรออกมา ทุกคนต่างรู้ว่าโทษของการโกงข้อสอบคงไม่ใช่เรื่องเล่นๆ

ไลออนรีบหันกลับมานั่งตัวตรง เหงื่อเม็ดเป้งไหลออกมาจากทั่วร่างกาย มือไม้เย็นเฉียบ เขากลืนน้ำลายลงคอเฮือกใหญ่ หัวใจเต้นรัวจนแทบทะลุออกจากอก

‘กะ..เกือบไปแล้ว’

หลังจากสงบสติอารมณ์ได้ เขาก็ก้มหน้าลงไปมองข้อสอบอย่างช้าๆ มือของเขากำปากกาแน่น พร้อมกับสุ่มกาคำตอบลงไปบนกระดาษอย่างมั่นใจ

ใช่แล้ว...เขามั่วแหลก




หลังจากการสอบจบลง เด็กทุกคนได้รับคำสั่งให้มุ่งหน้าไปยังห้องรับรองกลาง เพื่อรับประทานอาหารในระหว่างรอคณะกรรมการตรวจสอบคะแนน

วืดดดด...

ประตูอัตโนมัติขนาดมหึมาของห้องรับรองเปิดออก มันเลื่อนขึ้นจากด้านล่างราวกับเป็นชั้นของแสงโปร่งใส เด็กหลายพันคนหลั่งไหลเข้าไปด้านใน

ภายในห้องรับรองมีขนาดใหญ่ใกล้เคียงกับหอประชุม เพดานสูงโปร่งประดับด้วยโคมไฟมานาที่ลอยตัวอยู่กลางอากาศ ให้แสงสว่างสีนวลตาโดยที่ไม่ใช้เส้นลวดใดๆ

เสียงพูดคุยจอแจปะปนกับเสียงช้อนส้อมกระทบจานดังก้องทั่วบริเวณ เด็กหลายพันคนที่เพิ่งผ่านการสอบเสร็จกำลังทยอยเข้ามาจับจองที่นั่งอย่างเร่งรีบ บางคนดูผ่อนคลาย บางคนดูเคร่งเครียด และบางคนถึงกับกุมขมับหลังจากต้องเผชิญกับข้อสอบที่คาดไม่ถึง

” เฮ่อออออ...”

เสียงถอนหายใจยาวดังขึ้น ขณะที่ไลออนทิ้งตัวลงบนเก้าอี้ในห้องรับรอง มือลูบใบหน้าด้วยความเหนื่อยล้า ก่อนจะหยิบช้อนขึ้นมาเขี่ยผักในจานอย่างเอื่อยเฉื่อย

“ข้อสอบอะไรฟะ!? ยากชะมัด!! แถมให้เวลาทำแค่ 120 นาที ฉันทำไม่ทันหรอก..รู้ไหม? ฉันมั่วไปครึ่งหนึ่งเลยนะ!! ครึ่งหนึ่ง!!”

เด็กหนุ่มที่ปกติร่าเริงไร้ความกังวล ตอนนี้กลับดูห่อเหี่ยวเหมือนผักเฉาตากแดด เขาใช้ส้อมจิ้มเนื้อชิ้นเล็กๆ ในจานและเขี่ยมันไปอย่างหมดอาลัย

เนียร์ยกช้อนขึ้นจรดริมฝีปาก ก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

“อัตราการมั่วถูกในแต่ละข้อนั้นเท่ากับ 25% นั่นหมายความว่าถ้าข้อที่นายไม่ได้มั่วนั้นถูกมากกว่า 3 ใน 4 คะแนนของนายก็น่าจะมากกว่าครึ่งได้แบบหายห่วง”

” .....? “

ดูเหมือนเนียร์จะพยายามปลอบใจด้วยคำพูดที่ชวนปวดหัวมากกว่าเดิม ไลออนพลันชะงักช้อนกลางอากาศ เขาขมวดคิ้วก่อนจะถามต่อด้วยความสงสัย

“นายหมายความว่าถ้าคะแนนไม่ถึงครึ่งจะไม่ได้รับการปลุกพลังงั้นเหรอ?”

เนียร์ถอนหายใจเบาๆ ก่อนจะตักข้าวเข้าปาก พูดทั้งที่ยังเคี้ยวอยู่เล็กน้อย

“....นี่นายโง่หรือเปล่า? มนุษย์ทุกคนต้องได้รับการปลุกพลัง คะแนนของแบบทดสอบเมื่อกี้มันก็แค่แบบทดสอบศักยภาพ”

“แล้วคะแนนมีผลอะไร?”

ใบหน้าของไลออนทวีความสงสัย ดูเหมือนว่าเขาจะไม่รู้อะไรเลย

“นี่นายกำลังเครียดโดยที่ไม่รู้อะไรเลยเนี่ยนะ? “

เนียร์ส่ายหน้าก่อนจะวางช้อนลง แล้วโน้มมาข้างหน้าเล็กน้อย

” ฟังนะ..ถ้าทำคะแนนได้ต่ำกว่าครึ่ง นายจะถูกตัดสิทธิ์ในการเข้าเรียนที่ ‘ไอโอนิค อคาเดมี่’ ซึ่งเป็นโรงเรียนอันดับ 1 ของประเทศ แล้วถ้านายทำคะแนนได้มากกว่านั้นก็จะได้รับสิทธิพิเศษแตกต่างกันไปในแต่ละปี...อย่างเมื่อปีก่อน หากทำคะแนนได้ 90% ก็จะได้ทุนเรียนฟรีตลอดการศึกษา แถมได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลในอนาคตอีกด้วย “

ไลออนหยุดเคี้ยวข้าวไปครู่หนึ่ง ก่อนจะหัวเราะออกมาเบาๆ

” โอ้...แค่นั้นเองเหรอ...ถ้าอย่างนั้นฉันคงไม่ต้องคิดมากแล้วล่ะ ฮี่ๆ “

รอยยิ้มไร้เดียงสากลับมาอีกครั้ง เด็กหนุ่มดูสบายใจขึ้นเป็นอย่างมาก ดูเหมือนว่าเขาจะไม่จำเป็นต้องเครียดกับเรื่องนี้

เนียร์มองเขาด้วยสายตาเย็นชาเล็กน้อย ก่อนจะหัวเราะในลำคอ

” จริงสินะ...ครอบครัวร่ำรวยของนายคงจัดการเรื่องนี้ได้ไม่ยาก...เป็นเรื่องที่น่ารังเกียจชะมัด”

เป็นคำพูดที่เต็มไปด้วยการเสียดสี แต่ดูเหมือนไลออนจะไม่ใส่ใจอะไรนัก เขาแค่ยักไหล่ ก่อนจะหันไปมองเรย์ที่นั่งกินเงียบๆ มาตลอด

“ว่าแต่...พวกนายสองคนดูไม่เครียดกับข้อสอบเลยนะ มันไม่สำคัญกับพวกนายหรือไง?

“สำหรับฉันก็ง่ายๆ ล่ะนะ “

เนียร์ยักไหล่ตอบด้วยสีหน้าเบื่อหน่าย เขายกแก้วน้ำขึ้นจิบ ก่อนจะมองไปทางเรย์พร้อมกับรอคำตอบ

เรย์วางช้อนลง เขาเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น

“......สำคัญสิ...มันสำคัญต่อฉันมากเลยล่ะ...ฉันเตรียมตัวมาตลอดก็เพื่อวันนี้...ฉันต้องได้คะแนนมากกว่า 90% ให้ได้”

“......”

สีหน้าอันจริงจังของเขาทำให้ไลออนและเนียร์รับรู้ได้ทันทีว่าผลของการสอบครั้งนี้มีผลต่อเขามากเพียงใด 

เสียงช้อนกระทบจานของไลออนพลันหยุดลง เขาไม่จำเป็นต้องถามอะไรเพิ่มเติม เพียงแค่เสื้อผ้าอันซอมซ่อที่เรย์สวมอยู่ก็บอกสถานะเขาได้ทุกอย่าง

ก๊อกแก๊ก!...วี๊ดดดด...

เสียงก้องกังวานของลำโพงดังขึ้น ก้องสะท้อนไปทั่วห้องรับรอง ความวุ่นวายของเด็กๆ ที่กำลังพูดคุยและรับประทานอาหารพลันสงบลง ทุกสายตาและโสตประสาทจับจ้องไปที่เสียงประกาศอย่างใจจดใจจ่อ

“การนับคะแนนทดสอบเสร็จสิ้นแล้ว โดยทางศูนย์ฯ จะประกาศคะแนนผู้ที่มีคะแนนสูงสุดเพียง 10 อันดับแรก เพื่อเป็นเกียรติ “

สิ้นเสียงประกาศ หน้าจอโฮโลแกรมขนาดใหญ่พลันปรากฎขึ้นเด่นชัดกลางโถงห้องรับรอง

< อันดับ 1 เนียร์ 200 คะแนน (100%)

อันดับ 2 เอรีน 196 คะแนน (98%)

อันดับ 3 ไอเดน 190 คะแนน (95%)

อันดับ 4 ไค 188 คะแนน (94%)

อันดับ 5 ลาวิน 185 คะแนน (92.5%)

อันดับ 5 บอนนี่ 185 คะแนน (92.5%)

อันดับ 7 ปังปัง 183 คะแนน (91.5%)

อันดับ 8 องศา 182 คะแนน (91%)

อันดับ 9 ทิวา 181 คะแนน (90.5%)

อันดับ 10 บิลลี่ 180 คะแนน (90%) >

“....!!!!!?”

เสียงอื้ออึงพลันดังขึ้นจากทุกทิศทั่วห้องรับรอง เด็กหลายคนเบิกตากว้าง รีบหันไปมองหน้ากันด้วยความตื่นตะลึง ขณะที่บางคนอุทานออกมาเสียงดังด้วยความตกใจ

“สองร้อยเต็ม!!? “

ใครบางคนร้องลั่น เสียงฮือฮาดังระงมขณะที่ทุกสายตาจับจ้องไปยังชื่อที่อยู่บนสุดของกระดานคะแนน

’ เนียร์’

ฝูงชนเริ่มแตกตื่น แบบทดสอบที่จัดว่ามีระดับที่ยากแสนสาหัส กลับมีคนที่ทำได้คะแนนเต็ม ไม่มีผิดพลาดแม้แต่ข้อเดียว เรื่องแบบนี้ไม่มีทางเกิดจากความฟลุคหรือโชคช่วยได้.... “อัจฉริยะ” คำนี้ดังขึ้นในใจของหลายคนที่ยืนอยู่ตรงนั้น

“นะ..นาย..เนียร์!!! นายได้คะแนนเต็ม!!”

ไลออนตะโกนออกมาเสียงดังลั่น เขาตื่นเต้นเกินกว่าจะกระซิบได้

เสียงของเขาดังพอให้กลุ่มเด็กที่อยู่รอบข้างหันขวับมามองเป็นตาเดียวกัน ทุกคนอยากเห็นว่า อัจฉริยะคนนั้นมีหน้าตาเป็นอย่างไร เสียงซุบซิบดังอื้ออึงไปทั่วบริเวณ

“ก็ไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจอะไร”

เสียงเรียบเฉยของเนียร์ตัดผ่านเสียงอื้ออึงรอบตัว เขาไม่แสดงดีใจแม้แต่น้อย ราวกับรู้อยู่แล้วว่าผลจะออกมาเป็นแบบนี้ แทนที่จะภาคภูมิใจเขากลับรู้สึกอึดอัดกับทุกสายตาที่จับจ้องมา ก่อนที่จะเบี่ยงตัวไปหาเรย์ที่อยู่ข้างๆ ใบหน้าของอีกฝ่ายมีแววผิดหวังจางๆ

“ไม่ต้องห่วง...นายยังมีโอกาสอยู่”

เนียร์พูดขึ้นราวกับว่าเขาอ่านใจเรย์ได้ เขาหมายถึงการปลุกพลัง หากผลของการปลุกพลังเป็นที่น่าพอใจ ก็ยังมีโอกาสที่จะได้รับทุนการศึกษาและสิทธิพิเศษ

นั่นหมายความว่าคะแนนการทดสอบไม่ใช่ทุกอย่างของวันนี้

เรย์นิ่งไปชั่วขณะ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นแล้วยิ้มออกมา รอยยิ้มนั้นไม่มีความท้อแท้ปะปนแม้แต่นิด

“อืม..ฉันรู้...ยินดีด้วยนะ นายเก่งจริงๆ”

เขาพูดพร้อมกับยื่นมือไปแตะบ่าเนียร์เบาๆ

เนียร์รับรู้ได้ว่านี่ไม่ใช่การปลอบใจตัวเองแต่เป็นคำพูดที่ออกมาจากใจจริง เขาสบตาเรย์ครู่หนึ่งก่อนจะอมยิ้มบางๆ สายตาของเขามองอีกฝ่ายด้วยความสนใจมากขึ้น




ในที่สุดพิธีการหลักของวันนี้ก็กำลังจะเริ่มต้นขึ้น เด็กหนุ่มสาวกว่าหลายพันคนกำลังทยอยขึ้นไปบนชั้นดาดฟ้าตามกำหนดการที่ประกาศไว้

“ว่าแต่นายรู้อะไรเรื่องการปลุกพลังบ้างไหม? พ่อคนอัจฉริยะ?”

ไลออนเอ่ยถามพลางเหลือบมองเนียร์ที่กำลังขึ้นไปในลิฟท์แก้วขนาดใหญ่

“ถ้าไม่หยุดเรียกฉันแบบนั้น ฉันจะถีบนายออกจากลิฟท์เดี๋ยวนี้แหละ”

เนียร์ตอบเสียงเรียบ แต่ดวงตาเริ่มฉายแววหงุดหงิด

” เฮ้ เรย์..ดูหมอนี่กำลังเขินที่ถูกเรียกว่าอัจฉริยะแหละ ฮ่าฮ่าฮ่า “

ไลออนแกล้งพูดเสียงให้ดังขึ้น พลางหัวเราะอย่างอารมณ์ดี

” หนอยยย.!!! “

เนียร์กัดฟันกรอด พร้อมกับยกเท้าขึ้นขู่เตรียมตัวจะถีบใส่ไลออน

“เหวอออ...เรย์...ช่วยฉันด้วย”

” เฮ่อ......”

เรย์ส่ายหัวพลางถอนหายใจอย่างเอือมระอา ในขณะที่ลิฟท์แก้วขึ้นมาถึงชั้นดาดฟ้าโดยที่ใช้เวลาเพียงไม่นาน

ติ๊ง!!

ประตูลิฟท์เปิดออก แสงจากดวงอาทิตย์สาดเข้ามา ทำให้ทั้งสามต้องหรี่ตาลงเล็กน้อย ภาพที่ปรากฎเบื้องหน้าทำให้พวกเขาชะงักไปชั่วขณะ พื้นดาดฟ้าไม่ได้เป็นคอนกรีตหรือพื้นแข็งอย่างที่คาดไว้ มันกลับเป็นทุ่งหญ้าสีเขียวกว้างสุดลูกหูลูกตา ดอกไม้ป่าหลากสีเบ่งบานไปทั่วบริเวณ ราวกับไม่ได้อยู่บนตึกสูง แต่เป็นสวนธรรมชาติขนาดมหึมา

ที่จุดกึ่งกลางของทุ่งหญ้า เหล่าทหาร เจ้าหน้าที่ และเด็กทุกคนกำลังรวมตัวกันอยู่ แต่สิ่งที่โดดเด่นที่สุดในสายตาทุกคน คือผลึกคริสตัลเรืองแสงขนาดยักษ์ที่กำลังเปล่งประกายอยู่ตรงกลาง

“ว้าว!!...นั่นคือคริสตัลปลุกพลังใช่ไหม...เคยเห็นแต่รูปในเน็ต อลังการชะมัด “

ไลออนกำลังตื่นเต้นสุดขีด ดวงตาเป็นประกายขณะจ้องมองไปยังผลึกมหึมา เด็กหนุ่มอีกสองคนแม้จะไม่ได้พูดอะไรแต่ก็รู้สึกไม่ต่างกัน 

พลังงานลึกลับบางอย่างที่แผ่ออกมาจากคริสตัลขนาดยักษ์ ทำให้บรรยากาศรอบตัวหนักแน่น และเริ่มรู้สึกอึดอัดในเวลาเดียวกัน

“อะแฮ่ม..”

เสียงแผ่วเบาแต่ทรงอำนาจดังขึ้น ทำให้บรรยากาศทั่วชั้นดาดฟ้าเงียบลงในพริบตา

ฟอล์ค ประธานใหญ่ศูนย์กำเนิดพลังแห่งชาติ ก้าวเข้ามายืนเบื้องหน้าคริสตัลขนาดมหึมา สายตาของเขากวาดมองเหล่าเด็กหนุ่มสาวที่กำลังยืนเรียงรายอยู่

“ก่อนจะเริ่มพิธีการ...ฉันขอเชิญผู้ที่ทำคะแนนเต็มจากแบบทดสอบศักยภาพขึ้นมาด้านหน้า...เนียร์ “

“...!? คะ..ครับ!! “

เนียร์สะดุ้งโหยงเมื่อได้ยินชื่อของตัวเอง เขาเดินฝ่าฝูงชนที่พากันหลีกทางให้อย่างเงียบงัน ท่ามกลางสายตาที่จับจ้องมา

ฟอล์คหยิบเข็มกลัดรูปคริสตัลขึ้นมาติดลงบนหน้าอกของเขา ก่อนจะประกาศด้วยน้ำเสียงหนักแน่น

“ขอแสดงความยินดี เธอคือผู้ทำคะแนนเต็ม 200 คะแนน เพียงคนเดียวในรอบ 20 ปี”

” ....!!!! “

‘ยะ..ยี่สิบปี!? สุดยอดด!!’

เสียงฮือฮาดังกระหึ่มไปทั่ว ผู้คนต่างมองเขาด้วยความยินดีและอิจฉาไปพร้อมกัน เนียร์ที่ยังไม่ทันได้ตั้งตัวได้แต่โค้งคำนับรับเข็มกลัด ก่อนจะรีบเดินกลับไปยังที่เดิม

ฟอล์คมองไล่หลังเด็กหนุ่มด้วยสีหน้าพึงพอใจก่อนจะกล่าวต่อ

“เนียร์จะได้เข้าเรียนที่ ไอโอนิค อคาเดมี่ โดยไม่ต้องสอบเข้า พร้อมทุนเรียนฟรีตลอดการศึกษา และจะได้รับสิทธิพิเศษทุกอย่างภายในโรงเรียน “

เสียงปรบมือพลันดังก้อง

“สำหรับผู้ที่ทำคะแนนเกิน 90% ทุกคนจะได้เข้าเรียนโดยไม่ต้องสอบ และได้ทุนเรียนฟรีตลอดการศึกษาเช่นกัน แต่จะไม่ได้รับสิทธิพิเศษเช่นเดียวกับเนียร์”

สิ้นคำประกาศ เสียงปรบมือพลันดังก้องขึ้นเป็นรอบที่สอง

ฟอล์คเงียบไปชั่วอึดใจ ก่อนจะกล่าวต่อด้วยน้ำเสียงเข้มขรึม

“ต่อไป จะเข้าสู่พิธีการการปลุกพลัง ฟังให้ดี ฉันจะพูดเพียงครั้งเดียว “

เด็กทุกคนเงียบกริบและตั้งใจฟังอย่างใจจดใจจ่อ

“เป็นที่รู้กันว่า มนุษย์ทุกคนจะต้องถูกปลุกพลังเมื่ออายุครบ 15 ปี ตามกฎหมาย จากนี้ไป เจ้าหน้าที่จะทำการแจกอุปกรณ์วัดพลัง ให้ทุกคนสวมใส่ที่ข้อมือทันทีที่ได้รับ “

เจ้าหน้าที่กว่าร้อยนายได้ทำการเดินแจกอุปกรณ์ลักษณะคล้ายกำไล เด็กทุกคนรับไปสวมใส่โดยไม่อิดออด ก่อนที่ฟอล์คจะกล่าวต่อ

” ผลึกเรืองแสงนี้คือคริสตัลปลุกพลัง เมื่อส่งพลังมานาเข้าไป มันจะปลุกมานาของทุกคนที่อยู่ในอาณาเขตโดยรอบในคราวเดียว จากนั้น อุปกรณ์วัดพลังจะทำงานอัตโนมัติ โดยพลังที่วัดจะแบ่งออกเป็นสองส่วน “

เด็กทุกคนเงี่ยหูฟังอย่างตั้งใจ

” ส่วนแรกคือ ระดับมานา ค่าพลังนี้จะติดตัวไปจนวันตาย ไม่มีเพิ่มหรือลด แบ่งออกเป็น 5 ระดับ “

ฟอล์คกวาดตามองเด็กๆ ก่อนจะเริ่มอธิบาย

• 100-299 : ออร่าจะเป็นสีขาว มีวงแหวนเวทมนตร์ได้สูงสุด 1-2 วง เหมาะสำหรับคนทั่วไป ไม่เหมาะที่จะต่อสู้

 • 300-499 : ออร่าสีเหลืองหรือสีฟ้า มีวงแหวนได้สูงสุด 3-4 วง เหมาะสำหรับนักรบแนวหลัง

 • 500-699 : ออร่าสีส้มหรือสีเขียว มีวงแหวนได้สูงสุด 5-6 วง เหมาะสำหรับนักรบแนวหน้า

 • 700-899 : ออร่าสีแดงหรือสีม่วง มีวงแหวนได้สูงสุด 7-8 วง บุคคลระดับนี้พบได้น้อยมาก

 • 900+ : ออร่าสีทองอร่าม มีวงแหวนได้สูงสุด 9 วง นี่คือระดับสูงสุดที่มนุษย์เคยมี และในปัจจุบันประเทศของเราพบแค่เพียงคนเดียวที่มีระดับนี้...ซิกซ์ บุคคลที่เรารู้จักกันดี

ทันใดนั้น เด็กสาวคนหนึ่งยกมือขึ้นถาม

” แล้วถ้าคนที่มีมานาต่ำกว่า 100 ล่ะคะ? “

บรรยากาศพลันเงียบงัน ก่อนที่ฟอล์คจะตอบเสียงเรียบ

“...พวกเขาจะเสียชีวิตทันทีที่ปลุกพลัง”

เสียงฮือฮาดังขึ้น บางคนหน้าถอดสี ขณะที่บางคนนิ่งเฉยราวกับรู้อยู่แล้ว

“แต่ไม่ต้องกังวล โอกาสพบมนุษย์ที่มีมานาต่ำกว่า 100 นั้นแทบเป็นไปไม่ได้ เพราะพวกเขามักจะเสียชีวิตไปตั้งแต่กำเนิด”

เด็กหลายคนถอนหายใจโล่งอก เมื่อฟอล์คเห็นดังนั้นจึงกล่าวต่อ

“ส่วนที่สองของการวัดพลังคือ แก่นหัวใจเวทมนตร์ หรือที่เราเรียกกันว่า’ วิซ ‘พูดอย่างง่ายๆ มันคือ พลังความสามารถเฉพาะตัวของแต่ละคน ซึ่งพบได้ยากมาก หากมีวิซ อุปกรณ์วัดพลังจะแสดงตัวอักษรบนหน้าจอโดย ระดับความสามารถของวิซ จะแบ่งออกเป็น 5 ระดับ “

• ระดับ D ความสามารถทั่วไป แต่ไม่เหมาะสมในการต่อสู้ เช่น การเปลี่ยนวัตถุเล็กๆ ให้เป็นของอย่างอื่นชั่วคราว หรือการเร่งการเจริญเติบโตของพืชได้เล็กน้อย

• ระดับ C ความสามารถที่มีประโยชน์และสามารถใช้ในสถานการณ์จริงได้ เช่น การมองเห็นในที่มืด การเคลื่อนย้ายวัตถุเบาๆ ด้วยมานา

• ระดับ B ความสามารถระดับสูง เช่น การเสริมพลังร่างกายให้แข็งแกร่งขึ้นชั่วคราว หรือการเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูง วิซระดับนี้เริ่มมีความโดดเด่น และหากฝึกฝนให้ดี อาจเทียบเคียงระดับ A ได้

• ระดับ A ความสามารถระดับทรงพลังที่พบได้ยากยิ่ง เช่น การควบคุมกาลเวลาในระยะสั้น การสร้างภาพลวงตาที่แทบแยกไม่ออกจากความจริง

• ระดับ S ความสามารถระดับนี้ หมายถึงระดับที่ ‘ไม่สามารถประเมินค่าได้’ เครื่องตรวจวัดพลังจะไม่สามารถแสดงผลลัพท์ที่แน่ชัดออกมา บางครั้งอาจขึ้นเป็น ‘ข้อผิดพลาด ‘หรือ ‘ไม่สามารถวิเคราะห์ได้’ เนื่องจากวิซระดับ S มีความเฉพาะตัวอย่างสุดขั้ว จนไม่สามารถจัดให้อยู่ในขอบเขตของพลังปกติได้

” ระดับของวิซไม่เพียงแต่กำหนดโดยพลังของมันเท่านั้น แต่ยังขึ้นอยู่กับศักยภาพและการใช้งานจริงของผู้ครอบครองด้วย ปัจจุบันมีคนไม่ถึง 100 คนที่ได้รับการยืนยันว่ามีวิซระดับ S “

เด็กๆ ทั่วชั้นดาดฟ้าต่างแสดงสีหน้ามุ่งมั่น พวกเขาหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้รับพลังระดับสูง และกลายเป็นบุคคลสำคัญต่อประเทศในอนาคต

ฟอล์คกวาดตามองด้วยความพึงพอใจ ก่อนจะกล่าวต่อ

“ระดับของ ‘วิซ’ และ ‘มานา’ ที่อยู่ในตัวของแต่ละคนนั้นจะแยกขาดกันอย่างสิ้นเชิง หมายความว่าผู้ที่ครอบครองวิซระดับสูง อาจมีพลังมานาระดับต่ำ ในขณะที่บางคนที่มีมานาอันแข็งแกร่ง อาจไม่มีวิซอยู่ในตัวเลยก็ได้ “

ทันใดนั้นเจ้าหน้าที่กำลังสวมเครื่องวัดพลังคนหนึ่งเดินออกมาด้านหน้า เขามีตัวเลข 438 พร้อมออร่าสีเหลืองปรากฎเหนือศีรษะ ขณะที่หน้าจอของเครื่องวัดพลัง แสดงตัวอักษร A

” จากตัวอย่าง เจ้าหน้าที่ผู้นี้มีมานา 438 มีวงแหวน เวทมนตร์ 4 วง และ...เขามีวิซ ระดับ A”

ขณะที่เด็กๆ มองด้วยความสนใจ เจ้าหน้าที่ก็ใช้มีดกรีดแขนตัวเองจนเป็นแผลลึก

” ...!!! “

เด็กหลายคนสะดุ้งโหยง บางคนถึงกับอ้าปากค้าง

ออร่าของเจ้าหน้าที่พลันขยายตัวออก วงแหวนเวทมนตร์สีเหลืองเป็นประกายปรากฎขึ้นด้านหลัง

“วิซของเขาคือ การรักษา”

เจ้าหน้าที่เพียงวางมือลงบนแผล เพียงพริบตาเดียว มันก็สมานกันอย่างไร้ร่องรอย

เสียงฮือฮาพลันดังขึ้นอีกครั้ง

ฟอล์คพยักหน้าพอใจ ก่อนจะกล่าวต่อ

” ถ้าทุกคนเข้าใจแล้ว...”

ฟอล์คกวาดมือออกไปด้านหน้า พลังมานาสีแดงแผ่กระจายออกจากร่าง ก่อตัวเป็นวงแหวนเวทมนตร์ 7 วงโอบล้อมรอบกาย ราวกับเปลวเพลิงที่มีชีวิต

วูมมมมมม--!

บาเรียโปร่งแสงขนาดมหึมาพลันปรากฎครอบคลุมทั่วบริเวณดาดฟ้า ลวดลายอักขระเปล่งแสงเรืองรอง พลิ้วไหวราวกับกำลังเต้นรำตามการสั่งการของเขา

ฟอล์คสูดลมหายใจเข้าลึก ก่อนที่จะนำมือไปสัมผัสกับคริสตัลที่อยู่ตรงหน้า

ครืนนนนนน....!

แรงกดดันแผ่ซ่าน ลมกรรโชกพัดแรงจนเสื้อผ้าของเด็กๆ พลิ้วไหวไปตามกระแส พวกเขากลืนน้ำลายลงคออย่างฝืดเคือง

ซู่มมมมมมม--!!!

เสียงดังกึกก้องสะท้อนทั่วชั้นดาดฟ้า แรงสั่นสะเทือนกระเพื่อมไปทั่วบริเวณ คลื่นพลังงานมหาศาลระเบิดออกเป็นวงกว้าง ราวกับการปะทุของภูเขาไฟที่ไร้ซึ่งความปราณี

บัดนี้ พิธีปลุกพลัง...ได้เริ่มขึ้นแล้ว