“เขาคือเด็กหนุ่มเพียงคนเดียวที่มีค่ามานาเป็นศูนย์ ท่ามกลางผู้ใช้เวทนับล้าน ในโลกที่พลังคือทุกสิ่ง… เขาจะล้มล้างทุกกฎที่ขวางทางเพื่อไต่ขึ้นไปสู่จุดสูงสุด”
แฟนตาซี,แอคชั่น,ผจญภัย,ยุคปัจจุบัน,ไทย,โรงเรียนเวทมนตร์,พระเอกเทพ,เทพ ,พลังวิเศษ,พระเอกเก่ง,เวทมนตร์,ผจญภัย,แฟนตาซี,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
Mana Zero : กำเนิดราชันไร้พลัง“เขาคือเด็กหนุ่มเพียงคนเดียวที่มีค่ามานาเป็นศูนย์ ท่ามกลางผู้ใช้เวทนับล้าน ในโลกที่พลังคือทุกสิ่ง… เขาจะล้มล้างทุกกฎที่ขวางทางเพื่อไต่ขึ้นไปสู่จุดสูงสุด”
ในโลกที่มานาคือทุกสิ่ง มันเป็นพลังที่มีไว้เพื่อต่อสู้ ดำรงอยู่ และไต่ขึ้นสู่จุดสูงสุด
แต่เขากลับเป็นมนุษย์คนเดียวที่มีพลังมานาเท่ากับศูนย์
ใช่...ฟังไม่ผิด เท่ากับศูนย์
ไร้พลัง และอ่อนแอ
ในขณะที่ผู้แข็งแกร่งไขว่คว้าหาอำนาจ เขาทำได้เพียงแค่เดินอยู่ในเงามืด
เส้นทางของเขา ไม่ได้เริ่มต้นจากแสงสว่าง
แต่มันจะจบลง…ด้วยการสะเทือนไปทั้งโลก
“ไม่มีมานา…แล้วยังไงล่ะ?”
สวัสดีครับ TENTENs ครับ
ขอเล่าเรื่องตัวเองนิดหน่อยนะครับ
ผมมีความฝันอยากเขียนนิยายมานานแล้ว ถึงจะเคยลองเขียนแล้วอ่านเองอยู่บ้าง แต่ก็ไม่มีความกล้าที่จะให้ใครอ่านสักที
จนในที่สุดก็ตัดสินใจที่จะเขียนเรื่องนี้ขึ้นมา เป็นเรื่องใหม่ที่เขียนเองแต่งเองทั้งหมด ด้วยความตั้งใจจริงมากๆ หวังว่าทุกคนจะชอบกันนะครับ
โดยนิยายเรื่องนี้ เป็นนิยายรายตอนที่จะมีเนื้อเรื่องที่ยาวพอสมควร ผมจะพยายามอัพตอนใหม่ให้ได้ อาทิตย์ละ 3 ตอน เป็นอย่างน้อย ด้วยความที่ภาระหน้าที่ค่อนข้างเยอะ อาจจะเขียนได้ช้าไปบ้าง แต่สัญญาว่าจะไม่มีวันหยุดเขียน ตราบใดที่ยังมีคนรออ่านอยู่ แม้เพียงคนเดียวก็ตามครับ
ด้วยความที่ผมเป็นมือใหม่ ถ้าผิดพลาดอะไรตรงไหน ต้องขออภัยมากๆ และสามารถติชมกันได้เต็มที่เลยนะครับ
ขอฝากนิยายเรื่องนี้ไว้ในหัวใจทุกคนด้วยนะครับ ขอบคุณครับ
หลังจากเหตุการณ์วุ่นวายในวันนั้น เรย์เดินออกมาถึงหน้าแผนกต้อนรับของศูนย์กำเนิดพลัง เขาหยิบสมาร์ทโฟนขึ้นมา หน้าจอโฮโลแกรมโปร่งใสฉายเวลาขึ้นมาทันที รูปร่างของมันบางเฉียบไร้รอยต่อ
‘จะมืดแล้วเหรอเนี่ย’
เขาเปิดฟังก์ชันการโทร ก่อนที่จะชะงักเมื่อพบว่า สายที่ไม่ได้รับมีมากกว่า 20 สาย ทั้งหมดมาจากพ่อแม่และน้องสาวน้องเขา เรย์กำลังจะกดโทรกลับ ทว่ามีเสียงของใครบางคนดังขึ้น
“โทรศัพท์รุ่นดึกดำบรรพ์นั่นมันอะไร?”
เด็กหนุ่มผมเทาหม่น พูดขึ้นด้วยใบหน้ากวนๆ
” ไลออน!...นายยังไม่กลับเหรอ?”
“ก็รอนายนั่นแหละ...ฉันยังไม่มีคอนแท็คนายเลยนี่นา... “
ไลออนหยิบสมาร์ทโฟนทรงสามเหลี่ยมขึ้นมา ผิวมันวาวสะท้อนแสงราวกับเป็นคริสตัลใส
เรย์ยื่นสมาร์ทโฟนของเขาไปใกล้ ก่อนที่ระบบจะทำการแลกเปลี่ยนข้อมูลกันโดยอัตโนมัติ
” เรื่องแค่นี้ไม่เห็นต้องรอจนดึก”
“เอาน่า...แล้วบ้านนายอยู่ไหน เดี๋ยวฉันไปส่ง”
” ...... “
เรย์เงียบไปเล็กน้อย ก่อนจะก้าวเดินตามไลออนไปที่ประตูทางออกของศูนย์
“หืม?”
“มีอะไร? “
ไลออนหันกลับมาถาม
เรย์เงยหน้ามองขึ้นไป ก่อนจะกล่าว
” มีเครื่องตรวจสอบอยู่เหนือประตู... “
“เครื่องตรวจสอบ?”
ไลออนทวนคำ พลางเงยหน้าขึ้นไปมองแต่ไม่เห็นอะไร
” ...น่าจะเป็นเพราะสิ่งนั้น พนักงานต้อนรับถึงรู้ชื่อของพวกเรา “
” เห...? แล้วนายรู้ได้ยังไง? “
เรย์นิ่งคิดไปชั่วครู่ก่อนจะส่ายหัว
” นั่นสิ...ฉันแค่รู้สึกได้...แปลกแฮะ”
ทั้งสองเดินออกมาจนถึงถนนใหญ่ ไลออนหันมองซ้ายขวาก่อนจะพึมพำ
“เอ๊ะ คนขับรถของฉันยังไม่มารอเหรอเนี่ย?”
เรย์ละสายตาจากสมาร์ทโฟน มองไปทางถนน
“ฉันรู้สึกว่ารถกำลังจะเลี้ยวมาจากทางนั้น...”
เพียงไม่กี่วินาทีหลังจากที่เรย์พูดจบ รถลีมูซีนสุดหรูก็เลี้ยวออกมาจากซอยราวกับนัดกันไว้ ไลออนอ้าปากค้าง
” นะ...นายรู้ได้ไงเนี่ย? “
” ......ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน”
” ฉันชักจะขนลุกแล้วนะ “
“......”
ทั้งสองขึ้นลีมูซีนไปด้วยความงุนงง ด้านในกว้างขวางราวกับไม่ได้อยู่บนรถ เบาะนั่งบุหนังหรูหรา รอบด้านเป็นบาร์เครื่องดื่มและขนมหลากหลายชนิด โต๊ะกระจกที่อยู่ตรงกลางมีจอโฮโลแกรมที่กำลังฉายการ์ตูนแอนิเมชั่น
เรย์ถึงกับตกตะลึงในความอลังการ
“นี่มันใหญ่กว่าห้องนอนฉันอีกนะ “
” นายอยากได้สักคันไหม? “
“......”
ไลออนหยิบมาการองขึ้นมากิน พร้อมกับยื่นให้เรย์
” ฉันพูดจริงนะ “
“......”
ระหว่างทางกลับบ้าน เรย์เล่าให้ไลออนฟังถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ ไลออนตอบสนองด้วยความตื่นเต้นทันที
” ว้าว!!..อาจารย์ใหญ่เซเรนเชียวนะ!! แล้วเขาบอกไหมว่าทำไมนายถึงไม่ตาย? “
” ไม่...เหมือนจะไม่มีใครอธิบายได้เลย “
“แล้วนายจะเอาไงต่อ...จะสอบเข้าที่ไอโอนิคไหม?”
“แน่นอน...นั่นเป็นโอกาสเดียวของฉัน”
เรย์ตอบด้วยน้ำเสียงมั่นใจและแววตาที่ไม่สั่นคลอน ไลออนเงียบไปก่อนจะหลุดยิ้มบางๆ
“นายนี่น่าทึ่งชะมัด!”
แอ๊ดดด!!
บานประตูไม้เก่าๆ ถูกเปิดออก ภายในเป็นบ้านชั้นเดียวที่มีของใช้เก่าวางอย่างเป็นระเบียบ แม้มันจะสะอาดสะอ้านแต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ามันทรุดโทรมมาก
” ผมกลับมาแล้ว “
หลังจากสิ้นเสียงเรย์ พ่อแม่และน้องสาวของเขาก็ลุกพรวดขึ้นมาจากโต๊ะอาหารทันที
“ระ..เรย์!!...เป็นยังไงบ้างลูก!?”
“ทำไมไม่โทรมา!? กลับมายังไง!?”
“แล้วทำไมกลับดึกจัง? เกิดอะไรขึ้น?”
“กินอะไรหรือยัง?”
เสียงคำถามดังขึ้นไม่หยุด เด็กหนุ่มยังคงเงียบไม่รู้ว่าจะต้องตอบคำถามไหนก่อน ทว่าคำถามจากน้องสาววัย 14 ปี กลับทำให้เขาต้องชะงัก
“พี่มีมานาเท่าไร? แล้ววิซล่ะ?”
“......”
สีหน้าของเรย์เปลี่ยนไปชั่วครู่ บรรยากาศพลันเงียบลง ทุกคนรู้สึกได้ในทันที พวกเขาสบตากันก่อนจะพูดขึ้น
” ไม่เป็นไรนะ...เรย์ แค่ลูกปลอดภัยกลับมา แม่ก็ไม่ต้องการอะไรอีกแล้ว “
” ใช่แล้ว...ไม่ต้องกดดันตัวเองหรอก”
“ปีหน้าให้เป็นหน้าที่ของหนูเอง”
น้องสาวพูดพลางส่งยิ้มให้
ทุกคนต่างพูดปลอบใจด้วยความอบอุ่น เรย์เห็นทีท่าของทั้งสามจึงเผลอยิ้มออกมา
“ผมได้สิทธิ์ในการสอบเข้าที่ไอโอนิค ผมจะตั้งใจทำให้เต็มที่”
“เอ๋!!!?”
พวกเขานิ่งอึ้งไปชั่วขณะ ก่อนจะดีใจกันยกใหญ่
“จริงเหรอ!? “
“แล้วจะทำหน้าเศร้าทำไม!? นี่มันข่าวดีสุดๆ เลยไม่ใช่หรือไง? ไอโอนิคเชียวนะ!!”
“นั่งก่อนสิลูก มากินข้าวกัน”
“ผะ...ผมกินมาแล้ว”
“......”
เรย์พูดตัดบท และเดินเข้าห้องตัวเองอย่างร้อนรน
“คงจะเหนื่อยสินะ...พักผ่อนนะลูก”
ปัง!
เรย์นั่งลงบนเตียง เขากัดฟันกรอด พลางบีบมือแน่น
‘โธ่ว้อย!’
เขาผิดหวังกับการปลุกพลังของตัวเอง ก่อนจะทิ้งตัวลงนอน
‘คงเป็นห่วงกันแย่ ถ้ารู้ว่าเรามีมานา 0......จะให้รู้ไม่ได้’
‘การสอบจะมาถึงในอีก 3 เดือนข้างหน้า ระหว่างนี้มีอะไรที่ฉันทำได้บ้างนะ ‘
เรย์ครุ่นคิดก่อนที่เสียงแจ้งเตือนสมาร์ทโฟนจะดังขึ้น
ติ๊ง!
[คุณถูกเชิญเข้าร่วมกลุ่มแชท ‘มิตรภาพติดลบ ‘]
“...... “
[คุณได้เข้าร่วมกลุ่ม]
เนียร์ : ชื่อกลุ่มอะไรของนาย?
ไลออน : เหมาะกับพวกเราดีไม่ใช่เหรอ? ฮ่าฮ่าฮ่า
เนียร์ : ...
ไลออน : ว่าแต่นายรู้หรือยังว่าวิซระดับ A ของนายมีความสามารถอะไร?
เนียร์ : ยัง...ต่อให้รู้แล้วเรื่องอะไรฉันต้องบอกนาย
ไลออน : ว้าว...นายนี่อัจฉริยะตลอดเวลาจริงๆ
เนียร์ : ไปกินขี้ซะไป!!
เรย์ : ......
เนียร์ : เรย์...นายเป็นไงบ้าง?
เรย์ : เนียร์ นายพอจะรู้อะไรเรื่องการสอบเข้าที่ไอโอนิคบ้างไหม?
เนียร์ : นายจะรู้ไปทำไม?
ไลออน : เรย์ได้สิทธิ์ในการสอบเข้าน่ะ
เนียร์ : หมายความว่าไง? มานา 0 เนี่ยนะ?
เรย์ : ฉันสอบได้คะแนน 90% อาจารย์ใหญ่ของไอโอนิคเลยให้สิทธิ์ฉันในการสอบเข้า
เนียร์ : เท่าที่ฉันรู้ การสอบนั้นจะเปลี่ยนไปทุกปี แต่ไม่ว่ายังไง การสอบก็จะเป็นแบบภาคปฏิบัติทั้งหมด วัดกันที่พลังและพรสวรรค์ล้วนๆ หรือพูดให้เข้าใจง่ายๆ คือยังไงนายก็หมดสิทธิ์
ไลออน : นายพูดดีๆ ไม่เป็นหรือไง?
เนียร์ : ฉันแค่พูดเรื่องจริง การสอบเข้ามันวัดกันที่มานากับวิซเท่านั้น เรย์ นายอย่าเสียเวลาเลย
ไลออน : ไอ้บ้านี่!! เรย์ นายอย่าใส่ใจกับคำพูดของหมอนี่เลย
เรย์ : ไม่เป็นไรฉันเข้าใจ ขอบใจนะ เนียร์
ฟู่ววว!!
เรย์ถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนจะวางสมาร์ทโฟนลง
‘แค่ทำให้ดีที่สุดก็พอ’
ทันใดนั้น เสียงบางอย่างค่อยๆ ดังขึ้นในหัวของเขา
“คุณอย่าไปกดดันเรย์เรื่องสอบเด็ดขาดเลยนะ”
“ผมรู้...ถึงเขาสอบติด เราก็ไม่มีค่าเรียน”
“ถึงตอนนั้น ฉันจะเป็นคนหามาให้ได้เอง!”
‘นี่มันเสียงของพ่อกับแม่’
ทั้งสองพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ ราวกับพยายามกักเก็บความรู้สึกบางอย่างไว้ในใจ
เรย์เม้มริมฝีปากแน่น เขาลุกพรวด ตรงไปเปิดประตูห้อง
แอ๊ด!
‘หืม?’
ห้องกลางบ้านกลับว่างเปล่า พวกเขาทั้งสองกำลังคุยกันจากในห้องนอน
‘ทำไมเราถึงได้ยินเสียงพวกเขา?’
มันไม่ใช่เสียงที่ลอดผ่านกำแพง แต่มันชัดเจนราวกับกระซิบอยู่ข้างหู
‘แปลก...’
เรย์ปิดประตู เขากลับมาอยู่ในห้องของตน ก่อนจะครุ่นคิด
‘ตั้งแต่เรื่องเครื่องตรวจสอบที่ศูนย์ฯ...ไหนจะเรื่องตำแหน่งของรถลีมูซีน...นี่ต้องไม่ใช่เรื่องบังเอิญ’
เขาพลันหลับตาลงลึก พร้อมกับตั้งสมาธิ
‘พ่อกับแม่อยู่ในห้องนอนจริงๆ เรารู้สึกได้...หืม?’
ขณะที่เขาหลับตา เขารู้สึกได้ว่าน้องสาวของเขากำลังเดินเข้ามา หนึ่งก้าว สองก้าว และ...
‘เรอา...เธอกำลังจะเข้ามา’
เขาหันขวับไปที่ประตูห้อง รู้สึกถึงการเคลื่อนไหวบางอย่างที่บอกถึงการเข้ามาของคนที่คุ้นเคย
แอ๊ด!
“พี่...ยังไม่นอนเหรอ? หนูมีเรื่องจะคุยด้วย”
เรย์นิ่งอึ้ง เขากำลังสับสนกับสถานการณ์ตรงหน้า
“พี่...ทำไมทำหน้าตกใจอย่างนั้น มีอะไรหรือเปล่า?”
“ปะ..เปล่า...เรอา..เคาะประตูหน่อยสิ...ว่าแต่...มีอะไร?”
“พูดจาห่างเหินชะมัด...เอ่อ...หนูแค่เป็นห่วง...พี่อย่าคิดมากเลยนะ...ยังมีหนูอีกทั้งคน “
เด็กสาวผมสีดำประบ่า ผิวกายขาวสว่าง หน้าตาน่ารักสดใสในชุดนอนสีชมพู กำลังกอดตุ๊กตากระต่ายเน่าๆ เธอพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง แววตาของเธอแฝงไปด้วยความรับผิดชอบหนักหน่วงเกินวัย
“......”
เรย์อมยิ้มพร้อมกับเดินเข้าไปหาเธอ เขายื่นมือขยี้หัวน้องสาวที่อยู่ตรงหน้าเบาๆ อย่างที่เคยทำทุกครั้ง
“พี่โอเค...ไปนอนได้แล้ว”
” อะ...อื้มมม...ฝันดีนะ พี่ “
เรอาฉีกยิ้มโล่งอก ก่อนที่จะเดินออกไป
เรย์ปิดประตู และยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น
‘...เธอกำลังเดินตรงไปที่ห้อง...และ...ตอนนี้...เข้าห้องไปแล้ว’
เขาหลับตาลงอีกครั้ง คราวนี้ทุกความรู้สึกของเขากำลังเด่นชัดขึ้น เขารับรู้ได้ถึงทุกตำแหน่งของสิ่งที่อยู่รอบด้าน รถที่กำลังแล่นผ่านถนนหน้าบ้าน หรือแม้แต่หนูที่กำลังวิ่งอยู่บนฝ้าเพดาน
‘เกิดอะไรขึ้น...หรือเป็นเรื่องปกติของผู้ที่ได้รับการปลุกพลัง?’
เรย์กำลังสับสนอย่างหนัก พลางหยิบสมาร์ทโฟนขึ้นมา เขาพิมลงไปในช่องแชทที่คุยกับเนียร์และไลออน
เรย์ : ฉันรู้สึกแปลกๆ ...พวกนายเป็นกันไหม?
“......”
เขารอสักพักแต่ไม่มีใครตอบกลับ ดูเหมือนทั้งสองจะเข้านอนกันแล้ว
เสียงนกร้องปลุกให้โลกรู้ว่าฟ้าเริ่มสว่าง แสงอาทิตย์แรกของวันค่อยๆ ลอดผ่านม่านเมฆที่ยังปกคลุม
เรย์กำลังแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าซอมซ่อเหมือนเคย ขณะที่ครุ่นคิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้น เขาพยายามหาคำตอบให้กับความรู้สึกแปลกๆ ที่เขามี และสิ่งเดียวที่คิดได้ก็คือ...
’ ...วิซ ‘
นี่อาจจะเป็นความสามารถของวิซที่เขาครอบครอง มีพลังที่คล้ายกับการตรวจจับ แต่เรื่องที่ทำให้เขางุนงงมากที่สุดคือ เมื่อวานเจ้าหน้าที่หลายคนตรวจสอบแล้วว่าเขาไม่มีวิซ
เสียงสมาร์ทโฟนพลันดังขึ้น
ติ๊ง!
เนียร์ : นายรู้สึกแปลกๆ เหรอ? หมายความว่าไง?
“......”
เรย์อ่านข้อความในกลุ่มโดยที่ไม่ได้ตอบกลับ ข้อความจากเนียร์ทำให้เขารู้สึกมั่นใจมากขึ้นว่าสิ่งนี้มันเกิดขึ้นกับเขาแค่เพียงคนเดียว
‘เราต้องไปที่ศูนย์กำเนิดพลังอีกรอบ!’
เรย์แต่งตัวเสร็จ เขาจับลูกบิดประตูก่อนจะยืนนิ่งเงียบ เขารู้สึกถึงการเคลื่อนไหวด้านนอก ...พ่อและน้องสาวกำลังนั่งกันอยู่ที่โต๊ะอาหารกลางบ้าน โดยแม่กำลังยืนทำอาหารอยู่ที่ครัว
แอ๊ด!
แววตาพลันฉายแววความหวังในทันที เมื่อเขาเปิดประตูออกไป และพบว่าทุกอย่างที่เขารู้สึก มันเป็นความจริง
‘ไม่ผิดแน่ นี่เป็นพลังของเรา’
อย่างน้อยเขาก็มีความสามารถบางอย่างอยู่จริงๆ ไม่ได้ไร้ค่าอย่างที่ใครๆ คิด ความตื้นตันใจพลันเอ่อล้นออกมาบนสีหน้า
“เรย์!...อาบน้ำแต่งตัวแล้วเหรอ? จะไปไหนลูก?”
แม่เอ่ยถามขึ้น เธอกำลังสวมชุดพนักงานเสิร์ฟของร้านอาหารใกล้ๆ เตรียมจะออกไปทำงานในตอนเช้า
” ผมจะไปที่ศูนย์กำเนิดพลังครับ “
เรย์ตอบก่อนจะเดินไปนั่งเก้าอี้ที่ว่างอยู่ พลางหยิบขนมปังแห้งๆ บนโต๊ะยัดเข้าปาก
“วันนี้ยังต้องไปอีกเหรอ? มีเรื่องอะไร? งั้นเดี๋ยวพ่อไปส่งนะ “
แค่ก!
ขนมปังก้อนใหญ่ติดคอในทันที เขาลืมคิดไป หากให้พ่อไปส่ง มีหวังพ่ออาจจะรู้เรื่องที่เขาไร้พลัง
ทันใดนั้นเสียงข่าวจากทีวีพลันดังขึ้น
{ข่าวใหญ่ครับ! เมื่อวานในพิธีปลุกพลังประจำปี ค.ศ.2415 พบเด็กสาวชื่อ เอรีน เธอเป็นผู้ครอบครองพลังมานา 9 วงแหวนคนที่สองของประเทศ ถัดจากซิกซ์ ไม่เพียงเท่านั้น เธอยังครอบครองวิซระดับ S เรียกได้ว่าเธอจะกลายเป็นบุคคลที่ยิ่งใหญ่ในอนาคต และจะมาเป็นกำลังสำคัญให้กับประเทศเราอย่างแน่นอนครับ!}
” ...!!? “
ทุกคนในบ้านหันขวับไปที่จอทีวีพร้อมเพียงกัน ก่อนจะอ้าปากค้าง
“9 วงแหวน? วิซระดับ S?"
“บ้าน่า...”
"พ่อจำได้ว่าซิกซ์เขามีวิซระดับ A ใช่ไหม? อย่าบอกนะว่าเธอจะก้าวข้ามเขาไปอีก ช่างโชคดีเหลือเกิน”
“เธอสวยจัง...”
” พี่ได้เจอเธอหรือเปล่า? ได้คุยกันบ้างไหม? “
” ...... “
เรย์นิ่งอึ้งไป เขาไม่คิดว่าประเทศจะประกาศเรื่องผลการปลุกพลัง ตาของเขาจับจ้องไปที่จอทีวีอย่างใจจดใจจ่อ เขากำลังหวังว่าข่าวจะจบแค่ตรงนี้
แต่สิ่งที่เขากลัวก็เกิดขึ้น เหงื่อเม็ดใหญ่พลันไหลบนใบหน้า
{นอกจากนี้ เรายังพบเด็กสุดแปลกที่ชื่อ เรย์ เขามีมานา 0 พร้อมกับออร่าสีดำสนิท สิ่งที่น่าอัศจรรย์คือเขาสามารถมีชีวิตอยู่ได้ เรียกได้ว่าเป็นการค้นพบครั้งยิ่งใหญ่ครั้งแรกของมนุษย์เลยก็ว่าได้ครับ! ในตอนนี้ทางการยังไม่สามารถหาข้อสรุปได้ว่าทำไมเขาถึงยังรอดชีวิต}
สายตาของทุกคนพลันหันขวับมาทางเรย์ ตอนนี้ทุกคนอ้าปากค้างยิ่งกว่าเดิม
‘จบกัน...’