ฉันเห็น ฉันเห็นคนร้ายเดินเข้าไป ไม่ทันแล้ว เขาฆ่าคนแล้ว โอ๊ะไม่ ฉันได้ยินเสียงกรีดร้อง
สืบสวนสอบสวน,อาชญากรรม,ชาย-หญิง,เลือดสาด,ไทย,สยองขวัญ,สืบสวนสอบสวน,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
ฉันเห็นเขาในห้องสมุดฉันเห็น ฉันเห็นคนร้ายเดินเข้าไป ไม่ทันแล้ว เขาฆ่าคนแล้ว โอ๊ะไม่ ฉันได้ยินเสียงกรีดร้อง
เอวา เด็กสาวตำรวจเพิ่งเข้ามาใหม่ได้ไม่นาน เธอได้ถูกมอบหมายงานแล้ว ทางสถานีตำรวจเมืองแสงจันทร์ให้เธอสืบคดีเรื่อง ฆาตกรรมในห้องสมุดอย่างเร็วไว เนื่องจากญาติคนตายไม่ยอม ซึ่งเป็นงานหนักของเอวาที่ต้องทำคนเดียว เมื่อเธอสอบปากคำบรรณารักษ์ทำให้เธอต้องออกเดินทางไปอีกเมืองหนึ่งเพื่อหาความจริง ขณะที่เธอกำลังสอบถามชาวบ้าน ตำรวจนายหนึ่งเดินเข้ามา เมื่อเขาเห็นเธอมาคนเดียวจึงอยากช่วย ทำให้ทั้งสองต่างเคร่งเครียดไปด้วยกัน การสืบสวนของพวกเขาทั้งสองจะเป็นอย่างไร คดีนี้จะจบลงอย่างชัดเจนหรือว่าจะจับคนร้ายผิดกันแน่นะ
จากใจนักเขียน
นิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องที่แต่งขึ้นจากจินตนาการของนักเขียนทั้งนั้น ทั้งสถานที่ ชื่อบุคคลล้วนเป็นชื่อที่คิดขึ้นเอง ไม่ได้สื่อถึงใครหรืออะไรใดทั้งสิ้น สำหรับใครที่ชอบก็กดติดตามกดคอมเม้นท์เป็นกำลังใจให้ด้วยนะคะ
****ห้ามคัดลอกหรือลอกเลียนแบบเด็ดขาด มิฉะนั้นจะดำเนินคดีตามกฎหมายสูงสุด
“ผมจะบอกอะไรให้นะ ผมเสียเพื่อนมาคนหนึ่งแล้วจึงคิดว่าแปลงมาเป็นมนุษย์ดีกว่า เผื่อจะได้ไม่แย่ไปมากกว่านี้และฉันอยากให้มนุษย์ทุกคนเข้าใจฉันด้วย เธอพอจะสร้างข่าวบอกนักข่าวได้ไหม”
“ได้สิ เดี๋ยวต้องรอดูก่อนนะ ตอนนี้คดียังไม่เสร็จเลย ประมาณอีกครึ่งเดือนฉันจะกลับ เพราะฉันจองหอพักแค่เดือนเดียว”
“เอาเลย คุณจะถามอะไรผมล่ะ”
“คุณพอจะรู้จักใครในคดีนี้บ้าง อ่ะฉันให้ดู นี่ศพแรก อันนี้ศพที่สอง ทุกอย่างฆาตกรเก็บลายนิ้วมือ เช็ดทำความสะอาดไปจนหมด”เขาทำหน้าหงุดหงิด เท้าคางไปด้วย อีกทั้งยังพยักหน้าเหมือนรู้อะไรบางอย่าง
“ฉันว่านะ ศพแต่ละศพที่เขาทำยังมีรอยอยนู่นะ เธอลองสังเกตดูสิ”ฉันมองรูปทั้งสองรูปนั้น เขาลุกขึ้นไปหยิบปากกามาวง
“นี่ไง รอยเหมือนถูกบีบคอก่อนนิดเดียว อาจจะช่วยอะไรได้นะ”ฉันพยายามหรี่ตามองก็เห็นอย่างนั้นจริง
“โอ้โห แค่จุดเล็กเนี่ยนะ”
“ผมคาดว่าฆาตกรนี่ไม่รอบคอบสักำเท่าไรนะ มองดูเผินๆก็เรียบร้อยสะอาด”ฉันฟังดูแล้วมันดูเหมือนกับว่าบ้านหลังนั้นไม่มีผิด ใช่ฉันต้องไปบ้านหลังนั้น บ้านหลังนั้นดูสะอาดเรียบร้อยมาก
“เท่าที่คุณไปสอบถามบ้านแต่ละบ้านมามีบ้านไหนที่สะอาดไหมล่ะ”เอวาหันมองมาที่เขา เขารู้ได้ไงว่าไปสอบถามชาวบ้านมา
“คุณรู้ได้ไงว่าฉันไปบ้านของชาวบ้านมา”
“อ้อ ขอโทษ ผมตามคุณไป ผมเผอิญเห็นรถตำรวจไปไหนนักหนาตอนผมกำลังบินกลับบ้านผม ก็เลยแอบตามไปดูด้วย ผมว่าดูจากหลักฐานแล้วน่าจะเป็นบ้านที่อยู่ชายหาดนะ คุณลองไปดูสิ ตอนนั้นระหว่างที่คุณกลับไปเขาทำตัวแปลก ปิดประตูบ้านมองซ้ายขวาว่ามีใครมาเห็นไหม มันแปลกมาก”
“อืม ก็ได้ ฉันจะลองไปดูนะ เดี๋ยวแล้วคุณตามฉันไปถึงที่เลยเหรอ”
“ใช่ ผมอยากรู้แหละว่าใครกันทำถึงขนาดนี้ ตอนนี้มันฆ่าถึงสองศพแล้ว แถมยังหาว่าเป็นแฟนผมทำอีก มันน่านัก”
“อ๋อ โอเค พรุ่งนี้คุณไปกับฉันไหม ไปดูเขากัน แค่แอบดูน่ะ พาฉันบินไปหาเขา ไม่ต้องกลัวแฟนคุณ ฉันจะบอกเธอเอง”
“แต่ฉันอยากขอไปด้วย ฉันก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าใครกันแน่ชอบโยนความผิดให้ฉัน”มณีจันทร์พุ่งมาทางประตูห้อง สายตาของเธอไม่เหมือนเดิมอาจเป็นเพราะว่าเธอหวงแฟนมากขึ้น แม้แต่ชุดก็ยังเหมือนเขาไปอีก ไม่มีปีกแต่เป็นชุดมีขนสีดำยาวลงมาเหมือนมีหางด้วย ฉันมองว่าเธอดูเปลี่ยนไปเยอะเลย
“ได้สิ แต่ชุดเธอดูเปลี่ยนไปเยอะเลยนะ ไม่ร้อนเหรอ”
“ไม่หรอก เธอไม่เคยเห็นล่ะสิ ปกติฉันใส่แต่ชุดอยู่บ้านเทอะทะ แต่ตอนนี้พอฉันมีแฟนมันเปลี่ยนไปหมด แม่บอกว่าเดี๋ยวจัดงานแต่งให้ จะได้หาบ้านพาแม่ไปอยู่ด้วยและพาพ่อไปอยู่ด้วย คุณอยู่อีกเมืองหนึ่งใช่ไหม พาฉันไปดูบ้านได้นะ ถ้าแถวนั้นมีบ้านพักก็ดีเลย”
“เอาเลย ฉันพาเธอไปแน่ ถ้าคดีจบแล้ว”
“งั้นเราไปจับคนร้ายกัน ไปกันนะวันพรุ่งนี้”เอวาเศร้าหงอย เธอรู้สึกว่าเหมือนลืมอะไรบางอย่างไป
“ฉันขอโทษนะ ฉันลืมบอกเขาน่ะ เขากลับไปสถานีแล้ว”ภูผาส่งข้อความมาหาเธอบอกว่า ตอนนี้คดีถูกสรุปไปแล้วว่าเป็นการฆ่าตัวตาย
“ไม่เป็นไร...วันไหนก็ได้ ยังไงเธอบอกเขาไปซะว่าเห็นสิ่งที่ฆาตกรทำแล้ว บอกอย่างที่แฟนฉันบอก”เธอตบไหล่ฉันเบาๆเพื่อปลอบใจฉัน
ฉันเดินกลับไปหอพัก โบกมือลาพวกเธอ ฉันเดินร้องไห้เข้าหอพักไปแล้วปิดประตูสนิท เอวายังร้องไห้ไม่หยุด เธอรู้สึกว่าไม่มีเพื่อนพาไป คราวนี้เธอต้องพึ่งตัวเองโดยการกดค้นหาแท็กซี่แต่ก็ไม่มีสักคัน การร้องไห้นั้นเสียงดังขึ้นมาอีก
“ไม่น่าเลย ฉันเพิ่งเห็นรอยเนี่ยนะ ฉันจะบอกยังไงดีล่ะ สถานีอยู่ไกลมาก ขืนฉันเดินไปคงโดนสุนัขกัดกันพอดี”เธอร้องไห้ในผ้าห่มจนหลับไป แต่เวลานั้นยังเป็นเวลาบ่ายยังไม่ถึงกลางคืน ห้าโมงเย็นเธอลุกขึ้นตื่นอีกครั้งหนึ่ง เธอเริ่มปวดหัวมึนเดินไม่ถูกทันที เธอลุกขึ้นมานั่งที่โซฟา จ้องมองไปที่ทีวีที่ยังไม่เปิดอะไร เธอมองตัวเองบอกว่าไม่เป็นไร คิดว่าบ้านนั้นคงอยู่ที่นั้นไปตลอด