เมื่อโชคชะตาพา พบพร เด็กกำพร้าเข้าสู่บ้านหลังใหม่ เธอทนต่อสายตาเย็นชาและคำพูดเสียดแทงของ ภาคิน ผู้เป็นดั่งพี่ชายที่ไม่เคยยอมรับการมีอยู่ของเธอ แต่ด้วยความกตัญญูและหัวใจอันงดงาม พบพรเลือกที่จะอดทนและตอบแทนบุญคุณ ไม่ว่าต้องแลกด้วยน้ำตาสักเท่าไร
ชาย-หญิง,ดราม่า,รัก,วัยว้าวุ่น,ผู้ใหญ่,รักไม่สมหวัง,เศร้า,ดราม่า,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
พบพรลืมรัก (ทยอยติดเหรียญวันที่ 5/8/68)เมื่อโชคชะตาพา พบพร เด็กกำพร้าเข้าสู่บ้านหลังใหม่ เธอทนต่อสายตาเย็นชาและคำพูดเสียดแทงของ ภาคิน ผู้เป็นดั่งพี่ชายที่ไม่เคยยอมรับการมีอยู่ของเธอ แต่ด้วยความกตัญญูและหัวใจอันงดงาม พบพรเลือกที่จะอดทนและตอบแทนบุญคุณ ไม่ว่าต้องแลกด้วยน้ำตาสักเท่าไร
เมื่อโชคชะตาพา พบพร เด็กกำพร้าเข้าสู่บ้านหลังใหม่ เธอทนต่อสายตาเย็นชาและคำพูดเสียดแทงของ ภาคิน ผู้เป็นดั่งพี่ชายที่ไม่เคยยอมรับการมีอยู่ของเธอ
แต่ด้วยความกตัญญูและหัวใจอันงดงาม พบพรเลือกที่จะอดทนและตอบแทนบุญคุณ ไม่ว่าต้องแลกด้วยน้ำตาสักเท่าไร
จนวันที่ครอบครัวประสบวิกฤติ ภาคินเพิ่งได้เห็นว่าผู้หญิงที่เขาผลักไสคือคนที่ยืนหยัดเคียงข้างจนทุกอย่างผ่านพ้น
ทว่า… เมื่อหัวใจเริ่มเรียนรู้คำว่า รัก ก็ดูราวกับโชคชะตากลับเล่นตลกอีกครั้ง
โรคร้ายพรากความทรงจำของเธอทีละน้อย ก่อนจะพรากเธอไปตลอดกาล
เหลือไว้เพียงชายคนหนึ่งที่รู้ตัวช้าไป และสัญญาจะโสดชั่วชีวิตเพื่อเธอ… ผู้ที่เขาเพิ่งรู้ว่าเป็นรักเดียวตลอดมา
เช้าวันใหม่มาถึง บ้านทั้งหลังก็ยังคงอบอุ่นเหมือนเดิม
พบพรยังคงทำหน้าที่อย่างเงียบงัน ทั้งช่วยจัดการงานบ้าน จัดตารางงานบริษัท และคอยดูแลทุกคนรอบกาย
ภาคินที่เมื่อก่อนมักจะหนีออกไปเที่ยวเล่นกับเพื่อน ตอนนี้กลับนั่งอยู่ที่โต๊ะอาหารทุกเช้า
เขามองการเคลื่อนไหวของเธอในครัวอย่างไม่รู้จักเบื่อ
ในใจของเขามีบางสิ่งที่ชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ จนแทบเก็บไม่ไหว
แต่ความสุขที่ก่อตัวขึ้นอย่างช้า ๆ ก็มักจะมาพร้อมกับความกลัวที่ซ่อนอยู่ลึก ๆ ในใจ
⸻
เย็นวันนั้น ครอบครัวได้รับข่าวร้ายว่า บริษัทกำลังประสบปัญหาทางการเงินอย่างหนัก
หุ้นร่วงลงติดต่อกันหลายวัน การลงทุนบางส่วนขาดทุนอย่างหนัก
คุณแม่ของภาคินเครียดจนถึงขั้นล้มพับกลางโต๊ะอาหาร
พบพรวิ่งเข้ามาพยุงด้วยความตกใจ
“คุณแม่! คุณแม่คะ!”
น้ำเสียงของเธอสั่นเครือ ร่างเล็กสั่นไหวด้วยความหวาดกลัว
ภาคินยืนมองภาพตรงหน้า ใจเหมือนถูกบีบอย่างแรง
นี่ไม่ใช่แค่เรื่องธุรกิจอีกต่อไป แต่คือความจริงที่กำลังพังทลายลง
⸻
คืนนั้น หลังจากที่พาคุณแม่ไปโรงพยาบาล และได้รับการดูแลจนปลอดภัย
พบพรยังคงนั่งเฝ้าข้างเตียง ไม่ยอมลุกไปไหน
เธอจับมือผู้หญิงที่เปรียบเสมือนแม่แท้ ๆ ของตนเองแน่น สายตาเต็มไปด้วยความห่วงใย
ภาคินเดินเข้ามาช้า ๆ แล้วหยุดยืนข้าง ๆ
เขามองเห็นดวงตาของพบพรที่มีแต่ความเหน็ดเหนื่อย แต่ก็ยังเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น
เธอแบกรับทุกอย่างแทนพวกเขาโดยไม่ปริปากบ่น
หัวใจของเขาเจ็บหน่วงจนพูดอะไรไม่ออก
⸻
กลางดึก เมื่อคุณแม่หลับพักผ่อนเรียบร้อย ภาคินจึงพาพบพรออกมานั่งที่ม้านั่งหน้าสวนของโรงพยาบาล
แสงไฟสลัวทำให้บรรยากาศเงียบสงัด มีเพียงเสียงลมพัดผ่าน
“เธอไม่เหนื่อยบ้างหรือ” เขาเอ่ยถามเสียงต่ำ
“เหนื่อยสิคะ” พบพรตอบพลางยิ้มบาง “แต่หนูเลือกแล้วว่าจะอยู่ตรงนี้ หนูอยากตอบแทนบุญคุณครอบครัวนี้”
ภาคินเม้มปากแน่น เขาอยากบอกเหลือเกินว่า ไม่ใช่แค่ครอบครัวที่ต้องการเธอ แต่ตัวเขาเอง… ก็ต้องการเหมือนกัน
แต่คำพูดกลับติดอยู่ที่ริมฝีปาก ไม่กล้าเอื้อนเอ่ย
⸻
ก่อนกลับบ้าน เขาเดินเคียงข้างเธอ ฝนพรำเบา ๆ ลงมาจากฟ้า
พบพรยกมือขึ้นบังศีรษะ แต่ภาคินรีบถอดเสื้อสูทคลุมให้ทันที
“คุณคิน… เดี๋ยวเสื้อเปียกนะคะ”
“ไม่เป็นไรหรอก ฉันไม่อยากให้เธอเป็นหวัด”
คำพูดนั้นเรียบง่าย แต่กลับทิ้งร่องรอยลึกลงในหัวใจของทั้งคู่
⸻
คืนนั้น ภาคินนอนพลิกไปมาในห้องของตัวเอง
ภาพผู้หญิงที่ยิ้มสู้ทั้งน้ำตายังวนเวียนอยู่ในหัว
ยิ่งนึก… หัวใจเขาก็ยิ่งเจ็บ
เพราะเขารู้แล้วว่า ความรู้สึกที่มีต่อพบพร ไม่ใช่แค่ความผูกพันอีกต่อไป
แต่มันคือความรัก ที่กำลังเติบโตจนเกินจะห้ามได้แล้ว
ฟ้าหลังฝนจะสวยงานจริงไหม