ไดอารี่ของคนที่ไม่เคยเข้าใจโลก—แม้จะเข้าใจมันมากพอก็ตาม
เรื่องสั้น,เล่าประสบการณ์,อื่นๆ,ไทย,ชีวิต ,ชีวิตประจำวัน,ชีวิตประ,ปรัชญา,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
บันทึกที่รอวันถูกลืม (The Diary Awaiting Oblivion)ฉันมักสงสัยเสมอว่าทำไมผู้คนถึงกลัวผี
ฉันดูหนังผีก่อนนอนบ่อยครั้งเพื่อให้ใจเต้นแรงขึ้นเล็กน้อย ให้ความเหนื่อยล้าไหลเข้ามาพร้อมความสุขที่จะทำให้หลับสบายในตอนกลางคืน ดังนั้น—ฉันไม่เคยกลัวหนังผี
เมื่อเดินทางไปในสถานที่ใหม่ ฉันมักจะแวะเข้าไปในสุสาน อ่านตัวอักษรที่สลักบนหินเย็น บางแผ่นคือความคาดหวังที่ไม่เคยเกิดขึ้น บางแผ่นคือความเสียใจที่ไม่เคยได้รับการไถ่ บางแผ่นก็เป็นถ้อยคำไร้ความหมายที่ไม่เหลือใครให้อ่าน ดังนั้น—ฉันไม่เคยกลัวสุสาน
ความมืดก็เช่นกัน ฉันไม่เคยหวาดหวั่นกับการนั่งอยู่คนเดียวในความมืดยามค่ำคืน กลับกัน บ่อยครั้งฉันปล่อยให้ความหนาวกัดกินร่างกาย เพื่อย้ำเตือนว่าชีวิตกำลังร่วงโรยทีละวันอย่างช้าๆ สิ่งที่น่าหวาดกลัวไม่ใช่การอยู่คนเดียวในความมืด—แต่คือการไม่ได้อยู่คนเดียวในนั้นต่างหาก
ฉันจึงเฝ้าภาวนาให้มันมีจริง
แต่ถ้ามีจริง... บุคคลอันเป็นที่รักคงกลับมาหาฉัน—พูดคุย ปลอบโยน ดุด่า หรือกระซิบให้ก้าวเดินต่อ เมื่อฉันรู้สึกสิ้นหนทาง
แต่พวกท่านไม่เคยกลับมาเลย
ฉันมักพูดออกมาบ่อยครั้งยามอยู่ลำพังอย่าง:
“ในนี้มีใครอยู่หรือเปล่า?”
“ออกมาคุยกับฉันหน่อยสิ”
หวังให้เงาใต้เตียงขยับออกมา หวังให้ช่องมืดในห้องเผยร่างบางสิ่งออกมา แม้กระทั่งถ้ามันดึงฉันลงไปใต้เตียงแล้วหักคอ—อย่างน้อยนั่นก็ยังทำให้ฉันมีความสุขมากกว่าการต้องยอมรับว่า ผีไม่มีจริง
และต้องยอมรับว่าความตายของฉัน…คือจุดจบของทุกสิ่งอย่างแท้จริง