“เขาคือเด็กหนุ่มเพียงคนเดียวที่มีค่ามานาเป็นศูนย์ ท่ามกลางผู้ใช้เวทนับล้าน ในโลกที่พลังคือทุกสิ่ง… เขาจะล้มล้างทุกกฎที่ขวางทางเพื่อไต่ขึ้นไปสู่จุดสูงสุด”

Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง - ตอนที่ 11 เสียงคำรามจากเงามืด โดย TENTENs @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

แฟนตาซี,แอคชั่น,ผจญภัย,ยุคปัจจุบัน,ไทย,โรงเรียนเวทมนตร์,พระเอกเทพ,เทพ ,พลังวิเศษ,พระเอกเก่ง,เวทมนตร์,ผจญภัย,แฟนตาซี,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

แฟนตาซี,แอคชั่น,ผจญภัย,ยุคปัจจุบัน,ไทย

แท็คที่เกี่ยวข้อง

โรงเรียนเวทมนตร์,พระเอกเทพ,เทพ ,พลังวิเศษ,พระเอกเก่ง,เวทมนตร์,ผจญภัย,แฟนตาซี

รายละเอียด

Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง โดย TENTENs @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

“เขาคือเด็กหนุ่มเพียงคนเดียวที่มีค่ามานาเป็นศูนย์ ท่ามกลางผู้ใช้เวทนับล้าน ในโลกที่พลังคือทุกสิ่ง… เขาจะล้มล้างทุกกฎที่ขวางทางเพื่อไต่ขึ้นไปสู่จุดสูงสุด”

ผู้แต่ง

TENTENs

เรื่องย่อ

ในโลกที่มานาคือทุกสิ่ง มันเป็นพลังที่มีไว้เพื่อต่อสู้ ดำรงอยู่ และไต่ขึ้นสู่จุดสูงสุด

แต่เขากลับเป็นมนุษย์คนเดียวที่มีพลังมานาเท่ากับศูนย์

ใช่...ฟังไม่ผิด เท่ากับศูนย์

ไร้พลัง และอ่อนแอ

ในขณะที่ผู้แข็งแกร่งไขว่คว้าหาอำนาจ เขาทำได้เพียงแค่เดินอยู่ในเงามืด

เส้นทางของเขา ไม่ได้เริ่มต้นจากแสงสว่าง

แต่มันจะจบลง…ด้วยการสะเทือนไปทั้งโลก

“ไม่มีมานา…แล้วยังไงล่ะ?”



สวัสดีครับ TENTENs ครับ

ขอเล่าเรื่องตัวเองนิดหน่อยนะครับ

ผมมีความฝันอยากเขียนนิยายมานานแล้ว ถึงจะเคยลองเขียนแล้วอ่านเองอยู่บ้าง แต่ก็ไม่มีความกล้าที่จะให้ใครอ่านสักที 


จนในที่สุดก็ตัดสินใจที่จะเขียนเรื่องนี้ขึ้นมา เป็นเรื่องใหม่ที่เขียนเองแต่งเองทั้งหมด ด้วยความตั้งใจจริงมากๆ หวังว่าทุกคนจะชอบกันนะครับ


โดยนิยายเรื่องนี้ เป็นนิยายรายตอนที่จะมีเนื้อเรื่องที่ยาวพอสมควร ผมจะพยายามอัพตอนใหม่ให้ได้ อาทิตย์ละ 3 ตอน เป็นอย่างน้อย ด้วยความที่ภาระหน้าที่ค่อนข้างเยอะ อาจจะเขียนได้ช้าไปบ้าง แต่สัญญาว่าจะไม่มีวันหยุดเขียน ตราบใดที่ยังมีคนรออ่านอยู่ แม้เพียงคนเดียวก็ตามครับ


ด้วยความที่ผมเป็นมือใหม่ ถ้าผิดพลาดอะไรตรงไหน ต้องขออภัยมากๆ และสามารถติชมกันได้เต็มที่เลยนะครับ


ขอฝากนิยายเรื่องนี้ไว้ในหัวใจทุกคนด้วยนะครับ ขอบคุณครับ


สารบัญ

Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-บทนำ Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 1 รถหรู กับ รถพัง,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 2 เด็กผู้ทำคะแนนเต็ม,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 3 เด็กเก้าวงแหวน กับ เด็กผู้ไร้มานา,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 4 ฉันรู้สึกได้,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 5 พลังตรวจจับ?,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 6 เหมืองร้าง,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 7 ดวงวิญญาณปริศนา,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 8 ฉันจะไปฝึกวิชา,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 9 การต่อสู้ที่ไม่คาดฝัน,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 10 มานาจากธรรมชาติ,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 11 เสียงคำรามจากเงามืด,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 12 พลังสีดำ,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 13 มนุษย์ถ้ำ,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 14 เวลาแห่งการล่า,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 15 ไอโอนิค,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 16 การสอบรอบที่ 1,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 17 การสอบรอบที่ 2,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 18 เพียงวูบเดียว,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 19 การสอบรอบที่ 3,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 20 ม่านหมอก,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 21 มาสู้กับผมสิ,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 22 สัตว์ป่า,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 23 โพรงลึก,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 24 ประตูสู่ไอโอนิค,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 25 ห้องแห่งการประเมิน,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 26 ขีดจำกัด,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 27 มานาธาตุ,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 28 เปลวไฟ,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 29 วงแหวน,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 30 การต่อสู้ระยะใกล้,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 31 ดาบไร้คม,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 32 เรมไนร์,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 33 ประกาศิต,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 34 ชีวิตแลกชีวิต,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 35 ความฝัน,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 36 กริฟฟอน,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 37 สัตว์ประหลาด,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 38 แสงสว่างท่ามกลางสายฝน,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 39 หุบเหว,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 40 คืนที่ไร้ดวงดาว,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 41 ประกายสีดำ,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 42 เพลิงดับสูญ,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 43 อาร์คดูเอล,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 44 ใต้แสงจันทร์,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 45 วงแหวนของไลออน,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 46 การยืนหยัดของผู้ไร้พรสวรรค์,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 47 ก้าวแรกที่ผ่านพ้น,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 48 งานเทศกาลของซิกซ์,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 49 ผู้ครอบครองวงแหวนทั้งเก้า,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 50 สนามรบที่แท้จริง,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 51 เมื่อแสงหมดสิ้น...ความมืดจึงเผยตัว,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 52 ผู้ยืนอยู่เหนือซากบัลลังก์,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 53 หน้ากากซอมบี้,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 54 พลังอสูร?,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 55 กลับบ้าน,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 56 เหนือฟ้ายังมีฟ้า,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 57 เด็กหญิงผู้ไม่เคยได้ยินเสียงเพลง,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 58 เทพเจ้า,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 59 มงกุฎแห่งเอไลเซร่า,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 60 วงแหวนที่สอง,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ตอนที่ 61 หาง,Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง-ประกาศสำคัญ จากผู้เขียน

เนื้อหา

ตอนที่ 11 เสียงคำรามจากเงามืด

ยี่สิบกว่าวันผ่านล่วงเลยไปอย่างเงียบเชียบในเหมืองร้างที่ไม่มีใครเหยียบย่าง

เปลวไฟจากกองฟืนลุกโชนอย่างมั่นคง เงาของเด็กหนุ่มสะท้อนบนผนังหินสลับไหวไปมากับแสงไฟ ทุกการขยับมือ ขยับเท้า ล้วนแสดงถึงความเคยชินที่ค่อยๆ ก่อตัวขึ้นทีละน้อย

เสียงฝ่ามือกระทบพื้นหินดังเป็นจังหวะ ก่อนที่มันจะหยุดลงในที่สุด เรย์พลิกตัวนั่ง ยกชายเสื้อที่ขาดวิ่นเช็ดเหงื่อจากใบหน้า เศษฝุ่นและเขม่าดำเปื้อนไปทั่วร่างกาย ลมหายใจหอบเล็กน้อยจากการวิดพื้นชุดสุดท้ายของวัน

ภายใต้แสงไฟ ร่างกายของเขาดูเปลี่ยนไปอย่างชัดเจน

แม้ยังไม่มีกล้ามเนื้อแน่นชัด แต่ก็เริ่มมีเค้าโครงของเส้นสายที่คมขึ้นบนแขนและแผ่นอก กล้ามเนื้อหน้าท้องแข็งตึงเล็กน้อยจากการฝึกต่อเนื่อง

เส้นผมสีดำยุ่งเหยิง รุงรังเกินกว่าจะจัดทรง เสื้อสีซีดตัวเก่าแทบไม่เหลือสภาพเดิม กางเกงขายาวถูกตัดเป็นสามส่วนด้วยมีดพก แผ่นผ้าหนังสัตว์ที่คลุมไหล่ไว้กันหนาวก็เริ่มมีกลิ่นสาบจางๆ

ถ้ามีใครเดินผ่านมาเห็นในเวลานี้ คงคิดว่าเขาเป็นคนป่าจากเผ่าลับที่อาศัยอยู่ในถ้ำมืดลึก

เขานั่งนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง ปล่อยให้กล้ามเนื้อที่สั่นระริกค่อยๆ ผ่อนคลาย ก่อนจะหยิบไม้เสียบเนื้อขึ้นมาอย่างไม่รีบร้อน เป็นแถบเนื้อหมูป่าที่แล่บาง ตากแดดไว้จนแห้งได้ที่ เรย์ยื่นมันเหนือกองไฟให้ความร้อนซึมเข้าเนื้อช้าๆ กลิ่นหอมจางๆ เริ่มลอยอบอวลไปทั่วโถงหิน

เขารอจนผิวเนื้อด้านนอกเริ่มกรอบ ก่อนจะยกมันขึ้นมาช้าๆ แล้วกัดเข้าปลายไม้ รสชาติกลมกล่อมของไขมันที่แทรกอยู่ในชั้นเนื้อผสมกับกลิ่นรมควันของฟืนเก่า ความหอมอบอวลกระจายไปทั่วทั้งปาก

[ห่วยแตกชิบ...!!]

เสียงของเรมไนร์ดังขึ้นทำลายบรรยากาศอันเงียบสงบ

‘...หะ?’

[รสชาติของมัน...โคตรจะห่วยแตก!!]

‘หมายความว่าไง!? นี่นายได้รสชาติจากอาหารที่ฉันกินด้วยเหรอ?’

[ก็ใช่น่ะสิ!]

‘หาาา!? แล้วทำไมเพิ่งจะมาบอก?’

[เพราะข้าทนต่อไปไม่ไหวแล้ว!!...หมูป่า! หมูป่า! หมูป่า! เจ้ากินแต่หมูป่ารสชาติห่วยแตกมาจะครบเดือนแล้ว กลิ่นสาปของมันจะขึ้นสมองข้าอยู่แล้ว!!]

เรย์กลืนเนื้อหมูป่าย่างชิ้นสุดท้ายอย่างฝืดคอ ก่อนจะหยิบสมาร์ทโฟนขึ้นมาตอบข้อความของแม่

แม่ : อย่าลืมกินข้าวเช้านะลูก

เรย์ : ผมกินเรียบร้อยแล้วครับ

เป็นเรื่องดีที่สมาร์ทโฟนรุ่นเก่าของเขายังสามารถชาร์จพลังงานจากแสงอาทิตย์ได้ทำให้เขายังไม่ขาดการติดต่อจากโลกภายนอก

เขาลุกยืนอย่างมั่นคงพร้อมกับเตรียมมีดและธนูเข้ากับสายคล้องที่เอว

‘งั้นวันนี้เราไปล่าพวกไก่ป่าหรือจับปลากันไหม?’

[สามวันก่อนก็กินไปแล้วไง ไม่มีอย่างอื่นที่มีรสชาติหรือไง? รสชาติน่ะ!!]

เรย์ออกเดินไปในทางมืดมิดพลางถอนหายใจยาว

‘นายนี่ขี้บ่นแล้วก็เรื่องมากชะมัด’

เรมไนร์เงียบไปสักพักก่อนจะถามขึ้นด้วยน้ำเสียงเบื่อหน่าย

[วันๆ เจ้าเอาแต่ล่าสัตว์แล้วก็ออกกำลังกาย ไม่คิดว่าที่ทำทั้งหมดนี่มันไร้ประโยชน์หรือไง?]

‘แล้วนายคิดว่าฉันต้องทำอะไรอีก? เวทมนตร์ก็ฝึกไม่ได้ ฉันก็ทำได้เท่านี้แหละ’

[ไปล่ามอนสเตอร์ซะสิ!]

เรย์กลืนน้ำลายลงคอก่อนจะตอบ

‘แถวนี้ไม่มีมอนสเตอร์ให้ล่าหรอกนะ แล้วฉันก็ยังไม่มีความคิดที่จะตายตอนนี้’

[เจ้าไม่ตายหรอกน่า...ถึงแม้ว่าเจ้าจะอ่อนเหมือนขยะเปียก แต่ถ้าเป็นมอนสเตอร์กระจอกๆ ในตอนนี้เจ้าก็สู้มันได้สบาย]

‘...แล้วฉันจะหามอนสเตอร์กระจอกๆ จากไหน?’

[เรื่องนั้นให้ข้าจัดการเอง...]

ทันใดนั้น เรย์รู้สึกถึงอะไรบางอย่าง เขาชะงักลงในทันที ก่อนจะถามด้วยน้ำเสียงแตกตื่น

‘นะ...นั่นอะไร!?’

[อะ...อะไร?]

‘ฉันรู้สึกถึงมอนสเตอร์บางอย่างจากข้างนอก...ฝีมือนายเหรอ!?’

[ไม่ใช่...ในตอนนี้ข้าทำแบบนั้นไม่ได้หรอก!]

เรย์เบิกตากว้าง ก่อนจะรีบกลับตัววิ่งออกไปในทางออกหลักของเหมืองอย่างรวดเร็ว

ด้วยความชำนาญเส้นทางของเขา ใช้เวลาเพียงไม่นานก็มาถึงที่หน้าทางเข้าเหมืองหลัก เขารีบซ่อนตัวที่ซอกหินข้างๆ ก่อนจะมองออกไป

มีทหารติดอาวุธเพียงแค่ 4 นาย ที่กำลังประจำการอยู่หน้าทางเข้า เสียงของทหารพูดคุยกันพลันรอดผ่านเข้ามา

“ฉันได้ยินมาว่าเขาจะลดจำนวนการเฝ้าระวังลงอีก...เห็นว่าจะให้ประจำแค่จุดละสองคน”

ทหารนายหนึ่งพูดขึ้นก่อนที่ทหารอีกนายจะตอบอย่างยอมรับไม่ได้

“ไร้สาระชะมัด! สี่คนยังน้อยไม่พอหรือไง...พวกเจ้าหน้าที่รัฐก็หายหัวไปหลายวัน หรือพวกเขาคิดจะล้มเลิกการสำรวจเหมืองนี่แล้วงั้นเหรอ?”

ทหารอีกสองนายพูดเสริมในทันที

“ก็ไม่แปลก...ในเหมืองมีกับดักอันตรายเพียบ ได้ยินว่ากลุ่มสำรวจที่ถูกส่งเข้าไปล่าสุดก็ตายหมด”

“ถ้าคิดจะล้มเลิกก็ถอนกำลังให้หมดสิวะ!! จะให้มาอยู่ที่อันตรายแบบนี้ทำไม ถ้ามีมอนสเตอร์โผล่ออกมาเราจะไม่ตายกันหมดเหรอ?”

“เฮ้ยย!...อย่าพูดเป็นลางสิวะ!!”

แซ่กกก...

เสียงบางอย่างพลันดังขึ้นมาจากในป่าทึบด้านข้าง ทหารทั้งสี่สะดุ้งเฮือกในทันที

“นะ...นั่นอะไร?”

“...!!?”

จากเงามืดของพงไม้ ท่ามกลางเสียงนกที่เงียบลงอย่างฉับพลัน…มันก้าวออกมา

สิ่งมีชีวิตร่างมหึมา เงาทะมึนที่บดบังแสงอาทิตย์พลันคืบคลานปกคลุมไปทั่วบริเวณ เหล่าทหารต่างเงยหน้ามองกันเป็นตาเดียว

มันสูงราวห้าเมตร ร่างกายเต็มไปด้วยมัดกล้ามสีเขียวคล้ำราวกับตะไคร่น้ำจับหิน พื้นผิวขรุขระหยาบกร้านเหมือนเปลือกไม้เก่าๆ ที่ถูกฝนซัดลมกัดมาหลายสิบปี ขนสีน้ำตาลดำรุงรังแซมอยู่ตามแผ่นหลังและหัวไหล่ มันส่ายหัวช้าๆ เผยให้เห็นใบหน้าบิดเบี้ยวเหมือนเศษหินที่ถูกเซาะจนเสียรูป

ดวงตาเล็กสีเหลืองเรืองแสงสลัว ราวกับสัตว์ป่าที่หิวกระหาย มันกวาดตามองกลุ่มทหารด้วยรอยยิ้มเหี้ยมเกรียม ปากกว้างจนถึงใบหู อ้ารับฟันเขี้ยวหยักที่เหมือนงาช้างบิดงอ เล็บดำหนาเท่าใบมีดขวานมันวาว

ทุกย่างก้าวที่มันเดิน รู้สึกได้ถึงการสั่นสะเทือนของพื้นดินอย่างชัดเจน

โฮ่กกกกกก...!!!

เสียงร้องโหยหวนแผดสะท้อนไปทั่วบริเวณ กลุ่มทหารต่างตื่นตระหนกไปด้วยความหวาดกลัวสุดขีดทหารบางนายทรุดลงกับพื้นโดยไม่รู้ตัว

“ทะ...โทรลล์...!!!?”

ยังไม่ทันสิ้นเสียงตะโกน ฝ่าเท้าขนาดมหึมาก็เหยียบลงบนร่างของทหารที่กำลังนั่งทรุดลงกับพื้นอย่างจัง

กร๊อบ...!! แผละ...!!

ร่างของเขาถูกบดขยี้ราวกับซากเนื้อแหลกเละใต้ส้นเท้า เศษเลือดเนื้อกระเซ็นใส่ใบหน้าอันสิ้นหวังของทหารที่อยู่รอบข้าง

“อ๊ากกก..!!!”

ทหารนายหนึ่งกรีดร้องอย่างบ้าคลั่งพร้อมกับหยิบปืนกลหนักที่สะพายอยู่ขึ้นมา

ปัง! ปัง! ปัง! ปัง!...

แต่กระสุนเหล่านั้นไม่ระคายผิวหนังของมอนสเตอร์ยักษ์เลยแม้แต่น้อย

มันใช้มือใหญ่ยักษ์คว้าร่างของทหารผู้นั้นขึ้นมาถือไว้ พร้อมกับอ้าปากกว้างเตรียมจะเขมือบ

กร๊อบบ...

กระดูกที่แตกยับเยินจากแรงบีบทำให้เขาขยับร่างกายไม่ได้แม้แต่น้อย ดวงตาแห่งความสิ้นหวังพลันไร้แววขณะรอความตายที่ใกล้เข้ามา

ทันใดนั้น...

ฉึก!

ลูกธนูไม้ปริศนาพุ่งเข้าเสียบภายในช่องปากของมอนสเตอร์ยักษ์อย่างพอดี

แม้จะไม่ได้ส่งผลอะไรแต่ก็เพียงพอต่อการทำให้มันสนใจ

มันปล่อยทหารลง แล้วหันมาในทิศทางที่ลูกธนูถูกยิงออกมาพร้อมกับคำรามกึกก้อง

โฮกกกกก...!!

[เจ้าทำบ้าอะไร!? โง่หรือเปล่า!? หนีไปซะ!!]

เรมไนร์โพล่งขึ้นอย่างหัวเสีย เรย์กลืนน้ำลายก่อนจะพูดในใจด้วยความสั่นกลัว

‘ฉะ...ฉันปล่อยให้พวกเขาตายไม่ได้...!!’

เรย์วางธนูลงด้วยมือสั่นเทา ก่อนจะหยิบมีดขึ้นมา แล้วเดินออกมาจากเงามืด

ทหารทั้งสามหันขวับมามองชายแปลกหน้า เสื้อผ้าขาดรุ่งริ่ง ผมเผ้ารกรุงรัง และมีสภาพทรุดโทรมจนแทบไม่เชื่อสายตา

พวกเขาหันมาสบตากันราวกับต้องการคำตอบจากใครสักคน ทั่วทั้งร่างกายยังสั่นระริกไปด้วยความหวาดกลัว ในสมองมีแต่ความว่างเปล่า

เรย์พลันตะโกนขึ้นท่ามกลางความตึงเครียด

“ยืนบื้อกันอยู่ทำไม!? หนีไปซะ!! แล้วไปตามคนมาช่วย!!”

“...คะ...ครับ!!”

กลุ่มทหารพลันตั้งสติได้ในทันที สองคนที่ยังมีสภาพดีประคองทหารที่บาดเจ็บก่อนจะหนีออกไป พร้อมส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือ




ณ ห้องปฏิบัติการของรัฐบาลกลาง

“สัญญาณฉุกเฉินครับ!!”

ท่ามกลางความวุ่นวายของการทำงาน เจ้าหน้าที่นายหนึ่งวิ่งพรวดเข้ามาในห้องควบคุม

“เกิดอะไรขึ้น!?”

ชายผู้เป็นหัวหน้าห้องปฏิบัติการลุกขึ้นถามด้วยสีหน้าตื่นตระหนก

“พบมอนสเตอร์ขนาดใหญ่ ในเขตเรดโซนที่เหมืองทางตอนใต้ครับ”

“เหมืองเจ้าปัญหานั่นอีกแล้วเหรอ!?”

“ในรายงานระบุว่าเป็นโทรลล์ครับ หน่วยที่อยู่ใกล้เคียงกำลังเตรียมอาวุธเข้าจู่โจมแล้วครับ!”

“ติดต่อคุณอัลล์เดี๋ยวนี้! เราต้องการกำลังเสริมจากแนวหน้า!!”

“ครับ! แต่เนื่องจากเป็นเหตุฉุกเฉิน คุณอัลล์น่าจะกำลังออกเดินทางไปด้วยตัวเองอยู่ครับ!”

“แล้วรายงานผู้เสียชีวิตล่ะ?”

“มีทหารที่ประจำจุด เสียชีวิตหนึ่งรายครับ โดยอีกสามรายหลบหนีออกมาได้เพราะการช่วยเหลือจากชายปริศนาครับ!”

“ชายปริศนา!? ใครกัน!?”

“ปะ...เป็นมนุษย์ถ้ำครับ!!”

“มนุษย์ถ้ำ...?”

คิ้วทั้งสองขมวดเข้าหากันแน่น เขาทวนคำช้าๆ อย่างไม่แน่ใจว่าตนได้ยินถูกต้องหรือไม่